ท่านนายกฯ ครับ ปิดไฟที่ปอยเป็ดให้ ฮุน เซ็น เขาดูหน่อยว่า เราไม่เล่น อย่าเกรงใจ นายทุนคนไทย
เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 68) ทอม เครือโสภณ ชี้ นายกฯ ต้องปิดไฟปอยเปต โต้กลับฮุนเซน

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 68) ทอม เครือโสภณ ชี้ นายกฯ ต้องปิดไฟปอยเปต โต้กลับฮุนเซน
(8 มิ.ย. 68) รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า …
ถ้าปั่นกันหนัก จนเหมือนเตรียมเข้าสู่สงคราม …
นักท่องเที่ยวที่ไหน จะอยากมาไทย ยิ่งน้อยๆ อยู่
(8 มิ.ย. 68) จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยปัจจุบันมีกำลังติดอาวุธ ของฝ่ายกัมพูชาได้วางกำลังรุกล้ำอธิปไตยของไทยทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ได้ใช้ความพยายาม อย่างถึงที่สุดในการคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีการตกลงกันไว้ กับกัมพูชา แตไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏว่ากัมพูชาได้มีการเพิ่มเติมกำลังพล อาวุธและยุทโธปกรณเขามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการดัดแปลงที่มั่นทางทหารซึ่งอาจมีความเสี่ยง ที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน กองทัพบกและกองทัพเรือ ภายใต้มติสภาความมั่นคงแห่งชาติและตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม
จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 และคำสั่งกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่ 447/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ดังนั่น เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว จึงให้หน่วยงานภายใต้กลไก ศอ.ปชด. ดำเนินการดังนี้ 1. ให้จังหวัดชายแดนในฐานะศูนยสั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดานกัมพูชา และหนวยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้การสนับสนุนกองกำลังสุรนารี กองกำลังบูรพา และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและดำเนินการตามมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว 2. ใหสำนักงานตรวจคนเขาเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ของบุคคลและกลุมบุคคล โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและบอนการพนัน อาทิ พื้นที่ชายแดนอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร อำเภอบานกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอโปงน้ำรอน จังหวัดจันทบุรี และอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นอกจากนั้นยังปรากฏข้าวสารว่ามีบุคคลและกลุ่มบุคคลยังคงมีการกระทำผิดด้านอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบอนทำลายสภาพเศรษฐกิจและสังคม ทั้งภายในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั่นเพื่อให้การปองกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศอ.ปชด. จึงมีมาตรการ ดังนี้
1. แจ้งใหฝ่ายกัมพูชาเร่งรัดปราบปรามผูกออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ในทุกพื้นที่ทันที จับกุมและบังคับใชกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดรวมถึงผู้สนับสนุนทั้งหมด
2.จะได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามฯ อาทิเช่น การตัดกระแสไฟ้ฟ้า การระงับสัญญาณ อินเตอร์เน็ตที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ ที่เป็นบอนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสิ้นค้าและยุทโธปกรณที่อาจจะนำไปใช้ในการก่ออาชญกรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ โดยจะได้นำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ศอ.ปชด. จะอำนวยการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดข้างตน ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติโดยไม่ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ของพี่น้องประชาชนบริเวณชายแดน พรอมทั้งจะได้ติดตามสถานการณ์อยางใกล้ชิดและพิจารณาเพิ่มเติมมาตรการ ที่จำเป็นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายต่อไป
(8 มิ.ย. 68) นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปัจจุบันทหารหาญของไทยมีความต้องการสิ่งของต่าง ๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์ ประกอบกับพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงก็มีความเป็นห่วงและต้องการช่วยเหลือเหล่าทหารหาญ โดยเฉพาะในส่วนของความปลอดภัย ตนจึงขออาสาเป็นสื่อกลางนำส่งน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงด้วยการรวมรวบยางรถยนต์ ทั้งยางรถยนต์ 4 ล้อ, ยางรถบรรทุก 10 ล้อ และยางรถจักรยานยนต์ โดยพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงสามารถนำยางรถยนต์มาบริจาคส่งให้คณะทำงาน ได้ที่บริเวณลานกว้าง ใกล้สำนักงานเทศบาลตำบลเขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน เพื่อประสานนำส่งไปยังพื้นที่ชายแดนดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับส่งของที่จะนำมาให้นั้น ขอเน้นให้เป็นยางรถยนต์หรือยางรถจักรยานยนต์ ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ขอให้เน้นเป็นข้าวสารที่สามารถรวบรวมส่งไปได้เช่นกัน
นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปกป้องอธิปไตยและดินแดนของประเทศไทย จึงรับรู้สถานการณ์และความจำเป็นต่าง ๆ ในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องวางใจได้ และยืนยันว่าทหารหาญไทยทุกนายจะได้รับความปลอดภัยและการดูแลเป็นอย่างดี
(8 มิ.ย. 68) Harley-Davidson จัดงานเปิดตัว “BEYOND THE ORDINARY POWERED BY 2025 HARLEY-DAVIDSON CRUISER 117 LINEUP” อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปรับโฉมใหม่เหล่านี้ ถือเป็นรุ่นสานต่อตำนานแห่งดีไซน์ สมรรถนะ และนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson พร้อมยกระดับขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ V-Twin ขนาด 117 ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่น
งานเปิดตัวสุดพิเศษในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Factopia Studio โดยมีสื่อมวลชน เหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew อินฟลูเอนเซอร์ และตัวแทนจำหน่ายจากทั่วประเทศมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
โดยมี มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย เป็นผู้เปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยรุ่น Low Rider™ S, Low Rider™ ST, Breakout™, Heritage Classic, Fat Boy™ และ Street Bob™ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก กาย รัชชานนท์ สุประกอบ หนึ่งในสมาชิก Freedom Crew มาร่วมดำเนินรายการอย่างเป็นกันเอง
นอกจากนี้ เหล่าผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกันฉลองให้กับรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนิกรุ่น Fat Boy ในโอกาสครบรอบ 35 ปี โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Fat BoyTM Gray Ghost ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 1,990 คันทั่วโลก โดยคันที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ เป็นรถของลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสุดพิเศษในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่
การเปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 117 รุ่นปี 2025 ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Harley-Davidson ที่มีต่อตลาดประเทศไทย พร้อมส่งมอบความตื่นเต้นครั้งใหม่และแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักขับขี่และผู้หลงใหลในแบรนด์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 6 รุ่นใหม่นี้ ล้วนสะท้อนถึงเป้าหมายของแบรนด์ในการผลักดันและสร้างความคึกคักให้กับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
Harley-Davidson พลิกโฉมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ระดับไอคอนนิกจำนวน 6 รุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ผสานกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับและดีไซน์อันทันสมัย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และโครงสร้าง Harley-Davidson Softail TM ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโมโนช็อค (Monoshock) โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ประกอบด้วยรุ่น Low Rider S, Low Rider ST, Breakout , Heritage Classic, Fat Boy, และ Street Bob ซึ่งรถแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ความคลาสสิกย้อนยุคไปจนถึงสมรรถนะที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ
ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson Cruiser 117 รุ่นปี 2025 จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ทั่วประเทศ
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson เพื่อทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงบริการให้คำแนะนำสำหรับการคัสตอม และข้อมูลอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ทั้งหมด
ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2025 และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้
• Street Glide™ Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท
• CVO™ Street Glide™ ราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท
• CVO™ Road Glide™ ราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท
• CVO™ Road Glide™ ST ราคาเริ่มต้นที่ 3,439,000 บาท
• Street Bob™ ราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
• Heritage Classic ราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
• Fat Boy™ ราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
• Breakout™ ราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
• Low Rider™ S ราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
• Low Rider™ ST ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
• Sportster™ S ราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท
• Nightster™ (สี Snake Venom) ราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท
(8 มิ.ย. 68) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคประชาชน ทวิต
“จากดราม่า ผมยอมรับว่าสวนกระแสสังคมครับ
แต่ยังขอยืนยันข้อความที่โพสต์
ตำรวจ หมอ พยาบาล ทำงานเสี่ยงตายทุกวัน ไม่เคยเห็นต้องมาทำ Pr ขอแรงสนับสนุน นี่เกิดการปะทะตามตะเข็บชายแดนแค่ 10 นาที บนที่พื้นที่ป่า 200 เมตร ซึ่งยังพิพาทกันอยู่
กองทัพเล่นฉวยโอกาสมาสร้างกระแส โหม Pr
ถึงขนาดจะเสียชาติไทย* จะเสียเอกราช *
แบบนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศเลย
กองทัพไม่ควรเล่นการเมือง มันเป็นหน้าที่รัฐบาลตัดสินใจ จะเจรจาอย่างไร จะใช้มาตรการอะไร
ทุกประเทศทั่วโลกมีปัญหาพิพาทเส้นเขตแดนทั้งนั้น เค้าก็แก้ด้วยการทูต ใครละเมิดข้อตกลงก็ว่ากันไป ไม่ได้แก้ด้วยการบอกว่าพร้อมจะทำสงคราม
กองทัพแค่ทำหน้าที่ตัวเอง เตรียมกำลังเตรียมความพร้อมไป ให้รัฐบาลเจรจาหาข้อยุติโดยไม่เกิดการปะทะคือเป้าหมาย
อย่าสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนแตกตื่น จนถึงขนาดเรียกร้องหาสงคราม!!”
(8 มิ.ย. 68) พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...
แค่ใช้ 1/2แสนก็ไม่แม่นแล้ว
เขมรยึดถือแผนที่ 1ต่อ 200,000 ไทยใช้แผนที่ 1ต่อ 50,000(L 7018) อธิบายง่ายๆว่า ถ้าขีดเส้น 1เส้นลงไปในแผนที่ 1ต่อ 200,000 จะมีความกว้าง 200 เมตร
ส่วนใน 1ต่อ 50,000 จะมีความกว้าง 50 เมตร ซึ่งต่างกันถึง 4 เท่า เหมือนเขมรเอาเมจิกหัวใหญ่ ทู่ ส่วนไทยใช้เมจิกหัวเล็กแหลม ขีดเส้นบนแผนที่ หัวใหญ่ทู่จะกินดินแดนของอีกฝ่ายไปโดยอัตโนมัติ เกิดความคลาดเคลื่อนสูงกว่าไทยแน่นอน คาดเดาต่อไปว่า
1 เขมรน่าจะทำแผนที่ 1ต่อ 50,000 ไม่ได้ เพราะการทำจะต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า แต่อาจมีใช้จากการสนับสนุนจากต่างประเทศ
2 และถ้าใช้แผนที่ 1/200,000 การยิงอาวุธระยะไกล ไม่แม่นแน่นอนครับ
อธิบายด้วยภาพชัดเจน ว่าช่องบกที่ปะทะ อยู่ในไทยครับ
เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 68) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากที่มีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน กรณีการพบเงินสด 12 ล้านบาทถูกทิ้ง ที่คอนโดย่านเมืองทองธานี โดยมี นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนว่าเป็นเจ้าของเงิน และพบว่าชายคนดังกล่าวมีสถานะเป็นสามีของข้าราชการ ป.ป.ช.ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งยังเป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยนั้น
สำนักงาน ป.ป.ช.ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เป็นสามีของข้าราชการท่านหนึ่งระดับผู้อำนวยการของสำนักงาน ป.ป.ช.จริง และเงินสด จำนวน 12 ล้านบาท ดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของรายการในบัญชีทรัพย์สินที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ ในประเด็นการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการของคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และคุณวุฒิของบุคคลนั้นๆ ทั้งนี้หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสำนักงาน ป.ป.ช.จะชี้แจงในขั้นตอนต่อไป
วันที่ (8 มิ.ย.68) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “จิตตปัญญาศึกษา” Mini GTO ณ อาคารโรงยิมเนเซียม อบจ.นนทบุรี ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยมีผู้บริหาร คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกว่า 1,900 คน
โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา และคณะเข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด
พันตำรวจเอกธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “คุณลักษณะผู้นำ 5 ประการ” ได้แก่ ความเข้มแข็ง ความรวดเร็ว ความจริงจัง ความมั่นคง และคุณธรรม ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้นำทางการศึกษา ในปัจจุบัน
จากนั้น ผู้เข้าร่วมอบรมได้ร่วมกิจกรรมกลุ่ม “รู้จัก รู้จริง รู้แจ้ง” ที่ออกแบบโดย GTO Academy เพื่อเสริมสร้างพลังภายในและพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างสมดุลทั้งด้านจิตใจ ความคิด และการปฏิบัติจริงในบริบทของการทำงาน
การอบรมครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง วิถีจิตตปัญญาศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นการเรียนรู้จากภายในสู่ความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร
หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “พิธีสถาปนาและการแถลงนโยบายคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 ประจำปีบริหาร พ.ศ. 2568 – 2569”
วันเสาร์ที่ (7 มิ.ย. 68) เวลา 13.00 – 17.00 น. ณ ห้องทองกวาว 1 ศูนย์บริการวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (UNISERV CMU) หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จัดงาน “พิธีสถาปนาและการแถลงนโยบายคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 ประจำปีบริหาร พ.ศ. 2568 – 2569” โดยมี ดร.กอบกิจ อิสรชีววัฒน์ ประธานกรรมการ กล่าวต้อนรับ และนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความยินดี
หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 นำโดย ดร.กอบกิจ อิสรชีววัฒน์ ประธานกรรมการ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) "เป็นองค์กรผู้นำ เพื่อร่วมพัฒนาเชียงใหม่สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจนวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน ส่งเสริมผู้ประกอบการ พัฒนาศักยภาพแรงงาน ขยายโอกาสการค้า และยกระดับเมืองสู่อนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความสามารถแข่งขันระดับโลก" ภายใต้แนวคิด "Chiangmai Forward: Empowering for smart and sustainable future" ผ่านพันธกิจหลัก 6 ด้าน ได้แก่
ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม "ผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี" สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวและความยั่งยืน "ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนในธุรกิจ" ขยายการค้าและการเชื่อมโยงสู่ระดับโลก "สร้างโอกาสทางการค้าสู่ตลาดสากล" พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และแรงงาน "ส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มขีดความสามารถของแรงงาน" การขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองแห่งอนาคต (Smart & Creative City) พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี ส่งเสริม "Chiang Mai Wellness & Cultural Tourism" และผลักดันธุรกิจด้านศิลปะ วัฒนธรรม และ Digital Content ให้สามารถขยายไปสู่ตลาดโลก เสริมสร้างความเข้มแข็งของหอการค้า "เพิ่มศักยภาพองค์กรและสร้างมูลค่าให้กับสมาชิก"
การจัดงานครั้งนี้ เพื่อแนะนำ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการ YEC ตลอดจนการแถลงวิสัยทัศน์ พันธกิจ และแผนการดำเนินงาน อีกทั้งรูปแบบการจัดงานจะคำนึงถึง “Carbon Neutrality” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 120 ท่าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่าย อันได้แก่ สมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานราชการ ผู้บริหารจากองค์กรภาคเอกชน ผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบและร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ ภายในการจัดงานยังได้รับเกียรติจาก ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มาร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ESG ไม่ใช่ภาระ แต่คือโอกาสของ SME ไทยในยุคใหม่” และปิดท้ายด้วยจากสรุปผลการจัดงานฯ ภายใต้แนวคิด “Carbon Neutrality” โดย รศ.ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาทิ การใช้ทรัพยากรตลอดการจัดงาน ที่ก่อให้เกิดค่าคาร์บอนไดออกไซด์และแนวทางการชดเชยค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นต่อไป