คนจะซวย ช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อหนุ่มไต้หวัน ที่ขอเปิดเผยแค่ว่าชื่อนายเฉิน ถูกทางการไต้หวันปรับเงินถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากฮ่องกงในวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว

แต่ทว่า เรื่องราวนี้คดีพลิก เพราะนายเฉินอ้างว่าตัวเขาคือเหยื่อ ไม่ใช่จำเลยสังคมที่อยู่ดีๆก็ออกมาเดินเพ่นพ่านทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงกักตัว

นายเฉินเล่าว่า ตัวเขาเพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกง และทำเรื่องว่าจะไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้านเพื่อนในเมืองหนานโถว

แต่ระหว่างที่อยู่บ้านเพื่อน กลับพบนักทวงหนี้ จึงรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังหนีเจ้าหนี้นอกระบบ แล้วนักทวงหนี้ก็เข้าใจว่าตัวเขาคือลูกหนี้ จึงเข้ามาข่มขู่รีดไถเอาเงิน และก็ยังทำร้ายร่างกายเขาอีก บังคับให้เขาจ่ายเงินให้ได้

นายเฉิน บอกว่านักทวงหนี้บีบให้เขาต้องรีบเดินทางกลับบ้านตัวเองเพื่อไปเอาเงิน และยังประกบติดตามตัวเขาตลอดเวลา หลังจากที่จ่ายเงินบางส่วนไป ก็เขารีบไปหาตำรวจ แต่กลับถูกจับ ปรับเงิน 1 ล้านเหรียญข้อหาฝ่าฝืนมาตรการกักตัว

สำหรับกฎระเบียบเรื่องการกักตัว 14 วันในไต้หวันถือเป็นกฎเหล็กสุดเข้ม หากใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1 ล้านเหรียญไต้หวันทุกกรณี โดยไม่มีข้ออ้างว่าจะออกจากสถานที่กักตัวนานแค่ไหน และเพื่ออะไร

ดังตัวอย่างเช่น คนงานฟิลิปปินส์ที่ถูกกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเกาสง แค่เดินออกจากห้องแต่ 8 วินาที ก็โดนปรับ 1 ล้านทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่สำหรับเคสของนายเฉิน ทางการไต้หวันยังพอปรานีอยู่บ้าง ที่จะยกเว้นโทษปรับให้ จากคำให้การว่าเขาถูกบีบบังคับ และลักพาตัวให้ออกจากสถานที่กักตัว และกลายเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจะละเว้นโทษปรับนับล้านจากการฝ่าฝืนมาตรกสรกักตัวให้

แต่ทั้งนี้ ข้ออ้างเรื่องการถูกนักทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และรีดไถเงิน จะยังคงสืบสวนต่อว่าเป็นความจริงหรือไม่

หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคำบอกเล่าของนายเฉินเป็นเรื่องจริงหล่ะก็ คงได้คดีพลิกอีกรอบ และนายเฉิน ก็เปิดบ้านรองานเข้าได้เลย เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินล้านแล้ว ยังมีสิทธิ์คิดคุกข้อหาแจ้งความเท็จอีกกระทงด้วย


อ้างอิง

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4113852

https://edition.cnn.com/travel/article/taiwan-quarantine-kidnap-intl-hnk-scli/index.html