Friday, 3 May 2024
ปทุมธานี

‘นักแสวงบุญนครเมกกะ’ ยืนยัน!รอติดโควิด เพราะยาสมุนไพรไทยเสริมภูมิที่ ‘บิ๊กแจ๊ส’ แจกให้ แต่ผู้โดยสารอื่นติดยกลำ!!

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 เวลา 10:30 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นางกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา และ พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ (วัดน้ำตก) ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร่วมแถลงข่าวยืนยันประสิทธิภาพยาสุมนไพรเสริมภูมิของวัดคีรีวงก์ เสริมสร้างสร่างภูมิคุ้มกันได้จริง

โดยชาวมุสลิม จ.ปทุมธานี จำนวน 4 คน ที่เดินทางร่วมกับชาวมุลลิมจังหวัดอื่น ๆ อีก 27 ท่าน รวม 31 คนไปแสวงบุญนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 14 วัน หลังกลับมา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 27 ราย ส่วนชาวปทุมธานี 4 รายที่ทานยาสมุนไพรไม่ติดเชื้อเลย สืบเนื่องจากการเดินทางไปแสวงบุญ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีพี่น้องมุสลิมจากทั่วประเทศเช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี นครราชสีมา จำนวน 31 คน ในส่วนนี้มีชาวจังหวัดปทุมธานีร่วมด้วยจำนวน 4 คน

เมื่อกลับมาประเทศไทยพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 27 คน ส่วนอีก 4 คน ที่ไม่พบว่าติดเชื้อ คือ นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นายไพฑูรย์ ฮึกหาญ อายุ 58 ปี , นายสุพจน์ สมนึก อายุ 52 ปี และนายกมลชัย ยะลาน อายุ 28 ปี ชาวมุสลิมปทุมธานี เนื่องจากได้ทานยาสมุนไพรเสริมภูมิของวัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมัสยิดจำนวน 32 มัสยิด และมีพี่น้องอิสลามเยอะจึงแต่งตั้ง นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) เป็นที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อเขาเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมะกะ ก็มีกังวลและห่วง ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้ยาสมุนไพรของวัดคีรีวงก์ แจกให้พี่น้องประชาชนชาวปทุมธานีทั้งไทยพุทธและมุสลิมไปเยอะแล้ว เมื่อกินแล้วได้ผลจึงให้นำติดตัวไป 50 ชุด เพื่อพี่น้องมุสลิมชาวปทุมธานีในการเดินทางไปแสวงบุญ ผลที่ได้รับกลับมาไม่มีใครติดเชื้อโควิด แม้แต่รายเดียว 

ในส่วนของ อบจ.ปทุมธานีที่ให้ตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อ 100 คน จึงให้ยาสมุนไพรไปกิน ทั้งจำนวน 100 คน ผลที่ออกมาหายทั้ง 100 คน ภายใน 3- 5 วัน แต่ที่ชาวมุสลิมกลุ่มนี้ไปจำนวนกว่า 30 คน กินอยู่หลับนอนด้วยกันทั้งความแออัดต่าง ๆ แต่ 4 คนชาวปทุมธานีที่กินยาสมุนไพรไม่พบว่าติดเชื้อ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นสุมนไพรไทยสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้นกันได้ ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ยาสุมนไพรมาจำนวนหลายล้านเม็ดได้แจกให้พี่น้องประชาชนไปทั้งหมด ที่ผ่านมาเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่พบว่ายอดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดปทุมธานีก็ยังคงที่ กำลังหารือกับ คุณกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา เพราะว่าโรงเรียนเปิดการเรียนการสอน จะให้ทุกโรงเรียนมียาตัวนี้ติดไว้ที่โรงเรียน เพราะว่าเราไม่สามารถจัดชุดอุปกรณ์การตรวจ ATK ให้ไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จะหายาให้ใครพบว่าติดเชื้อให้ยาไปกิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน อยากให้ทุกโรงเรียนมียาสมุนไพรจำนวน 100-200 ชุดในแต่ละโรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี

นายไพฑูรย์ ฮึกหาญ อายุ 58 ปี ชาวมุสลิม จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทางทีมพวกเราไปจำนวน 31 คนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ออกจากประเทศไทยเวลาตี 2 ไปถึงเมืองมาดีนะห์ก็เริ่มทานยาสมุนไพรที่ บอบอเลาะฮ์แจกให้ทาน อยู่ที่เมืองมาดีนะห์จำนวน 4 วันจากนั้นเดินทางไปทางโดยเครื่องบินอีก ซึ่งภายในเครื่องบินก็แออัดมาก เพื่อที่จะเดินทางไปนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยอยูที่นครเมกกะจำนวน 10 วัน เราก็ทานยาสุมนไพรทุกวันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไว้จนถึงวันกลับ สภาพแออัดมากมีชาวแอฟริกาจำนวนมากที่อยู่บนเครื่องบินจากนั้นมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศกาตาร์ เพื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย ก็กักตัวเพื่อตรวจสวอพ 1 คืน มีผลออกมายืนยันว่าไม่พบการติดเชื้อ และมากักตัวที่บ้าน ซึ่งระว่างนั้นผมยังได้ตรวจสวอพ PCR จำนวน 3 ครั้ง และตรวจ ATK ทุกวันไม่พบว่ามีการติดเชื้อ

ทางด้าน พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ กล่าวว่า ยาสมุนไพรชุดนี้สามารถกินเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรวมถึงเชื้อตัวใหม่ที่กลายพันธุ์อยู่ขณะนี้ เมื่อร่างกายเกิดภูมิคุ้มกันดีขึ้น อวัยวะภายในแข็งแรง ไวรัสต่าง ๆ ภายนอกร่างกายก็ไม่สามารถเข้าไปทำร้ายอวัยวะภายในได้ จึงต้องทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เนื่องจากยาสมุนไพรชุดนี้เป็นธรรมชาติและการทำงานครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ที่ช่วยสนับสนุนในการบริจาคแคปซูลด้วย

 

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เปิดยุทธการ!สู้ศึกโอไมครอน ฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามสถานศึกษา เพื่อรับการเปิดเรียน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่โรงเรียนปทุมวิไล ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเขตอำเภอเมืองปทุมธานี ร่วมเปิดยุทธการฉีดพ่นฆ่าเชื้อสู่ศึกโอไมครอน ปล่อยรถฉีดพ่นและเจ้าหน้าที่ชุดฉีดพ่นในอาคาร เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนภายในสถานศึกษา ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ประสาน ผอ.โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีอยู่ตลอดเวลา ในการเตรียมเปิดเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว

โดยทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำทีมฉีดพ่นฆ่าเชื้อเข้ามาฉีดพ่นภายในอาคารและภายนอกอาคาร รวมถึงใครที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็มีการฉีดวัคซีนให้สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีด เราอยากให้นักเรียนลูกหลานเราได้กลับมาเรียนตามปกติให้เร็วที่สุด เราก็เชื่อว่าที่เราทำมาทั้งหมดจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี ขอให้ทาง ผอ.โรงเรียนดูระเบียบกฎต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข เราอย่าทำให้ผิดกฎของกระทรวงฯ ที่ได้กำหนดไว้ หากมีการแพร่ระบาดจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่ก็จะเป็นเกิดการเสียหายในภาพรวม จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันระมัดระวังต่อไป

ในส่วนของชุดตรวจ ATK ทาง อบจ.ได้พยายามจัดหามาให้ ซึ่งเป็นชุดตรวจที่มีคุณภาพมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยต้องป้องกันตัวเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ใส่แมสก์ ล้างมือ เว้นระยะห่าง ระมัดระวังทั้งที่อยู่ที่โรงเรียนและอยู่บ้าน ทาง อบจ.ได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวปทุมธานีระมัดระวังกันทั้งจังหวัด โดยผมหวังอย่างยิ่งต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ และต่อสู้ผ่านสงครามครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยทั้งจังหวัด

 

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” ห่วงใยชาวปทุมฯ เร่งพัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้น ๆ เดินหน้าโมโนเรล พร้อมสู้ภัยโควิดโอไมครอน

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 09:30 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมคณะผู้บริหารได้ประชุมร่วมกับนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง และข้าราชการเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาให้กับประชาชนเช่นการลอกคลองและปรับปรุงภูมิทัศน์ลำคลองปัญหาน้ำเน่าเสียน้ำขังในหมู่บ้านและถนนเส้นต่าง ๆ ที่เคยได้รับผลกระทบโดยเฉพาะฤดูฝน รวมถึงปัญหาการจราจรจากนั้นได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกคลองสวยน้ำใส ที่คลองแอนระหว่างคลอง 2 และคลอง 3 ระยะทาง 20 กิโลเมตร ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ (จ่ายุทธ) ที่ปรึกษาพิเศษ นายก อบจ.ปทุมธานี , นายสัญชาติ คุระนันท์  นางสาวณัฐรุจา คุ้มทรัพย์ และ นายสุริยา ธรรมธารา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงาน อบจ.ปทุมธานีร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขุดลอกคลองกำจัดวัชพืชที่ขึ้นกีดขวางการไหลของน้ำ ซึ่งทาง อบจ.ปทุมธานีได้ดำเนินการนำเครื่องจักรลงพื้นที่ขุดลอกคลองตั้งแต่คลอง 1 ถึง คลอง 14 เพื่อปรับภูมิทัศน์ทุกคูคลอง เตรียมรับภัยแล้งในหน้าร้อนรวมถึงน้ำหลากในฤดูฝน

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ดำเนินการขุดลอกคลองส่งน้ำทุกคลอง ให้มีสภาพน้ำไหลคล่องก่อนที่เราดำเนินการแก้ไขเรื่องน้ำเน่าเสียแต่มันเกินกำลังแรงคนที่จะทำ ระยะทาง 20 กว่ากิโลเมตร จึงนำเครื่องจักรรถแบคโฮเข้ามาขุดลอกคลอง เมื่อสภาพคลองดีขึ้นก็จะมีประชาชนเริ่มมาหาปลากัน จึงได้ขอความร่วมมือทางท่านนายอำเภอคลองหลวง สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด. นายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ เมื่อเราพัฒนาพื้นที่เรียบร้อยแล้วขอให้ทุกท่านรับผิดชอบอยู่ในเขตไหนก็ช่วยกันดูแลต่อ เพื่อทำให้คลองทุกคลองสวยงามจริง ๆ ทั้งบนตลิ่งและในน้ำ ส่วนปัญหาน้ำเสีย น้ำเน่าที่เคยมีนั้นเมื่อวัชพืชหมดไปแล้วเราจะมาหาสาเหตุและแก้ปัญหาหลังจากนั้นอีกที จะมีการประสานหารือกับทางกรมชลประทานด้วย

ทั้งนี้ทางอำเภอคลองหลวงมีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทาง อบจ.จะวางแผนร่วมกับทางอำเภอคลองหลวง ก่อนที่จะถึงฤดูฝนเรายังมีเวลาอีก 4 เดือน จะสำรวจว่าหมู่บ้านไหนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังน้ำรอการระบาย ระบายช้า รถเข้าออกไม่ได้ จะมีการรวมข้อมูลมา เพื่อที่ทาง อบจ.จะเร่งทำความสะอาดท่อระบายน้ำทุกหมู่บ้านเพื่อเตรียมรองรับฤดูฝน พี่น้องประชาชนต้องไม่เดือดร้อนจากปัญหาเดิมน้ำท่วมขังในหมู่บ้านจนรถไม่สามารถสัญจรได้ ภายในเดือนเมษายนนี้ทุกหมู่บ้านต้องดำเนินการเสร็จสิ้น

ส่วนการจราจรในอนาคตที่จะรองรับประชาชนมีดังนี้

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะขยายไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะมีโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลที่มีการเสนอแนวทาง 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางคูคต-ลำลูกกา 2.รังสิต-นครนายกตั้งแต่คลอง 10 มาถึงฟิวเจอร์พาร์ค 3.เส้นทางคลองหลวง ซึ่ง 3 เส้นนี้จะบรรจบกันเป็นใยแมงมุม  รวมถึงมีเลนปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วย ทางด้านปัญหาโควิด-19 ได้ดำเนินการจัดฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ที่ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต แต่หลังจากปีใหม่มาแล้วมีผู้ติดเชื้อโอไมครอนทำให้จากที่เรามีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าอันดับ 10 ของประเทศ เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มขยับขึ้นมาแล้ว 2 วันที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีผู้ติดเชื้อน้อยมานานกว่า 5 เดือน จึงฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันดูแล โดยเฉพาะโรงงาน ร้านอาหาร ที่มีกลุ่มเสี่ยงให้รีบแจ้ง อบจ. เพื่อที่จะได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ มียาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันแจกให้ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าการ์ดตก ให้ช่วยเหลือกันต่อไป

 

ปทุมธานี - นายก ทน.รังสิต เตรียมความพร้อม!! รพ.สนามนครรังสิต รองรับรองผู้ป่วยโควิดโอไมครอน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต พร้อมด้วย นายแพทย์วิชัย เดชะทัตตานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต2 ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดโรงพยาบาลสนามโดยเทศบาลนครรังสิต เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่อีกครั้ง ที่อาคาร 100 ปี เมืองธัญบุรี คลองสอง ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยเทศบาลนครรังสิตได้เคยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ อาคาร 100 ปี เมืองธัญญบูรี เทศบาลนครรังสิต มาแล้วเมื่อครั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จำนวน 300 เตียง เพื่อรอรับผู้ป่วยโควิดที่รอเตียงและกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)

ปทุมธานี - วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์ แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัย และบุคลากรดีเด่น ประจำปี 2564

โดย นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี เข้ารับโล่และประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยประจำปี 2564 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ทั้งนี้ นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นกลไกหลักในการส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งการคัดเลือกผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ประเภทกิตติมศักดิ์ และประเภทบุคคลทั่วไป โครงการยกย่องผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2560 - ปัจจุบัน และให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลทางวัฒนธรรมในการดำเนินงานของฝ่ายทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม กองพัฒนานักศึกษา มาอย่างต่อเนื่อง

 

 

ปทุมธานี-จัดฝึกอบรม โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล

ณ ห้องประชุม สถานีตำรวจคูคต จัดฝึกอบรม โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล โดยมีพันตำรวจโทจิรพัฒน์ ศรีเดช รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรคูคต ประธานในพิธี  พร้อมด้วยพันตำรวจโทกชกร ไทศาศวัต สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคูคต ส่วนภายในงานโดยมี ร.ต.อ.ธีรพงษ์ พอกพูนดี รอง สวป.สภ.คูคต วิทยากร, ร.ต.ท.รักชัย เสือบุญมี รอง สว.(ป.) สภ.คูคต วิทยากร, ร.ต.ต.ชายชาญ กุศโร รอง สว.(ป.) สภ.คูคต วิทยากร, ด.ต.แทน ไพรบึง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.คูคต วิทยากร, ด.ต.ถวิล เจนใจ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.คูคตวิทยากร ได้ให้ความรู้กับผู้เข้ารับการอบรม

ด้านพันตำรวจโทจิรพัฒน์ ศรีเดช รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรคูคต ประธานในพิธีกล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน การเกิดอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี มีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับสถานภาพกำลังพลของข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรคูคต  ไม่สอดคล้องกับปริมาณอาชญากรรมที่เกิดขึ้น รวมทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้ข้าราชการตำรวจ แสวงหาความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ โดยออกระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งเสริมให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ  เพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ ของประชาชน ที่เข้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในฐานะผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย สถานีตำรวจภูธรคูคต จึงได้จัดทำโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรม ระดับสถานีตำรวจ โดยคัดเลือกตัวแทนจาก ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน นักเรียนนักศึกษา ผู้นำกลุ่มมวลชนต่างๆ จำนวน 50 คน มาเพื่อรับการฝึกอบรม ในระดับสถานีตำรวจในครั้งนี้

ปทุมธานี - จัดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ลังกาพินธุ์ นายอำเภอสามโคก ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีมอบหมายให้นางวัชรียา เสนาวรานนท์ ปลัดอำเภอสามโคกเป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย / นายศักดา ชนนิยม กำนันตำบลบางเตย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเตย ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลสารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตยพนักงานราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สมาชิก อส.และประชาชนจิตอาสาตำบลบางเตย เข้าร่วมทำความสะอาดและพัฒนาสถานที่สาธารณประโยชน์ ด้านนายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย

ได้กล่าวเสริมว่า วันนี้ได้ร่วมกับทางอำเภอสามโคก ฝ่ายปกครองตำบลบางเตย ทำความสะอาดพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ ที่ว่าการอำเภอสามโคก(หลังเก่า) เนื่องในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเตย พนักงานราชการ ได้รวมด้วยช่วยกันทำความสะอาด โดยได้นำรถดับเพลิงบรรจุน้ำเต็มถังฉีดล้างพื้นทำความสะอาด ที่ว่าการอำเภอหลังเก่า ทำความสะอาดรูปปั้นสุนทรภู่ ปัด กวาด เก็บเศษกระดาษ เศษพลาสติก เศษหญ้า บริเวณรอบที่ว่าการอำเภอหลังเก่า

ปทุมธานี - ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน วางศิลาฤกษ์ 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อคฺคชิโน)

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี วางศิลาฤกษ์ อาคาร 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อคฺคชิโน) ณ อนุสรณ์สถานครบรอบ 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดบางหลวงหัวป่า(ร้าง) สาขาวัดระฆังฯ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 

โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน)เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ดังกล่าว

 

ปทุมธานี - ผู้ว่าฯปทุมธานี ลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี กำชับให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน!!

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่ ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายแพทย์ภุชงค์ ไชยชิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นางสาวธนิยา นัยพินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี พ.อ.วินัย อภัยกุญชร รอง ผอ.รมน.จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ หาญสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองปทุมธานี พ.ต.อ.ธนกฤต บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงส์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี นางพรอัปสร นิลจินดา ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี นางสายสุดา พานย้อย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่จับจ่ายซื้อสินค้า อุปโภคบริโภค อาทิ เนื้อหมูสด เนื้อไก่ ผักสด  ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป อื่น ๆ เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าให้มีความยุติธรรมต่อผู้บริโภคไม่ขายเกินราคาที่กำหนดและการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน เปิดเผยและสามารถอ่านได้โดยง่าย แสดงราคาสินค้าไว้บริเวณใกล้เคียงหรือแขวนในบริเวณที่ผู้บริโภคเห็นได้ ต้องเป็นภาษาไทย หรือภาษาอื่นด้วยก็ได้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า

 

ปทุมธานี - ‘นายกแจ๊ส’ บริหารงาน 1 ปี ปปช.ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสได้ 94.76 จากเดิมที่ไม่ผ่านสักปี!!

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , พล.ต.ท.อดุลย์ รัตนภิรมย์   ที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ปทุมธานี , นายธนศักดิ์ แป้นมุข ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นางจีระกิต อิศรวิชิตชัยกุล รองปลัด อบจ.ปทุมธานี , นางสาวกฤษฏาพร นาคถนอม หัวหน้าสำนักปลัด อบจ.ปทุมธานี ร่วมประชุมหารือนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อประชาชน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564

ซึ่งได้ดำเนินการประเมิน องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้คะแนน 94.76 ระดับการประเมิน A เปรียบเทียบปีที่ผ่านมา +33.47  ซึ่งที่ผ่านมาทาง อบจ.ปทุมธานีไม่เคยผ่านเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส เช่น ปี พ.ศ. 2561 ได้ 79.37 ระดับ B ไม่ผ่านการประเมิน , ปี พ.ศ. 2562 ได้ 82.90 ระดับ B ไม่ผ่านการประเมิน , ปี พ.ศ. 2563 ได้ 61.29 ระดับ D ไม่ผ่านการประเมินในการดำเนินงานการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส มีการเก็บข้อมูลจาก 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 การเก็บข้อมูลจากบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐ มี 5 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 1 การปฏิบัติหน้าที่ , ตัวชี้วัดที่ 2 การใช้งบประมาณ , ตัวขชี้วัดที่ 3 การใช้อำนาจ , ตัวชี้วัดที่ 4 การใช้ทรัพย์สินของราชการ , ตัวชี้วัดที่ 5 การแก้ไขปัญหาการทุจริต ในส่วนที่ 2 การเก็บข้อมูลจากผู้รับบริการหรือผู้ติดต่อหน่วยงานภาครัฐ โดยสอบถามการรับรู้ และความคิดเห็นใน 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 6 คุณภาพการดำเนินงาน , ตัวขชี้วัดที่ 7 ประสิทธิภาพการสื่อสาร , ตัวชี้วัดที่ 8 การปรับปรุงการทำงาน และส่วนที่ 3 การเปิดเผยข้อมูลทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน เป็นการตรวจสอบระดับการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่เผยแพร่ไว้ ทางหน้าเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน มี 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 9 การเปิดเผยข้อมูล , ตัวชี้วัดที่ 10 การป้องกันการทุจริต

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เราพึ่งจะเข้ามาทำงานได้ 1 ปี ซึ่งการประเมินความโปร่งใสของ ปปช.จะมีเกรด A B C ที่มา อบจ.ปทุมธานีอยู่ในระดับ C ถือว่าไม่ผ่านคะแนนความโปร่งใส เราจึงได้ดูย้อนไปในปีก่อน ๆ ก็ไม่ผ่านเลย เมื่อเรามาทำงานจึงมาดูว่าสาเหตุอะไรที่คะแนนถึงตกต่ำ ตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่งจึงได้หารือกับทีมงานผู้บริหารและหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องทุกคน มีประเด็นอะไรบ้างที่ทำให้ อบจ.ปทุมธานี ไม่ผ่านการประเมินความโปร่งใส ซึ่งคะแนนตรงนี้ไม่ใช้เพียงแค่การประเมินการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบกัน ทั้งงานเก่าที่ตกค้าง การประสานงานกับภายนอกหลายภาคส่วน หลายกองงานที่เรียกประชุม มีการวางแผนแต่ละกอง ในการปิดจุดอ่อนตรงนี้ อะไรที่แก้ไขได้ต้องรีบแก้และให้เร็ว เมื่อมีความโปร่งใส พี่น้องประชาชนต้องสามารถตรวจสอบได้ ต้องขอบคุณพี่น้องใน อบจ. หัวหน้าทุกหน่วยงาน ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนคะแนนไต่ขึ้นมาที่ 94.76 อยู่ระดับ A หากได้คะแนน 95 เราจะได้ AA ถือว่าสูงสุด ผมจึงขอหารือกับน้อง ๆ ตลอดจนเพื่อนร่วมงาน จากที่ผ่านมาได้ร่วมกันทำงานเพียงปีเดียวเราขยับขึ้นมาถึงขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าพนักงานในองค์กร พร้อมแล้วที่จะร่วมเดินกันไปข้างหน้าร่วมพัฒนาเมืองปทุมธานีของเราให้เป็นเมืองที่น่าอยู่น่าอาศัย คิดว่าองค์กรของเราจะขยับไประดับ AA แน่นอน ดังนั้นความดีความสำเร็จครั้งนี้มาจากเพื่อนร่วมงานทั้งหมดที่ช่วยกัน

นางสาวกฤษฏาพร นาคถนอม หัวหน้าสำนักปลัด อบจ. ปทุมธานี กล่าวว่า การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ในปี 2564 ทาง อบจ.ปทุมธานีได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ  A เนื่องมาจากว่าการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน และความโปร่งใส รวมถึงความเสมอภาคของประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม เน้นไปที่ภายในและภายนอก โดยการตรวจสอบภายในคือข้าราชการเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ส่วนภายนอกคือผู้ที่มาติดต่อประสานงานกับ อบจ. มีความเชื่อใจในการประเมินประสิทธิภาพของ อบจ.และผู้บริหารของเราจึงได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาในปีนี้

สำหรับในปี 2565 ทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้วางนโยบายในการทำงานเพื่อให้คะแนนได้เพิ่มขึ้นมาโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการทำงานต้องเพิ่มมากขึ้น นางจีระกิต อิศรวิชิตชัยกุล รองปลัด อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า การทำงานของ อบจ.ปทุมธานี  ได้ทำตามนโยบายของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ทีมุ่งเน้นตามภาพรวมของประชาชนเป็นหลักที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากภาครัฐมากที่สุด เช่นเรื่องของถนนเส้นทางต่าง ๆ ด้านสาธารณภัย ที่สำคัญคือการใช้งบประมาณของท่านนายก อบจ.ปทุมธานีที่ใช้อย่างคุ้มค่า และสามารถตรวจสอบได้ ท่านให้ความสำคัญกับภาคประชาชนที่สามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานของเราได้ ทุกภาคส่วนจึงยอมรับว่าท่านมีความโปร่งใสในรูปของการปฏิบัติงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึงง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top