Friday, 23 May 2025
SPECIAL

พังงา – ด่วน !! ใช้รถทหารรับผู้ป่วยโควิดจากคลัสเตอร์ใหม่กลุ่มค้าสะตอบ้านบางคลี พบผู้ป่วยแล้วกว่า 40 ราย ยอดรวมจังหวัดทะลุ 500 ราย ผู้ว่าสั่งปิดหมู่บ้านทันที

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบางคลี ม.8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท้ายเหมือง นำรถขนส่งทางทหารเข้ารับผู้ป่วยยืนยัน 20 รายในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัดพังงาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งมีผู้ป่วยบางรายที่เป็นเด็กน้อยที่ต้องขึ้นรถไปกับคุณแม่ และบางครอบครัวต้องขึ้นรถไปรักษาตัวทั้งบ้าน ขณะคนที่ผลตรวจไม่พบเชื้อต้องกักตัวเองที่บ้าน และบางส่วนต้องเข้ากักตัวที่สถานที่กักตัวของอำเภอท้ายเหมือง สำหรับผู้ป่วยในคลัสเตอร์บ้านบางคลีพบผู้ป่วยครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม จำนวน 3 รายและล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วรวมกว่ า40 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยชุดแรกได้ปกปิดข้อมูลทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ในคลินิกเอกชน ในโรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง โรงพยาบาลท้ายเหมืองและโรงพยาบาลพังงา ต้องถูกกักตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้ออกประกาศปิดพื้นที่ ห้ามคนเข้า-ออกป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว

นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี เปิดเผยว่า ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อหลายรายแต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ สหหรับการระบาดเกิดขึ้นจากชุมชนพรุวังช้าง เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ซื้อสะตอมารวบรวมแกะเมล็ดนำไปขายต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดแล้วมาแพร่เชื้อในชุมชน ซึ่งบางรายยังไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิด และล่าสุดพบว่าผู้ป่วยในวันนี้บางคนเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน บางรายขายอาหารในโรงเรียนและออกเร่ขายอาหารในหลายหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตนเองได้ใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านตกใจ ขณะที่จุดที่เกิดการระบาดนั้นจะสามารถควบคุมได้ ตอนนี้ได้ปิดทางให้เข้า-ออกได้ทางเดียวเท่านั้น พร้อมประกาศคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

ด้านนายปรารถนา สมบัติปิยะ กำนันตำบลนาเตย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ร่วมกับอำเภอท้ายเหมือง ผู้นำท้องที่ รพ.สต. อสม. ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจซึ่งพบว่าติดเชื้อ 8 ราย จึงจัดตั้งด่านปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และมีบางคนที่ติดเชื้อไปแล้วยังไปเร่ขายของ ร่วมพิธีกรรมทางศาสนา พบปะเพื่อนบ้าน ซึ่งตอนนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน เพราะพบผู้ป่วยในพื้นที่แล้วกว่า 40 ราย ขณะที่การปิดหมู่บ้านนั้น ทางตนเองและผู้นำท้องที่และผู้มีจิตกุศลได้นำข้าวสารอาหารที่จำเป็นมาสำรองไว้ที่ด่านตรวจเพื่อเป็นเสบียงให้กับคนในชุมชนประมาณ 50 ครัวเรือน จำนวนกว่า 200 คน

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จังหวัดพังงา (ศบค.พง) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น.ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย อำเภอท้ายเหมืองคลัสเตอร์บ้านบางคลี 20 ราย อำเภอตะกั่วทุ่ง 1 ราย รับผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ 7 ราย จากอยุธยา 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 501 ราย


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

สุรินทร์ - กองกำลังสุรนารี ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 25 เข้มกำลังพล พร้อมรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด ที่ต้องการเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสุรินทร์ ตามนโยบายกองทัพบก

วันที่ 25 กรกฏาคม 2564 ที่ศูนย์ปฏิบัติติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และค่ายฝึกมวลชนสัมพันธ์ กองกำลังสุรนารี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 2 พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี จัดเจ้าหน้าแพทย์พยาบาล ร่วมให้ความรู้การป้องกันการติดเชื้อกำลังพลจากกองพันเสนารักษ์ ที่ 6 ,หน่วยเฉพาะกิจที่ 2,มณฑลทหารบกที่ 25 ร.23.พัน 3ในภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน โดยจัดแบ่งเป็นชุด รับ-ส่ง จากกรุงเทพมหานคร สู่ภูมิลำเนาจังหวัดสุรินทร์ ตามนโยบายกองทัพบก

จากนั้นที่หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 นายพรชัย มุ่งเจริญพร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมปล่อยขบวนรถบรรทุกทางทหารและรถพยาบาลทหารพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพ ที่เตรียมพร้อมในการรับส่งผู้ป่วยตามโครงการ สุรินทร์แบ็คโฮม "SURIN BACK HOME" เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ นำตัวพี่น้องคนสุรินทร์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมารักษาตัวที่บ้าน เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนสุรินทร์ อีกหนึ่งช่องทาง  ทั้งนี้ โครงการ สุรินทร์แบ็คโฮม "SURIN BACK HOME" เกิดจากการร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์, โรงพยาบาลสุรินทร์ และ โรงพยาบาลประจำอำเภอ อีก 16 แห่ง ของจังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการ "SURIN BACK HOME" เปิดสายด่วนและศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVI-19) ขึ้นมา จากพื้นที่สีแดงเข้มและเขตปริมณฑลให้กลับมารักษาตัวที่สุรินทร์ได้ทันท่วงที


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

ตำรวจเตือนหนุ่มสาว !! ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกรักออนไลน์ ลวงลงทุนเงินสกุลดิจิทัลจนหมดตัว

วันที่ 26 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) แถลงข่าวจับกุมแก๊งไฮบริด สแกม (Hybrid Scam) ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวจีนและคนไทยหลายราย นั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเหยื่อที่เป็นหนุ่มสาวหลายราย ตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนกับแอปพลิเคชันแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยจะเริ่มต้นจากการถูกหลอกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือ แอปพลิเคชันหาคู่ โดยแก๊ง Hybrid Scam จะปลอมรูปกับชื่อโปรไฟล์ เป็นหนุ่มสาวเอเซียต่างชาติหน้าตาดี เข้ามาขอแอดเป็นเพื่อน จากนั้นจะพูดคุยในลักษณะชู้สาวผ่านการแชท หรือโทรศัพท์พูดคุยผ่านระบบออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันไลน์หรือเฟซบุ๊ก จนเหยื่อตกหลุมรักคนร้าย(ที่ไม่เคยเจอตัวจริง) จากนั้นคนร้ายจะชักชวนให้เหยื่อลงทุนแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันปลอม อาจมีการส่งลิงก์มาให้เหยื่อสมัคร 

ในช่วงแรกคนร้ายจะหลอกให้เหยื่อตายใจได้กำไร แต่ในภายหลังเหยื่อมักจะขาดทุน หรือหากได้กำไร แล้วจะขอนำเงินออกจากระบบ ทางแอปพลิเคชัน จะอ้างว่าต้องโอนค่าธรรมเนียมหรือภาษีเข้าระบบ พอเหยื่อโอนเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถนำเงินออกจากระบบได้เหยื่อจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ซึ่งมูลค่าความเสียหายมีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลายล้านบาท สำหรับวิธีการเลือกเหยื่อ คนร้าย จะเลือกเหยื่อหนุ่มสาวที่มีฐานะดีหรือมีอาชีพการงานที่มั่นคง เข้าถึงระบบการเงินออนไลน์ได้ เพราะจะต้องเข้าไปในแอปพลิเคชันที่หลอกลวง

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า แก๊ง Hybrid Scam เป็น การพัฒนารูปแบบจาก Romance Scam เดิมๆที่ส่วนใหญ่เป็นชาวผิวสี หลอกเหยื่อให้รักผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยปลอมโปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติยุโรป, อเมริกัน, ตะวันออกกลาง ฯลฯ มีฐานะร่ำรวย จากนั้นคนร้ายจะอ้างว่า จะส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้หยื่อ ต่อมาจะมีผู้ร่วมขบวนการอ้างว่าติดต่อมาจากกรมศุลกากรหรือบริษัทขนส่งฯ หลอกให้เหยื่อโอนค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียม หรือ หลอกเหยื่อว่าได้มรดก/สัมปทานธุรกิจกับรัฐแล้วหลอกให้เหยื่อโอนค่าภาษีมรดกหรือภาษีสัมปทานมาให้คนร้าย หรือหลอกเหยื่อว่าป่วยเข้าโรงพยาบาลแต่ระบบประกันสุขภาพมีปัญหาขอให้เหยื่อโอนค่ารักษาพยาบาลมาให้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใย และได้มอบนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ  นอกจากนั้นยังได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT) โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ขับเคลื่อนการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ และอย่างต่อเนื่องด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้าย ดังกล่าว  จึงฝากข้อควรระวัง ดังนี้

1.ไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ใช้ภาพหนุ่มสาวหน้าตาดี หากจำเป็นหรือต้องการจะรับจริง ๆ ก็ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี อาจตรวจสอบได้โดยขอนัดเจอตัวจริง หรือร้องขอให้เปิดกล้องวิดีโอคอล ให้เห็นหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับรูปในโปรไฟล์จริง ๆ (หน้าตรงปก) ซึ่งส่วนใหญ่ คนร้ายจะไม่ยอมวิดีโอคอล โดยอ้างเหตุขัดข้องต่าง ๆ

2.หากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะจากเพื่อนหรือพัฒนาจากเพื่อนเป็นคนรักในสื่อสังคมออนไลน์ ที่เราไม่เคยเจอตัวจริง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนตามที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้!! กรณีมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ นำข่าวเก่าคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา มานำเสนอบิดเบือน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์​ นำข่าวเก่าคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา มานำเสนอบิดเบือน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในลักษณะที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ดังนี้

จากกรณีที่เกิดมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ส่งต่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง​ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้คัดลอกข้อความจากข่าวและตัดออกบางส่วน แล้วจึงนำกลับมาเสนอซ้ำอีกครั้ง ในลักษณะที่ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นข่าวใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น

แต่จากการตรวจสอบพบว่า กรณีดังกล่าวเป็นข่าวเก่าที่ทางเพจ Mono29 News ได้เคยนำเสนอไปแล้ว ซึ่ง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในกรณีดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 63 ไม่ใช่ข่าวใหม่แต่อย่างใดและจากการนำเสนอในลักษณะนี้ ทำให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์และประชาชนทั่วไปเกิดความสับสนเข้าใจผิด และทำให้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งทาง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะใช้สิทธิส่วนบุคคล ในการฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าจะทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนไปยังผู้กระทำความผิดว่าให้หยุดการกระทำของท่านเสีย เพราะนอกจากการกระทำของท่านจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมจิตใจของพี่น้องประชาชนที่ควรจะได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและยังทำให้เกิดความสับสนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ และขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก่อนจะส่งต่อ รวมถึงใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่สร้างสรรค์ประโยชน์ทั้งกับตนเองและสังคม

นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

EA บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK พร้อมชุด PPE และหน้ากากอนามัย ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

วันนี้ (25 ก.ค.64) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย ดร.พัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit  หรือ ATK จำนวน 300 ชุด  พร้อมชุด PPE จำนวน 50 ชุด และหน้ากากอนามัย จำนวน 10,000 ชิ้น ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่ โดยในวันนี้ทาง รพ.สต.เขาดิน ได้ดำเนินการตรวจเชิงรุกให้พระสงฆ์วัดเขาดิน คณะครู และประชาชนในพื้นที่ตำบลเขาดิน 

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ กล่าวว่า EA บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสนับสนุนชุด PPE และหน้ากากอนามัย ให้บุคลากรทางการแพทย์  และชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK ซึ่งเป็นชุดตรวจที่สามารถทราบผลภายใน 10 นาที ซึ่งได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การควบคุมโรคระบาดเป็นไปโดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งตรวจเชื้อได้มากและเร็วเท่าไร ยิ่งลดการเสี่ยงแพร่กระจายของเชื้อได้มากขึ้นเท่านั้น

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #ตร.มุกดาหาร ยึดกัญชา​ 443 กก.​ มูลค่า 19 ล้านบาทได้พร้อมผู้ต้องหา

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00น. ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองมุกดาหาร พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร  และ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผ.ก.ก.สภ.เมืองมุกดาหาร แถลงข่าวการผลการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 443 กก. ของกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ สอนสะอาด สว.หน.ชุด สืบสวนปราบปรามยาเสพติด สืบทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 261 บ้านคำเม็ก หมู่ที่ 6 ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร มีกลุ่มขบวนค้ายาเสพติดลักลอบนำกัญอัดแท่งที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาซุกซ่อนไว้ จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.เศรษฐพงษ์ วิชาหารอง ประสานสนธิกำลังหน่วยงานด้านมั่นคงจังหวัดมุกดาหารเข้าทำการตรวจค้นบ้านดังกล่าว  ผลปรากฏว่าพบกัญชาแห้งอัดแท่งบรรจุในกระสอบปุ๋ยสีขาวหุ้มด้วยถุงพลาสติกที่ดำบรรทุกอยู่ในกระบะท้ายรถยนต์โตโยต้าสีเทา ทะเบียน บพ 6231 ยโสธร จำนวน 11 กระสอบ ภายในกระสอบบรรจุด้วยกัญชาอัดแท่งๆ ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง รวมทั้งหมด จำนวน 443 แท่ง น้ำหนักประมาณ 443 กก. มูลค่าประมาณ 19,935,000 บาท ซึ่งขณะตรวจค้นมีนางโสภา อายุ 51 ปี รับว่าเป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว และนายเกษม อายุ 51 ปี รับว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว โดยกัญชาอัดแท่งดังกล่าวก็เป็นของพวกตนที่ได้รับการติดต่อจากนายหน้าซึ่งว่าจ้างในราคา 20,000 บาท ให้นำมาเก็บซุกซ่อนไว้เพื่อรอนายทุนจากภาคใต้ที่สั่งซื้อไว้มารับแต่ถูกจับกุมเสียก่อน 

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวทั้งสองคนโดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท​(5) กัญชา ไว้ในความครอบครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ภาพ/ข่าว ชุด ฉก.พญาอินทรีย์/พวงเพชร-เดวิท โชคชัย จ.มมุกดาหาร 092-5259-777

ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชนพื้นที่สีแดงเข้ม กำชับเจ้าหน้าที่กวดขันควบคุมการเดินทาง

วันที่ 24 ก.ค.64 เวลาประมาณ 20.45 - 23.00 น. พล.ต.อ.สุรพล  อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./รอง ผอ.ศปม.ตร. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจควบคุมการเดินทาง และจุดตรวจฉุกเฉิน (Curfew) ตามมาตรการล็อคดาวน์ในห้วงประกาศข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 28 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.ต.ต.พนัญชัย  ชื่นใจธรรม รอง จตร.ปรก.รองผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช  ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาร่วมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจที่จุดตรวจในเส้นทางคมนาคมสายหลักจำนวน 3 จุดคือ

1. จุดตรวจบริเวณแยกเทศบาลตลาดเกรียบทางหลวง 347 (ขาขึ้น) อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา
2. จุดตรวจทางหลวงหมายเลข 32 (เอเชีย) หน้าตู้ยามมหาราช อ.มหาราช จว.พระนครศรีอยุธยา
3. จุดตรวจบริเวณทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ขาออก (คู่ขนาน) หน้า ธ.ไทยพาณิชย์ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา

 พล.ต.อ.สุรพลฯ กล่าวว่า "อยุธยาเป็น 1 ในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือจังหวัดสีแดงเข้ม มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ สูงถึง 359 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และอาสาสมัครภาคประชาชน ที่สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่ออำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในเส้นทาง"

พล.ต.อ.สุรพลฯ กล่าวต่อว่า "นับแต่ประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 28 และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ก.ค.64 เป็นต้นมา พบว่า อยุธยามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแล กวดขันไม่ให้ประชาชนฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ และหากพบการกระทำผิดให้ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำ ยกเว้นกรณีที่ฝ่าฝืนและมีพฤติการณ์ที่เป็นความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย หรือท้าทายอำนาจรัฐ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่เคารพกฎหมายแล้วยังเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

พร้อมนี้ ผบ.ตร.ได้ฝากอาหารและน้ำดื่มมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจประจำจุดตรวจดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป

3 วิธี ไม่ให้ครอบครัวกลายเป็นสนามรบ ในช่วงโควิด!! ยิ่งอยู่ใกล้ ทำไมยิ่งดูห่างไกล ในช่วงล็อกดาวน์

ในช่วงล็อกดาวน์ ครอบครัวหลายครอบครัวถือโอกาสใช้เวลาร่วมกัน มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในครอบครัวให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ในขณะที่มีอีกหลายครอบครัวที่ประสบปัญหาเรื่องงาน เงิน กระทั่งเกิดความเครียด ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง จนบ้านกลายเป็นสนามรบ สามวันดีสี่วันทะเลาะ คู่รักหลายต่อหลายคู่เลือกที่จะยุติความสัมพันธ์ไม่ไปต่อ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับคนในบ้านเมืองเราเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลก 

สถิติความขัดแย้งในครอบครัวช่วง COVID-19 จากการสำรวจของสมาคม จิตแพทย์อเมริกา (America Psychiatry Association) ร้อยละ 12 ของชาวอเมริกันยอมรับว่า ครอบครัวของพวกเขาทะเลาะกันมากขึ้น และพบว่าครอบครัวจะมีความสุขมากขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกของ Lockdown แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกิน 1 เดือน คนในครอบครัวกลับรู้สึกเครียด และเริ่มคิดว่าครอบครัวเริ่มมีปัญหา ทางด้านประเทศจีนพบสถิติการหย่าร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คู่สมรสที่ยื่นเรื่องขอหย่าร้างในเมืองซีอาน (Xi’an) และต้าโจว (Dazhou) เพิ่มสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเมืองเซี่ยงไฮ้ก็มีจำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการหย่าร้างเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 

ในขณะที่สื่อทุกช่องทางให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีน และ อัตราการติดเชื้อ การเสียชีวิตออกข่าวกันเป็นรายวันรายชั่วโมง แต่ไม่มีหน่วยงานไหนออกมาพูดชัดเจนในเรื่องการดูแลครอบครัวอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงล็อกดาวน์ มีวิธีปฏิบัติดังนี้

1. ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริงในปัจจุบัน

ขั้นตอนแรกของการจัดการปัญหา คือการยอมรับว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกกังวลและประสบความยากลำบากในการจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความกังวลเป็นเพียงสัญชาตญาณการต่อสู้เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกังวลกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานๆ โดยไม่จำเป็น การเสพข่าวเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งวันย่อมไม่เกิดผลดี มีแต่จะทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น

2. การสื่อสารเชิงบวกสำคัญที่สุด

ทุกคนในครอบครัวต่างก็มีความเครียดส่วนตัว ต้องอาศัยความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนทำงานในบ้าน การดูแลเอาใจใส่อาจทำไม่ได้ดีเท่าตอนปกติ การเข้า Zoom ประชุมงานทั้งวัน การประสานงานพูดคุยกันโดยไม่ได้เจอหน้ากัน เหนื่อยกว่าเป็น 2 เท่า การพูดให้กำลังใจกันและกันเป็นเรื่องจำเป็น ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ให้มองผ่าน ชมกันให้มากกว่าต่อว่า ในตรงกันข้ามหากมีใครสักคนในบ้านเป็น Toxic Person เอาแต่ใจ พูดไม่ดี ด่าทอ อารมณ์เสียตลอดเวลา คนในบ้านก็พลอยไม่มีความสุข และหากมีใครสักคนทนไม่ได้ ตอบโต้ขึ้นมา บ้านที่เคยน่าอยู่ ก็จะกลายเป็นสนามรบทันที

3. จัดระเบียบชีวิตใหม่ 

ในเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตย่อมเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลง ชีวิตจะไปต่อได้ ให้ดูสิ่งของในบ้านว่าอะไรที่เกินความจำเป็นบ้าง เลือกไว้เฉพาะที่จำเป็นสำหรับคนในบ้านเท่านั้น พื้นที่ในการตั้งโต๊ะทำงาน โต๊ะเรียนหนังสือของคนในบ้านต้องมีพื้นที่เพียงพอ อุปกรณ์ในการทำงาน การเรียนต้องครบ เครื่องมือสื่อสาร อินเทอร์เน็ต ควรจัดตารางเวลาลำดับหน้าที่ของแต่ละคนให้ลงตัว ช่วงงาน ช่วงเวลาอาหาร ช่วงพัก มีเวลาส่วนตัว และการพูดคุยกันในเวลาของครอบครัว จะได้เอาใจใส่ซึ่งกันและกันในช่วงนี้  นี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากยังใช้วิถีชีวิตอย่างไม่เตรียมพร้อมมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหาได้

เชื่อว่า 3 วิธีที่พูดมา คงจะทำให้คุณจัดการกับความกังวลที่เกิดขึ้น เรียนรู้วิธีสื่อสารเชิงบวก และการปรับตัวเองในการใช้ชีวิตใหม่ เพื่อให้คนในครอบครัวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ

เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์
#Talktonitima


อ้างถึง:

https://www.posttoday.com/life/healthy/653628
https://psychologistbkk.com/th/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C/

ควรไหม? ‘SEX Worker’ ขายเซ็กซ์นอกมุมมืด? I LOCK LENS GURU EP.38

LOCK LENS GURU รายการที่จะพาทุกคนมาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจ ไปกับ ’กูรู’ ตัวจริง 

วันนี้พบกับ ‘คุณนาดา ไชยจิตต์’ 
นักปกป้องสิทธิเพื่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“Podcar” ระบบขนส่งอัตโนมัติ ที่เรียกใช้ได้ตามต้องการ

หลายท่านน่าจะได้เคยดูหนังแนววิทยาศาสตร์โลกอนาคต เนื้อหาในเรื่องมียานพาหนะส่วนตัวมารับในเวลาที่ต้องการ และไปจุดหมายตามที่ต้องการโดยอัตโนมัติ ระหว่างทางก็นั่งคุยกันไปโดยไม่ต้องกังวลกับการควบคุมยานพาหนะนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องแบบนี้น่าจะเกิดขึ้นในโลกอนาคต แต่ความเป็นจริงแล้วได้มีระบบขนส่งแบบนี้เปิดใช้งานจริงมานานกว่าสี่สิบปีแล้ว ในชื่อที่เรียกว่า “Podcar”

ในช่วงปี 1950 ประเทศสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาการขยายตัวของเมืองอย่างกระจัดกระจาย คือเกิดชุมชนใหม่ในแถบชานเมือง แต่คนยังต้องเข้ามาทำงานในใจกลางเมืองด้วยการขับรถยนต์ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ทางรัฐบาลจึงได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อใช้แก้ปัญหานี้ และในช่วงนั้นได้มีการวิจัยรูปแบบการขนส่งต่าง ๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจราจร หนึ่งในนั้นก็มีแนวคิดว่าผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ใช่ระบบขนส่งมวลชนเพราะไม่สะดวกและไม่เป็นส่วนตัวเหมือนกับการใช้รถยนต์ จึงมีการพัฒนาระบบขนส่ง Private Public Transit (PRT) ขึ้น

ระบบ PRT เป็นยานพาหนะขนาดเล็กที่จุผู้โดยสารได้ 2-6 คน หากจุผู้โดยสารมากกว่านั้นจะถูกเรียกว่า Group Rapid Transport (GRT) หรือเรียกอีกชื่อว่า Podcar ตามรูปทรงของรถ ระบบของ Podcar ถูกออกแบบมาให้วิ่งไปตามเส้นทางที่กำหนดและจอดตามจุดที่ต้องการโดยอัตโนมัติ และสิ่งที่แตกต่างจากระบบขนส่งสาธารณะทั่วไป คือ สามารถไปถึงจุดหมายโดยไม่ต้องจอดแวะระหว่างทาง จึงใช้ระยะทางเวลาเดินทางน้อยกว่า และระบบยังมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ คือ ในช่วงที่ผู้โดยสารใช้บริการมากสามารถกำหนดตารางการเดินรถเหมือนระบบขนส่งสาธารณะทั่วไป และช่วงที่ผู้โดยสารน้อยก็สามารถเรียกรถเพื่อใช้บริการได้ตามต้องการ ระบบเหมือนนี้จึงเหมือนรถแท็กซี่รวมกับระบบรถไฟฟ้า หรือเหมือนกับลิฟท์ส่วนตัวที่วิ่งในแนวราบและไม่ต้องจอดรับส่งระหว่างทาง 

Podcar เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 1975 ที่เมือง Morgantown ในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่เชิงเขาและมีประชากรอยู่ประมาณ 30,000 คน นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเวสต์เวอร์จิเนียที่มีนักศึกษาและคนทำงานอยู่จำนวนมาก ด้วยข้อจำกัดของสภาพภูมิประเทศจึงทำให้อาคารเรียนกระจายอยู่ทั่วเมือง แต่เดิมทางมหาวิทยาลัยจัดรถโดยสารรับส่งนักศึกษาระหว่างอาคารเรียนที่อยู่คนละฝั่งของตัวเมือง แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาสภาพจราจรที่ติดขัด จึงมองว่าแนวคิดของ PRT น่าจะเหมาะกับการแก้ไขปัญหานี้มากกว่าระบบขนส่งอื่น โดยระบบนี้มีทั้งหมด 5 สถานี ระยะทางรวม 13.2 กิโลเมตร รถมีทั้งหมด 73 คัน และถูกออกแบบให้จุผู้โดยสารได้ 20 คน

ต่อมาในปี 1979 ได้เริ่มใช้ระบบ PRT แห่งที่สองในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดุ๊ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นระบบขนส่งที่เชื่อมระหว่างอาคารสองแห่งกับอาคารจอดรถ แต่ต้องยกเลิกการใช้งานและทำลายเส้นทางทิ้งเนื่องจากการขยายอาคารในโรงพยาบาล

หากเป็นระบบ PRT ที่ดูทันสมัยขึ้นมาหน่อยก็คงเป็นเส้นทาง ParkShuttle ที่เปิดให้บริการในปี 1999 ที่วิ่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ บนเส้นทางถนนเฉพาะที่ฝังระบบนำทางไว้ใต้พื้นถนน เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟไฟฟ้า Kralingse Zoom กับ Rivium Business Park ในเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์โดยมีระยะทางรวม 1.8 กิโลเมตร ระบบนี้มีสถานีทั้งหมด 5 แห่ง และในปี 2021 มีโครงการขยายเส้นทางโดยใช้รถยนต์อัตโนมัติวิ่งบนถนนสาธารณะ

นอกจากนั้นยังมีการนำระบบ PRT มาใช้ในการรับส่งผู้โดยสารในสนามบิน เช่น การรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสาร 5 กับอาคารจอดรถของสนามบินฮีทโธรว์ในอังกฤษ โดยใช้ระบบของ ULTra  ที่เป็น Podcar ขนาดเล็กจุผู้โดยสารได้ 4 คน วิ่งไปตามเส้นทางเฉพาะที่มีระยะทางยาว 3.9 กิโลเมตร และสนามบินแห่งใหม่ในนครเชิงตูของจีน ก็ใช้ระบบ PRT ของ ULTra ในการรับส่งผู้โดยสารเองระหว่างอาคารผู้โดยสารสองหลังกับอาคารจอดรถ คาดว่าจะเริ่มใช้งานในปี 2021

ในเกาหลีใต้เองก็นำระบบ PRT มาใช้ในแหล่งท่องเที่ยว โดยระบบ SkyCube ถูกนำมาใช้ในเขตอนุรักษ์ของเมือง Suncheon เนื่องจากต้องการรักษาสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวเพราะระบบนี้ไม่มีการปล่อยมลพิษและเสียงรบกวนจากการก็วิ่งน้อยเพราะใช้ล้อยาง รวมถึงออกแบบให้เป็นทางยกระดับเพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดสองข้างทาง

ถ้าระบบขนส่งนี้มีข้อดีหลายอย่าง แต่ทำไมถึงยังมีใช้เพียงแค่ไม่กี่แห่งในโลก นั้นเพราะในอดีตระบบนี้ไม่เหมาะกับการใช้ในเมืองใหญ่หรือมีผู้โดยสารจำนวนมาก เพราะความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารต่อชั่วโมงน้อยกว่าระบบขนส่งหลัก เช่น รถไฟฟ้าหรือรถใต้ดิน และหากสร้างในเมืองขนาดเล็กที่มีจำนวนผู้โดยสารเหมาะสมกับการใช้งาน ก็ต้องพบกับปัญหาการลงทุนที่สูงเมื่อเทียบกับการใช้รถเมล์แบบปกติ นอกจากนั้นความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายในการใช้งานยังไม่เท่ากับการใช้รถแท็กซี่ที่ให้บริการรับส่งได้ถึงจุดหมายปลายทาง (Door to door) ระบบนี้จึงอาจเหมาะกับการรับส่งระหว่างอาคารในเส้นทางที่ไม่ไกลมากเช่นในสนามบิน

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในปัจจุบัน อาจจะนำเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาผสมเข้ากับระบบ PRT เช่น โครงการ ParkShuttle ในเนเธอร์แลนด์ เพื่อทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเส้นทางลดต่ำลง และแนวโน้มการเกิดขึ้นของเมืองใหม่ไร้มลพิษที่มีเป้าหมายให้เป็นเมืองปลอดรถยนต์ อย่างโครงการ Ajman City ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่มีแผนใช้ระบบ PRT เป็นระบบขนส่งรองเชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลักเพื่อขนส่งผู้คนไปถึงจุดหมายที่ต้องการ โดยมีโครงข่ายเส้นทางรวมระยะทาง 120 กิโลเมตร รวมถึงแนวโน้วค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญของระบบขนส่งสาธารณะ จึงอาจส่งผลให้ในอนาคตอันไม่ไกลนี้เราน่าจะได้เห็น PRT หรือ Podcar ใช้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น


ข้อมูลอ้างอิง 
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Personal_rapid_transit
https://transportation.wvu.edu/prt 
https://today.duke.edu/2017/12/remembering-duke%E2%80%99s-railway https://www.2getthere.eu/projects/rivium/
https://newsroom.posco.com/en/koreas-first-personal-rapid-transit-prt-skycube/
https://www.zatran.com/en/technology/personal-rapid-transit-prt/
https://www.bloomberg.com/news/articles/2014-09-19/personal-rapid-transit-is-probably-never-going-to-happen
https://www.wired.com/2008/10/personal-pod-1/
https://www.bloomberg.com/news/articles/2013-01-15/would-more-drivers-use-mass-transit-if-it-mimicked-private-cars


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ชลบุรี - สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ปิดให้บริการชั่วคราว ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และเตรียมไลฟ์สดชมชีวิตสัตว์นานาชนิดคลายเหงา ผ่าน Facebook

นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันทำให้พื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จึงขอประกาศปิด งดให้บริการเที่ยวชมสวนสัตว์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งการเปลี่ยนแปลง ตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรี

และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางสวนสัตว์ต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์  เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติมาเที่ยวสวนสัตว์ไม่ได้ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จึงดึงไอเดียยกสวนสัตว์มาเสิร์ฟถึงหน้าจอมือถือกลับมาอีกครั้ง ซึ่งได้เคยเผยแพร่ไปในช่วงโควิดระลอกแรก ผ่านทาง Facebook live กลับมาถ่ายทอดให้ผู้ชมทางบ้าน ในชื่อรายการ Zoo To Home Comeback

สำหรับ Zoo to home Comeback เป็นรายการสด ที่จะพาผู้ชมไปดูความน่ารักของสัตว์แต่ละชนิดในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างใกล้ชิด อาทิ ยีราฟ ม้าลาย เพนกวิน และครอบครัวฮิปโปโปเตมัส ราวกับเราได้ไปยืนดูด้วยตัวเอง พร้อมทั้งได้สาระความรู้ จากเจ้าหน้าที่อีกด้วย บอกได้เลยว่าดูไปยิ้มไป ช่วยให้คลายเหงาในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความน่ารักของเจ้าสัตว์โลกทำให้ความสุขถูกส่งผ่านหน้าจอมือถือได้อย่างง่ายดาย ทุกวันพุธ เวลา 11.00-11.30 น. ทาง Facebook สวนสัตว์เปิดเขาเขียว


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - เกาะล้านพัทยา ฉีดวัคซีน 70% แล้ว พร้อมเป็นพื้นที่ตัวอย่าง ป้องกันไวรัสมรณะ

เกาะล้านรุกคืบ พื้นที่แห่งความปลอดภัย นายกเมืองพัทยาเผย คนเกาะล้านได้รับวัคซีนแล้ว 70% สร้างระบบภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางสาธารณสุข พร้อมเป็นพื้นที่ตัวอย่างการป้องกันไวรัสมรณะ

ตามที่เมืองพัทยา ประสานงานการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยได้รับการจัดสรรวัคซีน มาจากส่วนกลางเพื่อฉีดต่อให้กับประชาชน ในพื้นที่เขตเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสานแนวทางสร้างระบบภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ โดยประชาชนต้องได้รับวัคซีนร้อยละ 70 ที่ผ่านมาวัคซีนทยอยจัดสรรมายังเมืองพัทยา อย่างต่อเนื่องนั้น

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในส่วนของพื้นที่ชุมชนเกาะล้านนั้น เมืองพัทยาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการนำร่องเป็นพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้เราสามารถกระจายวัคซีนให้กับชาวชุมชนเกาะล้านได้มากกว่า 70% แล้ว

ทั้งนี้ เมืองพัทยาได้ดำเนินโครงการ Pattaya Moves on นำร่องให้พื้นที่เกาะล้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะ เหมือนเกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะเต่า ที่มีแผนจะนำร่องให้ประชาชน ได้รับวัคซีนจนสามารถสร้างภูมิค้มกันหมู่ได้ ซึ่งขณะนี้ทั้งชาวบ้านและประธานชุมชน ประชาชนบนเกาะล้าน ได้เข้ารับฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว และเป็นพื้นที่ที่มีระบบภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว ด้วยเช่นกัน


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ – หวั่นโควิด ทำบุญวันพระใหญ่บางตา สวดรัตนสูตรคุ้มภัยป้องกันโควิด-19

พุทธศาสนิกชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หวั่นโควิด-19 ระบาดหนักในช่วงวิกฤต เข้าวัดทำบุญบางตา แต่ยังร่วมกันสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา สวดภาวนาพุทธมนต์รัตนสูตร เพื่อเสริมสร้างกำลังใจคุ้มภัย ป้องกันในสถานการณ์โรคติดเชื้อโรคโควิดระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ที่ศาลาพระพุทธสุจิตตสุวรรณรังษี วัดประชานิยม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) พร้อมด้วยทายกทายิกาวัดประชานิยมนำพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตร สวดมนต์ฟังธรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 ในปีนี้ ทั้งนี้สืบเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำบุญในวันอาสาฬหบูชาบางตากว่าภาวะปกติมาก 

อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวพุทธที่ไม่หวั่นไหวที่กับโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องการจรรโลงพระพุทธศาสนา และยึดมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อในเส้นทางการความดี  ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษต่อยอดทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะเข้าบริเวณด้านในศาลาหน้าประตูทางเข้า ยังได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไวรัสโรคติดเชื้อโควิด-19 เว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัย พร้อมกับทำตามมาตรการการประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) กล่าวว่าวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมธรรมเทศนา หรือการประกาศพระศาสนาในวันแรกหลังจากทรงตรัสรู้ พระธรรมเทศนานี้เรียกว่าธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หมายถึงพระสูตรที่กล่าวถึงการหมุนกงล้อแห่งธรรม พูดถึงการเวียนว่ายตายเกิด การดับทุกข์ การทำให้พ้นจากทุกข์ การประกอบความดีตามหลัก มรรค 8 ทาง แสดงหลักของการไม่ยึดมั่น แต่ให้ดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทาหรือเส้นทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ทรงแสดงให้กับเหล่าปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายาวัน เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปหรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน  ทำให้พระโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม เข้าใจในหลักคำสอน ขอบวชในพระศาสนา ทำให้พระรัตนตรัยสมบูรณ์ มีพระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา พระธรรมทำสอนนำไปปฏิบัติ และพระสงฆ์นำพระธรรมไปปฏิบัติ และประกาศคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ หลังจากทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนาแล้ว คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ยังได้ร่วมกันสวดภาวนาพุทธมนต์รตนสูตร เพื่อเสริมสร้างกำลังใจคุ้มภัย ป้องกันในสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิดที่กำลังระบาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อ 200 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยัน 1,779 ราย กำลังรักษา 1,240 ราย หายป่วยแล้ว 533 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

สกพอ.ร่วมกับกลุ่มสตรีอีอีซีฉะเชิงเทรา ส่งมอบน้ำใจช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ในฉะเชิงเทรา

(24 กรกฎาคม 2564) ที่ร้านอาหารบลูม ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายกำพล เลิศเกียรติดำรง สมาชิกวุฒิสภา และนางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ สกพอ. ร่วมกับกลุ่มสตรีอีอีซี ฉะเชิงเทรา

ส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 250 ถุง และหน้ากากอนามัย 15,000 ชิ้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและพนักงาน สายงานนโยบายและแผน และสายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ สกพอ. ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา ใน 5 อำเภอได้แก่...

อำเภอเมือง, บางปะกง, บ้านโพธิ์, บางคล้า และบางน้ำเปรี้ยว เพื่อเป็นนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

โดยสิ่งของที่บรรจุในถุง​ จะเน้นของที่เป็นผลิตภัณฑ์ใน อีอีซี เช่น ข้าวสารจากชลบุรี รวมกว่า 1,200 กิโลกรัม น้ำปลา กะปิและอาหารทะเลจากวิสาหกิจชุมชน จ.ระยอง

นอกจากนี้ นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านการจัดหาน้ำเพื่ออุปโภค บริโภคและน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในอีอีซี ได้ร่วมบริจาคน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 3,600 ขวด เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน

​​​​​​

มุกดาหาร - เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ต้มน้ำสมุนไพรให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มไม่มีอาการ

วันที่ 23 ก.ค.64 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ได้ช่วยกันต้มน้ำสมุนไพรให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่มีอาการ) ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร” ได้ดื่ม เนื่องจากผู้ป่วยที่รักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ การใช้สมุนไพรจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร” ที่ดื่มน้ำต้มสมุนไพรนี้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและไอน้อยลง หายใจได้โล่งขึ้น หายป่วยกลับบ้านแล้ว 94 คน เกี่ยวกับการรักษา คงต้องช่วยกันทุกทาง นอกจากนี้จะขยายผลไปสอนการทำน้ำต้มสมุนไพรในให้กับทั้ง 7 อำเภอ เพื่อส่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนามแต่ละอำเภอ

นางสาวหทัยรัตน์ ฟองชล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สูตรน้ำต้มสมุนไพรนี้ ประกอบด้วย น้ำ 40 ลิตร ขิงแก่ง 2 กิโล กระชาย 1 กิโลกรัม หอมแดง 1 กิโลกรัม กระเทียม 1 กิโลกรัม เกลือไอโอดีน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 200 ซีซี ซึ่งน้ำผึ้งจะตัดรสเผ็ด และน้ำตาลอ้อย  ขั้นตอนล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุบพอหยาบ ๆ ใช้หม้อต้มเบอร์ 50 ต้มน้ำให้เดือด นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปต้มอีก 30-40 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ส่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร”

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดมุกดาหาร ประจำวันที่ 23 ก.ค. 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 คน แยกเป็นติดเชื้อนอกจังหวัด 34 คน และติดเชื้อในจังหวัด 1 คน ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 464 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 208 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม 100 คน ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 154 คน และเสียชีวิตสะสม 2 คน คงเหลือกำลังรักษา 308 คน


ภาพ/ข่าว  พวงเพชร / เดวิท โชคชัย ชุด ฉก.พญาอินทรีย์มุกดาหาร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top