(10 ก.พ. 66) พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำพรรค อาทิ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่อีสานใต้ ประกอบด้วย ศรีสะเกษและบุรีรัมย์ พร้อมกับเปิดรายละเอียดนโยบายด้านการเกษตรของพรรคก้าวไกล ตามแนวคิด 'กระดุม 5 เม็ด' ที่พิธา เคยใช้ในการอภิปรายเพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรังของการเกษตรกรทั้งระบบ
โดยในช่วงบ่าย มีการจัดเวทีที่หน้าตลาดสดเทศบาลตำบลปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 9 คน โดยได้รับการตอบรับอย่างเนืองแน่นจากประชาชน ที่เข้าร่วมจับจองที่นั่งจนเต็มเวที
พิธาเริ่มการปราศรัย กล่าวถึงแนวคิดกระดุม 5 เม็ด ที่เคยได้อภิปรายไปอีกครั้ง โดยระบุว่าในบรรดากระดุมทั้ง 5 เม็ด ตนและพรรคก้าวไกลเน้นเสมอว่ากระดุมเม็ดแรกที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิตของเกษตรกรคือเรื่องของที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลประยุทธ์ได้ใช้นโยบายยึดที่ดินจากประชาชน เป็นนโยบาย 'ทวงคืนผืนป่า' ในยุครัฐบาล คสช.
สำหรับพรรคก้าวไกล เรามีวิธีคิดที่แตกต่างออกไปจากทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เราเป็นพรรคที่พูดมาเสมอว่าที่ดินของประเทศไทยอยู่ในมือของรัฐมากเกินไป ถึง 62% จาก 320 ล้านไร่ ภายใต้การดูแลของ 8 กระทรวง และกฎหมาย 16 ฉบับ และนี่คือจุดเริ่มต้นที่เราต้องแก้ปัญหา เป็นกระดุมเม็ดแรกที่พรรคก้าวไกลจะเข้าไปจัดการอย่างเป็นระบบ
ประการแรก คือการตั้งกองทุนพิสูจน์สิทธิที่ดิน ที่ปีหนึ่ง ๆ มีงบประมาณอยู่เพียง 300 กว่าล้านบาท ช่วยเกษตรกรพิสูจน์สิทธิได้แค่ปีละ 1,000 ราย ในอัตราเช่นนี้ เราต้องใช้เวลาถึง 1,000 ปีกว่าที่ประชาชนที่มีความต้องการจะได้รับการพิสูจน์สิทธิจนครบทั้งประเทศ ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงมีนโยบายเพิ่มงบประมาณในการสำรวจที่ดินเพิ่มขึ้น 30 เท่าเป็น 10,000 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น เราจะจัดตั้ง 'ธนาคารที่ดิน' ซึ่งขบวนการภาคประชาชน อาทิ พีมูฟ ได้นำเสนอมาเป็นเวลานานแล้ว เพื่อให้เป็นกลไกในการเอาที่ดินจากมือรัฐ มาเข้าในธนาคารที่ดิน ก่อนกระจายให้ประชาชนผ่อนจ่ายเป็นเจ้าของที่ดินได้ในดอกเบี้ยราคาถูก
และที่สำคัญ คือนโยบายเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ซึ่งพิธาระบุว่าจากที่ดินที่ประเทศไทยเรามีอยู่ทั้งหมด 320 ล้านไร่ เป็นที่ดิน ส.ป.ก. อยู่ถึง 40 ล้านไร่ เป็นที่ดินที่ประชาชนสามารถใช้ได้แต่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ไม่สามารถนำไปสู่การต่อยอดได้ และเวลาผ่านไปกลับเกิดการเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนถึง 4 ล้านไร่ นี่คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบที่ประเทศไทยยังปล่อยให้ ส.ป.ก. เป็นเรื่องคาราคาซังอยู่แบบนี้ ส.ป.ก. จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการคายที่ดินออกมาจากมือของรัฐ
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบาย ให้เกิดการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ภายใต้เงื่อนไขรับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่ โดยที่ (1) หากผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นชื่อเดียวกัน สามารถออกเป็นโฉนดที่ดินได้ทันที ภายใน 5 ปีแรก สามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนอง ต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน
(2) หากผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นชื่อไม่ตรงกัน จะออกโฉนดที่ดินได้ก็ต่อเมื่อเป็นผู้ที่มีหลักฐานใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เป็นผู้ที่มีหลักฐานข้อตกลงระหว่างผู้ได้รับสิทธิเดิมกับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินจริง และเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินทั้งหมดไม่เกิน 10 ล้านบาท
(3) สำหรับกรณีที่ใช้ที่ดินที่ผ่านมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกจากการเกษตร ได้รับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเฉพาะผู้ที่ครอบครองที่ดินรวมกันทั้งหมด ไม่เกิน 50 ไร่ โดยภายใน 10 ปีแรกโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนอง ต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน ส่วนที่ดินส่วนที่เกิน 50 ไร่ หรือได้มาแบบผิดกฎหมาย จะถูกนำเข้าสู่ธนาคารที่ดินเพื่อนำมากระจายให้กับประชาชน
พิธายังกล่าวต่อไป ถึงการแก้ไขปัญหากระดุมเม็ดที่ 2 หรือหนี้สิน โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะปลดหนี้สินเกษตรกร เช่น นโยบายปลูกป่าปลดหนี้ ที่รัฐจะเข้าไปเช่าที่ดินจากเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะปลูกพืชเศรษฐกิจอีก แล้วมาปลูกไม้ยืนต้น ให้เกษตรกรได้ค่าเช่ามาปลดหนี้ รวมถึงนโยบายเสรีโซลาร์เซลล์ ให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ง่ายขึ้น และสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้กับรัฐได้ และที่สำคัญ ในกรณีที่เป็นเกษตรกรสูงอายุที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส. หากคืนหนี้เกิน 50% แล้วรัฐบาลยกหนี้ให้ทันที
สำหรับกระดุมเม็ดที่ 3 หรือต้นทุน พรรคก้าวไกลมีนโยบายลดต้นทุนให้เกษตรกรอย่างครบวงจร ทั้งน้ำ ปุ๋ย และเครื่องจักร และเมื่อเก็บเงิน ตั้งตัว ลดต้นทุนได้แล้ว กระดุมเม็ดที่ 4 ของเรา คือการเพิ่มมูลค่าด้วยสุราก้าวหน้า อย่างที่ศรีสะเกษมีวิสกี้ขาวที่กำลังจะหายไปจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล ได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นของพรรคก้าวไกล แก้ระเบียบแค่ประโยคเดียวเพื่อปลดข้อจำกัดด้านกำลังแรงม้าและทุนจดทะเบียน เกษตรกรสามารถเริ่มต้นเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรได้ทันที
สำหรับกระดุมเม็ดที่ 5 บริการการเกษตร พรรคก้าวไกลมีนโยบายเพิ่มรายได้ใหม่ให้เกษตรกร เพื่อนำไปสู่การต่อยอดจากสินค้าสู่บริการ เช่น นโยบายให้เกษตรกรขอการรับรองมาตรฐาน GAP-GMP และเกษตรอินทรีย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพดีไปทั่วโลก
พิธายังกล่าวต่อไป ว่าหลายคนอาจจะพูดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคมีนโยบายการเกษตรเหมือนกันหมด แต่สำหรับพรรคก้าวไกล วันนี้เรามีนโยบายที่ต่างออกไปจากทุกพรรคอย่างชัดเจน มีข้อมูลที่ครบถ้วนอยู่ในมือที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของเกษตรกรได้อย่างแน่นอน