Thursday, 15 May 2025
ECONBIZ NEWS

'แบงก์ชาติ' แจง!! ตัดเงินบัตรยับ-เงินหายจากบัญชี ผลจากธุรกรรมต่างประเทศ ยัน!! ไม่มีข้อมูลรั่ว

ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยชี้แจงกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมาก 'ไม่ใช่แอปดูดเงิน' และไม่มีรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เกิดจากธุรกรรมชำระค่าสินค้า บริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แนะให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ธนาคารเพื่อระงับธุรกรรมทันที 

ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้ชี้แจงกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมากตามที่ปรากฏข่าวพบลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจำนวนมากประสบปัญหาการทำรายการชำระเงินโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้รับทราบปัญหาและได้ตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าว

“นายก” รับมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร ม.ค. - ส.ค. 64 ขยายตัว 11.58% 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.58%  ตั้งแต่เดือนม.ค. - ส.ค.2564 ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ขยายตัว 1.2% โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์สำคัญของประเทศไทยที่มีมูลค่าการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ทุเรียนและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 103,958 ล้านบาท มังคุดและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 16,705 ล้านบาท ยางแท่ง มูลค่าการส่งออก 54,752 ล้านบาท น้ำยางข้น มูลค่าการส่งออก 32,172 ล้านบาท ยางแผ่นรมควัน มูลค่าการส่งออก 22,729 ล้านบาท มันเส้น มูลค่าการส่งออก 28,696 ล้านบาท แป้งมันสำปะหลัง มูลค่าการส่งออก 33,259 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมมีการขยายตัวได้ดี 

รวมถึงการมีตลาดส่งออกหลักที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาขยายช่องทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี อาทิ FTA อาเซียน-จีน รวมทั้งภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลาง เป็นต้น

เครือซีพี ยัน ‘เจ้าสัวธนินท์’ ถือสัญชาติไทย เตือนเผยแพร่-ส่งต่อข้อมูลเท็จ ผิดกฎหมาย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ออกประกาศชี้แจงข่าวลือ กรณีมีผู้เพยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเรื่องการถือสัญชาติของ “ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์” ความว่า

ตามที่มีข้อมูลอันเป็นเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน เกี่ยวกับการถือสัญชาติของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ นั้น ได้ก่อให้เกิดความสับสนและสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมอย่างมาก

สำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขอชี้แจงอย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้ ว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นคนไทย กำเนิดในประเทศไทยและถือสัญชาติไทย

'แบงก์ชาติ' ฟันธงเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุด แต่คนว่างงานยังวิกฤต พุ่ง 3.4 ล้านคน

15 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ครั้งที่ 6/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2564 ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และการส่งออกที่ชะลอลงกว่าคาด แต่พัฒนาการด้านวัคซีนที่ดีขึ้นชัดเจนและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยประเมินว่า ปี 2564 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ 0.7% และในปี 2565 ที่ระดับ 3.9% จากการทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญ ตามความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทยอยฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ขณะที่การส่งออกจะยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหา global supply disruption 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังเผชิญความไม่แน่นอนสูง โดยต้องติดตาม 1.) แนวโน้มการระบาดและการกลายพันธุ์ของไวรัส รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยว 2.) การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นภาคเอกชนหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ซึ่งจะส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุน 3.) ความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะต่อไป และ 4.) ปัญหา supply disruption และต้นทุนค่าขนส่งสินค้าทางเรือ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกสินค้า

“กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/2564 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะข้างหน้า แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่เลื่อนมาจากช่วงก่อนหน้า (pent-up demand) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากพัฒนาการด้านวัคซีนที่ปรับดีขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการด้านวัคซีนทั้งการนำเข้าและการกระจายตามแผนของรัฐบาล รวมถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาดหากการระบาดกลับมารุนแรงขึ้น” 

“นายก” ปลื้ม ส่งออกสินค้าเกษตร ม.ค. - ส.ค. 64 ขยายตัว 11.58 เปอร์เซ็นต์ เร่งเจรจาประเทศคู่ค้า ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรไทยสู่ตลาดโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.58  ตั้งแต่เดือนม.ค. -ส.ค.ปี 2564  ฝขณะที่ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 1.2 โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์สำคัญของประเทศไทยที่มีมูลค่าการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ทุเรียนและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 103,958 ล้านบาท   มังคุดและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 16,705 ล้านบาท ยางแท่ง มูลค่าการส่งออก 54,752 ล้านบาท น้ำยางข้น มูลค่าการส่งออก 32,172 ล้านบาท ยางแผ่นรมควัน มูลค่าการส่งออก 22,729 ล้านบาท มันเส้น มูลค่าการส่งออก 28,696 ล้านบาท แป้งมันสำปะหลัง มูลค่าการส่งออก 33,259 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมมีการขยายตัวได้ดี  รวมถึงการมีตลาดส่งออกหลักที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาขยายช่องทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี อาทิ  FTA อาเซียน-จีน  รวมทั้งภูมิภาคอื่น เช่น ตะวันออกกลาง เป็นต้น

ฟรุ้ทบอร์ด สั่งด่วนแนวทางบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) ว่า ได้รับทราบผลการดำเนินงานการบริหารจัดการผลไม้ในรอบฤดูกาลผลิตที่ 2/2564 โดยการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ของภาคเหนือ (ลำไย) และภาคใต้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ในภาพรวมสอดคล้องกับแนวทางบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 - 2566 โดยจังหวัดสามารถบริหารจัดการผลไม้แบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง โดยผ่านกลไกของคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ในเชิงคุณภาพสอดคล้องตามยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ.2558 - 2564 และในเชิงปริมาณที่เน้นการจัดสมดุลอุปสงค์และอุปทาน

โดยผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย) ปริมาณ 671,308 ตัน และผลไม้ภาคใต้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ปริมาณ 785,459 ตัน มีการกระจายผลผลิตผ่านกลไกตลาดปกติ โดย คพจ. และเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตในราคาไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิต และราคาเฉลี่ยของผลผลิตตลอดฤดูกาลสูงกว่าราคาต้นทุนการผลิตไม่น้อยกว่า 30%

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด– 19 ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้กระทบต่อแผนการบริหารจัดการผลไม้ทำให้ทั้งการส่งออก การแปรรูป และการกระจายในประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนนั้น ได้มีการจัด Focus group วิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคการบริหารจัดการผลไม้ โดยร่วมกันระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเชิงตั้งข้อสังเกตถึง “ปัญหาและอุปสรรค” ใน ประเด็นโครงสร้าง ระบบ และการบริหารจัดการ Fruit Board ประเด็นกลไกการทำงานในภาวะวิกฤต ประเด็นแผนงาน โครงการ และงบประมาณ 

‘บีโอไอ’ โชว์เทพ!! สร้างความสำเร็จจับคู่ธุรกิจผ่านออนไลน์ 248 คู่ เชื่อมโยงมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนกว่าพันล้านบาท

บีโอไอเผยตัวเลขการจัดงาน SUBCON Thailand 2021 Virtual Edition รูปแบบออนไลน์เต็มรูปแบบครั้งแรก จับคู่ธุรกิจได้มากถึง 248 คู่ คาดสร้างมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนในอนาคต 952 ล้านบาท ตลอด 8 วันพบผู้เข้าชมงาน 2,833 ราย มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังสัมมนา 29 หัวข้อผ่านแพลตฟอร์มมากถึง 2,695 คน 

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ผลการจัดงาน SUBCON Thailand 2021 Virtual Edition งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และการจับคู่ธุรกิจชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ระหว่างวันที่ 20 - 27 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่จัดงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ และตลอดการจัดงาน 8 วัน มีผู้เข้าชมงานจำนวน 2,833 ราย จาก 16 ประเทศ โดย 5 อันดับแรกของผู้เข้าชมงาน คือ ไทย, อินเดีย, เวียดนาม, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ตามลำดับ ในกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจที่เป็นไฮไลต์ของงานทุกปี

สำหรับปีนี้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ ผู้ซื้อในประเทศที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างชัดเจน อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์, อีซูซุมอเตอร์, ดูคาติ มอเตอร์, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ และ อีเลคโทรลักซ์ เป็นต้น ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสะท้อนการเปลี่ยนแปลงการจัดการซัพพลายเชนของบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้ โดยมีการปรับแผนการจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนในอนาคตจากแหล่งที่มีความเสี่ยงลดลง หรือกระจายความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น แทนการซื้อจากแหล่งเดียว ส่วนผู้ซื้อจากต่างประเทศก็จะมาจากแหล่งที่เป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญๆ ของโลก เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี, ยุโรป, สหรัฐอเมริกา, อินเดีย และอาเซียน เกิดการจับคู่ธุรกิจได้มากถึง 248 คู่ สร้างมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนประมาณ 952 ล้านบาท 

รมว.เฮ้ง เร่งฝึกอาชีพทั่วประเทศหลังผู้ติดเชื้อโควิดลดลง

ก.แรงงาน ใช้โอกาสยอดผู้ติดเชื้อโควิดลดเปิดฝึกทั่วประเทศ สร้างแรงงานฝีมือป้อนสถานประกอบกิจการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกเมษายน 2564 เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติมากยิ่งขึ้น รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและกำลังแรงงาน ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานโดยการกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รักษาสภาพการจ้างงาน เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวและนโยบายแฟคตอรีแซนด์บ็อกซ์ ส่งผลให้สถานประกอบกิจการหลายแห่งเริ่มฟื้นและเดินหน้าธุรกิจเต็มรูปแบบอีกครั้ง จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน มุ่งพัฒนายกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ   สร้างอาชีพสร้างรายได้ ขับเคลื่อนประเทศหลุดพ้นวิกฤตโควิด-19 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันและด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ              

โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ จัดฝึกอบรมเพื่อเร่งพัฒนาทักษะฝีมือทั้งหลักสูตร Upskill และ Reskill และ New Skill ให้แก่กำลังแรงงานทั่วประเทศ โดยเน้นให้สามารถทำงาน สร้างรายได้ ตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่กระทรวงแรงงานโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่กำลังแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และประชาชนทั่วไปนั้น กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดหลักสูตรเตรียมเข้าทำงานใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมระหว่าง 3- 8 เดือน    

"จุรินทร์" เห็นด้วยเปิดประเทศ 1 พ.ย. เชื่อการท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นจีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พ.ย.ว่า ตนเห็นด้วย เพราะหลักสำคัญที่ตนเคยพูดคือเราต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตโควิด19ไปให้ได้ ต้องยอมรับความจริงว่าสองเครื่องยนต์หลักที่ช่วยประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือการส่งออกกับการท่องเที่ยว และเมื่อเราเจอสถานการณ์โควิด เราเหลือแค่เพียงการส่งออก ส่วนการท่องเที่ยวนั้นหายไปเยอะ จากตัวเลขก่อนสถานการณ์โควิดคิดเป็น 11%ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)  แต่ช่วงวิกฤตโควิดจนถึงวันนี้เหลือเพียงแค่เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ขณะที่การส่งออกเพิ่มไปถึง 51% จึงถือว่าการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อเราเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา โดยมีเงื่อนไขดูแลมาตรการโควิดควบคู่กันไป ก็จะมีการท่องเที่ยวเติมเข้ามา ทำให้จีดีพีของเราเพิ่มขึ้นไปได้  ส่วนเรื่องของสถานการณ์นั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ตอบ แต่ตนมองว่าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ทส. ขานรับประกาศ "บิ๊กตู่" เปิดประเทศ 1 พ.ย. รับนทท.เข้าอุทยานฯ วางมาตรการนิวนอร์มอล กำชับอย่าทำแหล่งธรรมชาติเสื่อมโทรม 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนของ ทส.  หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พ.ย.ว่า ขอบคุณนายกฯที่ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย. ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาตนกำชับหน่วยงานของ ทส. โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ และองค์การสวนพฤกษศาสตร์ ในการดำเนินการปัดกวาดเช็ดถูและปรับปรุง และทำให้เป็นสถานที่ ที่ออกแบบ Friendly Design หรือพื้นที่สาธารณะที่เป็นมิตรกับผู้คน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ทุกสถานะ และกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะกิจกรรมดำน้ำหรือเดินป่า ต้องไม่ทำให้ทรัพยากรของเราโดนทำลายจนเสื่อมโทรม เหมือนตอนช่วงก่อนสถานการณ์โควิด19 ห้ามไม่ให้อุทยานกลับไปมีสภาพสกปรกและเสื่อมโทรมเป็นอันขาด เพราะโอกาสที่เราจะได้พักปรับปรุงเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top