Monday, 29 April 2024
SPECIAL

‘เพื่อไทย’ ติวเข้ม ว่าที่ผู้สมัครฯ สู้ศึกเลือกตั้ง 66 ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

(3 ก.พ. 66) ที่ รร.เซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และประธานยุทธศาสตร์ด้านการเลือกตั้ง ภาคเหนือตอนบน พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบายพรรคเพื่อไทย และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ร่วมโครงการสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือตอนบนพรรคเพื่อไทย โดยมีผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย และทีมทำงาน เข้าร่วมงานอย้างพร้อมเพรียง

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวว่า จุดประสงค์การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบนทั้ง 8 จังหวัดคือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่และน่าน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ครบถ้วนแล้วทั้งหมด 36 เขต 

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวเปิดงานสัมมนาพร้อมทั้งแสดงความชื่นชมว่าที่ผู้สมัครและคณะทำงานทุกเขต ที่ได้แสดงพลังเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง พูดได้เต็มปากว่า เพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแน่นอนในเดือนพ.ค. โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทยต้องการชัยชนะอย่างถล่มทลายเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน ชูธงขายนโยบายที่ทำได้จริง โดยผู้แทนที่ใกล้ชิดประชาชนและแคนดิเดตนายกฯ ที่บริหารเป็น พร้อมนำนโยบายของพรรคไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง

DSI ลงพื้นที่ท่าใหม่ จันทบุรี ตรวจยึด/อายัดทรัพย์คดี Forex 3-D เพิ่มเติม

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566)  พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ  ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ ร้อยตำรวจโท เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 และ นางสาวนันท์นภัส  เกยุราพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 1 พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 36/2563 สนธิกำลังกับ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 2 และกองปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/2 ถนนศรีนวดิตถ์ ตำบลท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี    

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 36/2563 ซึ่งเป็นความผิดฐานฐานฟอกเงิน ในกรณี “การชักชวนให้ลงทุนนำเงินไป ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่าง ๆ (Forex)  โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60-80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 โดยมีการชักชวนผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อ Forex-3D และบัญชี เฟสบุ๊คชื่อ Apirak Krub (นายอภิรักษ์ โกฎธิ)” ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้เพื่อตรวจสอบไว้ก่อนแล้วหลายรายการ ซึ่งต่อมาจากการสืบสวนขยายผล คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบทรัพย์สิน ของนางสาวชนกวนันท์ โกฎธิ หรือ ภคมน สีลุน อดีตภรรยาของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 60/2564 เป็นบ้านพักและที่ดินมีโฉนด ในพื้นที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และยังไม่มีการยึดอายัดไว้ ซึ่งเชื่อว่าได้มาในช่วงเกิดเหตุคดี Forex 3-D และคาดว่าจะมีทรัพย์สินอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าวด้วย

'เชียงราย' ยิงสนั่นกลางป่าชายแดนแม่ฟ้าหลวง ทัพเจ้าตาก ปะทะ กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดวิสามัญ 2 ศพ

หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ตามแนวชายแดน จัดกำลังเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปรากฎข่าวสารว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านชายแดนเข้ามายังประเทศไทย จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 19.15 นาฬิกา ชุดปฏิบัติการของกองร้อย

ทหารพรานที่ 3107 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ซึ่งปฏิบัติภารกิจเฝ้าตรวจชายแดน บริเวณช่องทางสันมะเค็ด บ้านห้วยกระ ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 5 – 7 คน แบกเป้สัมภาระเข้ามายังพื้นที่เฝ้าตรวจ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายเรา จึงได้เกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ผลการปะทะ ฝ่ายเราปลอดภัย   เนื่องจากอยู่ในยามวิกาล

'พิธา' เสนอแก้ฝุ่น PM 2.5 ต้องยกเครื่องโครงสร้างอำนาจ ออก กม.ใหม่-ให้อำนาจท้องถิ่น-ปั้นขนส่งพลังงานไฟฟ้า

'ก้าวไกล' เปิดเวทีพบชาวน่าน ย้ำนโยบายรัฐสวัสดิการทำได้ทันที พร้อมปรับเบี้ยคนแก่เป็น 3,000 บาท ด้าน 'พิธา' เสนอแก้ฝุ่น PM 2.5 ต้องยกเครื่องโครงสร้างอำนาจ ออกกฎหมายใหม่-กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น-ปรับขนส่งสาธารณะใช้พลังงานไฟฟ้า

(3 ก.พ. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำ และ ส.ส. พรรคก้าวไกล อาทิ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ร่วมจัดเวทีพบปะประชาชนที่จังหวัดน่าน พร้อมนำเสนอนโยบายและตอบคำถามของประชาชนในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นที่สนใจของประชาชน เช่น เรื่องปากท้องเศรษฐกิจ และปัญหาฝุ่นควัน pm 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น

ณัฐชา ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล ได้นำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเรื่องเงินผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะปรับจาก 600 บาทต่อเดือน ให้เป็น 3,000 บาทต่อเดือน โดยณัฐชาระบุว่านี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ศึกษามาระยะหนึ่งแล้ว ศึกษาลงไปถึงรายละเอียดว่าแหล่งรายได้ที่จะนำมาใช้ทำนโยบายดังกล่าวมาจากไหน และสามารถทำได้ทันที หากพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ผลที่จะเกิดขึ้นคือพี่น้องไม่ต้องมารอลุ้นให้ได้รับเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามอายุของตัวเองอีกแล้ว ขอเพียงมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและเป็นคนไทย จะได้รับสิทธิทันที ไม่ต้องลงทะเบียนด้วย

จากนั้น มีหนึ่งในคำถามสำคัญจากวงพูดคุย เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น pm 2.5 ที่นับวันสถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายลง ทางพรรคก้าวไกลมีนโยบายอย่างไร พิธาได้ตอบคำถามนี้โดยระบุว่าปัญหาฝุ่น pm 2.5 เป็นปัญหาที่มีต้นตอจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ หากเป็นเขตเมือง ก็มักเกิดจากรถยนต์ โรงงาน และการก่อสร้าง ส่วนในพื้นที่ชนบทมักเกิดจากการเผาไหม้จากภาคเกษตร การใช้พลังงานถ่านหิน หรือการเผาป่าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สาเหตุเหล่านี้เป็นที่รับรู้กันมายาวนาน แต่การแก้ไขปัญหาไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะโครงสร้างอำนาจที่มีปัญหา

กล่าวคือปัญหาของฝุ่น pm 2.5 เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แต่ความรับผิดชอบที่อธิบดีมีอยู่นั้น ไม่ได้มาพร้อมกับอำนาจ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษไม่สามารถไปสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษออกมาตรการเพื่อระงับฝุ่น pm 2.5 ได้ ผลก็คือที่ผ่านมามีเพียงการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากก็มักไม่ได้รับความร่วมมือกลับมา

'พปชร.' ปลื้ม ปชช. ขานรับนโยบาย 'ประชารัฐ 700' แถมดัน 'บิ๊กป้อม' ฟีเวอร์!! จ่อเปิดนโยบายที่เหลือต่อ

(3 ก.พ. 66) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสตอบรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังเดินสายลงพื้นที่เปิดนโยบายเพิ่งเงิน บัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่แสดงความชื่นชม บางคนถามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตว่าต้องทำอย่างไรให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ได้ เพื่อจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาพรรคพปชร.ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีผลงานเป็นรูปธรรม เรื่องสวัสดิการประชารัฐ การบริหารจัดการน้ำ จัดที่ดินทำกิน ปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมง และมีนโยบายที่รอเปิดตัว จึงมั่นใจว่าทุกนโยบายจะถูกใจประชาชนอย่างแน่นอน

‘นพดล’ จี้ รัฐบาล-กทม. เร่งจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 ลั่น! ดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดทันที หาก พท.เป็นรัฐบาล

(3 ก.พ. 66) 'นายนพดล ปัทมะ' รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เสนอ 5 ทางออก แก้ฝุ่น PM 2.5 จะต้องหมดไป ย้ำ รัฐบาลต้องจริงจังกับปัญหา สิทธิ์หายใจในอากาศสะอาดเป็นสิทธิมนุษยชน

“ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่เลือกคนรวย คนจน เด็กอนุบาล หรือผู้สูงอายุ เราจะไม่ปล่อยให้แก้ปัญหาแบบนี้อีกต่อไป พรรคเพื่อไทยมา PM2.5 ต้องหมดไป ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและโดยแก้เริ่มจากได้การมีรัฐบาลใหม่ที่เอาจริงเรื่องนี้" 

นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครติดอันดับโลกขณะนี้ และอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากสภาพอากาศปิด ขณะที่ในหลายจังหวัดประสบปัญหาจากการเผาป่า เผาไร่ ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาเป็นแบบไฟไหม้ฟางและปลายเหตุมาตลอด พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาว หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาโดย 

1.) เข้มงวดห้ามเผาป่า เผาไร่เช่น อ้อย ข้าวโพด และของเหลือจากผลิตผลทางการเกษตรอย่างเคร่งครัด พร้อมกับดำเนินนโยบายปลูกป่าเศรษฐกิจขนานใหญ่ ได้ทั้งการแก้ปัญหาโลกร้อนและซับฝุ่น PM2.5

‘ผู้ช่วยฯสมพงษ์-ศปอส.ตร.’เตือน 3 กลโกงล่าสุด หลอกขายนม-กดลิงก์บริษัทประกันปลอม

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) หัวหน้าอำนวยการด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ./หัวหน้าด้านข่าวสารและประชาสัมพันธ์ , พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.ศปก.ตร./หัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ฯ ปฏิบัติหน้าที่ ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก./รองหัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ร่วมกันเปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ศปอส.ตร. และ บช.สอท. พบอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนประชาชน คือ หลอกขายนมไทยเดนมาร์ก , หลอกให้กดลิงก์บริษัท ไทยประกันชีวิตปลอม และหลอกให้ลงทุนเล่นพนันออนไลน์ เป็นต้น
สำหรับการหลอกขาย 'นมไทยเดนมาร์ก' นั้น ขั้นตอนการหลอกลวงคนของคนร้าย คือ

- สร้างเพจ Facebook ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ รูปโปรไฟล์ รูปปก ที่อยู่ ข้อความแนะนำ ใกล้เคียงกับเพจไทยเดนมาร์ค
- สร้างเป็นเพจ Facebook หรือซื้อโฆษณาเพจเพื่อให้คนเห็นได้จากระบบอินเตอร์เน็ต
เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อ เพจจะใช้หลักจิตวิทยาเพื่อให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน เมื่อถึงวันรับสินค้า เหยื่อจะส่งข้อมูลไปสอบถาม  แต่ก็จะอ้างเลื่อนการส่งด้วยมีเหตุต่างๆ สุดท้ายปิดเพจหนีหรือเปลี่ยนชื่อเพจเป็นชื่อ

ข้อควรระวัง คือ ตรวจสอบเพจ Facebook ให้แน่ใจก่อนซื้อ โดยกด 'เกี่ยวกับ' 'ความโปร่งใส' ก็จะเห็นว่าเปิดมานานเท่าใด ผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทยหรือไม่(อยู่ต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยง) และดูช่องกดไลก์ ดูโพสต์เป็นหลัก อย่าดูด้านใต้ชื่อเพียงอย่างเดียว เพราะสามารถซื้อ 'ไลก์' ได้

‘ตำรวจไซเบอร์’ เปิดยุทธการทลายเว็บพนันออนไลน์ หลัง ‘ดิว อริสรา’ โพสต์แฉข้อมูล

‘ตำรวจไซเบอร์’ เปิดยุทธการทลายเว็บพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’ หลัง ‘ดิว อริสรา’ โพสต์แฉข้อมูล

(3 ก.พ. 66) จากกรณีดาราสาว ‘ดิว อริสรา’ โพสต์แฉเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 พร้อมกับให้ข้อมูลตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ภายใต้ยุทธการ ‘มาเก๊า 888’

ล่าสุด พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.สอท.1 ได้นำหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นที่บ้านหรูหลังหนึ่ง ถนนเลียบคลองประปา ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักของ นายณัฐพงศ์ ระชินลา ผู้ต้องหาหนึ่งในขบวนการ ซึ่งทำหน้าที่การเงินการธนาคาร และรวบรวมโพยพนัน

5 อันดับ นโยบายภูมิใจไทย โดนใจคนกรุง

ชวนดู '5 นโยบาย' สุดแจ่มจาก 'ลุงหนู' แห่งพรรคภูมิใจไทยที่โดนใจคนกรุง 

'ชาติพัฒนากล้า' ชูนโยบาย 'เกษตรสร้างชาติ' ยกระดับสินค้า จัดตั้งกองทุนหนุนธุรกิจ จ้างงานผู้สูงวัย สร้างคุณค่าชีวิต

(3 ก.พ. 66) นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงนโยบายด้านการเกษตรของพรรคชาติพัฒนากล้าว่า โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่ได้เอื้อให้ผู้ประกอบการรายย่อย และเกษตรกร ให้ลืมตาอ้าปากได้มากนัก พรรคชาติพัฒนากล้า ขอนำเสนอนโยบาย 'เกษตรสร้างชาติ เพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี – อุตสาหกรรม' โดยยก 4 ข้อหลักเพื่อไปสู่เป้าหมายได้ คือ

1.) พัฒนาสินค้าเกษตรเป็นเกษตรพรีเมี่ยม เพิ่มคุณภาพการผลิต จำหน่ายในราคาสูงได้ ปัญหาของเกษตรกรเวลานี้คือ เน้นปริมาณ ไม่ได้เน้นคุณภาพมากนัก ทำให้สินค้าผลิตออกมาขายไม่ได้มาตรฐาน หรือขายได้ในราคาถูก ไม่คุ้มต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น สินค้าภาคการเกษตรเกี่ยวเนื่องกับหลายกระทรวง ที่มีนโยบายไม่สอดคล้องกัน ทำให้สินค้าภาคการเกษตรไม่สามารถแก้ปัญหาได้มาอย่างยาวนาน

2.) ใช้เทคโนโลยีช่วยเกษตรแปรรูป โดยเสนอระบบ cloud factory ซึ่งเป็นระบบที่รัฐใช้เงินสนับสนุน มีโครงสร้างพื้นฐาน ให้ชาวบ้านมาใช้ มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ที่อุทยานหลวงปู่ทวด ต.บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้นำท้องถิ่นได้รวบรวมสินค้าชุมชน นำมาแปรรูป และตั้ง อย.กลางเพื่อสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตตามออเดอร์ หมดปัญหาผลิตมาไม่รู้จะขายใคร

3.) สอนเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการ ไม่ใช่แค่ผู้ผลิต ด้วยการค้าขายออนไลน์ ซึ่งมีตลาดแบบไร้พรมแดน หากทำได้ก็จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนมหาศาล ลืมตาอ้าปากได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งจับกุมหนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศสมีพฤติกรรมแอบอ้าง 'บิ๊กโจ๊ก' เรียกเงินค่าคุ้มครองจากกลุ่มชาวต่างชาติในพื้นที่พัทยา

จากกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวต่างชาติซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ว่ามีชายชาวฝรั่งเศสมีพฤติกรรมแสดงตนเป็นผู้มีอิทธิพล โดยแอบอ้างนายตำรวจในพื้นที่พัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) โดยมีการนำภาพถ่ายของตนเองซึ่งถ่ายภาพคู่กับนายตำรวจรายต่างๆ ขณะที่ตนเองเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (Volunteer) ไปใช้ในการแอบอ้างต่อกลุ่มชาวต่างชาติเพื่อเรียกรับเงินค่าคุ้มครองให้สามารถพักอาศัยอยู่ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ได้นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบการการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย หากพบการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการตามกฏหมายจนถึงที่สุด

จากการสืบสวนของชุดสืบสวนทราบว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายเฮอวี่ คริสเตียน โรเบิร์ต ลีโอนาร์ด หรือ Mr.Herve Christian Robert Leonard อายุ 58 ปี สัญชาติฝรั่งเศส มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีเกี่ยวกับ ฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมาแล้วหลายคดี โดยครบกำหนดการอนุญาตพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2563 แต่ยังไม่พบข้อมูลว่าเดินทางออกจากประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบเพื่อแกะรอยหาของตัวของบุคคลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนใช้เวลาในการเฝ้าติดตามตัวนายเฮอวี่ฯ กว่า 4 เดือน จนทราบว่า หลังจากที่ นายเฮอวี่ฯ ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ก่อนหน้านั้น ได้รับการประกันตัวออกมาระหว่างพิจารณาคดีของศาล แต่เมื่อถึงกำหนดนัดพิจารณาคดีกลับหลบหนี โดยนายเฮอวี่ฯ มีพฤติกรรมในการย้ายที่พักอาศัยบ่อยครั้ง ในวงรอบทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่พัทยา หัวหิน และ กรุงเทพมหานคร และแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจะแจ้งกับสถานที่พักต่างๆ ว่าเอกสารหนังสือเดินทางของตนสูญหาย สุดท้ายเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายเฮอวี่ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมดังกล่าวจนพบ นายเฮอวี่ฯ พักอาศัยอยู่จริง ซึ่งรวมระยะเวลาในการเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ( 868 วัน ) และเพิ่งย้ายเข้ามาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวเพียง 2 สัปดาห์ จึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายเฮอวี่ฯ ถูกแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จากผู้เสียหายอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และ ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าวจำนวนหลายหมายจับ ได้แก่ 

‘ลุงหนู’ บอก รู้นานแล้ว ‘ทีมกำนันป้อ’ จ่อซบ พท. มองเป็นเรื่องดี จะได้เลิกวลี ‘ไล่หนูตีงูเห่า’

(2 ก.พ. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานะภายในพรรคของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมช.คมนาคม และอดีตกรรมการบริหารพรรค ว่า สถานะยังเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ต้องเช็กกับนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคฯ

ส่วนที่มีข่าวว่ามีทีมงานของนายวีรศักดิ์ จะย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้รู้มานานแล้ว มองว่ามันก็ดี เพราะจะมีการคละเคล้ากันไป จะได้เลิกวลี ‘ไล่หนูตีงูเห่า’ หากมาพรรคภูมิใจไทย เพราะคนของพรรคภูมิใจไทยก็ออกไปพรรคอื่น ซึ่งเราไม่ได้ไล่ใครทั้งนั้น ต่างคนต่างทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง แล้วมาแข่งกันทำความดี และขายนโยบายให้กับประชาชนเพื่อตัดสินใจ

‘ลุงหนู’ ยินดี ‘ลุงตู่’ ขึ้นแท่นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 รทสช. บอก มีกำลังใจให้เสมอ ส่วนการเมืองต้องแข่งขันกัน

(2 ก.พ.66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ว่า ก็ต้องแสดงความยินดีกับท่าน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยให้กำลังใจทุกพรรคการเมือง และทุกฝ่ายเสมอ เพราะทุกพรรคการเมืองมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประเทศชาติ และประชาชน 

‘บิ๊กป้อม’ ใช้ใจบันดาลแรง นำทัพ ‘พปชร.’ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่

ถ้าใครได้ฟังสิ่งที่ออกจาก ‘ลุงป้อม’ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จากงานกิจกรรมระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น จะเห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไป

อย่างแรก ก็คือ แกพูดเยอะขึ้น ไอ้ที่เห็นภาพแบบถามคำตอบคำอย่างที่คุ้นนั้น แทบจะพลิกจนคนเห็นแล้วตกใจ

ส่วนหนึ่ง ก็อาจจะเป็นเพราะการตัดสินใจ ประกาศก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ของไทย โดยมีทัพ พปชร. ที่ยังคงอยู่ให้ความเคารพ และผลักดันแบบไม่มีใครคิดแตกแถว

แถมทุกคนยังแลดูเชื่อมั่น และอยากให้พี่ใหญ่แห่ง 3ป. นี้ ขึ้นมาอยู่ในสถานภาพสมกับบารมีที่มีอย่างจริงจัง

ในวันนั้น ทุกถ้อยคำของ ‘ลุงป้อม’ บอกเล่าตามแรง ที่แกมักจะพูดว่า มีแรงกลับคืนมาได้ เพราะใช้ใจบันดาล ซึ่งเนื้อความวันนั้น จับสาระสำคัญได้เยอะกว่าที่ผ่านมา เสมือนที่ผ่านมาแกเลือกที่จะไม่พูดเลยยังไงยังงั้น

วันนั้น ลุงป้อม พูดถึง สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันวา่า สังคมไทยยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐ ยังคงมุ่งมั่น ยืนหยัด ที่จะทำงานการเมืองสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ 'การสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข' ให้พี่น้องประชาชนชาวไทย มีความอยู่ดี กินดี อย่างมีความสุข ใน 3 พันธกิจหลัก...

1.) สวัสดิการประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำ
2.) เศรษฐกิจประชารัฐ สร้างความสามารถ และโอกาสที่เท่าเทียม
3.) สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง และแบ่งปัน

พิธีกรมีการถามเรื่อง ผมไม่รู้?
ลุงป้อมตอบว่า ที่ผมตอบว่า "ไม่รู้" ความจริงแล้ว ผมอาจจะรู้ก็ได้นะครับ แต่ว่าผมก็จะต้องหาผู้รู้ที่รู้มากกว่าผม มาแนะนำผม คนที่รู้เนี่ย อยู่รอบตัวผมเยอะแยะ ผมก็เอามาใส่ในตัวผมให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

พิธีกรถามเปิดใจลุงป้อม เรื่องการใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ

ลุงป้อมตอบว่า พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง และตัวเองก็เอาใจนี่แหละครับ ในการที่จะบันดาลแรงที่ได้ร่วงโรยไป ทุกวันนี้เดินก็ไม่ค่อยไหว แต่ก็ใช้ใจบันดาลแรงนี่แหละ ในการเดิน

ตลอดงานในวันนั้น ดู ลุงป้อม จะมีความเป็นตัวเองมากที่สุด มีรอยยิ้มที่แลดูมีความสุขแบบผ่อนคลาย แถมยังมีการฉายพูดถึงสิ่งที่อยากบอกกับผู้ร่วมงานวันนั้นแบบคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ เดินหน้าประเทศไทย ลุงป้อมพูดถึงปัญหาความยากจน พวกชาวนา ชาวไร่ พวกเกษตรกรหาชาวกินค่ำ ที่จะต้องดูแลคนพวกนี้ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และก็จะได้ทำให้ประเทศไทยนั้น มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

เคล็บลับให้ได้ใจคน คือ 'ความจริงใจ' ไม่ว่าใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นฝูง เป็นน้อง พูดอะไรไป “ความจริงใจ ซื้อใจคน”

พูดถึงชีวิตช่วงผ่านศึกสงครามมาหลาย ๆ สงคราม เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร ซึ่งตลอดระยะเวลานั้นก็ได้พยายามทำงานประเทศชาติ เพื่อกองทัพ และก็เพื่อประชาชน และพอมาทำงานการเมือง ก็หวังที่จะทำการเมืองเพื่อประชาชน ให้ประชาชนเราได้อยู่ดี กินดีขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top