Friday, 9 May 2025
NEWS

สั่งทหารคุมเข้มแนวชายแดน หลังเมียนมารัฐประหาร ป้องกันคนลอบอพยพเข้าไทย

มทภ.3 สั่งทหารเฝ้าตรวจแนวชายแดนเข้ม หลังเมียนมารัฐประหาร ป้องกันคนลอบอพยพเข้าชายแดนไทย เชื่อไม่ถึงขั้นทะลัก ระบุไม่กังวลกองกำลังชนกลุ่มน้อย ขณะที่ด้านฝั่งเมืองกาญจน์ยังสงบ เหตุการณ์ปกติ

พล.ท.อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 (มทภ.3) กล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมาว่า ขณะนี้ได้สั่งการใหัติดตามสถานการณ์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา หลังมีข่าวว่านางอองซาน ซูจี แกนนำรัฐบาลถูกควบคุมตัว โดยพล.อ.มิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาได้ออกประกาศแถลงการณ์ยืนยันกองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจปกครองจากรัฐบาลพลเรือน  ซึ่งทางชายแดนไทย-เมียนมามีกองกำลังทหารไทยตรึงกำลังอยู่แล้ว ในการป้องกันการลักลอบข้ามแดนผิดฎหมายในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หากประชาชนจากเมียนมาทะลักข้ามเขตไทยเข้ามาก็จะถูกควบคุมตัว แต่เบื้องต้นคาดว่า คงไม่ถึงขั้นทะลักข้ามมายังฝั่งไทย โดยตนกำชับทุกหน่วยในพื้นที่ชายแดนให้ดูแลเข้มงวด

เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนอาจมีการดำเนินการหลังจากที่ทหารเมียนมายึดอำนาจครั้งนี้ พล.ท. อภิเชษฐ์ กล่าวว่า แม้ว่าที่เมียนมาจะมีการรัฐประหาร แต่ก็คงจะไม่ส่งผลต่อชนกลุ่มน้อยตามชายแดน เพราะที่ผ่านมาก็มีการเจรจาสันติภาพกับฝ่ายทหาร แต่ชะงักไปในช่วงสถานการณ์โรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโควิด-19

“ยืนยันว่าไม่ต้องกังวลชาวเมียนมาจะไหลทะลักข้ามมายังฝั่งประเทศไทย เพราะเรามีกำลังเจ้าหน้าที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว” แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว

ทั้งนี้รายข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมาฝั่งจ.กาญจนบุรียังคงเป็นไปด้วยเรียบร้อยปกติ ในส่วนของทหารทางพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังไม่ได้มีการสั่งการให้เพิ่มเติมกำลังพลบริเวณกองกำลังชายแดนแต่อย่างใด เพราะได้มีการเสริมกำลังไปแล้วตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด และมีปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็ได้มีการกำชับให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งจุดผ่านแดนต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางธรรมชาติ ที่มีชุดตรวจเฝ้าระวังพิเศษของทหารทำหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดเหตุความวุ่นวายจากฝ่ายที่ต่อต้านการยึดอำนาจจนทำให้คนทะลักชายแดนคาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น อีกทั้งกองกำลังชนกลุ่มน้อยขณะนี้ก็ยังมีความเรียบร้อย

บ่าย 3 เจอกัน!! กลุ่มมวลชนอาสา (WEVO) นัดรวมพล ประนามก่อรัฐประหารพม่า

นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "มวลชนอาสา" หรือ WEVO โพสต์เฟซบุ๊กประกาศด่วน ว่า “ร่อนแถลงประณาม การก่อรัฐประหารในพม่า ย้ำ พลเมืองสมาชิกอาเซียนต้องไม่รับรองการรัฐประหารครั้งนี้”

พร้อมแชร์รูปภาพจากกลุ่มเพื่อเชิญชวนทำกิจกรรมหน้าสถานทูตเมียนมา วันนี้เวลา 15.30 เพื่อประณามและประกาศไม่รับรองการรัฐประหาร และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร หลังจากเกิดเหตุสถานการณ์ทหารประเทศเมียนมา ทำรัฐประหารเมื่อช่วงเช้ามืดพร้อมควบคุมตัวแกนนำรัฐบาลและนักการเมืองหลายคนไว้

‘แรมโบ้’ ดักทาง “ก้าวไกล" ชี้หากขับไล่ 2 ส.ส.สวนมติพรรค ไม่ลงชื่อแก้ ม.112 พ้นพรรค นับเป็นพรรคที่อ้างประชาธิปไตย แต่มีหัวใจเผด็จการ ยุส่ง 2 ส.ส.ย้ายพรรค หากยังอยากอยู่ในใจประชาชน

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ข้อความแสดงจุดยืนของพรรคต้องแก้ไข มาตรา112 ว่า ขอชื่นชมนายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ไม่ร่วมลงชื่อแก้ไข

ที่มีจุดยืนปกป้องสถาบัน มิให้ใครมาคิดร้ายหรือทำลายและมีความคิดเห็นว่าอะไรควรทำ หรือไม่ควรทำ ไม่ได้ทำตามมติหัวหน้าหรือมติพรรคเพียงอย่างเดียว ส่วนพรรคก้าวไกล ควรเอาเวลาไปช่วยเหลือและคิดถึงปากท้องของประชาชน ไม่ใช่คิดแต่เรื่องแก้ไขมาตรา 112 จนประชาชนคิดว่าพรรคการเมืองนี้กระทำการก้าวล้วง จาบจ้วงสถาบัน ทำร้ายสถาบันเพียงอย่างเดียว

นายสุภรณ์ กล่าวว่า "หากพรรคก้าวไกลคิดจะขับส.ส.2คนที่ไม่ร่วมลงชื่อแก้ไข คือพรรคการเมืองที่อ้างว่าเป็นพรรคประชาธิปไตยแต่หัวใจคือเผด็จการ และอาจจะเป็นโชคดีของส.ส.ที่จะได้ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชนโดยแท้จริง ถ้ายังอยู่พรรคก้าวไกล ประชาชนจะเลือกอีกหรือไม่ เพราะมีตัวอย่างคณะก้าวหน้า ที่แกนนำลงพื้นที่หาเสียง อบจ.จังหวัดใดก็โดนโห่ไล่ทุกที่"

"ทั้งนี้การแก้ไขมาตรา 112 อาจเป็นเพราะว่าอยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้ว มีหัวหน้าทีมหลักคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำพรรคก้าวหน้า สั่งการให้มีการเคลื่อนไหวจ้าบจ้วงสถาบัน ทำการบิดเบือนใส่ร้ายสถาบัน"

"แต่ไม่อยากให้ลูกสมุนมีความผิดและถูกดำเนินคดีเข้าคุกเข้าตาราง มีเป้าหมายต้องการล้มล้างสถาบันเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประธานาธิบดี ซึ่งแนวความคิดที่เป็นกบฏชัดเจน และเชื่อว่าส.ส. ส.ว.และคนไทยที่รักสถาบันคงไม่ยอม"

'ทิพานัน’ สวน ‘ช่อ’ บิดเบือน!! โยง EU ขัดแอสตราฯ ปมส่งวัคซีนสะดุด

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง กรณีที่ศาลอาญามีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด เพราะมีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักรตามมาตรา 14(3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

แต่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และคณะก้าวหน้า ตอบโต้ว่า สิทธิ เสรีภาพ และผูกขาดการใช้กฎหมาย เฉพาะประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช้หลักการ แต่ใช้เพียงหลักกูว่า น.ส.พรรณิการ์ ไม่ควรนำประเด็นของอียู มากล่าว อ้างสนับสนุนการกระทำของคณะก้าวหน้าว่ามีสิทธิทำได้ โดยสาเหตุหลักคืออียูขัดแย้งเรื่องการได้รับวัคซีนล่าช้า ไม่เป็นไปตามกำหนด จึงได้เปิดเผยสัญญาจัดซื้อที่เป็นความลับ และในข้อ16 ของสัญญากำหนดไว้เกี่ยวกับการรักษาความลับ ทางอียูได้เผยแพร่สัญญา โดยทำเครื่องหมายปิดข้อความบางส่วน 24 หน้า จาก 42 หน้า เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ ราคา วิธีการปรับขึ้นราคา กำหนดวันส่งมอบ การให้ทุนสนับสนุนต่างๆ ลิขสิทธิ์ เพื่อสนับสนุนข้อขัดแย้งเรื่องความล่าช้า ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เกิดจากประเด็นต้องการตรวจสอบหรือเรียกร้องความโปร่งใสของรัฐบาลอียู ตามที่ น.ส. พรรณิการ์เข้าใจผิดและเอามาปะติดปะต่อ แบบอ่านไม่แตกแล้วนำไปบิดเบือน

“สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของนายธนาธรเกี่ยวกับวัคซีน ในเบื้องต้นศาลได้พิจารณาจากคำฟ้องและหลักฐาน เห็นว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร ฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว จึงขอให้ยุติการเผยแพร่ และแสดงให้เห็นว่าการใช้สิทธิตั้งคำถามของนายธนาธรไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐ ไม่ได้เป็นการใช้กฎหมายมาปิดปาก แต่เป็นเพราะการใช้ สิทธิที่เกินส่วนของนายธนาธร ทำให้ผู้อื่นเสียหาย เป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดผู้อื่น ขอให้ น.ส.พรรณิการ์ทำความเข้าใจและฝึกจิตเคารพคำสั่งศาล” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนที่กล่าวหาว่าถูกกฎหมายปิดปากในการแสดงความคิดเห็นทั้งที่ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐนั้น ขอให้ย้อนดูตัวเองว่าเคยใช้กฎหมายฟ้องคดีเพื่อปิดปากประชาชนที่ใช้สิทธิโดยสุจริต ในการตรวจสอบความโปร่งใสของการใช้เงินโครงการ MaydayMaydayโดยเรียกร้องให้ประชาชนลบข้อความ ให้หยุดเผยแพร่โดยที่ไม่ได้ฟ้อง และได้รับคำสั่งศาล หรือไม่ ทำไมถึงใช้กฎหมายแบบผูกขาดเข้าข้างเฉพาะกรณีของตัวเองฝ่ายเดียว

‘รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์’ ขอผู้สูงอายุ ที่รับเบี้ยซ้ำซ้อน ไม่ต้องกังวล เตรียมส่งนักกฎหมายช่วยเจรจากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมบัญชีกลาง ให้ทุกกรณี ยันจะร่วมหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย

จากกรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า มีผู้สูงอายุบางคนได้รับเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนจากบำเหน็จบำนาญของญาติที่เสียชีวิต และมีการเรียกเงินคืนนั้น

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะขอให้ กรมกิจการผู้สูงอายุ ขอความร่วมมือจากสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายและพัฒนาสังคมจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ส่งนักกฎหมายไปให้คำปรึกษาหารือกับผู้สูงอายุทุกคน

โดยจะต้องดูรายละเอียดด้วยว่า การให้ข้อมูล ทำโดยสุจริตหรือไม่ ได้รับทราบคุณสมบัติข้อนี้มาก่อนไหมและจะช่วยเจรจากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมบัญชีกลางต่อไป

นายจุติ กล่าวว่า "ขอให้คลายความกังวล ทุกอย่างมีทางออก ซึ่งทั้งรัฐบาลและกระทรวง พม.จะร่วมหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย"

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (31 มกราคม พ.ศ. 2564)

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (31 มกราคม พ.ศ. 2564)

ผนึกประสบการณ์ - พลังคนรุ่นใหม่ ! ‘คณะก้าวหน้า’ เปิดตัว ‘ประยูร วงศ์ปรีชากร’ ชิงนายกฯ ‘หาดใหญ่’ - ‘สมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากร’ ร่วมทีมเศรษฐกิจ เปิดวิสัยทัศน์ แรกใช้ 200 ล้าน ต่อเนื่อง 2 ปี สร้างอาชีพฝ่าวิฤตโควิด

"คณะก้าวหน้า สงขลา" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และประกาศความพร้อมในการลงสนามเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม นี้ พร้อมชูสโลแกน "ร่วมสู้ ร่วมสร้าง ร่วมฝัน" โดยจะเป็นการผลึกกำลังของคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกับเปลี่ยนแปลงให้เมืองหาดใหญ่กลับมาเป็นเมืองโอกาส เมืองศูนย์กลางของภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง

นายประยูร วงศ์ปรีชากร ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่า ปีนี้ตนเองอายุ 73 ปี เกษียณและปล่อยวางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้มาฉุกคิดว่า สติปัญญาเรายังดี สุขภาพยังดี ความรู้ความสามารถประสบการณ์มากมาย จะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เลือนหายไปไปพร้อมกับการแก่แล้วแก่เลยอย่างนั้นเหรอ

และเมื่อได้เห็นคนหนุ่มคนสาวตื่นตัวทางการเมือง กล้าออกมาแสดงความคิดเห็น ก็รู้สึกประทับใจ จนทำให้ตัดสินใจมาลุยการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ ตนพร้อมเดินไปกับชาวหาดใหญ่ทุกคน เพื่อนำสิ่งที่ดี ที่ยั่งยืน ที่มีอนาคตให้กับลูกหลานของเรา คืนสิ่งเหล่านี้มาบ้านเกิดหาดใหญ่ของเรา

"เพราะวันนี้ เรากำลังเผชิญกับวิฤตการณ์ความเสียหายที่งกระทบทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม กำลังก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่าอาการ 3 ประการ ได้แก่ 1.) อาการหนี้สิน ปัจจุบันเรามีหนี้สินเพิ่มทุกวันจะโดยรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม เป็นหนี้ทั้งระดับชาติ ครัวเรือน และส่วนตัว 2.) อาการตกงาน พ่อค้าแม่ขายไม่มีรายได้ ไม่พอจ่ายค่าที่ ถูกไล่ที่ โรงแรมที่พักไม่มีลูกค้า ฯลฯ และ 3.) อาการคนรุ่นใหม่ไม่กลับบ้าน เราส่งลูกหลานส่งร่ำเรียน แต่ไม่มีใครกลับมาขยายหรือสืบสานธุรกิจของบรรพบุรุษ เพราะกลับมาแล้วไม่มีอนาคต ไม่รู้จักปักหลักปักฐานครอบครัวตัวเองให้มั่นคงได้อย่างไร เมืองกำลังจะสูญพันธุ์ ซึ่งจะเหลือแต่คนแก่และคนติดยาเสพติด นี่คือสภาพการณ์ที่เลวร้าย ถ้าเราไม่คิดอ่านทำอะไรสักอย่าง" นายประยูร กล่าว

นายประยูร กล่าวว่า "กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเมืองนี้ เราคงต้องมาร่วมกันคิด ร่วมกันสร้าง ร่วมกันฝันว่าเราจะทำอย่างไรดี ที่จะเรียกคืนความเชื่อมั่น เมืองแห่งโอกาส เมืองแห่งประสบการณ์ เมืองอัจฉริยะ เมืองศูนย์กลางการค้า เมืองชุมทางที่คนอยากมาลงหลักปักฐาน เรียกคืนบรรยากาศอย่างนั้นกลับมาให้ได้ ซึ่งมีทางเดียวคือ พวกเราต้องลงมือช่วยกัน บ้านเมืองนี้ให้มีทิศทางชัดเจนในการพัฒนามานาน ที่ผ่านมาผู้นำท้องถิ่นไม่ได้กำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ เป้าหมายหรือนโยบาย

ดังนั้น เราจะสร้างการเมืองใหม่ เราจะชูนโยบาย เราจะมีนโยบายเด็ดๆ ที่จะทำให้เมืองนี้มีทิศทางที่ชัดเจนยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องเลิกกลัวการเมือง เพราะการเมืองคือเรื่องดี คือเรื่องการสร้างสรรค์ เราจะปล่อยอย่างนี้ไม่ได้ ต้องเปลี่ยน พลิกโฉมการเมือง เอาน้ำดีเข้าไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เรื่องการเมืองคิดต่างกันได้ แต่ไม่แตกแยก "

ด้าน นายสมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากร ที่ปรึกษาและหัวหน้าทีมบริหารเศรษฐกิจ กล่าวว่า "ภัยโควิดที่เราเผชิญอยู่แสนสาหัส หาดใหญ่เองก็โดนหนัก เพราะเศรษฐกิจเราพึ่งท่องเที่ยว การส่งออก และเรายังเป็นศูนย์กลางค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ที่ผ่านมาเคยรองรับนักท่องเที่ยวปีละ 5-6 ล้านคน มีรายได้ 5-6 หมื่นล้านบาทต่อปี กระจายไปทั่วทุกภาคธุรกิจ หากแต่วันนี้ แสนสาหัส หลายกิจการเริ่มปิดตัว ล้มหายตายจาก จึงต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไร จะกอบกู้เศรษฐกิจหาดใหญ่ภายใต้ภาวะแบบนี้อย่างไร

ซึ่งตนได้รับมอบหมายภารกิจนี้จากคุณประยูร และด้วยประสบการทำงานตั้งแต่อายุ 22 ปี มีโรงแรมเป็นของตัวเองตอนอายุ 26 ปี เชื่อว่าสามารถทำได้ โดยเริ่มต้น เทศบาลนครหาดใหญ่ต้องจัดงบประมาณ ปีละ 200 ล้านบาทเป็นเวลา 2 ปี เพื่อใช้ในการสร้างงานให้กับประชาชนหาดใหญ่ เพราะตอนนี้จะมีคนหาดใหญ่ตกงานเป็นหมื่นคน เทศบาลจะต้องยื่นมือเข้าช่วย 2 ปีงบประมาณต่อเนื่อง เชื่อว่าสร้างงานให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนตั้งหลักได้"

"นอกจากนั้น ต้องจัดงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุน ให้ประชาชนสามารถเสนอกิจกรรมความคิดที่จะมาพัฒนาสังคมหาดใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ประเพณีวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเทศบาลใช้วิธีสมัครผ่านออนไลน์ แอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งตรงนี้เราเชื่อว่าคนหนุ่มสาวเรามีความสามารถ แต่พวกเขาเพียงแต่ไม่มีโอกาส ไม่มีพื้นที่ เราจะได้นำเอาความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขานี้มาพัฒนาเมืองหาดใหญ่" นายสมบูรณ์ กล่าว

ขณะที่ นายกตัญญู จิตตะกาญจน์ ตัวแทนคณะก้าวหน้า จ.สงขลา กล่าวว่า คณะก้าวหน้าสืบเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ เรามีนโยบายสำคัญคือ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพาะปัจจุบันโครงสร้างทับซ้อนระหว่างราชการส่วนภูมิภาคกับท้องถิ่นนั้นทำให้เกิดปัญหา คือ คนกำหนดงบประมาณนั้นอยู่ส่วนกลาง แต่คนรู้ปัญหาคือท้องถิ่น

ดังนั้น ด้วยเป้าหมายของนโยบายนี้ เราจึงตั้งใจที่จะส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานคณะก้าวหน้าจังหวัดสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้ไปในพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังปัญหาประชาชน รวมถึงเฟ้นหาตัวผู้สมัคร และเมื่อมีการประกาศเปิดรับผู้สนใจต้องการเปลี่ยนแปลงหาดใหญ่ให้ดีขึ้น

โดยบุคคลนั้นต้องเชื่อในคุณค่าอนาคตใหม่เดิม คือ จุดยืนหนักแน่นประชาธิปไตย ไม่ใช้เงินซื้อเสียง ไม่เป็นผู้มีอิทธิพล และไม่เป็นผู้ทุจริตคอรัปชัน ก็ปรากฏว่ามีผู้กล้าอยากเข้าเปลี่ยนแปลงเมืองหาดใหญ่ คือคุณ ประยูร วงศ์ปรีชากร

ซึ่งเป็นผู้ยึดมั่นประชาธิปไตย มีประสบการณ์ และเป็นผู้รับฟังความเห็นที่แตกต่าง สามารถแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผล อาสาเข้ามาลงสมัคร นี่เป็นการผนึกกำลังกันของคนมีประสบการณ์กับคนร่นใหม่มีพลัง เป็นการเมืองของคนธรรมดาที่จะเปลี่ยนบ้านเกิดหาดใหญ่ของเราให้ดีขึ้น

"เทศบาลนครหาดใหญ่ มีงบประมาณต่อปีสูงถึง 1,700 ล้านบาท เราเป็นเมืองที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นชุมทางการคมนาคม เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ มีสถานบันการศึกษาทุกระดับ ฯลฯ เราศักยภาพอยู่อีกมาก แต่น่าเสียดายที่ติดขัดในข้อกฎหมาย เช่น ขนส่งสาธารณะที่ไม่ดีเลยในเมืองหาดใหญ่

ทั้งที่เรามั่นใจว่าทำให้ดีได้ ทั้งนี้ วิกฤตเศรษฐกิจและโควิดล่าสุดได้ซ้ำเติมเมืองหาดใหญ่ ทำให้เมืองเหงียบเหงา เป็นความท้าทายอย่างยิ่งของเราคณะก้าวหน้าหาดใหญ่ และทีมผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ที่จะคิดนำโจทย์นี้มาแก้ไขปัญหาให้กับชาวหาดใหญ่" นายกตัญญู กล่าว

ออกบัตรโดยสารฟรี! ขสมก.ส่งเสริมการชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ลดเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ประกาศยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม ออกบัตรโดยสารล่วงหน้าอิเล็กทรอนิกส์ ดีเดย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 พ.ค. 64

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระลอกที่ 2 ได้ทวีความรุนเเรงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยง

การสัมผัสเหรียญกษาปณ์ และธนบัตรในการชำระสินค้าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 เนื่องจากธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ถูกเปลี่ยนมืออย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจมีเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ติดอยู่เป็นเวลานานหลายวัน ทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคดังกล่าว ขสมก.จึงมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนผู้ใช้บริการ เปลี่ยนวิธีการชำระค่าโดยสารเป็นแบบไร้เงินสดมากขึ้น

โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ในการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมออกบัตรโดยสารล่วงหน้าอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลทั่วไป และบัตรโดยสารนักเรียน นิสิต นักศึกษา อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสดผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (แบบรายเที่ยว) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรเดบิต/เครดิต ที่มีสัญลักษณ์ Contactless และชำระค่าโดยสารผ่านทางแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ (QR Code) ได้อีกด้วย

กระทรวงกลาโหม ย้ำการปกครองบังคับบัญชาทางทหาร ต้องยึดแบบธรรมเนียมทหารและหลักกฎหมาย ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการปกครองบังคับบัญชา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ย้ำเป็นนโยบายสำคัญในการประชุมสภากลาโหม กับ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ถึงการปกครองบังคับบัญชาของทุกเหล่าทัพ

ต้องดำรงความยุติธรรม และเป็นไปตามแบบธรรมเนียมทหาร ยึดระเบียบและหลักกฎหมาย บนพื้นฐานของหลักเมตตาธรรม มนุษยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน โดยต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ทั้งนี้ให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับถือปฏิบัติและกำกับดูแลตามสายการบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด และต้องรับผิดชอบหากปล่อยปละละเลย

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการบาดเจ็บและเสียชีวิตของกำลังพลจากการฝึกและการปกครองบังคับบัญชาที่ผ่านมาในทุกกรณีที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานของกองทัพ ได้ตั้งกรรมการสอบสวนจากหน่วยเหนือของทุกเหล่าทัพถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและดำรงความยุติธรรมกับทุกฝ่ายตามระเบียบและหลักกฎหมาย โดยสรุปภาพรวมความเสี่ยงหลักของเหตุเกิดจากทั้งปัญหาของกำลังพลทหาร รวมถึงผู้ฝึกหรือผู้ปกครอง

โดยกำลังพลทหารบางรายมีปัญหาพื้นฐานเดิมส่วนตัวและด้านสุขภาพ ส่งผลต่อพฤติกรรมและความสามารถทางร่างกาย ซึ่งมีมาตรการดูแลเป็นพิเศษในทุกกรณี ในขณะที่ผู้ฝึกและผู้ปกครองบางราย ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่กำหนด ขาดสำนึกและความรับผิดชอบในการใช้อำนาจหน้าที่ มีการลงโทษไม่เป็นไปตามแบบธรรมเนียมทหารและขัดต่อหลักมนุษยธรรม

ถือเป็นทั้งความผิดทางกฎหมายและความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งทุกเหล่าทัพ ได้ลงโทษทางวินัยผู้กระทำผิดในทุกราย หนักเบาตามมูลฐานความผิดจากผลการสอบสวน และหากมีความผิดตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษทุกรายไม่มีละเว้น ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้ละเลยในการแสดงความเสียใจและเยียวยากับครอบครัวกำลังพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพลภาพหรือเสียชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้นในทุกกรณี

เหล่านี้ ถือเป็นบทเรียนของการปกครองบังคับบัญชาทางทหาร ที่ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพตระหนักและให้ความสำคัญร่วมกัน โดยไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก

ทั้งนี้ได้ศึกษาและร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ปัญหาการปกครองบังคับบัญชาในทุกระดับชั้นให้รัดกุมมากขึ้น บนพื้นฐานของการใช้อำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องตามแบบธรรมเนียมทหารและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้ร่วมกันกวดขันการฝึกทหารใหม่ รวมทั้งการปกครองบังคับบัญชาระดับหมู่ หมวดและชุดปฏิบัติการใกล้ชิดมากขึ้นควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล

พร้อมกันนี้ได้เปิดช่องทางการร้องเรียนกับกำลังพลทุกระดับตามแบบธรรมเนียมทหารหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกันได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์ของ กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ให้ประชาชน หรือครอบครัวกำลังพลที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้าร้องเรียน เพื่อดำรงความยุติธรรมและความโปร่งใสขององค์กร

“ไพบูลย์” เผย กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ พิจารณาเนื้อหาเสร็จแล้ว รอโหวตบางประเด็น 4 ก.พ. นี้ ยันเดินหน้าไม่ถอนญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากเสียงข้างมากเห็นว่าไม่ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนก็ไม่ติดใจ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่) รัฐสภา กล่าวว่า กมธ.ฯ พิจารณาเนื้อหาทั้งฉบับเสร็จแล้ว และในวันที่ 4 ก.พ. จะพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง รวมถึงการลงมติในประเด็นที่รอพิจารณา ได้แก่ มาตรา 256 ว่าด้วยมติของสมาชิกรัฐสภา ในชั้นรับหลักการ ที่มีผู้สงวนความเห็น ใน 3 ประเด็น คือ ใช้เสียง 3 ใน 5 , ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง และใช้เสียง 2 ใน 3

นอกจากนั้นยังมีประเด็นว่าด้วยการส่งทำประชามติ ในมาตรา 256(8) ตามร่างของส.ส.รัฐบาล ที่ระบุให้นำไปทำประชามติ หากเนื้อหาแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด2 พระมหากษัตริย์ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรืออำนาจหน้าที่ศาลหรือองค์กรอิสระหรือเรื่องที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติหน้าที่หรืออำนาจได้

นายไพบูลย์ กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 9 ก.พ. เพื่อพิจารณาญัตติขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 210(2) ของรัฐธรรมนูญ ที่ตนและนายสมชายแสวงการ ส.ว.เป็นผู้เสนอนั้น ว่ายังไม่มีบุคคลใดขอให้ตนถอนญัตติดังกล่าวและเชื่อว่ารัฐสภาจะพิจารณาในรายละเอียดและลงมติตัดสิน

ซึ่งตนไม่ติดใจในผลการลงมติ หากเสียงข้างมากเห็นว่าไม่ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าหากมติรัฐสภาไม่ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้ส.ว. ไม่สบายใจ และส่งผลต่อการลงมติในวาระสองและวาระสามได้

"ผมยืนยันว่าญัตติดังกล่าวไม่มีผลกระทบให้รัฐสภายุติการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การลงมติจะอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐสภา แต่ผมมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอำนาจที่รัฐสภาต้องดำเนินการ

และการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราของรัฐสภานั้นจะทำให้เวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลามากเหมือนกับการให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ดำเนินการ เชื่อว่าจะใช้เวลาเกือบ 2 ปี เพราะหลังจากมีส.ส.ร. ต้องทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องทำประชามติ และเมื่อรัฐธรรมนูญผ่านแล้วต้องออกกฎหมายลูก ซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ จะไม่ทันใช้ในการเลือกตั้งรอบที่จะมาถึงแน่นอน" นายไพบูลย์ กล่าว

‘บิ๊กตู่’ ยึดหลักการกระจายวัคซีนโควิด-19 อย่างเป็นธรรมให้ทุกกลุ่ม แบ่งฉีดเป็น 3 ระยะ ตามมาตรฐานสากล คาดจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนคนไทยคนแรกได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ วอนคนไทยตั้งการ์ดสูง ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบแนวทางเกี่ยวกับการบริหารวัคซีนโควิด-19 ให้ยึดหลักกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรมและเป็นไปตามมาตรฐานสากล มีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ บริหารแผนการฉีดวัคซีน

โดยกระทรวงสาธารณสุข จะติดตามประเมินผลการฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนคนไทยคนแรกได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนั้นนายกฯมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการแผนปฏิบัติงานในทุกมิติ ทั้งรายละเอียด การขนย้าย การขนส่งและการจัดเก็บวัคซีนเพื่อรักษาประสิทธิภาพวัคซีน โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแต่ละกลุ่ม และเร่งประชาสัมพันธ์ สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่

"นายกฯวอนให้คนไทย ตั้งการ์ดสูง และใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่ไปในสถานที่เสี่ยงและสถานที่แออัด"

นายอนุชา กล่าวว่า "ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค.ได้การรายงานลำดับกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงที่วัคซีนมีปริมาณจำกัด ดำเนินการในพื้นที่ที่มีการระบาด เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต รักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ จะดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ผู้มีโรคประจำตัว 6 โรคกำหนด คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย"

"ระยะที่ 2 ช่วงที่มีวัคซีนเพิ่มขึ้น ขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อรักษาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยกำหนดฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่นอกเหนือจากด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสซื้อโควิด 19 ผู้ประกอบอาชีพที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมาก และผู้เกี่ยวข้องกับการเดินทางระหว่างประเทศ และระยะที่ 3 ช่วงที่วัคซีนมีปริมาณเพียงพอ"

"เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระดับประชากร จะดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อฟื้นฟูให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศ โดยกลุ่มที่ก้าวหน้ามากที่สุดมี 3 ชนิด คือ ชนิด mRNA โดยศูนย์วิจัยวัคซีนแห่งจุฬาลงกรณ์ ชนิด Protein subunit (Plant-based) ของบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และชนิด DNA โดยบริษัทไบโอเนท เอเชีย อยู่ระหว่างการแสวงหาความร่วมมือ หรือพัฒนาศักยภาพการขยายขนาดการผลิต เพื่อผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับทดสอบในอาสาสมัคร"

รมว.แรงงาน เผย รัฐบาลเร่งช่วยลูกจ้างแมรีกอท บางปูทุกมิติ ล่าสุด บริษัทฯ โอนเงินชดเชยและช่วยพิเศษรวมกว่า 470 ล้านบาท ให้ครบทุกคนแล้ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการการจ่ายเงินค่าชดเชยและเงินช่วยเหลือพิเศษกรณี บริษัท แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ยุติการดำเนินกิจการที่สาขาบางปู และย้ายไปสาขาพระนครศรีอยุธยา รัฐบาลเร่งติดตามช่วยเหลือแรงงานทุกมิติ ล่าสุด บริษัทโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของชื่อลูกจ้างทุกคนเรียบร้อยแล้ว รวมมูลค่ากว่า 470 ล้านบาท

นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า จากการติดตามการจ่ายเงินค่าชดเชยตามกฎหมาย และเงินช่วยเหลือพิเศษล่าสุดได้รับแจ้งจากนางสาวกรรณิกา ฯ รองหัวหน้าแผนกทรัพยากรมนุษย์ ของบริษัท แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่บริษัทได้มอบหมายให้ดำเนินการ ในวันที่ 30 ม.ค.64 ว่าบริษัทได้จ่ายเงินค่าชดเชยตามกฎหมายและเงินช่วยเหลือพิเศษ โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของชื่อลูกจ้างทุกคนเรียบร้อยแล้ว รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 470,628,497 บาท และขณะนี้ลูกจ้างสามารถถอนเงินดังกล่าวได้แล้ว

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของนางสาวโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พบว่า นายจ้างยืนยันว่าไม่ได้เลิกจ้างลูกจ้างแต่ขอความร่วมมือให้ลูกจ้างทั้งหมดย้ายไปปฏิบัติงานที่สำนักงานแห่งใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากบริษัทสาขาบางปูได้รับผลกระทบมียอดสั่งซื้อสินค้าลดลง จึงต้องปรับแผนธุรกิจไปยุบรวมกับสำนักงานที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีลูกจ้างที่ประสงค์จะย้ายไปทำงานที่ใหม่จำนวน 101 คน

สำหรับลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะย้ายไปจำนวน 1,610 คน บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย เงินโบนัสประจำปี ค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปี และเงินช่วยเหลือพิเศษนอกเหนือกฎหมาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 470 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ จะเข้าไปตรวจสอบเพื่อจ่ายเยียวยาสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรปราการเตรียมตำแหน่งงานว่างรอบรับกว่า 1,000 อัตรา

นอกจากนี้ ฝ่ายบุคคลของบริษัทแจ้งว่า มีสถานประกอบการที่ดำเนินกิจการลักษณะเดียวกันแสดงความประสงค์ที่จะรับลูกจ้างของบริษัทแมรีกอทฯ ด้วย เนื่องจากลูกจ้างส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือในการผลิตจิวเวลรี่

ขณะที่ลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะย้ายไปทำงานที่ใหม่ กล่าวว่า ทำงานกับบริษัทแห่งนี้มานานหลายปี และมีแผนอยู่แล้วที่จะขอเกษียณที่นี่ ซึ่งเป็นช่วงพอดีที่บริษัทมีแผนย้ายไปประกอบกิจการที่แห่งใหม่ สิ่งที่บริษัทให้มาถือว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว เพราะเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและคิดว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้ดำเนินชีวิตต่อที่บ้านเกิด และลูกจ้างบางส่วนที่ไม่ประสงค์ย้ายไปที่แห่งใหม่ บริษัทยังได้ฝึกอบรมอาชีพให้เพื่อนำความรู้ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อไป

‘วอร์รูมรัฐบาล’ ถกรับมือซักฟอกนัดแรกพรุ่งนี้! ‘ชาญกฤช เดชวิทักษ์’ เก็งข้อสอบฝ่ายค้าน คาดพุ่งเป้าปมเศรษฐกิจ จากผลพวงวิกฤติโควิด-19

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในทีมวอร์รูมรัฐบาลว่า ตนได้ตอบรับเข้าร่วมเป็นทีมงานแล้ว ซึ่งทราบว่าคณะทำงานชุดนี้จะทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน โดยมีทั้งการเก็งข้อสอบว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นใดบ้าง และควรหาข้อมูลมาชี้แจงตอบโต้อย่างไร เพื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายสามารถชี้แจงได้ทันท่วงที

โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวจะประชุมหารือและแบ่งหน้าที่ร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล โดยคาดว่าตนน่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจรุนแรง รวมถึงมาตรการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือประชาชนที่เห็นผลเป็นรูปธรรม

ซีแอตเติลอลหม่าน ตู้แช่เก็บสต็อควัคซีน Covid-19 เสียกลางดึก! ต้องเกณฑ์คนอเมริกันมาเข้าคิวฉีดวัคซีนด่วนตอนเที่ยงคืน ขณะที่ประชาชนฝ่าลมหนาวออกจากบ้านเข้าคิวฉีดหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

งานเข้าโรงพยาบาลในซีแอตเติล เมื่อมีข่าวด่วนแจ้งเข้ามาว่าตู้แช่วัคซีนมาเสียเอาตอนกลางดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตู้แช่ที่เก็บสต็อควัคซีน Covid-19 ของ Moderna มากถึง 1,650 โดส

หลังจากที่รับแจ้ง เวลาเริ่มนับถอยหลังทันที เนื่องจากวัคซีนของ Modern ต้องเก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิไม่ถึง วัคซีนก็จะเสีย เมื่อคำนวนเวลาแล้ว ก็ประเมินได้ว่าจะสามารถคงความเย็นได้ถึงแค่ตี 5 ของเช้าวันศุกร์

บริษัทตู้แช่ Kaiser Permanente จึงต้องรีบกระจายวัคซีนทั้งหมดไปยังศูนย์การแพทย์ในเมืองซีแอตเติล 2 แห่ง ได้แก่ UW Medical Center วิทยาเขต Northwest และ Montlake กับ Swedish Medical Center ซึ่งก็สร้างความโกลาหลไปทั้งโรงพยาบาล ที่ต้องเกณฑ์แพทย์ พยาบาล หน่วยกู้ภัย ตำรวจดับเพลิง อาสาสมัคร กระจายข่าวทั้งทางทวิตเตอร์ และโทรศัพท์ตามกลุ่มเป้าหมายที่กำลังรอรับวัคซีน ให้มาเข้าคิวฉีดวัคซีนกันตอนเที่ยงคืน

ซึ่งชาวซีแอตเติลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีคนติดต่อเข้ามาจองคิวหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และรีบออกจากบ้านมาต่อคิวฉีดวัคซีนทั้งชุดนอน แม้อากาศจะหนาวจัด

นับเป็นแผนการฉีดวัคซีนที่แปลกประหลาดที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเห็น ซึ่งทางบริษัทตู้แช่ก็ไม่ได้อธิบายสาเหตุที่ตู้แช่มาขัดข้องอย่างกระทันหันนั้นเกิดจากอะไร แต่ขออย่าให้เกิดบ่อยก็แล้วกัน

และก็ถือเป็นกรณีศึกษา หากเกิดเหตุฉุกเฉินลักษณะนี้ในอนาคต และไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที ก็อาจหมายถึงความเสียหายของวัคซีนมูลค่ามหาศาลได้


อ้างอิง

https://www.seattletimes.com/seattle-news/health/late-night-freezer-failure-in-seattle-sends-hundreds-scrambling-to-get-a-fast-expiring-covid-19-vaccine/

https://www.q13fox.com/news/seattle-hospitals-rush-out-covid-19-vaccines-overnight-after-freezer-failure

https://www.dailymail.co.uk/news/article-9202437/Hundreds-rush-Washington-state-clinic-overnight-vaccines-freezer-broke.html

ขนส่งฯ เปิดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ให้สิทธิผู้ที่จองคิวล่วงหน้าทำใบขับขี่วันที่ 4 - 31 ม.ค. 64 เลือกจองคิวใหม่ได้ตั้งแต่ 1 ก.พ. - 15 มี.ค. 64 ส่วนผู้ที่จองคิววันที่ 1 ก.พ. 64 เป็นต้นไป เข้ารับบริการตามวันและเวลาที่นัดหมายตามปกติ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร พิจารณาเปิดการเรียนการสอนของสถานศึกษา โดยให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงให้กรมการขนส่งทางบกผ่อนคลายการควบคุมการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ เพื่อให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งกลับมาเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถได้ตามปกติทุกกระบวนงาน ทั้งการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ และการต่ออายุใบอนุญาตที่ต้องเข้าอบรมที่สำนักงานขนส่ง แต่จำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการในแต่ละช่วงเวลาตามมาตรการ Social Distancing โดยได้กำหนดช่วงเวลาการให้บริการ ดังนี้

1.) ผู้ที่จองคิวล่วงหน้า ไว้ในวันที่ 4 - 31 มกราคม 2564 ให้สิทธิเข้าจองคิวใหม่ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2564 ทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก

2.) ผู้ที่จองคิวล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ให้เข้ารับบริการตามวันและเวลาที่นัดหมายได้ตามปกติ

3.) ผู้ที่ไม่เคยเข้าระบบจองคิวมาก่อน ให้เริ่มจองคิวตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรค ในการต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ใบอนุญาตขับรถขนส่ง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ แนะนำให้อบรมผ่านระบบ e-Learning ได้ทาง www.dlt-elearning.com และนำผลการอบรมติดต่อสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเข้าอบรมที่สำนักงานขนส่ง

พร้อมกันนี้ ให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นไปตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนการดำเนินการของโรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง ให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถสิ้นอายุเกิน 1 ปี หรือ 3 ปี ในช่วงที่กรมการขนส่งทางบกงดการอบรม ประกอบด้วย 1.) ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 1 ปี ระหว่างวันที่ 4 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 ได้รับการยกเว้นการทดสอบข้อเขียน 2.) ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 3 ปี ระหว่างวันที่ 4 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ 3.) ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สิ้นอายุเกิน 3 ปี ระหว่างวันที่ 4 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ

ส่วนเอกสารประกอบคำขอรับหรือต่ออายุใบอนุญาตขับรถหรือผู้ประจำรถ เช่น ใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองการผ่านการอบรมและทดสอบ คำขอที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ผลผ่านการอบรมจากระบบ e-Learning ที่สิ้นอายุ อนุโลมให้ใช้ประกอบการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เช่นเดียวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ผ่อนผันการบังคับใช้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุแล้ว ยังสามารถใช้แสดงตนได้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป การดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขหลักเกณฑ์ใหม่ โดยจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารประกอบในการดำเนินการ

ทั้งการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ การเปลี่ยนชนิด และการต่ออายุ โดยใบรับรองแพทย์ ต้องเป็นไปตามแบบมาตรฐานของแพทยสภา มีสองส่วนคือ ส่วนที่ผู้ขอรับรองสุขภาพตนเองและส่วนของแพทย์ตรวจรับรอง ซึ่งจะต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภากำหนด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top