ความมุ่งมั่นครั้งสำคัญของ 'นายกใหญ่' สะบัดธง ‘พลังประชารัฐ’ รับใช้ 'ปทุมธานี' ยกจังหวัด

"เป้าหมายใหญ่ พัฒนาปทุมธานี ให้กลายเป็นเมืองที่ผู้คนต้องหยุดมอง และกลายเป็นอีกเมืองสำคัญของประเทศ ที่ผู้คนต้องแวะมาท่องเที่ยว เศรษฐกิจดี ปากท้องต้องดี สาธารณูปโภคพร้อม ไร้ยาเสพติด และสลายสีขั้วการเมือง" 

นี่คือการประกาศศักดาจาก นายเสวก ประเสริฐสุข ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดปทุมธานี ชายที่พี่น้องชาวปทุมฯ ต่างรู้จักกันดีในฉายา ‘นายกใหญ่’ อดีต นายก อบต.เชียงรากใหญ่ และ อดีตรอง นายก อบจ.ปทุมธานี ผู้ได้รับฉายา ‘พี่ใหญ่ มีแต่ให้’ ของชาวปทุมฯ ที่เปิดเผยในรายการ Contributor (ผู้แทน เดอะซีรีส์)

'พี่ใหญ่ เสวก' ถือเป็นบุคคลที่ชาวปทุมฯ ให้การยอมรับในความเป็นคนพูดจริงทำจริง มีน้ำใจสไตล์นักเลง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เพราะตนเองเคยผ่านความยากลำบากมาก่อน 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนพื้นที่เชียงรากใหญ่ แห่งเมืองปทุมฯ จะคุ้นเคยกับพี่ใหญ่อย่างมาก เพราะถือเป็นบุคคลสำคัญที่ทุ่มเทพัฒนาผืนถิ่นในส่วนที่ทำได้ (เชียงรากใหญ่) นำความเจริญในแง่ของสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ และการเกษตรมาสู่ปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง ใต้บทบาทของคนทำงานเบื้องหลัง

พี่ใหญ่ มักจะมองเห็นปัญหา และแนวทางแก้ปัญหา รวมถึงวิธีการพัฒนาจังหวัดปทุมธานี แต่ด้วยข้อจำกัดของการเป็นคนเบื้องหลัง ทำให้การผลักดันภายใต้มุมคิดที่เจนจัดถูกขจัดออกไป

ดังนั้น การตัดสินใจลุกขึ้นมาเป็นคนเบื้องหน้า ลงสมัคร ตำแหน่ง ส.ส.แห่งเมืองปทุมฯ จึงเป็นธงสำคัญ ที่จะช่วยเร่งความเจริญให้ปทุมธานีไม่ต้องทนเป็นแค่เมืองล้าหลังอีกต่อไป และต่อจากนี้คือสิ่งที่พี่ใหญ่เล่าให้ THE STATES TIMES ฟัง...

>> แปลงร่างปทุมธานี 
"ปทุมธานีเหมาะที่จะเป็นนิคมอุตสาหกรรมหรือโรงงานย่อยๆ เพราะใกล้กรุงเทพฯ ใกล้ท่าเรือ ถ้าทำได้ ผมกล้าบอกเลยว่าความเจริญมันจะเกิดขึ้นในพื้นที่ปทุมธานี และถ้าจะให้ผมทำมันให้เกิดขึ้นจริงได้ ต้องเลือกผมทั้ง 7 คน 7 เขต ประชาชนชาวปทุมธานีต้องร่วมมือกันเลือกทีมนายกใหญ่ ช่วยกันเลือกพลังประชารัฐปทุมธานี"

>> แค่ผมคนเดียว เปลี่ยนแปลงไม่ได้!!
"ที่บอกว่าควรเลือกเราทั้ง 7 เขต เพราะแค่ความสามารถและความตั้งใจจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งยังไม่พอ เราเห็นสิ่งที่บุรีรัมย์เป็นไหม เราเห็นสิ่งที่สุพรรณบุรีเป็นไหม ความเจริญมาจากความเป็นหนึ่งเดียวของ ส.ส.ที่มาจากพรรคเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้มีอำนาจในการผลักดันนโยบายและการทำงานแบบบูรณาการได้ชัดเจน ทำงานร่วมกัน ไม่เกิดความขัดแย้ง จังหวัดก็เจริญ"

>> เพื่อนร่วมทีมชั้นยอด เก่งกาจคนละด้าน
"ยิ่งไปกว่านั้น ผมเลือกแต่คนที่เข้าใจปัญหา และมีหัวใจที่อยากเปลี่ยนแปลงจังหวัดปทุมธานีไปในทิศทางที่ดีขึ้น ภายใต้ความสามารถที่แตกต่างกันแบบไม่ทับซ้อน เช่น ผมมี 'สจ.ตุ้ย นพดล ลัดดาแย้ม' ท่านจะเข้ามาช่วยบูรณาการด้านเกษตร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้องค์ความรู้ในการสร้างผลผลิตทางเกษตรแนวใหม่

"ต่อมา กำนันหมู ยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ท่านอยากจะเข้ามาผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ชาวปทุมฯ ผ่านระบบคมนาคมใหม่ที่เป็นรูปธรรมและเหมาะต่อพี่น้องชาวปทุมธานี รวมถึงท่านยังเก่งในการเข้าถึงการแก้ปัญหายาเสพติดอีกด้วย

"ด้าน ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล ท่านวางแผนระยะยาวในการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเรื่องของรถติด และจะทำให้ชาวปทุมฯ กลับถึงบ้านได้โดยเร็ว ไม่ต้องติดบนถนนนานๆ อีกต่อไป

"ท่าน วิรัช พยุงวงษ์ นี่คือกุนซือด้านกฎหมาย และมีความสามารถในการจัดหางบประมาณมาช่วยสร้างความเจริญเติบโตให้จังหวัดได้ ซึ่งแต่ก่อนท่านก็หางบมาช่วยท้องถิ่น อบต. เทศบาลอยู่อย่างต่อเนื่อง

"ต่อมา เกียติศักดิ์ ส่องแสง ท่านต้องการทำเมืองปทุมฯ ให้เป็นแลนด์มาร์ก เช่น ปทุมฯ ต้องมีแลนด์มาร์กในจุดช่วงงบแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเป็นจริงเป็นจัง ต้องทำให้เป็นเมืองน่าเที่ยวไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ 

"สุดท้ายกับ กฤษณา วงศ์คำ เธอมองไปถึงการนำเทคโนโลยี เข้ามาเป็นสื่อกลางในการค้าขาย ยกระดับราคา และช่วยขยายตลาด เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ชาวเกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น

"ทุกคนมีพลัง มีความรู้ และมีความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาร่วมกันพัฒนาปทุมธานีให้เจริญภายใน 4 ปีนี้"

>> ทั้งชีวิตมีแต่ให้
พี่ใหญ่ เล่าให้ฟังอีกว่า เหตุผลที่กล้าลงมาสมัคร เพราะเชื่อในความไว้วางใจที่คนปทุมฯ มอบให้ เพราะพี่ใหญ่เริ่มจากการทำบ้านเกิดจากไม่มีอะไร จนวันนี้เชียงรากใหญ่เจริญเริ่มผิดหูผิดตา

"อยากให้สังเกตดูที่เชียงรากใหญ่ ผมของบมาทำถนนคอนกรีตหมด 100% มีถังขยะทุกอาคาร จากนั้นมาต่อท่อมาบำบัดน้ำเสีย 3 ตัว 80 กว่าล้าน ทำมาประมาณ 7-8 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ก็มีการของบสร้างเขื่อน 764 ล้านบาท และคนที่นี่ก็ได้สันเขื่อน

"นี่เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งในช่วงตั้งแต่ที่เป็นนายก อบต. ซึ่งผมมีแต่ให้ บางทีไปเจอคนจน คนไร้บ้าน ก็หาที่ทางให้เขาอยู่ เช่น ก่อนหน้านี้ มี 7 ครอบครัวที่ผมปลูกบ้านให้ฟรีๆ ตกหนึ่งหลังประมาณ 103,000 บาท เงินส่วนตัวทั้งนั้น ไม่ได้อวดรวยนะ แต่เราทำเราก็ได้บุญ เพราะชีวิตเราเคยจนมาก่อน เคยลำบากมาก่อนพอเห็นทุกคนยืนได้ผมก็ดีใจ"

>> เล่นการเมืองด้วยใจ ไม่ต้องแจกเงินซื้อเสียง
"วันนี้ผมบอกเลยผมเล่นการเมืองท้องถิ่นมา 2-3 สมัย ไม่เคยแจกตังค์สักบาท แต่ผมเน้นเข้าไปช่วยสังคมด้วยกำลังแรงและกำลังทรัพย์ที่พอมี เหมือนที่ยกกรณีเชียงรากใหญ่ จากไม่มีอะไรวันนี้มีความเจริญ หรือแม้แต่เรื่องยาเสพติด ผมก็เป็นคนปราบให้หมดจากพื้นที่นี้ หรือตอนโควิด ผมก็แจกยาเคอร่า พ่นยาฆ่าเชื้อ จัดหาวัคซีน เพื่อคุ้มครองชีวิตคนปทุมฯ นี่คือสิ่งที่ผมทำจนเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว"

>> วิสัยทัศน์ (สาธารณูปโภคพื้นฐาน)
"ด้วยความที่ผมเป็นคนพื้นที่ และรู้จักทุกพิกัดของปทุมธานี ทำให้ภาพในสมองมันต่อกันได้หมด ผมจึงแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องมาช่วยปทุมฯ ได้แบบเต็มที่หากได้รับการเลือกเข้ามาทั้ง 7 เขต ยกตัวอย่างเช่นในสมัยช่วงที่ผมเป็นรองนายก อบจ. ผมเห็นภาพถนนในปทุมธานีที่มีการอนุมัติให้ทำถนนลาดยาง ซึ่งผมมองว่าไม่ควร เพราะทำไปไม่ถึงปีก็พัง ผมเสนอว่าทำไมคุณไม่เทคอนกรีตเลยทีเดียว แล้วทำทีเดียวให้จบทั้งเส้น มันจะไม่พัง แต่มาทำแบบนี้ ทำไปจุดหนึ่ง อีกจุดก็พัง 10 ปีก็ไม่เจริญ

"ที่พูดแบบนี้ เพราะผมทำกับเชียงรากใหญ่แล้วมันเจริญ ก็เลยอยากจะทำปทุมธานีให้เจริญด้วย หรือไม่นานมานี้ ผมก็เพิ่งแก้ไขปัญหาน้ำเสียตั้งแต่คลอง 1-14 ไปหมด หลังจากน้ำเน่าถูกปล่อยเป็นปัญหามานับ 10 ปี ซึ่งพอเราทำเสร็จ เราก็จะเห็นว่าต่อจากนี้ใครที่เป็นต้นตอในการทำให้น้ำเสีย จะโรงงาน หรือ จะบ้านเรือน เราก็จะตามจัดการได้ถูกจุด ฉะนั้นสาธารณูปโภคพื้นฐานต้องถูกแก้ไขด้วยคนที่รู้ปัญหา และเลือกแก้ด้วยวิธีที่เหมาะสม ความเจริญต่าง ๆ ถึงจะไหลตามเข้ามาได้ง่ายขึ้น"

>> วิสัยทัศน์ (เศรษฐกิจ)
"แน่นอนว่า ถ้าความเจริญทั่วถึง สาธารณูปโภคถูกยกระดับ ที่ดินทุกผืนก็จะราคาขึ้น ซึ่งผมมองว่าการปรับเปลี่ยนผังเมืองในตอนนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเศรษฐกิจจะดีได้ถ้าผังเมืองเอื้ออำนวยได้อย่างถูกต้อง อย่างเอาเข้าจริงๆ แล้วปทุมธานีเหมาะที่จะเป็นเมืองอุตสาหกรรม เพราะใกล้กรุงเทพฯ ท่าเรือ เราควรจะต้องทำปทุมธานีให้มีเขตสีม่วง เพื่อหนุนด้านเศรษฐกิจใหม่" 

>> วิสัยทัศน์ (เกษตร)
"พื้นที่เกษตร ไม่เจอคนกลางที่ซื่อสัตย์ มีแต่พวกเอาเปรียบชาวสวน ชาวสวนต้องพร้อมที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อที่จะทำให้สินค้าของตนได้ราคาเสียที และพี่ใหญ่คนนี้จะเข้าไปช่วยเอง"

>> เลือกพลังประชารัฐปทุมธานีทั้ง 7 เขต
"แน่นอนว่า ท้ายที่สุดแล้ว ภาพความเจริญของปทุมธานีทั้งจังหวัด จะเกิดขึ้นไม่ได้หากเลือกผมคนเดียว ต้องเลือกทีมผมทั้ง 7 คน วันนั้นผมจะมีพลังในการฟันธงเรื่องต่างๆ สามารถของบประมาณได้ ถ้าได้เข้าไปคนเดียว โอกาสที่ว่ามาจะยากมาก 

ผมมั่นใจปทุมธานีเจริญได้มหาศาล เพราะพื้นที่ของเราก็ไม่ได้กว้างเหมือนบุรีรัมย์ โอกาสที่จะดันความเจริญเข้าไปได้จึงมีสูงมาก แล้วอย่างที่บอกโครงสร้างในจังหวัด ถนนทุกเส้นอยู่ในสมองของผมหมด และผมรู้ว่าจังหวัดนี้ต้องการอะไร ผมเล่นการเมืองมา 20 ปี ผมรู้ปัญหาท้องถิ่นทั้งหมด"

พี่ใหญ่การันตีด้วยว่า 4 ปีต่อจากนี้ ปทุมธานีสามารถเจริญได้ทั้งหมดทั้ง 7 เขต หากเลือกพลังประชารัฐ ปทุมธานียกจังหวัด และมั่นใจว่าจะทำให้ปทุมธานีไม่ใช่แค่เมืองผ่าน แต่เป็นเมือง 'ต้องแวะ' ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องปักหมุด

"อยากฝากอีกเรื่อง หากพวกเราได้เข้ามารับใช้ชาวปทุมฯ สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอีกเรื่อง คือ จากนี้ต่อไปชาวปทุมธานีจะไม่แบ่งสี แต่จะเป็นคนปทุมธานีทั้งหมด เราเป็นพี่น้องกัน เดินและคุยกันอย่างมีความสุขกันดีกว่า เลิกแบ่งสีเถอะ ทะเลาะกันเพื่ออะไร อยู่ไม่เกินร้อยปีก็ตายจากกัน" พี่ใหญ่ ทิ้งท้าย