Tuesday, 20 May 2025
SPECIAL

ขอนแก่น - เปิดปฎิบัติการฉีดวัคซีนเด็กแล้ววันแรกพร้อมกันทั่วประเทศ ผู้ว่าฯ มั่นใจ เดือน พ.ย.ฉีดครบ 2 เข็ม เตรียมพิจารณาเปิดเทอมในภาคเรียนที่ 2 ทันที

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ต.ค. 2564 ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ เขตการศึกษาพิเศษ เขต 9 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7,นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 7,นายกันตธี เนื่องศรี รองศึกษาธิการ จ.ขอนแก่นและ นายภูมิพันธ เรืองแหล่ ผอ.สพป.ขอนแก่นเขต 1 ร่วมเปิดกิจกรรมคิกออฟสร้างเกราะด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม พร้อมกันกับสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ในการให้บริการวัคซีนให้กับเด็กและเยาวชนในกลุ่มอายุ 12-18 ปี เข็มที่ 1 ไฟเซอร์ โดยมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่เข้าเกณฑ์อายุตามที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกวันนี้ 78 คน

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การให้บริการวัคซีนในกลุ่มอายุ 12-18 ปี พร้อมกันทั้งประเทศวันนี้ทุกจุดฉีดวัคซีนมีการดำเนินการพร้อมกันโดยขอนแก่นนำร่องในกลุ่มเด็กพิเศษ ที่ทุกคนได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองและเข้ารับวัคซีนเข็มแรกวันนี้และจะทยอยการให้บริการวัคซีนครอบคลุมทุกพื้นที่อำเภอของจังหวัดตามการจัดสรรของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการพบว่ากลุ่มอายุดังกล่าวทั้งจังหวัดมีทั้งสิ้น 147,000 คน โดยมีการยินยอมให้ฉีดวัคซีนรวม 90,000 คน ซึ่งชุดแรกของการรับวัคซีนตามการจัดสรรนั้นจะต้องเข้ารับการฉีดเข็มแรกในรอบแรกประมาณ 40,000 คน

"ขอนแก่นมีเด็กนักเรียน 12-18 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย โดยจากการสำรวจทั้งหมดมีอยู่ 147,000 คน ที่จะต้องเข้ารับการฉีดและขณะนี้มีการยินยอมทั้งผู้ปกครองและนักเรียนอยู่ที่ประมาณ 90,000 คน เริ่มฉีดวันนี้จะเป็นที่โรงเรียนศรีสังวาลย์เป็นโรงเรียนเด็กพิเศษ และอีกหนึ่งที่เปิดให้บริการที่ศูนย์ประชุมไคซ์ เป็นความรับผิดชอบของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ที่จะมีการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนขอนแก่นวิทยายนประมาณ 2,400 คน และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเป็นจุดฉีดของ รพ.ศรีนครินทร์ ที่ทำการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมานเช่นกัน ซึ่งวันนี้ขอนแก่นได้รับวัคซีนมาจากทางส่วนกลาง 47,580 โดส แล้วก็จะทยอยมาเป็นระยะๆ ภายใน 3 สัปดาห์เข็มที่1 จะต้องได้รับการฉีดทั้งหมด ประมาณ 85% ของกระทรวงศึกษาธิการได้วางแผนเอาไว้เพื่อให้โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนให้ได้ในเทอมที่2"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ดังนั้นสัดส่วน เพราะ85% ของจังหวัดทีกลุ่มอายุ 12-18 ปีที่จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนจะอยู่ที่ประมาณ 130,000 คน ดังนั้นคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจะต้องวางแผนฉีดเข็มแรกในช่วง3 สัปดาห์แรกให้ดี เพื่อการจัดสรรวัคซีนอย่างมีคุณภาพต้องสดใหม่และเป็นไปตามมาตรฐานและวงรอบที่2 อีก3 สัปดาห์ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่กำหนดคาดว่าไม่เกินวันที่ 15 พ.ย.ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและก็จะมั่นใจได้ว่าลูกหลานเราจะได้เข้าสู่การเรียนตามปกติ

 

สงขลา - ‘นิพนธ์’ กำชับ เร่งเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยเร็วที่สุด ขอบคุณท้องที่ - ท้องถิ่น ร่วมแรงร่วมใจดูแลประชาชนในยามทุกข์

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร อดีตส.ส.นครสวรรค์ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ อดีตส.ส.ลพบุรี และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 2 จุด โดยจุดแรกลงพื้นที่ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเกรียงไกร อำเภอเมืองนครสวรรค์ จุดที่ 2 ที่ชุมชนบางปรอง อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

กล่าวพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพกับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวนกว่า 600 ชุด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

สำหรับสถานการณ์ของจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย มีน้ำป่าไหลหลาก และเอ่อลันตลิ่งเข้าท่วมขังในพื้นที่ มีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 15  อำเภอ 100 ตำบล 952 หมู่บ้าน 52,914  ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 16,939 หลัง พื้นที่ทางการเกษตร เสียหาย 744,665.50 ไร่  ซึ่งทางจังหวัด อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ และภาคเอกชนได้เข้าไปดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ

ต่อมานายนิพนธ์ รมช.มหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปลงพื้นที่ให้กำลังใจ และมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิต และมอบถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล และอำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 11 อำเภอ 94 ตำบล มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 60,334 ครัวเรือน มีพื้นที่ทางการเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 507,538 ไร่ ขณะนี้ สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 อำเภอ ยังเหลืออีก 3 อำเภอที่ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้

นายนิพนธ์ กล่าวกับชาวจ.ลพบุรีว่า ในพื้นที่จังหวัดลพบุรีปีนี้มีปริมาณมวลน้ำมาก ทำให้เกิดเหตุที่ไม่อยากให้เกิดคือมีผู้เสียชีวิต ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีที่ได้เร่งรัดเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สถานการณ์ในขณะนี้ได้คลี่คลายลงแล้วจากเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนตั้งแต่จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย และนครสวรรค์ ยังสามารถบริหารจัดการน้ำได้ อาจมีการชะลอน้ำในบางช่วงไม่ให้ไหลลงสู่เจ้าพระยาเร็วเกินไป แต่ภาพรวมได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ยังสามารถควบคุมบริหารจัดการน้ำได้  จากนี้ไปคือภารกิจในการซ่อมสร้างเพื่อฟื้นฟูกลับสู่ภาวะปกติ ต้องเร่งสำรวจ ประเมินความเสียหาย บ้านพักอาศัย  พื้นที่เกษตรและเครื่องมือประกอบอาชีพเสียหาย ฯลฯ อย่างเต็มที่ เพื่อจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ช่วยเหลือประชนและฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคได้ทันที

 

ชุมพร - เจ้าหน้าที่คุมพื้นที่ปากน้ำ 28 วัน เฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการป้องกัน ควบคุม และบังคับใช้กฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาด

วันที่ 3 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการป้องกัน ควบคุม และบังคับใช้กฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนปากน้ำชุพร โดยระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครในพื้นที่ จัดชุดปฏิบัติการออกตรวจตรา ป้องปราม และกำกับการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ปากน้ำชุมพร อีกทั้งยังเป็นการควบคุมและดูแลผู้ที่มีคำสั่งกักตัว ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในชุมชนปากน้ำชุมพรสามารถควบคุม และยุติได้โดยเร็ว

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดชุมพร ในขณะนี้มีเพียงปากน้ำชุมพรพื้นที่เดียวที่ยังคงเป็นสีแดงพบผู้ติดเชื้อรายวันยอดสูงมาก ส่วนพื้นที่อื่นลดลงแล้วและอยู่ในสถานที่ควบคุมได้ ดังนั้นเราจึงต้องมาควบคุมพื้นที่ ต.ปากน้ำ ต.หาดทรายรี ต.ท่ายาง ให้ได้ ซึ่งเราจะนำเจ้าหน้าที่ สปก.ส่วนหน้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มาปฏิบัติการที่เทศบาลปากน้ำชุมพร ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหยุดเคลื่อนย้ายคนให้น้อยที่สุด เพราะโรคมันติดไปกับคน โดยจะมีรถประชาสัมพันธ์ 2 ภาษาทั้งไทยและเมียนมา ประกาศให้ทุกคนงดการเคลื่อนที่ที่ไม่จำเป็น ผู้ที่ถูกกักตัวก็ต้องกักตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ผู้ที่อยู่บ้านก็ต้องอย่าออกนอกบ้าน อย่างออกนอกตำบล โดยจะมีมาตรการแนวทางปฏิบัติทั้งในส่วนการดำเนินการในโรงงาน ชุมชน และในเรือ เช่น พรุ่งนี้จะมีเรือเสี่ยงสูงเข้า 2 ลำ เราก็จะนำทุกคนที่อยู่ในเรือทั้งหมดมาตรวจ ใครมีผลบวกก็ส่งตัวไปรักษา คนที่อยู่ในเรือลำเดียวกันก็จะเป็นผู้เสี่ยงสูงจะต้องกักตัว และมีการติดตามอย่างเป็นระบบ

 

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์​ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

อยุธยา - ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย ลงพื้นที่อยุธยา ติดตามสถานการณ์พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน

(3 ต.ค.64)​ พลเอก จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการ กองทัพไทย พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าโรงงานซ่อมยาง กองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พันเอก(พ)เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดต.สุรินทร์ ผดุงเพียร รองนายกเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะลงเรือติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและแนวป้องกันโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม พระตำหนักสิริยาลัย วัดกษัตราธิราชวรวิหาร จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทัยพร้อมมอบถุงยังชีพ ข้าวกล่องให้กับประชาชนใน ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน

กระบี่-ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามพร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน 

(3 ต.ค.64) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และส่วนเกี่ยวข้องประจำโรงพยาบาลสนามโกเมน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลสนามให้การต้อนรับ และนำชมการทำงานต่างๆ ภายในโรงพยาบาลสนาม 

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางไปโรงพยาบาลสนามพลบดี โดยได้ตรวจเยี่ยม ติดตามการปฏิบัติงาน พูดคุย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้เสียสละ ร่วมแรงร่วมใจในปฏิบัติการครั้งนี้

ข้อตกลง “AUKUS” ความมั่นคงไตรภาคี ระหว่างสหรัฐฯ - อังกฤษ - ออสเตรเลีย ที่ต้านแสนยานุภาพจีน!!

AUKUS เป็นข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564 ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร จะช่วยออสเตรเลียในการพัฒนา และปรับปรุงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และเพิ่มการประจำการของกองกำลังด้านตะวันตกของภูมิภาคแปซิฟิก แม้ว่าการแถลงการณ์ร่วมของ “Scott Morrison” นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย “Boris Johnson” นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และ “Joe Biden” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะไม่ได้เอ่ยถึงชื่อประเทศอื่นใดเลยก็ตาม แหล่งข่าวของทำเนียบขาวที่ไม่ระบุนามได้กล่าวว่า AUKUS ถูกออกแบบมาเพื่อต่อต้านอิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก อย่างไรก็ตาม Boris Johnson กล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษในเวลาต่อมาว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับจีนแต่อย่างใด

ข้อตกลงนี้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ สงครามไซเบอร์ เทคโนโลยีใต้น้ำ และความสามารถในการโจมตีระยะไกล นอกจากนี้ยังรวมถึงส่วนประกอบนิวเคลียร์ ซึ่งอาจจำกัดอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ในโครงสร้างพื้นฐานด้านการป้องกันนิวเคลียร์ ข้อตกลงดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถทางทหาร โดยแยกออกจากกลุ่มพันธมิตรแบ่งปันข่าวกรอง (Five Eyes : ชุมชนข่าวกรองที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก 5 ชาติ ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564 ฝรั่งเศสซึ่งเป็นพันธมิตรของสามประเทศได้เรียกเอกอัครรัฐทูตกลับจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา Jean-Yves Le Drian รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นการ "แทงข้างหลัง" เพราะเป็นการขัดขวางแผนยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงเรือดำน้ำฝรั่งเศส-ออสเตรเลียมูลค่า 56 พันล้านยูโร (90 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ของออสเตรเลียเพียงฝ่ายเดียว

ในปี พ.ศ. 2552 สองปีหลังจากการเริ่มต้นของโครงการที่ขับเคลื่อนตามอัตภาพเพื่อหาเรือดำน้ำแทนที่เรือดำน้ำ Collins class ของกองทัพเรือออสเตรเลีย Australian Defense White Paper กล่าวว่า "รัฐบาลได้ตัดขาดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์สำหรับเรือดำน้ำเหล่านี้" ดังนั้นจึงถอดเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Suffren class ของฝรั่งเศส ขับเคลื่อน ออกจากความขัดแย้ง

พ.ศ. 2559 นายกรัฐมนตรี Malcolm Turnbull ของออสเตรเลียได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (31 พันล้านยูโร) กับบริษัท Naval Group ของฝรั่งเศส (รู้จักกันในชื่อ DCNS จนถึงปี พ.ศ. 2560) เพื่อออกแบบเรือดำน้ำรุ่นใหม่ที่เรียกว่า Attack class ภายใต้โครงการเรือดำน้ำ "อนาคต" โดยกำหนดให้แทนที่เรือดำน้ำ Collins class ของกองทัพเรือออสเตรเลียในปัจจุบัน เรือดำน้ำจำนวน 12 ลำ จะถูกสร้างขึ้นทั้งในออสเตรเลียและฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามโครงการถูกรุมเร้าด้วยความล่าช้าและต้นทุนที่สูงมาก นำไปสู่ความไม่แน่นอนและความตึงเครียด เบื้องหลังค่าใช้จ่ายที่ต้องแก้ไข รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อตลอดระยะเวลาของโครงการ มูลค่าจึงเพิ่มเป็นที่ 90 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (56 พันล้านยูโร)

เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์เป็นเรื่องต้องห้ามในออสเตรเลีย จึงได้มีการตัดสินใจเปลี่ยนการออกแบบเรือดำน้ำจู่โจมโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ล่าสุดของฝรั่งเศส Barracuda class เป็นแบบขับเคลื่อนด้วยดีเซล-ไฟฟ้า ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ ออสเตรเลียเลือกที่จะติดตั้งระบบอาวุธของ Lockheed Martin โดยทั่วไปแล้วออสเตรเลียกำหนดให้มีการสร้างเรือบางส่วนในประเทศ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้คิดเป็นร้อยละ 60 ของมูลค่าสัญญา โดยฝรั่งเศสจะสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี

เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 แผนการออกแบบเบื้องต้นถูกปฏิเสธเนื่องจากมีราคาแพงเกินไป และกองทัพเรือออสเตรเลียได้รับมอบหมายให้ปรับปรุงข้อเสนอจนถึงเดือนกันยายน ในการไต่สวนของวุฒิสภาเมื่อต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 โดยมีความล่าช้าอย่างต่อเนื่อง Greg Moriarty รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ภายใต้คำถามที่ว่า เขาได้พิจารณาจัดทำแผนฉุกเฉินหากโครงการของฝรั่งเศสล้มเหลว โดยยอมรับว่ามีปัญหาต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว สองสัปดาห์ต่อมา Scott Morrison นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียได้พบกับประธานาธิบดี Emmanuel Macron ในกรุงปารีส และแสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงการที่ดำเนินไปอย่างล่าช้า ซึ่งประธานาธิบดี Macron ตอบว่า ฝรั่งเศสให้คำมั่น "อย่างเต็มที่และสมบูรณ์" และจะดำเนินการ "ต่อไปและเร็วขึ้นเท่าที่เป็นไปได้" 

ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 Hervé Grandjean โฆษกกระทรวงกลาโหมของฝรั่งเศสระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลวงกลาโหมของฝรั่งเศสและออสเตรเลียได้ออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันโครงการดังกล่าว โดยระบุว่า "รัฐมนตรีฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการเรือดำน้ำในอนาคต"

ออสเตรเลียตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ Naval Group สำหรับเรือดำน้ำ Attack class แม้ว่าจะใช้เงินไปแล้วประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์ในโครงการของฝรั่งเศส คาดว่า ออสเตรเลียจะต้องจ่ายเงินอีกหลายร้อยล้านยูโรเป็นค่าปรับสำหรับการยกเลิกสัญญา

มีการเปิดเผยว่าในวันที่โครงการถูกยกเลิก ออสเตรเลียได้เขียนจดหมายถึงฝรั่งเศสโดยระบุว่า "พวกเขาพอใจกับประสิทธิภาพที่ทำได้ของเรือดำน้ำและความคืบหน้าของโครงการ"

พลเรือโท Michael Noonan ผู้บัญชาการกองทัพเรือออสเตรเลีย ได้พบกับพลเรือเอก Tony Radakin ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งสหราชอาณาจักร

การเจรจาระหว่างออสเตรเลีย-สหราชอาณาจักร-สหรัฐฯ The Telegraph รายงานว่า ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 พลเรือโท Michael Noonan ผู้บัญชาการกองทัพเรือออสเตรเลีย ได้พบกับพลเรือเอก Tony Radakin ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งสหราชอาณาจักรที่กรุงลอนดอน และขอความช่วยเหลือจากสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาสำหรับการจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ The Telegraph รายงานอีกด้วยว่า Dominic Raab รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักร "ทำหน้าที่เป็นตัวแทนตามข้อตกลง"

The New York Times ระบุว่า Boris Johnson นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และ Joe Biden ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้หารือกันในการประชุมสุดยอด G7 เมื่อมิถุนายน พ.ศ. 2564 ในเมืองคอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร The Guardian รายงานว่า มีการเจรจาไตรภาคีระหว่าง Johnson กับ Biden และ Morrison ในการประชุมสุดยอด G7 การเจรจาเกิดขึ้นโดยไม่มีประธานาธิบดี Macron ร่วมด้วย ซึ่งแนวทางนี้เป็นไปได้เนื่องจากสหราชอาณาจักรจะไม่เข้าสู่นโยบายต่างประเทศอย่างเป็นทางการและสนธิสัญญาความมั่นคงในข้อตกลงหลัง Brexit กับสหภาพยุโรป (EU) เป็นผลให้สหราชอาณาจักรมีอิสระที่จะแสวงหาความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นกับพันธมิตรอื่น ๆ The Guardian ยังรายงานว่า ออสเตรเลียกำลังพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อตกลงเรือดำน้ำ Attack class ต่อไปอีก 18 เดือน

ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ และออสเตรเลียได้ประกาศการพัฒนาขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงร่วมกัน ทั้งออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ต่างเป็นสมาชิกของโครงการ Joint Strike Fighter (F-35)

ข้อตกลง AUKUS จะรวมถึงข้อกำหนดที่ทำให้ออสเตรเลียสามารถจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ได้ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์มีความเร็วมากกว่า สามารถอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น และสามารถบรรทุกอาวุธได้มากกว่าเรือดำน้ำทั่วไป ปัจจุบันมีเพียง 6 ประเทศเท่านั้นที่มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ได้แก่ สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) และอินเดีย สหรัฐฯ จะจัดหายูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง (HEU) ให้กับออสเตรเลียเพื่อเป็นพลังงานให้กับเรือดำน้ำ ออสเตรเลียตกลงที่จะไม่ผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงเอง

หมายเหตุ เครื่องปฏิกรณ์ทางเรือของสหรัฐอเมริกาล้วนแต่เป็นเครื่องปฏิกรณ์แรงดันน้ำ (PWR) ทั้งหมด Rolls-Royce PWR3 ของสหราชอาณาจักรเป็นระบบใหม่ที่มีพื้นฐานมาจากการออกแบบของสหรัฐฯ แต่ใช้เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ของสหราชอาณาจักร

ออสเตรเลีย Lloyd Austin รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ

การปรับใช้เครื่องปฏิกรณ์ของสหรัฐอเมริกาสำหรับออสเตรเลีย ในการเจรจาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างสหรัฐฯ กับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและการต่างประเทศของออสเตรเลีย Peter Dutton รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียกล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ จะ "ส่งเสริมความร่วมมือด้านท่าทีของกองกำลังของเราอย่างมีนัยสำคัญ" ซึ่งรวมถึง "ความร่วมมือทางอากาศที่มากขึ้นผ่านการส่งเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ ทุกประเภท ไปประจำการในออสเตรเลีย" Dutton ยังระบุด้วยว่า อาจมีการเพิ่มในการหมุนเวียนจำนวนของกำลังทหารสหรัฐที่ถูกส่งไปประจำการที่นครดาร์วิน และการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคอื่น ๆ และฐานทัพและที่เก็บอุปกรณ์เพิ่มเติมในออสเตรเลีย

Lloyd Austin รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ จะมองหาโอกาสที่มากขึ้นในการปฏิบัติการรบร่วมกัน โดยระบุว่า จะมีกำลังทหารและเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ในออสเตรเลียมากขึ้น Austin ยังไม่การคาดว่า สหรัฐฯ จะคาดหวังให้ออสเตรเลียให้ผลประโยชน์เพื่อแลกกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เช่น ขีปนาวุธพิสัยกลาง

รถไฟมือสอง!! ‘เศษเหล็ก’จากแดนปลาดิบ หรือ ‘ของดีราคาถูก’ | LOCK LENS GURU EP.48

LOCK LENS GURU รายการที่จะพาทุกคนมาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจ ไปกับ 'กูรู' ตัวจริง 

???? พบกับ กูรู ‘อาจารย์ศรัณย์  ดั่นสถิตย์’ 
อาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

???? ช่องทางรับชม LIVE 
YouTube: THE STATES TIMES

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/post/2021092502

ตม.ร่วม ภ.4 รวบ ฝรั่งเมายาบ้า ข่มขืนสาวร้านนวดแผนไทย ใน จ.ขอนแก่น

(2 ต.ค.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย ในจังหวัดขอนแก่น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เกิดเหตุชายสัญชาติอเมริกัน ทำร้ายร่างกายและข่มขืนพนักงานร้านนวดแผนไทย เหตุเกิดที่ร้านนวด ย่าน ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ระหว่างหลบหนีได้ไปก่อเหตุกระทำอนาจารกับเด็กสาว อายุ 13 ปี อีกรายในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ผู้เสียหายเป็นหญิงที่ประกอบอาชีพพนักงานนวด อาจทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเกิดความหวาดระแวงต่ออาชญากรรม จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ภูมิภิภัทฒ์ฯ ผบช.สตม. และ พล.ต.ท.บรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เร่งสืบสวนติดตามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคมโดยเร็วที่สุด

“Machu Picchu” มหัศจรรย์! อารยธรรมอินคา มรดก ‘โลก’ ไม่ลืม

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น! นี่เองกระมัง ที่เป็นสาเหตุทำให้ผู้คนออกเดินทางกัน เพราะไม่ว่าจะได้เห็นภาพถ่ายหรือฟังเรื่องเล่ามากมาย อย่างไรเสียก็สู้เอาตัวเองไปอยู่ ณ สถานที่จริงไม่ได้ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ขึ้นชื่อระดับโลกและอยู่ในรายการมรดกโลกของยูเนสโกแห่งหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตหากมีโอกาสได้เยือนได้ก็นับว่ายิ่งกว่าคุ้มมาก คือ “มาชูปิกชู” นั่นเอง!! 

วิธีเดินทางง่ายที่สุด คือเดินทางไปยังเมืองกุสโก จากนั้นจับรถไฟท่องเที่ยวไปยังมาชูปิกชู (ความจริง รถไฟไปถึงเมืองเล็กอยู่ตีนเขาชื่ออากวาสกาเลียนเต แปลว่าน้ำพุร้อน) หรือถ้าประหยัดหน่อยก็นั่งรถบัสเอาก็ได้ มนุษย์ฮาร์ดคอร์ใช้วิธีเดินเท้าเทร็กกิ้งจากเมืองกุสโกเพื่อไปยังมาชูปิกชูก็มี 

ถ้าจะเปรียบเทียบกับโบราณสถานสำคัญอื่น ๆ แล้ว “มาชูปิกชู” ถือว่าอายุน้อยกว่าบรรดาพีระมิดหรือกระทั่งนครวัด เพราะสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 โดยชาวอินคา เป็นอาณาจักรรุ่งเรืองอยู่แถบเทือกเขาแอนดีสแห่งทวีปอเมริกาใต้ เมื่อพวกล่าอาณานิคมอย่างสเปนบุกเข้ามาก็ทำลายเมืองเสียราบคาบ ผู้คนล้มตายหรือหนีเอาตัวรอด ทิ้งเมืองให้รกร้างเป็นซาก จนกระทั่งในปีค.ศ. 1911 นักสำรวจชาวอเมริกันชื่อไฮแรม บิงแฮมมาพบเข้าโดยบังเอิญ เพราะความตั้งใจเริ่มแรกคือต้องการค้นหาโบราณสถานอีกแห่งที่ชื่อว่าวิลคาบัมบาต่างหาก เขานำออกเผยแพร่สู่สาธารณะ จุดนั้นเอง ทำให้มาชูปิกชูกลับมาได้รับความสนใจอย่างเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง 

ชัยภูมิที่ตั้งมีส่วนส่งเสริมให้มาชูปิกชูเป็นดินแดนมหัศจรรย์ ค่าที่ตั้งอยู่บนภูเขาความสูงพอเหมาะพอเจาะ (เกือบสูงเท่ายอดอินทนนท์) ซึ่งเห็นวิวระดับร้อยล้านแบบพาโนรามา ด้านล่างหุบเป็นแม่น้ำและมีเมืองเล็กซึ่งมีโรงแรมร้านค้ารองรับนักท่องเที่ยวสะดวกสบาย อากาศเย็นสบาย แถมยังมีน้ำพุร้อนด้วย ช่างเพอร์เฟกต์อะไรเช่นนี้ แม้ค่าเข้าชมจะแพงโข แต่นักท่องเที่ยวก็ยอมจ่ายเงินเพียงเพื่อจะมีโอกาสได้เข้าชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

คนที่นิยมเดินหรือวิ่ง ก็จะลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติซึ่งมีขั้นบันได เพลินมาก พักเหนื่อยเป็นระยะ ๆ แล้วเดินต่อ มีชาวบ้านดักขายน้ำดื่มน้ำอัดลมอยู่เป็นระยะ ๆ ความชันน่าจะพอ ๆ กับการเดินเทรลขึ้นดอยสุเทพ ส่วนคนที่ต้องการสบายหน่อยก็ใช้บริการรถบัส แต่อาจจะต้องต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วและรอขึ้นรถโดยสารนานหน่อย คนมหาศาลล้านแปดมากในแต่ละวัน ถึงทางเข้ามีการเช็กตั๋วเคร่งครัดประหนึ่งการตรวจคนเข้าเมือง ผู้คนก็เรียงแถวกัน ค่อย ๆ เบียดเสียดเข้าไป ผ่านจุดคอขวดจึงสามารถกระจายกันออกสู่พื้นที่กว้างขวางของอุทยานประวัติศาสตร์นี้

คนเข้าชมมากมายขนาดนี้จึงยากที่จะถ่ายรูปแบบไม่มีมนุษย์ใด ๆ เข้าร่วมฉาก จึงอาจจะดีกว่าที่จะหามุมเก๋ ๆในการถ่ายบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย บางทีตัวเราเองอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในฉากในกล้องเสมอไปก็ได้ จริงไหม

คนที่ไปกับไกด์ก็จะได้รับฟังข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียดแต่ละจุดภายในอุทยานประวัติศาสตร์นี้ หรืออาจจะเนียนไปเงี่ยหูร่วมฟังด้วยก็ได้ในกรณีที่ไม่ค่อยมีสะตุ้งสตางค์ แต่อยากทราบเรื่องราว อันที่จริง ปัจจุบันนี้ก็มีข้อมูลมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะตุนข้อมูลไว้ล่วงหน้าหรือหาเพิ่มเติมหลังไปเยือนเรียบร้อยแล้วก็ได้ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากแต่อย่างใด

ส่วนคนที่ไม่ได้สนใจที่มาที่ไป ก็เพลิดเพลินได้กับการหามุมเซลฟี่เพื่อโพสต์ขึ้นโซเชียลอวดและให้ชาวโลกพากันอิจฉาเล่น ๆ

“Soft Power” เครื่องมือเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างชาติ - เศรษฐกิจ

ย้อนกลับไปดูในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กระแส Soft Power ถูกนำกลับมาพูดอีกครั้ง ผ่านความสำเร็จใน Solo เดี่ยวครั้งแรกของ “ลิซ่า Blackpink” และเกิดการตั้งคำถามว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ มีปัจจัยอะไรประกอบกันบ้าง เพราะหลังจากที่ได้ปล่อยเพลงออกมาพร้อมกับมิวสิกวิดีโอ ดูเหมือนว่าทุกอย่างในมิวสิกวิดีโอจะกลายมาเป็นกระแสให้ถูกพูดถึง และข่าวทุกช่อง ทุกสำนักมีการนำเสนอ เช่น การนับจำนวนเสื้อผ้าที่ใส่ใน MV ว่ามีทั้งหมดกี่ชุด, ฉากต่าง ๆ ในมิวสิกวิดีโอที่มีการวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ส่งผลให้มีการ Cover ทั้งจากคนดังในวงการบันเทิง และคนทั่วไปอย่างท่วมท้น รวมไปถึงยอดวิวในยูทูบและยอดสั่งจองซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย

กระแสความแรงของลิซ่าไม่ได้อยู่แค่ในผลงานของตัวเอง แต่อิทธิพลความดังและการเป็นผู้นำทางความคิดยังแสดงให้เห็นผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ “วู้ดดี้โชว์” ที่ได้พูดถึงอาหารโปรดของลิซ่า นั่นก็คือ “ลูกชิ้นยืนกิน” ที่มีน้ำจิ้มพริกเผารสเด็ดเป็นจุดเด่น อยู่หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ที่คุณแม่เคยพาไปกินสมัยเด็ก ๆ จากนั้นก็ทำให้กระแสการกินลูกชิ้นโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน ขายดิบขายดี มีทั้งส่งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ หรือแม้แต่การจัดงานเป็นเทศกาล มีการกินลูกชิ้น การแสดง Cover เพลงและแต่งตัวตามในมิวสิควิดีโอของลิซ่า ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่าทำให้เศรษฐกิจคึกคักขึ้นมาได้ในช่วงที่ต้องประสบกับสภาวะโควิด-19 แบบนี้ 

นี่คือความ Mass ที่สามารถเข้าถึงมวลชนได้อย่างไร้ที่ติ ผ่านการนำเสนอจากทุกช่องทางของสื่อมวลชน กลายเป็นผู้นำทางความคิด และเกิดกระแสการถ่ายทอดวัฒนธรรมให้ได้เห็นกันจากปรากฏการณ์นี้ ความสำเร็จนี้ จากทั้งความสามารถของลิซ่า และการฝึกฝนของค่าย YG Entertainment ที่ทำให้ลิซ่าได้กลายมาเป็นศิลปินที่มีผลงานอย่างโดดเด่น ประสบความสำเร็จทั้งในระดับเอเชียและทั่วโลก แสดงให้เห็นแล้วว่า พลังของ Soft Power ที่เราชอบพูดถึงกันนั้นมันเป็นอย่างไร 

กระแสลิซ่ากลายเป็นกรณีศึกษาทั้งในแวดวงบันเทิง และวงการการศึกษาในแง่มุมต่าง ๆ ที่เราได้เห็นบทสัมภาษณ์ของนักวิชาต่าง ๆ ได้ออกมาถ่ายทอดแต่ละมุมมองที่ต่างกันไป ทั้งเรื่องของเพลง ศิลปะ วัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย ซึ่งทุกคนได้เห็นแล้วว่าแม้จะเป็นเพลงที่ร้องผ่านภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ แต่ความสากลของดนตรี ก็มิได้เป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นเรื่องของภาษา เหมือนกับซีรีส์เกาหลีเรื่องต่าง ๆ ที่เราได้ดูและชื่นชอบ ก้าวข้ามผ่านจากความสำเร็จในประเทศ ออกสู่ต่างประเทศและขยายไปในวงกว้าง 

ซึ่งนอกจากปรากฏการณ์ความสำเร็จของลิซ่าในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่ถูกพูดถึงและหยิบยกมาศึกษา อีกหนึ่งกรณีตัวอย่างที่ตอกย้ำความสำเร็จว่าการจะขายวัฒนธรรมของประเทศ คือการคุยในเรื่องที่พลเมืองโลกสนใจ แม้จะเป็นงานทางด้านดนตรี ก็ต้องมีการสร้างสรรค์งานที่ทำให้คนยอมรับได้ในแบบสากล

เจ็บแล้วไม่จบ! ภาวะ “Long covid” อาการเรื้อรังของคนเคยติดโควิด-19 ที่ยังต้องฟื้นฟู!!

Long covid หรือโควิดเรื้อรัง คือ อาการที่เกิดขึ้นภายหลังจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) แม้ว่าร่างกายจะปลอดเชื้อโควิดแล้ว แต่อาการเจ็บป่วยเรื้อรังนี้จะคงอยู่ยาวนานมากกว่า 12 สัปดาห์ มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ลงสู่ปอดหรือมีโรคเรื้อรังร่วมด้วย ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ เหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มปอด หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

สาเหตุของ Long covid
> การติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ลงปอด ส่งผลให้ปอดทำงานหนัก ปอดสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้แลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ไม่เต็มที่
> ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง
> ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะต้องถูกกักตัวเป็นเวลานาน
> ภาวะเครียดกังวลทางจิตใจ

อาการของ Long covid
> รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
> หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม เจ็บแน่นหน้าอก
> มีปัญหาเกี่ยวกับการได้กลิ่นและการรับรสชาติ
> ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อต่อต่าง ๆ 
> ท้องเสีย ปวดท้อง ความอยากอาหารลดลง
> ผื่นขึ้น ผมร่วง
> นอนไม่หลับ มีปัญหาด้านความจำ ขาดสมาธิ เครียด วิตกกังวล

ภาวะแทรกซ้อนจาก Long covid
> กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
> สมองล้า
> โรคนอนไม่หลับ
> โรคปวดเรื้อรัง
> กล้ามเนื้ออ่อนแรง

การฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีภาวะ Long covid
1.) การฝึกหายใจโดยใช้กระบังลม
ประโยชน์ : ช่วยให้ปอดขยายเต็มที่ เพิ่มออกซิเจนสู่ร่างกายและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
วิธีการ
-    นั่งหลังตรงในท่าทางผ่อนคลาย
-    มือทั้ง 2 ข้างวางไว้ที่หน้าท้อง (บริเวณใต้ลิ้นปี่)
-    หายใจเข้าทางจมูกให้เต็มที่ ลึก ๆ ยาว ๆ ระหว่างทำจะรู้สึกว่าหน้าท้องป่องขึ้น
-    หายใจออกทางปากช้าๆ ยาวๆ 
-    ฝึกหายใจ 3-5 รอบต่อครั้งแล้วพัก 1 นาที ทำได้บ่อยเท่าที่ไม่รู้สึกเหนื่อย

เด็กสายแพทย์เตรียมตัวให้พร้อม!! เปิดรับสมัครสอบ กสพท ปีการศึกษา 2565 ตั้งแต่วันที่ 1-20 ตุลาคม 64 สมัครผ่านอินเทอร์เน็ต

ไฟล์ประกอบการสมัคร
1. รูปถ่ายนักเรียนไม่เกิน 6 เดือน ไฟล์ .jpg
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนลงรายมือชื่อ-สกุล
รับรองเอกสารถูกต้อง ไฟล์ .jpg หรือ .pdf
3. สำเนาวุฒิการศึกษา ไฟล์ .jpg หรือ .pdf
•    ม.6 : ใช้สำเนา ปพ.7 มีตราประทับของโรงเรียน
•    จบ ม.6 แล้ว : ใช้ ปพ.2 หรือ ปพ.1
•    สูงกว่า ปี 1 : เอกสารอนุมัติการลาออกจากมหาวิทยาลัย

ขั้นตอนการสมัครสอบ 
-อ่านประกาศ กสพท ปีการศึกษา 2565 ให้เข้าใจ
-เตรียมไฟล์ที่ใช้อัปโหลด ให้พร้อม
-ผู้สมัครทุกคน โปรดทบทวนคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละหลักสูตรที่ต้องการสมัคร
-คลิกที่ปุ่ม "สมัครสอบ" เพื่อเข้าสู่หน้าจอการสมัครสอบ

สระบุรี - “นิพนธ์” รุดดูเขื่อนป่าสักฯ-เขื่อนพระราม6 มั่นใจจัดการได้ แต่ไม่ประมาทการรักษาชีวิต และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเยี่ยมผู้อพยพภัยน้ำท่วม 3 จ. สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่อาคารควบคุมและการประมวล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีรองผวจ.สระบุรี ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ รายงานสถานการณ์น้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า เขื่อนป่าสักฯ ยังสามารถควบคุมการระบายน้ำได้ ถึงแม้ว่าน้ำในเขื่อนขณะนี้จะอยู่เกินปริมาณที่เก็บกักได้ที่ 105 % ก็ตาม ซึ่งปริมาณกักเก็บสูงสุดของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่วันนี้เขื่อนมีน้ำอยู่ที่ 1,114 ลูกบาศก์เมตร และเขื่อนมีการระบายน้ำวินาทีละ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังมีน้ำเหนือ ไหลลงเขื่อนใกล้เคียงกับน้ำที่ระบายออก ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน โดยได้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนท้ายเขื่อนแล้ว พร้อมทั้งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด คือจ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีกด้วย สิ่งที่กังวลคือต้องติดตามจนถึงวันที่ 3 ต.ค.ว่าจะมีพายุก่อตัวหรือไม่ จากนั้นก็ต้องเฝ้าระวังวันที่ 7-10 ต.ค.อีกครั้งซึ่งเป็นช่วงที่น้ำเหนือลงมาประกอบกับน้ำทะเลหนุน แต่ยืนยันว่าน้ำเขื่อนป่าสักฯ ยังควบคุมสถานการณ์ได้ และปริมาณน้ำก็ยังน้อยกว่าตอนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ด้วย

จากนั้นนายนิพนธ์รมช.มหาดไทยและคณะ เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้การระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 735 ลบ./วินาที และได้เปลี่ยนธงเป็นสีแดงเป็นสัญญาณ แจ้งว่าระดับน้ำวิกฤตแล้วแจ้งเตือนประชาชน ริมแม่น้ำป่าสัก ท้ายเขื่อนพระราม 6 ลงผ่านอำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยา ได้เฝ้าระวังทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำป่าสัก ต้องเร่งเก็บของขึ้นที่สูงเพราะระดับน้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ตนได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกประกาศเตือนภัยแล้วและให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ เตรียมแผนให้พร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า  รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสาร สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง จนกว่าน้ำจะลดแล้วเข้าสู่การเยียวยาและฟื้นฟูต่อไป ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำเรื่องการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเปิดทางน้ำให้มีการระบายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องมีการวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ประกาศแจ้งเลื่อนกำหนดการรับสมัครเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

เพจเฟซบุ๊ก โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ระบุว่า ตามที่ สสวท. ได้ชะลอการประกาศรับสมัครออกไป เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 การรับสมัครเข้า ม. 1 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จึงเลื่อนออกไปด้วย

ชลบุรี - พิธีรับ - ส่งหน้าที่ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อย่างสง่างามและสมเกียรติ ที่ต้องรับผิดชอบพื้นที่ตั้งแต่อ่าวไทยตอนบนถึงทะเลจีนใต้

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ (อัตราพลเรือเอก) และ พลเรือตรี พิชัย  ล้อชูสกุล เจ้ากรมช่างโยธาทหารเรือ เป็น ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (อัตราพลเรือโท) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นั้น

วันที่ 30 กันยายน 2564 ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ให้มีจัดพิธีรับ - ส่งหน้าที่ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อย่างสง่างามและสมเกียรติ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงชั้นยศนายพลเรือ ในทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ผู้อำนวยการกอง หัวหน้ากองต่าง ๆ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงทัพเรือภาคที่ 1 รวมถึงผู้บังคับบัญชาของหน่วยกำลัง ที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับทัพเรือภาคที่ 1 เข้าร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

พลเรือตรี พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ท่านใหม่) นั้น นับเป็นการ “Come Back” กลับมารับตำแหน่งในทัพเรือภาคที่ 1 อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ และสง่างาม สืบเนื่องจากท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ผ่านการปฏิบัติงานในหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือมาแล้วหลายหน่วย เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ มาแล้วหลายตำแหน่ง ทั้งงานในด้านการปกครองบังคับบัญชา และงานในฝ่ายอำนวยการ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าครบเครื่อง “เก่งทั้งบู๊ และบุ๋น” ผลงานของท่านเป็นที่ประจักษ์ และเป็นที่ยอมรับ ต่อสายตาของผู้บังคับบัญชาในกองทัพเรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top