Thursday, 9 May 2024
The States Times World Team

ทำเสียชื่อกันสุด ๆ เมื่อพบแก๊งมิจฉาชีพชาวจีนแอบผลิตวัคซีน Covid-19 ปลอม โดยใส่น้ำเกลือธรรมดา อ้างสรรพคุณเป็นวัคซีน Covid-19 เตรียมจำหน่ายทั้งในจีน และต่างประเทศ

หลังจากที่มีการพบวัคซีนปลอม กระจายเกลื่อนในหลายเมืองของจีน ตำรวจจากมณฑลเจียงซู ปักกิ่ง และ ซานตง ได้ร่วมสรรพกำลังสืบสาวจนถึงต้นตอ เพื่อทลายแก๊งวัคซีนปลอมให้ได้ ล่าสุดพบตัวแล้ว สามารถจับกุมตัวได้มากกว่า 80 พร้อมของกลางที่ยึดได้พร้อมส่งอีกกว่า 3,000 โดส

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ แก๊งวัคซีนปลอม มาจากโรงงานผลิตวัคซีนแห่งหนึ่ง ที่แหล่งข่าวจีนไม่ได้ระบุชื่อ และเริ่มทำธุรกิจหลอกขายวัคซีนปลอมมาตั้งแต่กันยายน 2020 ที่ผ่านมาแล้ว โดยใช้น้ำเกลือแทนตัวยาที่เป็นวัคซีนจริงๆ และจัดส่งไปขายแล้วหลายเมือง ในราคาสูง แถมเตรียมที่จะผลิต ล็อตใหญ่ส่งออกต่างประเทศด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะแอบลักลอบส่งวัคซีนปลอมไปขายในทวีปแอฟริกา

ซึ่งยังโชคดีที่ช่วงนี้ทางการจีนยังเข้มงวดเรื่องการเดินทางเข้า-ออก นอกประเทศ จึงเชื่อว่ายังไม่น่ามีวัคซีนปลอมกระจายออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ส่วนวัคซีนปลอมที่กระจายส่งภายในจีน ทางการจีนยืนยันว่าติดตามได้หมดแล้ว และหากแก๊งวัคซีนปลอมใช้น้ำเกลือในการผลิตทั้งหมด ก็จะไม่มีอันตรายกับผู้ที่รับวัคซีนปลอมไปแล้ว แต่ก็เป็นข่าวที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นไม่น้อยทีเดียว

เนื่องจากก่อนหน้าที่แก๊งวัคซีนปลอมจะถูกจับ ได้ส่งขายวัคซีนปลอมออกขายไปแล้วไม่ทราบจำนวน รวมๆไปกับวัคซีนแท้ ที่อาจเล็ดลอดการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงที่วัคซีน Covid-19 มีความต้องการสูงมากในท้องตลาด ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า มีชาวญี่ปุ่นออกมาร้องเรียนว่าได้วัคซีน Covid-19 ที่เชื่อได้ว่าเป็นของปลอมจากจีน ที่เคยมีเรื่องมีราวกับทางสถานทูตจีนมาแล้ว ที่ออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง

แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรกับผู้ต้องหาคดีวัคซีนปลอมในครั้งนี้ แต่หากอ้างอิงจากฎหมายว่าด้วยเรื่องยา และวัคซีนฉบับใหม่ของจีนระบุโทษไว้ว่า ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายยา หรือวัคซีนปลอมมีโทษปรับสูงตั้งแต่ 15 - 50 เท่าของมูลค่าสินค้า ที่ต้องมาพิสูจน์กันอีกทีว่าจำหน่ายไปแล้วกี่ชุด

ซึ่งก็เคยมีคดีศึกษาของการผลิตยา หรือซีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่เกิดขึ้นในบริษัทยาฉางชุน ฉางเฉอ ในมณฑลซานตง ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคคอตีบจำนวน 250,000 ชุด ก็โดนโทษปรับไป 3.4 ล้านหยวน ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากหากเทียบกับผลกำไรของบริษัทต่อปีที่สูงถึง 566 ล้านหยวน

ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงมีการปรับแก้กฎหมายใหม่เพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้น แล้วก็โดนกับบริษัทยาเจ้าเดิม ที่ผลิตวัคซีนพิษสุนัขบ้าไม่ได้มาตรฐาน คราวนี้เจอโทษปรับไปถึง 9 พันล้านหยวน ซึ่งผู้บริหารก็ถูกจับกุม ดำเนินคดีด้วย

ก็หวังว่าจีนจะเอาจริง ตามจับแก๊งวัคซีน Covid ปลอมได้หมดจดจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเสียชื่อสถาบันจีนหมด


อ้างอิง

https://www.globaltimes.cn/page/202102/1214637.shtml

https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3120083/chinese-police-detain-80-selling-fake-covid-19-vaccines

https://edition.cnn.com/2021/02/01/asia/china-fake-covid-vaccines-intl/index.html

คนจะซวย ช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อหนุ่มไต้หวัน ที่ขอเปิดเผยแค่ว่าชื่อนายเฉิน ถูกทางการไต้หวันปรับเงินถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากฮ่องกงในวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว

แต่ทว่า เรื่องราวนี้คดีพลิก เพราะนายเฉินอ้างว่าตัวเขาคือเหยื่อ ไม่ใช่จำเลยสังคมที่อยู่ดีๆก็ออกมาเดินเพ่นพ่านทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงกักตัว

นายเฉินเล่าว่า ตัวเขาเพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกง และทำเรื่องว่าจะไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้านเพื่อนในเมืองหนานโถว

แต่ระหว่างที่อยู่บ้านเพื่อน กลับพบนักทวงหนี้ จึงรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังหนีเจ้าหนี้นอกระบบ แล้วนักทวงหนี้ก็เข้าใจว่าตัวเขาคือลูกหนี้ จึงเข้ามาข่มขู่รีดไถเอาเงิน และก็ยังทำร้ายร่างกายเขาอีก บังคับให้เขาจ่ายเงินให้ได้

นายเฉิน บอกว่านักทวงหนี้บีบให้เขาต้องรีบเดินทางกลับบ้านตัวเองเพื่อไปเอาเงิน และยังประกบติดตามตัวเขาตลอดเวลา หลังจากที่จ่ายเงินบางส่วนไป ก็เขารีบไปหาตำรวจ แต่กลับถูกจับ ปรับเงิน 1 ล้านเหรียญข้อหาฝ่าฝืนมาตรการกักตัว

สำหรับกฎระเบียบเรื่องการกักตัว 14 วันในไต้หวันถือเป็นกฎเหล็กสุดเข้ม หากใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1 ล้านเหรียญไต้หวันทุกกรณี โดยไม่มีข้ออ้างว่าจะออกจากสถานที่กักตัวนานแค่ไหน และเพื่ออะไร

ดังตัวอย่างเช่น คนงานฟิลิปปินส์ที่ถูกกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเกาสง แค่เดินออกจากห้องแต่ 8 วินาที ก็โดนปรับ 1 ล้านทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่สำหรับเคสของนายเฉิน ทางการไต้หวันยังพอปรานีอยู่บ้าง ที่จะยกเว้นโทษปรับให้ จากคำให้การว่าเขาถูกบีบบังคับ และลักพาตัวให้ออกจากสถานที่กักตัว และกลายเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจะละเว้นโทษปรับนับล้านจากการฝ่าฝืนมาตรกสรกักตัวให้

แต่ทั้งนี้ ข้ออ้างเรื่องการถูกนักทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และรีดไถเงิน จะยังคงสืบสวนต่อว่าเป็นความจริงหรือไม่

หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคำบอกเล่าของนายเฉินเป็นเรื่องจริงหล่ะก็ คงได้คดีพลิกอีกรอบ และนายเฉิน ก็เปิดบ้านรองานเข้าได้เลย เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินล้านแล้ว ยังมีสิทธิ์คิดคุกข้อหาแจ้งความเท็จอีกกระทงด้วย


อ้างอิง

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4113852

https://edition.cnn.com/travel/article/taiwan-quarantine-kidnap-intl-hnk-scli/index.html

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ ขู่คว่ำบาตรพม่ารอบใหม่ หลังกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจและจับกุมเหล่าผู้นำรัฐบาลพลเรือน ในนั้นรวมถึงนางอองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

ไบเดน กล่าวโจมตีกองทัพพม่าต่อการทำรัฐประหาร เรียกมันว่าเป็นการจู่โจมโดยตรงต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้เหตุรัฐประหารในเมียนมาเรียกเสียงประณามดังกึกก้องในระดับสากล

“สหรัฐฯ ปลดมาตรการคว่ำบาตรพม่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บนพื้นฐานของความคืบหน้าสู่ประชาธิปไตย” ไบเดนระบุในถ้อยแถลง “การก้าวถอยหลังของกระบวนการดังกล่าวทำให้เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องทบทวนกฎหมายและอำนาจคว่ำบาตรของเราในทันที ตามด้วยการดำเนินการอย่างเหมาะสม สหรัฐฯ จะยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย เมื่อว่าที่ไหนก็ตามที่มันถูกโจมตี”

ขณะเดียวกัน ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ (1 ก.พ.) ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน เตรียมให้ข้อมูลสรุปแก่สภาคองเกรส ตามหลังข่าวคราวอันปั่นป่วนอย่างมากเกี่ยวกับเหตุรัฐประหารในพม่า และบอกว่าสภาคองเกรสพร้อมทำงานกับรัฐบาลในการคลี่คลายสถานการณ์

“ผมหวังว่าเราสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในแบบร่วมมือกันทั้งสองพรรค เพื่อสรุปมาตรการที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ของอเมริกาและเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวพม่า” ชูเมอร์กล่าวระหว่างเปิดประชุมวุฒิสภา

พม่าอยู่ภายใต้โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยของตะวันตกมานานหลายทศวรรษและเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จบางประการ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการก้าวถอยหลังสู่ระบอบเผด็จการ ขณะเดียวกันก็มีความผิดหวังใหญ่หลวงต่อตัวของนางอองซานซูจี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เธอไม่ยอมขัดขวางห้ามปรามกองทัพปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญาทางตะวันตกของประเทศ

ทั้งนี้ พม่ากำลังหลุดพ้นการปกครองโดยทหารที่เข้มงวดนานหลายทศวรรษ และถูกนานาชาติโดดเดี่ยวที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1962 แต่เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ (1 ก.พ.) ถือเป็นการร่วงจากอำนาจอันสุดช็อกของอองซานซูจี ที่เคยคว้ารางวัลโนเบลสันติภาพในปี 1991 ต่อกรณีที่เธออุทิศตัวส่งเสริมประชาธิปไตยและมนุษยชน

อองซานซูจี อยู่ภายใต้คำสั่งกักบริเวณอยู่แต่ในบ้านพักมานานหลายปี ในขณะที่เธอพยายามผลักดันประเทศของเธอมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย จากนั้นก็กลายเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของพม่า หลังจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งปี 2015

สำหรับการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยครั้งที่ 2 ของพม่า นับจากที่ประเทศนี้หลุดพ้นจากการปกครองของทหารอย่างยาวนานถึง 49 ปีในปี 2011

เอ็นแอลดีชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดด้วยคะแนนเสียงกว่า 80% มากกว่าการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว

ทว่า ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านา กองทัพออกมาโวยว่ามีความผิดปกติหลายอย่างในการเลือกตั้ง รวมทั้งยังอ้างว่ามีการโกงคะแนนกว่า 10 ล้านคะแนน


ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000010262

เรื่องเล่าของหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เธอเป็นสาวไทยที่ใช้ชีวิตที่ประเทศฟินแลนด์ มาเปิดเผยเรื่องราวหลังการฉีดวัคซีน และเล่าถึงบรรยากาศประเทศฟินแลนด์กับมาตรการป้องกันโควิด -19

เรื่องเล่าของหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เธอเป็นสาวไทยที่ใช้ชีวิตที่ประเทศฟินแลนด์ มาเปิดเผยเรื่องราวหลังการฉีดวัคซีน และเล่าถึงบรรยากาศประเทศฟินแลนด์กับมาตรการป้องกันโควิด -19

ดิฉันเป็นคนไทย ทำงานอยู่ที่เมืองโปริ ประเทศฟินแลนด์ ด้วยอาชีพคือเป็น Nursing home มีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน ซึ่งก็จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโควิด – 19 อยู่พอสมควร ทำให้ทางการจัดให้เป็นกลุ่มบุคคลกลุ่มแรกๆ ที่ได้สิทธิ์รับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 แต่ทางต้นสังกัดของดิฉันก็ไม่ได้บังคับว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องฉีดแต่อย่างใด . ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซัน ดิฉันตัดสินใจอยู่นานพอสมควร เพราะกลัวผลข้างเคียงที่จะตามมาหลังจากที่ฉีดไปแล้ว เพื่อน ๆ ร่วมงานหลายคนก็มีความวิตกเช่นเดียวกัน เพราะอย่างที่ติดตามข่าวกันมาตลอด วัคซีนต่าง ๆ ที่มีในตอนนี้ ใช้ระยะเวลาในการวิจัยไม่นาน แต่สุดท้ายตนเองก็ตัดสินใจเข้ารับการฉีด เพราะคิดว่าเป็นการป้องกันในเบื้องต้น และส่วนตัวก็เข้ารับการฉีดวัควีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำอยู่แล้ว

วัคซีนที่ใช้ฉีดคือ วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ระหว่างที่ฉีดรู้สึกหนักและหน่วงแขนเหมือนการฉีดยาทั่วไป แต่หลังจากฉีดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้นั่งพัก 15 นาที เพื่อรอดูอาการข้างเคียง ผลปรากฎว่า ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ . หลังจากที่ฉีดเข็มแรกจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ตามมา ส่วนตัวก็หวังว่าจะไม่เกิดความปกติใด ๆ เกิดขึ้น แม้ว่าที่ฟินแลนด์จะเคยมีข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับวัคซีนมาแล้วถึง 3 ราย แต่ผู้ที่เสียชีวิตโดยรวมก็เป็นคนสูงอายุและมีโรคประจำตัว

ดิฉันค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก แม้จะไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลเป็นหลัก แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องไปโรงพยาบาลกับคนไข้ที่ดูแลบ้าง เราจึงมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ซึ่งที่นี่ หากคนไข้มีประวัติเคยเดินทางไปโรงพยาบาลมาก่อน เวลากลับบ้านจะต้องกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันอีก

อย่างที่บอกไป ถึงตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างยังเป็นปกติดี และกำลังรอระยะเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ซึ่งเราก็ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีค่ะ...

เบอร์ลิน มาร์คุส เซอเดอร์ มุขมนตรีแห่งรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมนี ออกมาเรียกร้องทางการยุโรปพิจารณาการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของจีนและรัสเซีย เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนวัคซีนในขณะนี้

"หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปควรทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนของรัสเซียและจีนโดยเร็วที่สุด" เซอเดอร์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดีเวลท์ (Die Welt) "คุณภาพของกลยุทธ์ป้องกันโรคโควิด-19 ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถควบคุมปัญหาการฉีดวัคซีนได้เร็วเพียงใด"

เซอเดอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคคริสเตียนสังคมประชาธิปไตย (CSU) ของเยอรมนี ได้ปรับใช้มาตรการอันเข้มงวดและเหมาะสมกับการควบคุมโรคระบาดใหญ่ในรัฐบาวาเรีย โดยการเรียกร้องของเซอเดอร์ครั้งนี้เกิดขึ้นขณะยุโรปและผู้ผลิตวัคซีนอย่างแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการจัดส่งวัคซีนล่าช้า ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ - ไบออนเทค (Pfizer - BioNTech) ถูกจัดส่งมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้หลายประเทศในยุโรปได้ชะลอหรือระงับการฉีดป้องกันโรคโควิด-19 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัคซีน ขณะในเยอรมนีประชาชนอาจต้องเผชิญกับความล่าช้าของการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10 สัปดาห์

ด้านเยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงฯ กล่าวว่าเขายินดีจะใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากรัสเซียหรือจีน หลังข้อพิพาทเกี่ยวกับความพร้อมของวัคซีนทวีความรุนแรงมากขึ้น

"หากวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะผลิตในประเทศใดก็สามารถเอาชนะโรคระบาดใหญ่ได้อย่างแน่นอน" ชปาห์น กล่าว


ที่มา: https://www.xinhuathai.com/high/173743_20210201

บัญชีเฟซบุ๊กที่ได้รับการยืนยันของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้เผยแพร่คำแถลงในนามของนางอองซานซูจี ที่ถูกควบคุมตัวว่า ประชาชนไม่ควรยอมรับการรัฐประหารของกองทัพและควรประท้วง

พรรค NLD ระบุว่า คำแถลงที่ถูกอัปโหลดขึ้นบนหน้าเพจเฟซบุ๊กที่พรรคใช้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในวันนี้ (1) ได้เขียนขึ้นก่อนที่การรัฐประหารในวันจันทร์ (1) จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของพรรค NLD เพื่อขอความคิดเห็นได้

ซูจีไม่ปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะตั้งแต่เธอถูกควบคุมตัวในช่วงเช้ามืดพร้อมกับบุคคลสำคัญของพรรคและนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่ง

“การกระทำของกองทัพเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศถอยกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองระบบเผด็จการ เราขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ยอมรับสิ่งนี้ ตอบสนองและประท้วงอย่างเต็มที่ ต่อต้านการรัฐประหารโดยกองทัพ” คำแถลงที่มีชื่อของซูจี แต่ไม่ใช่ลายเซ็น ระบุ

คำแถลงดังกล่าวออกโดยวิน เต็ง หัวหน้าพรรค NLD ที่ยังมีข้อความที่เขียนด้วยลายมืออยู่บริเวณด้านล่าง เน้นย้ำว่า ถ้อยแถลงเหล่านี้เป็นความจริงและสะท้อนถึงความประสงค์ของซูจี โดยระบุว่า “ผมขอสาบานว่าคำร้องต่อประชาชนนี้เป็นถ้อยแถลงที่แท้จริงของอองซานซูจี”

คืบหน้า รัฐประหาร เมียนมา หลังกองทัพได้คุมตัว ‘ออง ซาน ซูจี’ที่ ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา และ ‘วิน มิ่นท์’ ประธานาธิบดีเมียนมา ล่าสุด ‘มิน อ่อง หล่าย’ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยึดอำนาจบริหาร-นิติบัญญัติ-ตุลาการเบ็ดเสร็จ พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉิน 1 ปี

หลังจากที่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ระบบสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา ถูกตัดขาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารได้เดินทางไปยังบ้านของหัวหน้าคณะรัฐมนตรีประจำภูมิภาคต่าง ๆ  รวมถึงนาง ออง ซาน ซูจี และประธานาธิบดี วินต์ มินต์ พร้อมแกนนำพรรคคนอื่น ๆ ไปควบคุมตัวไว้

ล่าสุด พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี พร้อมเข้ายึดอำนาจทั้ง ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการทั้งหมด พร้อมแต่งตั้ง พล.อ. มิน ส่วย รองประธานาธิบดี เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว

สำหรับปมใหญ่ที่ทำให้กองทัพเมียนมาใช้เป็นมูลเหตุแห่งการยึดอำนาจ มาจากการพบหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้ง เช่น ปลอมบัญชีรายชื่อผู้ใช้สิทธิ์ ราว 8.6 ล้านรายชื่อจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 37 ล้านคน และมองว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.พม่า) เอื้อประโยชน์กับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ( NLD)

ทั้งนี้ หลังจากพรรค NLD ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว กองทัพเมียนมาและบรรดาพรรคฝ่ายค้านได้ออกมาคัดค้านผลการเลือกตั้ง โดยอ้างว่ามีการโกงเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง

โดยทางพรรค NLD ภายใต้การนำของนางซู จี ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อ 8 พ.ย. 2563 อย่างถล่มทลาย ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยที่ 2 ด้วยการคว้าที่นั่งในสภาไปถึง 346 ที่นั่ง แบ่งเป็น สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง 258 ที่นั่ง (เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ที่นั่ง) และสภาชนชาติ หรือสภาสูง 138 ที่นั่ง (เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ที่นั่ง) ขณะที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ได้เสียงในสภาล่าง 26 ที่นั่ง และสภาชนชาติ 7 ที่นั่ง (ลดลงจากเดิมสภาละ 4 ที่นั่ง)

ซีแอตเติลอลหม่าน ตู้แช่เก็บสต็อควัคซีน Covid-19 เสียกลางดึก! ต้องเกณฑ์คนอเมริกันมาเข้าคิวฉีดวัคซีนด่วนตอนเที่ยงคืน ขณะที่ประชาชนฝ่าลมหนาวออกจากบ้านเข้าคิวฉีดหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

งานเข้าโรงพยาบาลในซีแอตเติล เมื่อมีข่าวด่วนแจ้งเข้ามาว่าตู้แช่วัคซีนมาเสียเอาตอนกลางดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตู้แช่ที่เก็บสต็อควัคซีน Covid-19 ของ Moderna มากถึง 1,650 โดส

หลังจากที่รับแจ้ง เวลาเริ่มนับถอยหลังทันที เนื่องจากวัคซีนของ Modern ต้องเก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิไม่ถึง วัคซีนก็จะเสีย เมื่อคำนวนเวลาแล้ว ก็ประเมินได้ว่าจะสามารถคงความเย็นได้ถึงแค่ตี 5 ของเช้าวันศุกร์

บริษัทตู้แช่ Kaiser Permanente จึงต้องรีบกระจายวัคซีนทั้งหมดไปยังศูนย์การแพทย์ในเมืองซีแอตเติล 2 แห่ง ได้แก่ UW Medical Center วิทยาเขต Northwest และ Montlake กับ Swedish Medical Center ซึ่งก็สร้างความโกลาหลไปทั้งโรงพยาบาล ที่ต้องเกณฑ์แพทย์ พยาบาล หน่วยกู้ภัย ตำรวจดับเพลิง อาสาสมัคร กระจายข่าวทั้งทางทวิตเตอร์ และโทรศัพท์ตามกลุ่มเป้าหมายที่กำลังรอรับวัคซีน ให้มาเข้าคิวฉีดวัคซีนกันตอนเที่ยงคืน

ซึ่งชาวซีแอตเติลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีคนติดต่อเข้ามาจองคิวหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และรีบออกจากบ้านมาต่อคิวฉีดวัคซีนทั้งชุดนอน แม้อากาศจะหนาวจัด

นับเป็นแผนการฉีดวัคซีนที่แปลกประหลาดที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเห็น ซึ่งทางบริษัทตู้แช่ก็ไม่ได้อธิบายสาเหตุที่ตู้แช่มาขัดข้องอย่างกระทันหันนั้นเกิดจากอะไร แต่ขออย่าให้เกิดบ่อยก็แล้วกัน

และก็ถือเป็นกรณีศึกษา หากเกิดเหตุฉุกเฉินลักษณะนี้ในอนาคต และไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที ก็อาจหมายถึงความเสียหายของวัคซีนมูลค่ามหาศาลได้


อ้างอิง

https://www.seattletimes.com/seattle-news/health/late-night-freezer-failure-in-seattle-sends-hundreds-scrambling-to-get-a-fast-expiring-covid-19-vaccine/

https://www.q13fox.com/news/seattle-hospitals-rush-out-covid-19-vaccines-overnight-after-freezer-failure

https://www.dailymail.co.uk/news/article-9202437/Hundreds-rush-Washington-state-clinic-overnight-vaccines-freezer-broke.html

ฝรั่งเศสเตรียมปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

นายฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ออกมาประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ฝรั่งเศสจะปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการนี้จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (31 ม.ค.) เป็นต้นไป และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ทุกคนจะต้องมีหลักฐานการตรวจโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบด้วย

นอกจากนี้ยังจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว วันละ 12 ชั่วโมง และผู้ที่รวมกลุ่มกันจัดงานปาร์ตี้ รวมทั้งเจ้าของภัตตาคารที่เปิดบริการ อันเป็นการท้าทายคำสั่งของทางการด้วย


ที่มา : https://tna.mcot.net/world-627725

รัฐโรบินฮู้ด ‘ปล้นคนรวย มาช่วยคนจน’ อาร์เจนตินาเก็บ ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ ดึงช่วยคนเดือดร้อนจากโควิด เกณฑ์รวยเกิน 68.69 ล้านบาท โดน!! เบื้องต้นพบเข้าข่าย 12,000 จากประชากร 44 ล้านคน

ทางการอาร์เจนตินาเริ่มบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีแบบครั้งเดียวที่เรียกว่า ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ จากกลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่ง เพื่อนำเงินมาจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รวมถึงเป็นทุนการศึกษาและจัดหาอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ให้ประชาชน

มาตรการนี้ใช้กับบุคคลที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ 200 ล้านเปโซ หรือ 68.69 ล้านบาท ต้องจ่ายภาษี 3.5% ของทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศ และ 5.25% ของทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีบุคคลเข้าข่ายราว 12,000 คนจากประชากรทั้งหมด 44 ล้านคน

รัฐบาลของประธานาธิบดี อัลแบร์โต แฟร์นานเดซ คาดว่าจะได้เงินราว 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 89,601 ล้านบาท

มาตรการดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสภาเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วด้วยคะแนนเสียง 42 ต่อ 26 ทว่ามีเสียงคัดค้านจากฝ่ายค้านว่ามาตรการนี้เสมือนเป็นการยึดทรัพย์คนรวย และยังมีความกังวลจากสมาคมชนบทอาร์เจนตินาซึ่งเป็นปากเสียงของเกษตรกรในประเทศว่ามาตรการนี้อาจนำมาใช้แบบถาวร

ทั้งนี้ กว่า 40% ของประชากรอาร์เจนตินาอยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจน คือมีรายได้วันละ 1.90 เหรียญสหรัฐ หรือ 56.75 บาท ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 11


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/644042


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top