Friday, 19 April 2024
ปทุมธานี

"ผู้ว่าฯ ปทุมธานี" ประชุมหารือ แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ตลาดเก่าร้อยปี คลอง 12 หกวา

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. ที่ ตลาดเก่า 100 ปี คลองสิบสอง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมหารือ แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ตลาดเก่าร้อยปี คลอง 12 หกวา  

โดยมี นายสุทัศน์  คงแย้ม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี นายรนัชถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอลำลูกกา  นางสาวธนียา นัยพินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี นางสาวพิมพกานต์  พิพิธธนานันท์ ผอ.ททท.สำนักงานกรุงเทพ นายภัสพลภ์ ชัยสุริยาทวิกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี  ผศ.ดร.ดรุณศักดิ์ ตติยะลาภะ รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์  ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชนพัฒนาตลาดเก่า ชุมชนตลาดเก่าร้อยปี คลอง 12 หกวา

พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวตลาดเก่าร้อยปี คลอง 12 หกวา เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้อมูลตลาดเก่าร้อยปีให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว


ภาพ/ข่าว : ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

"คำรณวิทย์" ห่วงใยเด็กปทุมธานี วางยุทธศาสตร์การศึกษาให้มีที่เรียนระดับมหาลัยจบมามีงานทำ

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 10:00 น. ที่โรงเรียนสามโคก ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการเข้าเยี่ยมชมและมอบนโยบายในการดำเนินงานเเนวทางการบริหารของโรงเรียนสามโคก สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

โดยมี นายชูชาติ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามโคก พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงเรียนและนักเรียน รร.สามโคกให้การต้อนรับ โดยพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายเสวก ประเสริฐสุข นายเวนิต วัฒนธำรงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายยุทธนา แสงพงศานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ชมนักเรียนแสดงความสามารถ ทางด้านภาษาต่างประเทศ การแสดงรำไทย โขน กลองยาว โปงลาง รวมถึงด้านกีฬา และมีการจัดบูธนิทรรศการผลงานนักเรียนที่ได้รางวัลในการแข่งขันต่าง ๆ ทั่วประเทศ จากนั้นได้เขียนบันทึกในสมุดเยี่ยมแสดงความชื่นชม ร.ร.สามโคกทุกด้านที่พัฒนาไปมาก และต้องพัฒนาต่อไป ลูก ๆ ร.ร.สามโคกต้องสู้ได้และชนะในทุกเวที

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ผมได้เชิญ ผอ.กิจจา ชูประเสริฐ , ผอ.อารีวรรณ เอมโกษา , ผอ.สมชาย ฟักทอง , ผอ.วรพันธ์ แก้วอุดม , ผอ.วีระพงษ์ ประดิษฐ์ ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาทางการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี มาเพื่อระดมความคิดในการทำงานร่วมกับ นายชูชาติ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามโคก เราต้องการให้โรงเรียนสามโคกสามารถพัฒนาเด็กให้สู้กับโรงเรียนอื่น ๆ ได้ทุกเวที แต่ถ้าหากเรารับเด็กทั้งหมดโดยไม่ผ่านการคัดกรองก็จะไม่มีการแข่งขัน โดยมาร่วมกันอยู่เป็นจำนวนมาที่เดี่ยว ก็จะส่งผลกระทบให้โรงเรียนอื่นๆในพื้นที่เช่นจากที่เคยมีเด็กเกือบ 1,000 คน ทำให้เหลือเพียง 200 คน จึงต้องมีการแก้ไขทั้งระบบให้เด็กนักเรียนในจังหวัดปทุมธานีต้องพัฒนาไปด้วยกันทั้งจังหวัด อย่างเท่าเทียม

ซึ่งวันนี้ได้เห็นความสามารถการแสดงออกของเด็กพบว่าดีมากและไม่แพ้ใครเลย เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์รวมถึงไม่ได้สัมผัสกับอีก 22 โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาอื่น ๆ ภายในจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นได้ประสาน ผอ.เขตการศึกษา เพิ่มโรงเรียนสามโคกเป็นโรงเรียนที่ 23 เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันกับโรงเรียนอื่น  นอกจากนี้ในวันที่ 23 มีนาคม 2564 จะมีการ MOU กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เพื่อให้เด็กที่จบ ม.6 มีการต่อยอดการศึกษาหลากหลายด้านในการประกอบอาชีพในอนาคต ซึ่งทางตนเองและคณะที่ปรึกษาทางการศึกษากำลังวางแผน ยุทธศาสตร์ทางการศึกษาให้เด็กนักเรียนปทุมเรียนจนจบ ระดับมหาวิทยาลัยและมีงานรองรับทำงานเลี้ยงชีวิตและครอบครัวต่อไป ไม่ใช่เรียนจนจบแต่ไม่มีงานทำ

ส่วน นายชูชาติ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามโคก กล่าวว่า เนื่องจากลูก ๆ นักเรียนโรงเรียนสามโคกที่ได้เข้ามาเรียนก็มีความคาดหวังในการที่จะดูแล และสนับสนุน ในเรื่องของวิชาการ ทักษะอาชีพ ศีลปะ ดนตรี และกีฬา ถือว่าเป็นทักษะชีวิตสำหรับเขาที่จะออกไปเป็นคนที่มีคุณภาพ รวมถึง คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ให้นโยบายมาเพื่อสร้างเครือข่ายทางการศึกษาร่วมกับ สถาบันการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดและเขต

รวมถึงสถาบันระดับอุดมศึกษาเพื่อเติมเต็ม ซึ่งทางโรงเรียนให้ความร่วมมือ ถือว่าคุณครูของโรงเรียนจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้วิชาการ รวมถึงนักเรียนจะได้มีเวทีแสดงออกพบปะกับสังคมเพื่อการเรียนรู้ที่มากขึ้น และคาดหวังว่าลูก ๆ นักเรียนจะได้รับการสานต่อความรู้ความสามารถให้เป็นผู้ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีนำกลับมาตอบแทนท้องถิ่นให้จังหวัดปทุมธานีมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป


ภาพ/ข่าว : ประภาพรรณ ขาวขำ / รายงาน

"คำรณวิทย์" เดินหน้าสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย พร้อมดันเด็กปทุมเป็นทีมชาติ ให้นานาชาติยอมรับ

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 15:30 น.  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นประธานในการมอบทุนการศึกษา ที่สนามกีฬา สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตำบลบ้านปทุม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากไร้ในโครงการ  “ มอบทุน มอบรัก มอบใจ สู้ภัยโควิด-19 ” พร้อมถุงพอเพียงให้กับนักเรียนจาก 13 โรงเรียน จำนวน 26 ทุน โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสนามกีฬาสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย , นายสมนึก เกกีงาม เป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิครอบครัวพอเพียง สาขาจังหวัดปทุมธานี และ นายพงศธรรศ รุจิพุฒธันยพัต นายกสมาคมนักข่าวปทุมธานี กล่าวรายงาน โครงการมอบทุน มอบรัก มอบใจ สู้ภัยโควิด-19

ในวันนี้เกิดจาก สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย , มูลนิธิครอบครัวพอเพียง สาขาจังหวัดปทุมธานี , พุทธสมาคมจังหวัดปทุมธานี , มูลนิธิมงคลจงกล ธูปกระจ่าง และสมาคมนักข่าวปทุมธานี ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงได้ร่วมมอบทุนการศึกษาพร้อมถุงพอเพียงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมชมการฝึกซ้อมของเยาวชนทีมชาติไทยที่ได้ฝึกซ้อมภายในกีฬาสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยแห่งใหม่

ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสนามกีฬาสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ชมรมกรีฑาเดิมตั้งอยู่หลังสนามกีฬาแห่งชาติปทุมวัน ต่อมาบริเวณนั้นเริ่มแออัดใกล้ศูนย์การค้า เห็นว่ามีผลกระทบต่อความมุ่งมั่นของนักกีฬาเรา หลังเอเชียเกมส์ปี 2541 ได้ย้ายออกมาอยู่ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  โดยที่ดินบริเวณนี้ซื้อตั้งแต่ ปี 2553 จากนั้นเมื่อ 3 ปี ที่แล้วเริ่มทำลานกีฬา จากนั้นเมื่อปี 2563 ได้สร้างสนามลู่วิ่ง ที่มีมาตรฐานเทียบระดับโลก เราสามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้  เราได้จัดชิงแชมป์ประเทศไทยได้รับถ้วยพระราชทานจากในหลวง เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับในอนาคตสนามกรีฑาแห่งนี้จะเป็นที่ทำการของ สมาพันธ์กีฑาเอเชีย ที่ได้ย้ายมาจากประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อที่นี่มีอาคารพร้อมที่พักพร้อมจะได้ย้ายเข้ามาทันที ประกอบด้วย สมาพันธ์กรีฑาเอเชีย สมาพันธ์กรีฑาเซาท์อีสเอเชีย และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์พัฒนาการกรีฑาของประเทศไทย และเป็นศูนย์ฝึกของนักกีฬากรีฑาทีมชาติรวมถึงนักกีฬากรีฑาจากนานาชาติที่จะมาซ้อมกับเราที่นี่ด้วย

โดย ที่ท่าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้มีนโยบายพัฒนาเยาวชนของจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเราคิดว่ากีฬานั้นเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด ที่สร้างกรอบวินัยและสุขภาพที่แข็งแรงให้เยาวชน คนใดที่มีพรสวรรค์ก็จะก้าวสู่ทีมชาติในอนาคต คนที่มีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอถึงจะไม่เก่งจนไปถึงระดับทีมชาติแต่ก็จะมีสุขภาพที่ดี ครั้งนี้โอกาสมาถึงแล้ว เพราะเรามีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ใส่ใจเยาวชน และรักกีฬาจริง ๆ วันนี้เรานับหนึ่งเพื่อเดินไปด้วยกัน ที่จะส่งเสริมเอาลูกหลานชาวปทุมธานีออกมาเล่นกีฬาอย่างทั่วถึง และพัฒนาจะไปสู่ระดับชาติได้อย่างแน่นอน


ภาพ/ข่าว : ประภาพรรณ ขาวขำ / รายงาน

บิ๊กแจ๊ส หนุน มทร.ธัญบุรี จับมือ 23 โรงเรียนมัธยมจังหวัดปทุมธานี ยกระดับคุณภาพการศึกษา เพื่อมุ่งเน้นเรียนจบแล้วมีงานทำ

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 เวลา10:00 น. ที่ห้องประชุมสงค์ธนาพิทักษ์ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจัดการศึกษาระบบธนาคารหน่วยกิต (Memorandum of Understanding : MOU) ระดับปริญญาตรี

โดยมี นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ซึ่งมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายเฉลิมพงษ์ รังสิวัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เขตอำเภอธัญบุรี ผศ.ดร. สมหมาย ผิวสะอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ ดร.นิยม  ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ปทุมธานี เข้าร่วมลงนามความร่วมมือในวันนี้

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดการศึกษาระบบธนาคารหน่วยกิต (Memorandum of Understanding : MOU) ระดับปริญญาตรี ในวันนี้ เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านการจัดการศึกษาระบบธนาคารหน่วยกิต (Memorandum of Understanding : MOU) ระดับปริญญาตรี ระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ ผศ.ดร. สมหมาย ผิวสะอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ดร.นิยม  ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ปทุมธานี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพื่อร่วมมือกันจัดการศึกษา และพัฒนาผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีให้เกิดการเรียนรู้เต็มศักยภาพ มีความรู้ และทักษะด้านวิชาการ ด้านวิชาชีพ

มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และร่วมมือกันพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษา เครือข่ายการวิจัย และเครือข่ายพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม และชุมชน นอกจากนี้ยังร่วมกันสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและเข้าร่วมโครงการการเรียนรู้ระบบธนาคารหน่วยกิต ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งเป็นแนวความคิดด้านการศึกษารูปแบบใหม่ คือ “การจัดการศึกษาและการสะสมหน่วยกิตในระบบธนาคารหน่วยกิต” หรือ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยกำหนดรูปแบบการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เรียน สามารถสะสมผลการเรียนรู้ในแต่ละวิชา แต่ละทักษะ องค์ความรู้ที่ต้องการและนำมาสะสมไว้เพื่อการศึกษาต่อในระดับต่าง ๆ ได้

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้คัดเลือกสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี และสถานศึกษาในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นสถานศึกษานำร่องในการดำเนินงานโครงการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ (ธนาคารหน่วยกิต)

โดย พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานี พร้อมใช้งบประมาณของ อบจ.ปทุมธานี ในการดูแลโครงการนี้ โดยมี โรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่สังกัดที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ปทุมธานี เข้าร่วมโครงการนี้ 22 โรงเรียน บวกกับโรงเรียนสามโคก ที่สังกัดอยู่ใน อบจ.ปทุมธานี ซึ่งก็เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาเหมือนกัน อีก 1 โรงเรียน รวมเป็น 23 โรงเรียน ซึ่งทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมจะต้องร่วมโครงการนี้จะต้องเป็นเนื้อเดียวกันไม่แบ่งแยก

ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ รัตนภิรมย์ เปิดเผยว่า ทาง อบจ.ปทุมธานี มีแนวคิดที่จะให้โรงเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดปทุมธานี มีจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกันตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ซึ่งหลังจากจบการศึกษาไปแล้วจะสามารถมีความรู้นำไปประกอบวิชาชีพได้ ซึ่งทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ปทุมธานี ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการฝึกบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ รองรับกัน อีกทั้งทาง อบจ.ปทุมธานี จะดำเนินการประสานไปยัง บริษัท ห้างร้าน หรือ แม้กระทั่งโรงงานในนิคมอุตสาหากรรม เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ให้มีงานทำต่อไป

ส่วน ผศ.ดร. สมหมาย ผิวสะอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ได้รับเกียรติ เป็นอย่างมาก ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว ซึ่งทางมหาวิทยาลัย จะมุ่งเน้นยักระดับการศึกษาในจังหวัดปทุมธานี ให้ได้ ด้วยการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญด้านของทักษะ โดยใช้โจทย์จากชุมชนเป็นตัวตั้ง เพื่อให้ สถาบันการศึกษาสามารถก้าวเดินไปได้อย่างมั่นคงควบคู่กับชุมชน

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

ปมุทธานี - "บิ๊กแจ๊ส" ห่วงประชาชน ให้ อบจ.ปทุมฯ เปิดบริการตรวจโควิด ฟรี ไม่มีกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางเข้าตรวจคัดกรองเจาะเลือดแรปบิทเทส เพื่อแสกนหาเชื้อโควิด-19 หลังจาก กระทรวงสาธารณสุข ประกาศว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่โซนสีแดง โดย ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะเปิดขายบริการได้ไม่เกิน 21.00 น.ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ซึ่งศูนย์ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ที่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  มีการเปิดให้บริการตรวจคัดกรองฟรี เพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยในวันนี้ พบว่ามีชาวปทุมธานี และประชาชนที่มีสถานที่พักในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เดินทางเข้ามาใช้บริการตรวจเช็คเชื้อโควิด เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ ได้จัดสถานที่โดยมีแพทย์พยาบาลจาก รพ.ปทุมธานี มาทำการเจาะเลือด ซึ่งประชาชนทุกคนที่เดินทางมาจะต้องรับบัตรคิว ที่ทาง อบจ.ฯ มีการรับรองไว้จำนวน 1500 คน ต่อวัน ปรากฎว่าเพียงแค่เวลาผ่านไปไม่ถึง 16.00 น. บัตรคิวก็หมดแล้ว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจ ต้องเดินทางกลับและจะมารับบริการในวันรุ่งขึ้น

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศออกมาจาก ส่วนกลางว่าจังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดพื้นที่สีแดง ที่เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น ตนรู้สึกมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวปทุมธานี และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปทุมธานี ทุกคน ทั้งที่ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการป้องกันและคัดกรองเชิงรุกกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีการระบาดในรอบ3 ก็ทำให้ทุกคนมีความหนักใจ เพราะว่ามีการแพร่กระจายของโรคนี้เร็วมาก ดังนั้นสำหรับการให้บริการตรวจเช็คหาเชื้อโควิด-19 นั้น ทาง อบจ.ปทุมธานี ได้เปิดให้บริการในวันเวลาราชการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 - 15.00 น. โดยขั้นตอนในการมารับบริการนั้น 1.ทุกคนต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงเพื่อลงทะเบียน (รับบัตรคิว) 2.เจาะเลือด รอฟังผลภายใน 3 นาที 3.หลังทราบผลว่าเป็นบวกหรือลบ (ถ้าเป็นผลลบ ทาง อบจ.ฯ จะออกใบรับรองให้ แต่ถ้าเป็นผลบวก ผู้เข้ารับการตรวจจะตัองเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อทำการรักษา และทาง อบจ.ฯ จะ ให้บริการวันละประมาณ 1500 คนต่อวัน โดยจะเปิดให้บริการไปตลอดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือดีขึ้น


ภาพ/ข่าว  สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน

ปทุมธานี - บิ๊กแจ๊ส ลงพื้นที่เยี่ยมปปช.หลังพายุกระหน่ำซัดหลังคาบ้านเสียหายหลายสิบหลัง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2564 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านพรธิสาร7 ต.ลำผักกูด  อ.ธัญบุรี  จ.ปทุมธานี  เนื่องด้วยประชาชนในพื้นที่ได้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรงจนทำให้บ้านที่พักอาศัยได้พังเสียหายหลายสิบหลัง

จาการสอบถาม  ดร.จักพรรดิ์  ทีฆนทัศน์ ประธานชุมชนพรธิสาร7 กล่าวว่า  เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ได้มีพายุฝนลมแรงจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน มีหลังคาบ้านและเพดานฝ้าเสียหายหลายสิบหลังและช่วงเวลานี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจและภัยจากโควิด-19 ก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีรายได้ที่จะมาใช้จ่ายอยู่แล้ว ตนจึงประสานไปยัง  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ท่านได้ลงพื้นที่มาดูประชาชนในพื้นที่ทันทีและสั่งการไปยัง ผอ.กองช่าง เพื่อมาช่วยประชาชนผู้ประสบภัยโดยด่วน ต้องขอขอบคุณท่านนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่มาดูผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง

ทางด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง  กล่าวว่า ตนพึ่งได้ทราบข่าวจากประธานชุมชนแห่งนี้ จึงได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อมาดูผู้ประสบภัยเบื้องต้นก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะให้ทาง  ผอ.กองช่าง อบจ.ปทุมธานี ลงพื้นที่โดยด่วนว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไรบ้างและจะเร่งดำเนินการโดยทันที

ปทุมธานี – ไม่มีวันหยุด คำรณวิทย์ สนับสนุนมูลนิธิครอบครัวพอเพียงส่งเสริมเยาวชนปทุมธานี

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ให้การต้อนรับ นางสาวอริยสิริ พิพัฒน์นารา ประธานคณะกรรมการมูลนิธิครอบครัวพอเพียง พร้อมด้วยนายสมนึก  เกกีงาม  ประธานมูลนิธิครอบครัวพอเพียง สาขาปทุมธานี พร้อมคณะเพื่อขอช่วยเหลือและข้อเสนอแนะความคิดเห็นในการทำงานของมูลนิธิครอบครัวพอเพียง ที่เป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษย์ชนและสภาวิชาชีพ

นางสาวอริยสิริ พิพัฒน์นารา กล่าวถึงวัตถุประสงค์มูลนิธิครอบครัวพอเพียงว่า เพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนและครอบครัวมีความรัก ความกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เยาวชนและครอบครัวมีคุณธรรมมีจริยธรรม รังเกียจการทุจริตและถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาแนะนำ จัดฝึกอบรมดูงาน ผลิตเอกสารและเผยแพร่เรื่องเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่เยาวชนและครอบครัว เพื่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันตลอดจนในการบริหารองค์กร ห้างร้าน ชุมชนและประเทศชาติ

มูลนิธิครอบครัวพอเพียงได้เปิดสาขาที่จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดลำดับที่ 16 จากประชาชนที่มีจิตอาสาและเสียสละเพื่อเพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนและครอบครัวมีความรักโดยมุ่งเน้นไปที่เยาวชนตามโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ มูลนิธิครอบครัวพอเพียงจึงอยากให้ อบจ.ปทุมธานีช่วยสนับสนุนงบประมาณในการจัดฝึกอบรมเยาวชนปทุมธานีเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ยินดีให้การสนับสนุนกับทางมูลนิธิครอบครัวพอเพียงที่มองเห็นประโยชน์ของเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของประเทศชาติ ซึ่งทางอบจ.ปทุมธานีได้ทำ MOU กลับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผอ. เขตการศึกษาระดับมัธยม และอธิการบดี มทร.เพื่อจะต่อยอดให้เด็กระดับมัธยมซึ่งมีทั้งหมด 22 โรงเรียน โดยได้ขอความร่วมมือไปยังภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานี เช่น อุตสาหกรรมนวนครอุตสาหกรรมบางกะดี อุตสาหกรรมลาดหลุมแก้ว เป็นต้นโดยมีแนวคิดเด็กที่จบการศึกษา ถ้าทางโรงงานเรานั้นจะรับคนงานในแต่ละปีก็ขอให้คนปทุมธานี 50% เพื่อให้คนปทุมธานีได้มีงานทำในส่วนของนโยบายที่ออกไปทั้งหมดนั้นเริ่มดำเนินการทำตามขั้นตอนทั้งหมด จะเห็นว่า อบจ.ปทุมธานีทำงานไม่มีวันหยุดเพื่อคนปทุมโดยแท้จริง รวมทั้งการตรวจโควิด-19 ซึ่งเราจะรอไม่ได้ เพราะเชื้อไวรัสโควิด ไม่มีวันหยุด  ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมกันในการนำพาประเทศให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ / รายงาน

ปทุมธานี - มรภ.วไลยอลงกรณ์ เปิดครัว ส่งข้าวกล่องแทนความห่วงใย บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย รพ.สนาม มธ. 400 กล่องต่อวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำอาหารส่งโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ ทรายแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (มรวอ.) กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลจึงไม่เพียงพอ ทำให้ต้องมีโรงพยาบาลสนามเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งบริเวณที่ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยก็คือ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ซึ่งตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วย เต็มพื้นที่ ทำให้ขาดแคลน สิ่งของอุปโภค บริโภคหลายอย่าง ซึ่ง มรภ.วไลยอลงกรณ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้รีบจัดตั้งโรงครัวขึ้น ภายในชื่อ “ด้วยความห่วงใยจากใจวไลยอลงกรณ์ เราจะสู่ covid19 ไปด้วยกัน”  โดยได้จัดทำข้าวกล่อง วันละ 400 กล่อง จัดส่งถึง 30 เมษายน (เบื้องต้น) ส่งมอบให้ที่ รพ. สนามธรรมศาสตร์ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และ ผู้ป่วยที่มาพักรักษาอาการ ทั้งนี้หากท่านใดมีความประสงค์ จะร่วมบริจาค น้ำดื่ม นม น้ำผลไม้ ขนมขบเคี้ยว ทิชชู หรือของอุปโภคอื่น ๆ สามารถนำมามอบได้ที่อาคารศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ (โรงแรมของมหาวิทยาลัย) ได้ โดยทางมหาวิทยาลัยจะได้รวบรวมและส่งมอบไปยัง รพ.สนามธรรมศาสตร์ ต่อไป อธิการบดีกล่าว


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ  ขาวขำ รายงาน

ปทุมธานี – ผู้ว่าฯปทุมธานี รับมอบเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า อัตโนมัติ (AED) จำนวน 11 เครื่อง

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม  ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานพิธีรับมอบเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า อัตโนมัติ (AED)  โดยมี นางจินดา สิงหเดช รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานีนายสุรินทร์  สืบซึ้ง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี  นายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นางพรอัปสร นิลจินดา ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม สภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข ได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการบริจาคเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ระหว่าง สภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563  และได้พิจารณาเลือกสถานที่ติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ(AED) ใน 76 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งจังหวัดปทุมธานี พิจารณาจัดสถานที่ติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ(AED) จำนวน 11 เครื่อง ครอบคลุม ทั้ง 7 อำเภอ  สถานที่ที่คัดเลือกพิจารณาจากพื้นที่ที่มีประชาชนมาใช้บริการสาธารณะเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ที่ติดตั้งหยิบใช้ได้สะดวก และมีโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบบำรุงรักษา โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี จัดกิจกรรมเตรียมการรับมอบเครื่อง AED รับมอบอุปกรณ์การสอน Basic Life Support พร้อมกับทบทวนกระบวนการจัดการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน สำหรับประชาชนในโครงการจิตอาสา CPR เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ทั้งนี้ นายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายสุรินทร์  สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นางสมลักษณ์  ลาภเจริญ กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี  ได้ร่วมลงนามเป็นพยานในเอกสารเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) กับ บริษัท อินโนเวชั่นส์ จำกัด โดยกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การให้ความรู้ในเรื่องกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพ และความรู้ในการใช้เครื่อง กระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ(AED) พร้อมการสอนสาธิต และแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ การช่วยฟื้นคืนชีพ เพื่อเป็นประโยชน์และนำกลับไปใช้ได้ในชีวิตจริงสำหรับทุกคน  หากเกิดเหตุการณ์สามารถทราบจุดที่เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ(AED)ติดตั้งและช่วยผู้เกิดเหตุได้ทันเวลา


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน

ปทุมธานี – ผู้ว่าฯ เปิดจวน ทำโรงครัวเลี้ยงแพทย์ พร้อมยกมาตรการป้องกันโควิดเทียบเท่า กทม.

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 11:00 น. ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เปิดจวนผู้ว่าฯให้เป็นครัวทำอาหารช่วยเหลือแพทย์และบุคลาการทางการแพทย์รวมถึงคนไข้โควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมยกมาตราป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีให้เท่าเท่ากรงเทพมหานคร เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยวันที่ 23 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 41 ราย , วันที่ 24 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 58 ราย และ วันที่ 25 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 57 ราย ดังนั้น นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จึงประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อออกคำสั่งจังหวัดปทุมธานี 3927/2564 ให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด มีคำสั่งให้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ดังนี้

ขอความร่วมมือประชาชนงดนอกออกนอกเคหสถานหรือที่พำนัก หลังเวลา 21.00 น.จนถึงเวลา 04.00 น.ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ , ให้งดการรวมกลุ่มดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกสถานที่ เว้นแต่การดื่มของสมาชิกภายในครอบครัวภายในที่พักอาศัย ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใด ๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรืออยู่รวมกันของคนหมู่มาก ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้งตลอดเวลา ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคในข้อนี้ให้ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ขอความร่วมมือให้มีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) สลับวันทำงานให้เหมาะสม และให้งดการทานอาหารร่วมกันเป็นหมู่คณะ ทั้งนี้ให้ยังคงปิดสถานที่ต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ห้ามจัดกิจกรรม และมาตรการควบคุมที่จำเป็นตามที่มีคำสั่งไว้ก่อนหน้านี้ไว้เช่นเดิม

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และคนไข้ต้องได้รับการสนับสนุนอาหารการกินจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มอาหาร ซึ่งครัวของโรงพยาบาลไม่สามารถทำให้ทันเวลาได้ จึงได้เปิดครัวที่จวนโดยมีทางบริษัทซีพีแรม จำกัด มาช่วยทำอาหารเพื่อส่งมอบให้ทางโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยวันนี้ทำอาหารได้ 1,000 ชุด พร้อมขนม พี่น้องชาวปทุมธานีที่อยากทำบุญร่วมกันสามารถมาส่งกำลังใจกันที่จวนได้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายทุกคนมีส่วนช่วยเหลือแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ได้ เพื่อแบ่งเบาภาระให้ทางโรงยาบาลดูแลคนไข้มากขึ้น ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยช่วงเช้าได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ โดย 3 วันที่ผ่านมานี้มีจำนวนผู้เชื้อเชื้อที่ทรงตัว สามารถแบ่งผู้ติดเชื้ออกเป็น 3 ประเภทประกอบด้วย

1.เป็นคนปทุมธานี

2.เป็นคนที่เข้ามาทำงานในจังหวัดปทุมธานี

3. เป็นคนจากต่างจังหวัดแต่เดินทางมาขอตรวจที่จังหวัดปทุมธานี

ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อ 3 วันที่ผ่านมาจึงเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลถือว่ายังสามารถดำเนินการได้ไหว ทางจังหวัดปทุมธานีมีโรงพยาบาลสนามที่ธรรมศาสตร์ สบยช. มทร.ที่อนุเคราะห์สถานที่ทำโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาที่โรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นแล้วเพื่อพักฟื้นก่อนกลับบ้าน เรามั่นใจว่าสามารถควบคุมโรคได้เนื่องจาก 3 วันที่ผ่านมาไม่มีผู้ติดเชื้อมาจากแหล่งบันเทิงแล้ว แต่ผู้ติดเชื้อที่ปรากฏนั้นเป็นผู้ที่ติดมาจากผู้ที่ไปแหล่งบันเทิงที่ยังมีอยู่ ส่วนมาตรการที่เราได้ทำร่วมกันมี 4 ด้าน คือ

1.การป้องกัน ได้มีการยกระดับการป้องกัน

2.การค้นหา มีทางประกันสังคมได้จัดจุดสวอพที่วิทยาลัยอาชีวะ คนที่มีประกันสังคมในจังหวัดปทุมธานีจำนวน 600,000 คน สามารถเดินทางมาตรวจได้ฟรี จากนั้นมีโรงพยาบาลการุญเวช รับผู้ที่เป็นคนไข้ โดยทางจังหวัดได้ประสานโรงแรมทำเป็นโฮสพิเทลเพื่อให้การค้นหาได้เต็มความสามารถ

3.การรักษา เราได้คุยกับบุคลากรทางการแพทย์ ทราบว่ามีการแยกอาการผู้ป่วยชัดเจน โดยการแยกเป็นสีเขียว สีเหลืองสีแดง

4.การส่งกลับ มีการส่งผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วกลับบ้านทุกวัน โดยผู้ที่ไม่มีรถก็อาศัยของรถของทางราชการ ชุมชนก็ให้การตอนรับดี โดยภาพรวมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือดีมาก เนื่องจากเราเป็นพื้นที่อยู่ติดกับกรุงเทพมหานครและอยู่ติดกับจังหวัดนนทบุรี จึงปรับมาตรการยกระดับให้เหมือนกันและมีมาตรการเดียวกันเพื่อให้การควบคุมโรคดียิ่งขึ้น


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top