Thursday, 9 May 2024
The States Times World Team

สำนักข่าวซินหัวรายงาน หรรษ วรรธน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกลางของอินเดีย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะต่างๆ อย่างน้อย 18 - 19 ตัว

“มีการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในขั้นตอนต่างๆ ราว 18-19 ตัว” วรรธนกล่าว โดยบรรดาวัคซีนตัวใหม่อยู่ในขั้นตอนการทดลองก่อนทดสอบในมนุษย์ การทดลองทางคลินิก และการทดลองขั้นสูง

อินเดียอนุมัติการใช้งานฉุกเฉินแก่วัคซีน 2 ตัว ได้แก่ วัคซีนโควาซิน (Covaxin) ที่พัฒนาโดยภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) และวัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) จากออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford University-AstraZeneca) ที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII)

วรรธน เน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนให้บุคลากรด้านการดูแลสุขภาพและบุคลากรแนวหน้านั้นเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้รับวัคซีนแล้ว 8,285,295 คน ตามจุดรับวัคซีน 173,729 แห่งทั่วประเทศ เมื่อนับถึงเช้าวันจันทร์ (15 ก.พ.)

สำหรับระยะถัดไปของโครงการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ รัฐบาลอินเดียจะฉีดให้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปในเดือนมีนาคม โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดวัคซีนจะหารือวิธีชำระเงินค่าวัคซีนสำหรับประชาชนกลุ่มดังกล่าว

อินเดียเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16 ม.ค. โดยระยะแรกจะฉีดให้บุคลากรด้านการดูแลสุขภาพและบุคลากรแนวหน้าราว 30 ล้านคน ตามด้วยผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้มีอายุต่ำกว่า 50 ปีที่มีโรคร่วม ซึ่งมีจำนวนราว 270 ล้านคน

ทั้งนี้ เมื่อเช้าวันจันทร์ (15 ก.พ.) กระทรวงฯ รายงานว่าอินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 10,916,589 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 155,732 ราย


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/553103

เป็นอีกความก้าวหน้าแห่งโลกวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ เมื่อ NASA เตรียมหาวิธีการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาว ผ่านการวิเคราะห์ ‘มลพิษ’ ของดวงดาวนั้น ๆ โดยเพจ Environman ได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...

NASA ใช้มลพิษที่อยู่นอกโลกในการตามสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สามารถสร้างอารยธรรมได้

มลพิษในที่นี้ของ NASA คือ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) มันเป็นก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ หรือหากเกิดโดยธรรมชาติ ก็เกิดในระดับน้อยมากจากสิ่งมีชีวิต ฟ้าผ่า และภูเขาไฟ

บนโลกเรา ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ 76% ล้วนมาจากแหล่งอุตสาหกรรม แต่จากการที่ NASA พบก๊าซนี้ในระดับสูง นั่นอาจหมายความว่า มันมีโอกาสที่บนดาวดวงนั้น จะมีสิ่งมีชีวิตที่มีเทคโนโลยีสูงพอที่จะใช้พลังงานจากฟอสซิลบนดาวดวงนั้น

แล้ว NASA พบก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์นี้บนดาวดวงอื่นได้อย่างไร?

คำตอบคือ จากแสงที่สะท้อนกลับออกมา แต่ละอะตอม แต่ละโมเลกุล แต่ละธาตุในจักรวาลนี้ต่างสะท้อนแสงออกมาในคลื่นความยาวที่ต่างกัน โลกก็สะท้อนแสงออกไปนอกอวกาศเช่นกัน แสงที่สะท้อนออกไปจะเป็นแสงที่เกิดจากธาตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก

หรือเข้าใจ ก็เหมือนกับสิ่งของต่าง ๆ รอบตัวเราที่มีสีแตกต่างกัน เพราะมันสะท้อนแสงสีออกมาต่างกัน ธาตุแต่ละธาตุก็มีสีที่แตกต่างกันไป

แต่การมองแสงที่สะท้อนออกมาจากดาวที่อยู่ห่างไกลในระดับหลายปีแสง ก็เหมือนกับคุณอยู่บนสถานีอวกาศแล้วตามหาว่าผู้ชายคนไหนในเชียงใหม่กำลังใส่รองเท้าไนกี้รุ่น Air Force 1 React อยู่

และนั่นแหละคือความยาก!!

การตามหามลพิษบนต่างดาว น่าจะทำให้มนุษย์มีตัวเลือกมากขึ้นในการตามหาสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา เพื่อตอบคำถามที่ค้างคามานานแสนนานว่า...

‘มนุษย์’ อยู่ตามลำพังในจักรวาลจริงหรือ?


ที่มา:

https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3438874839574272/

https://www.nasa.gov/press.../goddard/2021/technosignature

หลาย ๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก ยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างหนัก แต่ยังดีที่ทางรัฐบาลต่างในประเทศต่าง ๆ เริ่มกวดเข้มมาตรการแบบถึงลูกถึงคน (แต่มักไม่มีข่าวเปิดเผย)

ทั้งนี้ก็เพื่อหวังที่จะคุมการแพร่ระบาด ฃให้ได้มากที่สุด และรอความหวังอย่างวัคซีนให้เข้ามายังประเทศของตนให้ไวที่สุด เพราะตอนนี้หลายๆ ประเทศที่แท้จะร่ำรวย ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เหตุเพราะไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตวัคซีนได้เอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณทาม CEO ร้านผัดไท ในเนเธอร์แลนด์ เจ้าของเฟซบุ๊ก Tham Prawattree ได้โพสต์แชร์ให้เห็นถึงภาพตัวเขาที่ต้องอยู่ในประเทศนี้ ว่า..

#Goodnews #ข่าวดีๆ กันบ้าง

#สถานการณ์โรคระบาด

#อัพเดทข่าวสาร บ้านเมืองของประเทศที่ผมอยู่ หรือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตอนนี้ถือได้ว่ากำลังผจญกับเชื้อโควิด-19 อย่างสาหัสสากัน แต่เราก็ไม่หวั่นครับ มีสติ เพราะยังมีเงิน เงินหมด สติกระเจิง

ครับ!! นี่ขนาดเราเป็นประเทศที่บินแค่ 45 นาที ก็ถึงสหราชอาณาจักรละ เรายังมีวัคซีนอันน้อยนิด และก็ถือว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยนะครับ ยังได้นิดเดียว ที่อังกฤษโน่นฉีดกันไป 15 ล้านเข็มละ (แหมผลิตได้เองเนาะ)

ประเทศเนเธอร์แลนด์ นี่จัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และเก็บทุกแบบทุกอนู #ภาษีเงินได้อัตราสูงสุดที่ผมก็เสีย 49.5% ส่วน VAT เหรอครับ อิอิ 9% และ 21% เทียบกับสิงค์โปร์ที่เคยอยู่มา ทำให้ต้องถามตัวเองว่า #มาทามมัยยยยยย

ไม่ต้องไปถามไทยแลนด์ ดินแดนเก็บภาษีไม่ครบ และช่วยกันเลี่ยง คือเลี่ยงได้เป็นเลี่ยง และชอบมาอ้างว่า #เงินภาษีของประชาชน

#อะมาดู

ตอนนี้เราเพิ่งฉีดวัคซีนได้แค่ 783,606 คน เรามี ประชาการ 17.9 ล้าน โดยประมาณ อันนี้ถือว่าช้านิดนึง แต่รัฐก็ทำเต็มที่ละ ทำไงได้ไปซื้อเค้า ไม่ได้ทำเอง

แต่ตัวเลขอื่นๆ ก็ดูดีขึ้นครับ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อมีอัตราลดลงที่ดี คือติดน้อยลง #ยอดสะสมก็ลดลง #จำนวนคนเสียชีวิตก็ลดลง

และตัวเลข R Zero หรือ R 0 หรือ #Reproduction number ก็ต่ำกว่าหนึ่ง ซึ่งถือว่าดี อันนี้เทียบว่าคนหนึ่งคนสามารถแพร่เชื้อไปได้แค่ไหน เท่าไหร่ ซึ่งดี น่าใจชื้น

#ที่มันลด ก็เพราะมาตรการห้ามฝรั่งออกมามั่วสุม สุมหัวและเมาส์มอยกัน หรือ #เคอฟิวส์

พอเค้าห้ามออกมา ก็ออกมา #ประท้วง ทำลายข้าวของ เรียกร้องหาอิสระเสรีภาพ ผิดที่ ผิดเวลา ไม่รู้จักดู เค้าให้ประท้วงแค่นี้ จะเอาแบบนี้ จริงเค้าประท้วงสองหัวข้อคือเรื่องรัฐบาลและมาตรการ

พอโดนจับ ปรับ ลงโทษ แบบไม่ไว้หน้า แบบ fully law enforcement ที่นี้ละหายไปเลย ไม่เห็นจะเก่งเหมือนที่เมืองไทย ที่นี่ปรับ จับ ริบ ยึด ตี ฟาด (ตำรวจนี่แหละฟาดประชาชนจริงๆ ถ้าทำผิด เห็นละผมยังแขยง)

อดทน อดทน เดี๋ยวก็จบ

อิจฉา #ควีนอาลิซเบท ของอังกฤษ ที่ได้รับวัคซีนไปเรียบร้อยละ (ตั้งนานละด้วย)


ที่มา:

คุณทาม CEO แห่งร้านผัดไท เนเธอร์แลนด์

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3853876497968900&id=100000397626019

เข้าสู่สถานการณ์เปราะบางถึงขีดสุด หลังจากที่ประชาชนชาวพม่าได้ลุกฮือประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพพม่า ที่นำโดย นายพล มิน อ่อง ลาย ติดต่อกันมานานกว่า 9 วัน และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

จนล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ มีรายงานการใช้อาวุธเข้าสลายการชุมนุมที่หน้าโรงงานไฟฟ้าที่รัฐคะฉิ่น หลังมีข่าวลือสะพัดในโลกออนไลน์ว่ากองทัพพม่าจะทำการตัดไฟฟ้าทั่วประเทศ ที่ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระสุนจริงในการสลายการชุมนุมร่วมด้วยหรือไม่

ต่อมามีภาพข่าวการเคลื่อนพลรถถังออกมาประจำการในเมืองที่มีการเดินขบวนประท้วงอย่างเข้มข้น ได้แก่ ย่างกุ้ง มิตจิน่า สิตตวี ในช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์ ตามมาด้วยคำสั่งตัดสัญญาณอินเตอร์เนตทั่วประเทศทั้งแต่เวลา ตี 1 ถึง 9 โมงเช้าของเช้าวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า สถานการณ์ในพม่าอาจกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่จุดแตกหักในไม่ช้า

ส่วนสถานฑูตสหรัฐได้ออกมาเตือนเจ้าหน้าที่ และชาวสหรัฐที่อยู่ในพม่าให้อยู่แต่ในบ้านพักเพื่อความปลอดภัย หลังจากที่รับทราบข่าวการเคลื่อนกำลังพลในพม่าเมื่อช่วงหัวค่ำ และได้ร่วมกับเอกอัครราชฑูตจากสหภาพยุโรป อังกฤษ แคนาดา ในพม่าได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลในสถานการณ์ความรุนแรงในพม่าตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์ และเตือนกองทัพพม่าว่า จะสนับสนุนประชาชาวพม่าในการเรียกร้องประชาธิปไตย เสรีภาพ และความผาสุข และตอนนี้ทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่

จากการเคลื่อนไหวล่าสุดของกองทัพพม่า และการยกระดับการประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารถึงระดับนัดหยุดงานทั่วประเทศ ส่งสัญญาณอันตรายถึงความเปราะบางของสถานการณ์ที่อาจทำให้พม่าเดินหน้าเข้าสู่วังวนแห่งยุคมิคสัญญี ที่ฝ่ายกองทัพและประชาชนเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนเกิดเหตุการณ์นองเลือดอีกครั้ง ที่ทำให้เศรษฐกิจ และการเมืองพม่าต้องถอยหลังกลับไปสู่ยุคจำศีลนานมากกว่า 10 ปี

และตอนนี้ทางกองทัพพม่าได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วง และแสดงความอารยะขัดขืนไปแล้วกว่า 384 คน แลการประท้วงยังคงขยายวงอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานเพิ่มเติมว่ากองทัพพม่าได้ส่งกำลังเข้าควบคุมสนามบินนานาชาติที่ย่างกุ้งแล้ว หลังพบว่ามีนักบิน และเจ้าหน้าที่สนามบินร่วมประท้วงนัดหยุดงานหลายร้อยคน

 


อ้างอิง:

https://www.theguardian.com/world/2021/feb/14/tanks-on-streets-of-myanmar-city-prompt-us-embassy-warning

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/myanmar-troops-fire-on-protesters-in-signs-of-feared-crackdown-14197926

https://www.smh.com.au/world/asia/myanmar-army-deploys-tanks-to-confront-protesters-as-strikes-continue-20210215-p572gf.html

https://www.businesstimes.com.sg/government-economy/myanmar-security-forces-fire-to-disperse-protest-at-power-plant-in-kachin-state-0

Cr ภาพ : รอยเตอร์ส

ลูกน้ำ ทิดาลัด วงสิริ Miss Laos 2011 และนักแสดงชื่อดังของลาว สุดปลื้มได้รับรางวัล Lao Star Model Award 2020 เป็นคนแรกของลาว ในงาน Asia Model Festival 2020

“เป็นตาฮักหลาย” หากพูดด้วยสำเนียงแบบนี้ ก็รู้ทันทีว่าในกลุ่มประเทศอาเซียน วันนี้คอลัมน์เบิ่งข้ามโขงของเราจะกล่าวถึง สปป.ลาว แต่ที่น่าสนใจก็คือ วันนี้จะพาไปร่วมแสดงความยินดีกับ ลูกน้ำ ทิดาลัด วงสิริ Miss Laos 2011 และนักแสดงชื่อดังของลาว ที่สำคัญเคยข้ามฝั่งมาแสดงละครที่ประเทศไทย ในละครเรื่องดอกคูณเสียงแคน เนื่องด้วยเพราะเธอได้รับรางวัลส่งตรงมาจากเกาหลี

 

เจ้าตัวตกใจสุดขีด ถึงขั้นโพสต์ลงไอจีอย่างตื่นเต้นเป็นภาษาลาวว่า

ເຍ່ໃນທີ່ສຸດກາເດີນທາງມາຮອດ????????????????

???????? ຂອບໃຈຫລາຍໆເດີ້

ສຳຫລັບລາງວັນ Lao Star Model Award 2020 ສົ່ງມາໃຫ້ແຕ່ Korea ເລີຍ

 

ຂອບໃຈທີ່ເລືອກນ້ຳເປັນ ຄົນລາວຄົນທຳອິດ ທີ່ໄດ້ຮັບ

ລາງວັນນີ້ Asia Model Festival ເປັນລາງວັນແລກໃນຊີວິດເລີຍ

ດີໃຈເວີ້ໆໆໆໆ ກອດໆໆໆ

 

ຂອບໃຈ Steve Kang ແລະ ອ້າຍ ເຜັດ ລາວສະຕາຮ

ຂອບໃຈທີມງານທຸກໆຄົນ Bank Singhalath

ແລະ ຂອບໃຈຄອບຄົວນ້ຳ ແຟນຄັບ ແລະຄົນທີ່ຮັກນ້ຳທຸກໆຄົນ ????????????????????????????????

 

แปลเป็นไทยคือ

ลูกน้ำ ได้รับรางวัล Lao Star Model Award 2020 เป็นคนแรกของลาว

ในงาน Asia Model Festival 2020. ซึ่งประกาศผลเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา แต่เธอไม่ได้เดินทางไปรับรางวัล เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19

#ModelStarAward

#ລູກນໍ້າທິດາລັດວົງສິຣິ

#ຊຸບຕຣາລາວ

 

ซึ่งงาน Asia Model Festival 2020 ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 15 แล้ว ถือเป็นเวทีนายแบบ-นางแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังเป็นเวทีที่ผลักดันให้วงการแฟชันเติบโตและก้าวสู่ระดับโลกอีกด้วย ไม่ใช่แค่ฝั่งลาว ฝั่งไทยเรานักแสดงมากความสามารถของไทยก็ได้รับรางวัลเช่นกัน คือ พิม พิมประภา จากละครพรหมพิศวาส ก็ได้รับรางวัลนี้ด้วยเช่นกัน

คอลัมน์เบิ่งข้ามโขงขอแสดงความยินดีกับลูกน้ำอีกครั้งเพราะเธอได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับพี่น้องชาวลางจริงๆ แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดไปทั่วโลก รอบฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งไทย ลาว ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด น่าเสียดายจริงๆ หากเป็นสถานการณ์ปกติก็คงจะได้เห็นสาวงามอย่างลูกน้ำ เชิดฉายในงาน Asia Model Festival 2020 แน่นอน คนอะไร ทั้งสวยทั้งเก่ง ทั้งมากความสามารถ ยกนิ้วให้เลย


เรื่องโดย: หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชนและภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนําภาคเอกชนไทย บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า วีถีชีวิต วัฒนธรรม เศรษฐกิจ

‘สถานทูตจีน’ ประจำวอชิงตัน สวนเดือด หลังทำเนียบขาว ตั้งแง่ไม่เชื่อผลสืบสวนต้นตอโควิด-19 ของ WHO พร้อมเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลของวันแรก ๆ ในการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลงว่า มันจำเป็นที่รายงานต้องมีความเป็นอิสระและปราศจากการดัดแปลงแก้ไขจากรัฐบาลจีน สะท้อนความกังวลที่หยิบยกขึ้นมาโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตัดสินใจถอนสหรัฐฯพ้นองค์การอนามัยโลกจากประเด็นดังกล่าว

ซุลลิแวน เน้นว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจอย่างรวดเร็วสำหรับนำสหรัฐฯกลับเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก แต่บอกว่าอีกด้านหนึ่งพวกเขาก็จำเป็นต้องปกป้องความน่าเชื่อถือขององค์กรแห่งนี้เช่นกัน "การกลับเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก ยังหมายถึงความการยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสูงสุด" เขากล่าว "เราแสดงความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับแนวทางสื่อสารผลการสืบสวนโควิด-19ในเบื้องต้น และมีข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับกระบวนการที่ใช้สำหรับเข้าถึงผลการสืบสวน"

อย่างไรก็ตามทางโฆษกสถานทูตจีนประจำวอชิงตัน ตอบโต้กลับด้วยถ้อยแถลงที่ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว โดยบอกว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯคือผู้ทำลายความร่วมมือพหุภาคีและองค์การอนามัยโลก และไม่ควรมีหน้ามากล่าวโทษจีนและประเทศอื่นๆซึ่งสนับสนุนองค์การอนามัยโลกระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่

โฆษกบอกว่าจีนยินดีที่สหรัฐฯตัดสินใจเข้าร่วมองค์การอนามัยโลกอีกครั้ง วอชิงตันควรให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานระดับสูงสุดของตนเองเอาไว้ แทนที่จะเล็งเป้าคอยเล่นงานประเทศอื่นๆ

เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เมื่อวันศุกร์(12ก.พ.) บอกว่าทุกสมมติฐานยังคงเปิดกว้างเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 หลังวอชิงตันบอกว่าต้องการทบทวนข้อมูลจากคณะทำงานที่นำโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งลงพื้นที่ในจีน ดินแดนที่พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบหาแหล่งที่มาของไวรัส

คณะผู้เชี่ยวชาญที่นำโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งใช้เวลา 4 สัปดาห์ในจีน เพื่อตรวจสอบต้นกำเนิดของโควิด-19 ระบุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ว่าจะไม่ตรวจสอบเพิ่มเติมในข้อสงสัยที่ว่าไวรัสอาจหลุดจากห้องปฏิบัติการวิจัย เนื่องจากพวกเขามองว่ามันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย

ข้อสรุปดังกล่าวสวนทางกับคำกล่าวอ้างของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สงสัยว่าไวรัสอาจหลุดออกจากห้องปฏิบัติการวิจัยหนึ่งๆของจีน แต่ทางปักกิ่งปปฏิเสธอย่างหนักแน่น

จากข้อมูลของหนึ่งในทีมสืบสวน ระบุว่าจีนปฏิเสธให้ข้อมูลดิบเกี่ยวกับเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19รายต้นๆแก่คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกที่ตรวจสอบแหล่งต้นตอของโรคระบาดใหญ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนในความพยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจว่าโรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร

โดมินิก ดไวเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชาวออสเตรเลียและสมาชิกคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก บอกกับรอยเตอร์สว่า คณะทำงานได้ร้องขอข้อมูลดิบเคสผู้ติดเชื้อ 174 เคส ที่จีนพบในช่วงต้นๆของการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นในเดือนธันวาคม 2019 เช่นเดียวกับเคสอื่นๆ แต่ได้รับกลับมาเพียงแค่รายงานสรุปเท่านั้น

"มันจำเป็นที่รายงานนี้ต้องมีความเป็นอิสระ การค้นพบของผู้เชี่ยวชาญต้องปราศจากการแทรกแแซงหรือดัดแปลงแก้ไขจากรัฐบาลจีน" ซุลลิแวนกล่าว "เพื่อให้เข้าใจโรคระบาดใหญ่ได้ดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับโรคระบาดใหญ่โรคถัดไป จีนต้องเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลของพวกเขา ในวันแรกๆของการแพร่ระบาด"
 



ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000014600
https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-usa-china/china-fires-back-at-washington-after-it-raises-concerns-about-who-covid-report-idUSKBN2AE00H

วันวาเลนไทน์ปีนี้ ใครยังโสด! มาลองบอกรักด้วยขนมดูไหม ขนมอะไรบ้างที่น่าจะเอาไปให้เขาหรือเธอ ให้รู้กันไปเลยว่า I love you.

คอลัมน์ "ข้างครัวริมแม่น้ำบริสเบน"

“วาเลนไทน์อีกปีเวียนบรรจบ ยังไม่พบประสบเจอเธอเลยหนา อันตัวเราเปล่าเปลี่ยวสุดพรรณนา อยากจะหาใครสักคนเป็นคู่ใจ” อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันของคนไม่โสดแล้ว ส่วนคนโสดก็คงจะไม่อยากถวิลหาวันนี้กันสักเท่าไรนะคะสำหรับวันวาเลนไทน์ ปีนี้ถ้าใครยังโสดมาลองบอกรักสาวรักหนุ่มกันด้วยขนมดูไหม ไปดูกันสิว่ามีขนมอะไรที่น่าจะเอาไปให้เขาหรือเธอให้รู้กันไปเลยว่า I love you.

1.) Chocolate แน่นอนว่า chocolate เป็นสัญลักษณ์คู่กับวันวาเลนไทน์ เป็นโอกาสเหมาะที่สาว ๆ หรือคนที่ขี้อายมาก ๆ จะแสดงความรักให้กับคนที่ตัวเองรักด้วยการมอบ chocolate ให้กับเขาหรือเธอ Chocolate กล่องสวย ๆ พร้อมการ์ดใบเล็ก ๆ บ่งบอกถึงความในใจก็ดูเป็นหนึ่งไอเดียที่ไม่เลวเหมือนกัน

2.) Red velvet cake, Strawberry, Cookies หรือขนมอบอะไรก็ได้ฝีมือเราเองแต่ขอแดง ๆ ไว้ก่อน ไม่ว่าหนุ่มหรือสาวคนไหนได้ไป รับรองว่าต้องรู้ตัวแน่ว่ามีใครคนหนึ่งแอบรักเธออยู่ ไอ้ที่ว่าอะไรก็ได้ขอแดง ๆ ไว้ก่อนก็อย่าเผลอเอาซกเล็กตับสดใส่ถุงให้ไปหละ เพราะนอกจากจะไม่โรแมนติกเอาซะเลย ยังจะกลายเป็นสยองขวัญไปซะแทน

3.) ขนมครก ถือว่าเป็นขนมแห่งความรัก ซึ่งมาจากคำว่า ค-ร-ก “คนรักกัน” โดยมีตำนานมาจากความรักของหนุ่มสาวคู่หนุ่มสาวที่ถูกพ่อของฝ่ายหญิงกีดกัน และบังคับให้แต่งงานกับชายอื่น ในวันแต่งงานพ่อของหญิงสาวได้ขุดหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มมาขัดขวาง เมื่อหญิงสาวรู้จึงรีบวิ่งมาบอกคนรัก แต่เธอกลับพลัดตกลงไปในหลุมเสียเอง เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้น ก็รีบกระโดดลงไปเพื่อช่วยเธอ พอลูกสมุนในบ้านเห็นชายหนุ่มตกลงในหลุม ก็รีบโกยดินฝังกลบทันที โดยไม่รู้ว่ามีหญิงสาวตกลงไปด้วย กระทั่งผู้เป็นพ่อสั่งลูกสมุนโกยดินขึ้นมา ก็พบลูกสาวกับชายคนรัก นอนกอดกันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านต่างศรัทธาความรักของคนทั้งสองจึงได้ทำขนมชนิดหนึ่ง ที่ทำจากแป้ง และกะทิ ใส่ลงในหลุม พอสุกก็นำมาประกบกัน เรียกว่า ขนมครก เป็นสัญลักษณ์ว่าเราจะอยู่ร่วมกันตลอดไป

4.) ขนมผูกรัก เป็นขนมขึ้นชื่อของเมืองสตูล มีอีกชื่อหนึ่งในภาษามลายูว่า ‘ซิมโป้ยซายังกาเซะ’ หากแบ่งออกเป็นคำแล้ว แต่ละคำก็จะมีความหมาย เช่น คำว่า มโป้ย แปลว่า ผูก ซายัง แปลว่า ที่รัก และกาเซะ แปลว่า ขอบคุณ เมื่อนำมารวมกันแล้ว ก็จะกลายเป็นขนมผูกรักอย่างที่เรารู้จักนั่นเอง การทำขนมผูกรักในแต่ละชิ้นต้องอาศัยฝีมือและความใส่ใจ เพราะการผูกในแต่ละครั้งนั้นจะต้องกะปริมาณของไส้ให้พอดี หากใส่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ไส้แตกได้ หรือหากใส่น้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้เสียรสชาติ ก็เช่นเดียวกันกับความรัก หากคุณใส่ใจน้อยไปหรือมากไปจนเกินความพอดี มันก็อาจจะทำให้ความรักของคุณไม่อร่อยเหมือนเข่นขนม เพราะฉะนั้นต้องหาจุดตรงกลางให้เจอเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

5.) ขนมจีบ ถ้าคิดจะจีบใคร มุกนี้ก็เล่นแบบซื่อ ๆ ไปเลยแล้วกันนะ ชื่อก็บอกแล้วว่าขนมจีบ รับรองว่าให้ปุ๊บ เขาหรือเธอจะต้องรู้ปั๊บว่ากำลังโดนจีบอยู่แน่นอน นอกจากนี้ขนมจีบยังถือเป็นขนมมงคลที่ใช้ในงานแต่งงาน เป็นตัวแทนของคู่รักและความรัก บางทีการแต่งงานกันไปนานๆอาจจะทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ขนมจีบจึงเป็นเหมือนขนมแก้เคล็ดเพื่อให้ความรักหวานชื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ ๆ

6.) ขนมชั้น ให้ขนมชั้นแล้วอาจต้องมีต่อด้วยว่า “ขนมชั้น ชั้นรักเธอ” ไม่เช่นนั้นคนรับอาจจะยืนงงอยู่ในดงลาเวนเดอร์ได้ ขนมชั้น ชั้นรักเธอยังถูกใช้เป็นขนมมงคลในงานแต่งงานซึ่งมีความหมายให้คู่ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้าในการงานและความรักยิ่ง ๆ ขึ้นไปเหมือนชั้นขนมที่มีถึง 9 ชั้นอีกด้วย

7.) น้ำผึ้ง แค่อยากเรียกเธอว่า Honey น้ำผึ้งดี ๆ สักขวดมันคงไม่ดูเห่ยไปมั้ง นอกจากคำว่า Honey จะสามารถแปลได้หลายความหมายทั้ง “น้ำผึ้ง” และ “ที่รัก” แล้ว ความหวานจากธรรมชาตินี้ยังมีดีหลายอย่าง ทั้งช่วยรักษาสิว บำรุงผิว เสริมความงาม แล้วยังบรรเทาอาการเจ็บคอ รักษาโรคกระเพาะ แก้โรคนอนไม่หลับ และอื่น ๆ อีกมากมาย ว่าแล้วก็เอา Honey ไปมอบให้ ว่าที่ Honey กันดีกว่าค่ะ

วิธีข้างต้นที่ว่านี้ไม่รับประกันผลว่าจะทำให้คุณได้คนรักตัวเป็น ๆ หรือเปล่านะ บางคนอาจกินแห้ว บางคนอาจสมหวัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่คุณควรจะมอบความรักให้มาก ๆ ในทุก ๆ วันไม่เฉพาะวันวาเลนไทน์ก็คือตัวคุณเอง อย่าลืมดูแลสุขภาพและมอบความรักให้กับตัวเองในทุก ๆ วันนะคะ


แพร

อดีตผู้ประกาศข่าว สำนักริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชีวิตดิ้นรนมาเป็นเชฟในเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ประเทศออสเตรเลีย สรรหามุมมองเรื่องเล่าจากดินแดนดาวน์อันเดอร์ มาให้อ่านกันบ่อย ๆ

‘ทรัมป์’ รอดคดีถอดถอนครั้งที่ 2 I'll be back. สมัยหน้าเจอกัน

อดีตประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ รอดจากการถูกยื่นเรื่องถอดถอนครั้งที่ 2 อย่างหวุดหวิด ด้วยเสียงโหวตในสภาสูง 57 ต่อ 43 แม้จะมีวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันถึง 7 คนที่โหวตสวนมติพรรค

การพิจารณาคดีการบุกรุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐจากกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อสกัดการลงมติรับรองผลการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน และบาดเจ็บนับร้อยคน นำไปสู่การชงเรื่องสู่สภาคองเกรซให้พิจารณาถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเร่งด่วน แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้วก็ตาม

นัยยะของการถอดถอนไม่ได้ทำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ หรือสร้างความด่างพร้อยกับประวัติชีวิตของทรัมป์ หรือจะพูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ เพื่อเอาสะใจอย่างเดียว แต่หากถอดถอนสำเร็จ ก็จะสกัด ไม่ให้ทรัมป์ สามารถลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐได้อีก และยังตามมาด้วยคดีความอีกมากมายที่อาจเอาเขาเข้าคุกได้
 
แต่ทั้งนี้การถอดถอนต้องโหวตผ่านทั้ง 2 สภา ล่างและบน ซึ่งในวุฒิสภาต้องผ่านด้วยเสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 และการลงคะแนนเสียงของสภาสูงครั้งขาดไป 10 เสียงที่จะถอดถอนทรัมป์ได้
 
หลังจากที่มีมติออกมาเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายเดโมแครตไม่พอใจ และยังคงเดินหน้าเปิดประเด็นต่อเพื่อหาช่องทางกฎหมายลงโทษทรัมป์
 
ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกมาพูดว่า เป็นแค่การล่าแม่มด ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนของสหรัฐโดนกระทำแบบนี้ แถมหยอดทิ้งท้ายว่า การมุ่งหน้าสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งของสหรัฐเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
 
ก็แสดงว่าชาวสหรัฐอาจจะเห็นทรัมป์ กลับสู่แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งในเร็วๆนี้ อีกไม่นานเกินรอ

รอด COVID-19 มาแล้วก็ต้องฉีด รัฐบาลฝรั่งเศสย้ำเป็นแล้วฉีดซ้ำอีกเข็มเพื่อความชัวร์ ชาติแรกในโลกที่แนะนำแนวทางนี้

กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสออกมาแนะนำชาวเมืองน้ำหอมที่เคยติดไวรัส Covid-19 มาก่อน ถึงแม้จะหายดีเรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้องฉีดวัคซีนอีก 1 เข็มเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยจากแนวคิดดังกล่าวนี้ ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกในโลกที่แนะนำให้ฉีดวัคซีนกับประชาชนที่เคยติดเชื้อ Covid-19 มาก่อน

ตอนนี้รัฐบาลฝรั่งเศสได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนได้ถึง 3 ตัว คือ Pfizer Moderna และ AstraZeneca และเริ่มฉีดให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข และกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งวัคซีนทุกชนิดจะต้องฉีด 2 เข็มเป็นการกระตุ้นให้วัคซีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทั้งนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสได้อ้างอิงข้อมูลที่ได้ศึกษาในกลุ่มเล็กพบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 มาก่อน ร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันมาแล้วบางส่วน หากฉีดวัคซีนเสริมเข้าไปอีก 1 เข็ม ก็จะช่วยให้เสริมภูมิคุ้มกันได้ดียิ่งขึ้น 

และผลที่ได้จากกลุ่มทดลองย่อยก็พบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 หลังจากได้รับวัคซีน 1 เข็ม ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้นกันได้เท่ากับ หรือ ดีกว่า คนที่ยังไม่เคยติดเชื้อ Covid-19 และรับวัคซีนไปแล้วถึง 2 เข็ม 

ดังนั้นรัฐบาลฝรั่งเศสจึงแนะนำว่า ต่อให้เคยเป็น Covid-19 มาแล้ว กลับมาฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 1 เข็มจะดีกว่า โดยฝรั่งเศสเป็นชาติแรกในโลกที่แนะนำวัคซีนให้กับผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 

ตอนนี้ในฝรั่งเศสได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่า 5.4 แสนคนได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไปเรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งฝรั่งเศสมียอดรวมผู้ติดเชื้อราวๆ 3.43 ล้านคน หายแล้ว 2.38 แสนคน ผู้ที่ยังติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแบบไม่มีอาการ หรือแสดงอาการเล็กน้อย มีอยู่ประมาณ 3,300 คนที่อยู่ในขั้นวิกฤติ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตด้วย Covid-19 ในฝรั่งเศสมีมากถึง 8 หมื่นคน 

แม้ในวันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฝรั่งเศสกว่า 20,000 คน และรัฐบาลฝรั่งเศสยังคงทำงานภายใต้ความกดดันที่จะต้องควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ให้ได้ในเร็ววัน แม้จะต้องเผชิญกับปัญหากลุ่มที่ต่อต้านมาตรการ Lockdown ของรัฐบาล และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนในประเทศ 


อ้างอิง:
https://www.france24.com/en/france/20210212-france-recommends-single-vaccine-shot-for-people-who-have-had-covid-19

https://www.irishtimes.com/news/world/europe/emmanuel-macron-under-pressure-as-covid-vaccination-rollout-falters-1.4478361

https://www.worldometers.info/coronavirus/country/france/

สุ่มเก็บตัวอย่างเชื้อโควิด เชื้อโควิด-19 อาจอยู่ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ พฤศจิกายน 2019

ไม่นานมานี้ได้มีการศึกษาตัวอย่างเซรุ่มหรือน้ำเหลืองของผู้ใหญ่ชาวฝรั่งเศสกว่า 9,000 คน บ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) อาจปรากฏในฝรั่งเศสครั้้งแรกสุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 เนื่องจากบางตัวอย่างที่เก็บระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2019 ถึงเดือนมกราคม 2020 มีผลตรวจแอนติบอดีต้านไวรัสฯ เป็นบวก 

การวิจัยดังกล่าวนำโดย ฟาบรีส การ์ราต์ ผู้อำนวยการสถาบันระบาดวิทยาและสาธารณสุขปีแยร์ หลุยส์ (iPLESP) และถูกตีพิมพ์ลงวารสารระบาดวิทยายุโรป (EJE) เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา

การศึกษาข้างต้นระบุว่าตัวอย่างเซรุ่มทั้งหมด 9,144 ตัวอย่าง ถูกเก็บระหว่างวันที่ 4 พ.ย 2019 ถึง 16 มี.ค. 2020 จากผู้อยู่อาศัยใน 12 ภูมิภาคบนแผ่นดินใหญ่ของฝรั่งเศส โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมมีอายุเฉลี่ย 55 ปี และร้อยละ 51 เป็นผู้หญิง

“นักวิจัยได้จำแนกผู้เข้าร่วม 353 ราย ที่มีแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของไวรัสฯ เป็นบวก” และ “พบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ในผู้เข้าร่วม 44 ราย”

ตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมที่มีแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีและแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ 13 ราย ถูกเก็บระหว่างวันที่ 5 พ.ย. 2019 ถึง 30 ม.ค. 2020 โดยตัวอย่างของผู้เข้าร่วมี 7 ราย ถูกเก็บในเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าการศึกษานี้ชี้ว่าโรคโควิด-19 อยู่ในฝรั่งเศสมาอย่างน้อยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2020 โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ชไวต์เซอร์ (Albert Schweitzer hospital) ในเมืองกอลมาร์ทางตะวันออกของฝรั่งเศส แถลงข่าวว่าคณะรังสีแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ได้วิเคราะห์ผลสแกนทรวงอก 2,456 รายการ ที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2019 ถึง 30 เม.ย. 2020 และพบว่ามีผู้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคโควิด-19 รายแรกสุดที่ย้อนไปถึงวันที่ 16 พ.ย. 2019

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2020 อีฟส์ โคเฮน หัวหน้าแผนกผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลสองแห่งในเครือเอพี-เอชพี (AP-HP) แถลงข่าวว่าโรงพยาบาลทั้งสองแห่งได้วิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยโรคปอดบวม 24 ราย ระหว่างเดือนธันวาคม 2019 ถึงมกราคม 2020 และพบชายคนหนึ่งที่ถูกส่งมารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2019 มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/552418
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top