Wednesday, 7 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘วปอ.2555 & ตำรวจไทย’ ห่วงใยประชาชน! จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน จ.สระบุรี และ จ.สิงห์บุรี ลุยน้ำมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนคนไทยต่างได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ร่วมลงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วย ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแล เฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรม การกระทำความผิด กลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงคอยให้การสนับสนุนในภารกิจต่าง ๆ จากภาครัฐเมื่อมีการร้องขอด้วย

ในวันนี้ (17 ต.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพจังหวัดละ 1,000 ชุด 2 จังหวัด รวมเป็น 2,000 ชุด พร้อมมอบเงินสดส่วนหนึ่งช่วยเหลือบ้านที่ถูกน้ำแม่น้ำป่าสักเซาะจนตลิ่งพังและดึงบ้านพังไปทั้งหลังในเขตจังหวัดสระบุรี ณ วัดสารภี ต.บางโขมด  อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี  ณ สำนักงานเทศบาลตำบลทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย

นอกจากนี้ ในส่วนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บ้านหัวเกาะ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น ทางพล.ต.ท.สมพงษ์ และตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้ลงพื้นที่โดยสารเรือ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนถึงหน้าบ้านด้วย  

คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องประสบกับอุทกภัย อีกทั้ง ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกด้วย จึงนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบ และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับประชาชน ให้สามารถต่อสู้กับวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน  

“ประชาธิปัตย์” ขอบคุณประชาชนหลัง 2 โพลดังฟันธง! “จุรินทร์” ขึ้นแท่นชิงนายกฯ “อลงกรณ์” ชี้! ผลโพลเป็นกำลังใจ แต่หนทางอีกไกล เร่งทำงานหนักสร้างศรัทธาต่อไป เผยประชุมใหญ่เตรียมประกาศยุทธศาสตร์ ปชป.เพื่อประชาชน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้ (17ต.ค.)ว่า จากการที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล(Super Poll)และศูนย์นวัตกรรมดิจิทัล วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(IRDC POLL)เผยแพร่ผลสารวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศล่าสุดปรากฎผลสำรวจบุคคลที่เหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตรงกันทั้ง2สำนักว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับการสนับสนุนเป็นอันดับ 2 และเป็นบุคคลที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 1

“พรรคประชาธิปัตย์ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกภาคทั่วประเทศที่มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญถือเป็นกำลังใจที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง แต่หนทางของพรรคยังอีกยาวไกล ประชาธิปัตย์ทั้ง 3 กลไกคือรัฐมนตรี-สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกพรรคทุกคนต้องเร่งทำงานทุ่มเททุกหยาดเหงื่อเพื่อประชาชนสร้างศรัทธาต่อไป”

นายอลงกรณ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุมใหญ่พรรคเดือนหน้าจะมีการประกาศยุทธศาสตร์ประชาธิปัตย์เพื่อประชาชนภายใต้การนำพรรคของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคและ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ก่อนหน้านี้สำนักวิจัยซูเปอร์โพล(Super Poll)รายงานว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.3 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  เพราะมีอุดมการณ์ ขยันทุ่มเททำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน มีประสบการณ์การเมืองมายาวนาน เชื่อมประสานทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตต่าง ๆ ได้ไม่มีประวัติด่างพร้อย จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ จุดยืนมั่นคงกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พบทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่เอื้อผลประโยชน์แก่ครอบครัวและพวกพ้อง เป็นต้นเป็นรองเฉพาะพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จัดงาน “วันตำรวจ” ประจำปี 2564 พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “แทนใจ” เพื่อดูแลสวัสดิการตำรวจทั่วประเทศ!! รวมถึงข้อมูลเบื้องต้น สำหรับข้าราชการตำรวจ

วันที่ 17 ต.ค. 64 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดงานวันตำรวจ ประจำปี 2564  เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีสงฆ์ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตำรวจ

ซึ่งมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้

• เวลา 07.00 น. พิธีบูชาพระภูมิ พระนิรันตราย พระนารายณ์ ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทน

• เวลา 07.30 น. พิธีสักการะรูปจำลอง พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ณ ชั้น 3

อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทน

• เวลา 08.00 น. พิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ณ ด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง และสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าร่วมพิธี

• เวลา 08.10 น. พิธีสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง และสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าร่วมพิธี

• เวลา 08.20 น. พิธีสงฆ์ ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง และสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าร่วมพิธี

จากนั้น ในเวลา 09.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดตัวแอปพลิเคชัน “แทนใจ” ซึ่งเป็นการนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ โดยจัดทำขึ้นจากแนวความคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ที่ต้องการเปลี่ยนระบบด้านสวัสดิการและฐานข้อมูลกำลังพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล อีกทั้งเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารสำคัญ และสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ อาทิ ระบบการดูแลเรื่องสิทธิและสวัสดิการ, การประเมินขั้น, สิทธิฌาปนกิจสงเคราะห์, ระบบการคำนวณเงินเยียวยากรณีที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่, หลักสูตรการฝึกอบรมนอกหน่วย, แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงาน ผ่านระบบแอปพลิเคชัน ในการพัฒนาและยกระดับสวัสดิการของตำรวจและครอบครัว

โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (งานบริหาร) เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว

 

“ตม.จว.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย ผบ.ตร.- ผบช.สตม. นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) ออกตรวจเข้ม!! จับกุมชาวอังกฤษอยู่เกินวีซ่าหลบในไทย ถูกดำเนินคดีและผลักดันส่งกลับ ติดแบล็คลิสยาว 5 ปี

วันนี้ 16 ต.ค.2564 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี แถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย โดย ผกก.ตม.จว. สุราษฎร์ธานี สั่งการการให้ พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รองผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อํานาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวัง รองสว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, ร.ต.ท.ประมุข กองกุล รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, ด.ต.ภรภัทร เมืองชู, ด.ต.ธเนศพล สำลี, ด.ต.สิทธิชัย รอดเอียด และ ส.ต.อ.พนมกร สากุลา ผบ.หมู่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW ออกตรวจพื้นที่ตามมาตรการป้องกันปราบปรามการกระทำผิด เพื่อป้องกันผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

โดยเมื่อวันที่ผ่านมาได้ร่วมกันจับกุมตัว Mr.Craig Campbell อายุ 43 ปี สัญชาติ บริติช ได้ที่บริเวณ ริมถนนโฉลกรัฐ10/2 หมู่ 2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จว.สุราษฎร์ธานี โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนดอนุญาต 349 วัน)” และในชั้นจับกุม ผู้ถูกจับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ถูกจับนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเมื่อคดีสิ้นสุดจะถูกผลักดันส่งกลับประเทศ และถูกห้ามกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี 

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและมาตรการในการป้องกันปราบปรามของพล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ประพันศักดิ์ประสานสุข ผบก.ตม.6 ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการสืบสวน ปราบปราม และเข้มงวดกวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้วกระทำผิดกฎหมาย  ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่เชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศได้ 

ล้วงลับ ​14​ ต.ค. พระกรุณาในหลวง​ ร.9​ ที่เหล่าทรชนอุกอาจบิดเบือน ​​| MEET THE STATES TIMES EP.29

???? “ล้วงลับ​ 14​ ตุลา พระกรุณาแห่งในหลวง​ ร.9​ ที่เหล่าทรชนอุกอาจบิดเบือน”​​​ ​​​!!
???? ตีแผ่ความจริง!! 14​ ต.ค. เรื่องแห่งตาที่ควรต้องเบิกเนตร!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยกTHE STATES TIMES

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” จัดพิธีเททองหล่อพระบูชาและพระเครื่องหลวงปู่ไต้ฮง รุ่นฉลองครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เมื่อวันพฤหัสที่ 14 ตุลาคม 2554 เวลา 16.19 น. สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่ฝั่งหนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง องค์ประธานร่วม ทำพิธีเททองหล่อพระบูชาและพระเครื่อง หลวงปู่ไต้ฮง รุ่นฉลองครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

โดยมี นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการคณะกรรมการ และผู้ช่วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี เททองหล่อพระบูชาและพระเครื่อง หลวงปู่ไต้ฮง รุ่นฉลอง 110 ปี ณ บริเวณมณฑลพิธี หน้าพระอุโบสถหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ

โดยภายในพิธี ได้จัดให้มีพระสงฆ์สมณศักดิ์ 9 รูป นำโดย พระสุวรรณมหาพุทธาภิบาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตร ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งพระคณาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตพิธีเททองหล่อพระบูชาและพระเครื่อง หลวงปู่ไต้ฮง รุ่นฉลอง 110 ปี ดังนี้

1.  หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว อ.พยุหคิรี จังหวัดนครสวรรค์

2.  หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

3.  หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม

4.  หลวงพ่อพระปลัดตรีพรหม วัดพิชัยสงคราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พระบูชาและพระเครื่องไต้ฮงกงทุกรุ่น จัดให้มีพิธีเททอง และ พิธีมหาพุทธาภิเษก โดยเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธคุณ พระเถระชั้นสมเด็จ ฯลฯ มานั่งปรกอธิษฐานจิตเพื่อปลุกเสก พระเครื่องหรือเหรียญไต้ฮงกงนั้น ศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธามีความเชื่อว่า เมื่อนำหลวงปู่ไต้ฮงไปบูชาที่บ้านหรือพกติดตัว จะคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และ ดลบันดาลให้สมปรารถนา และ ร่วมทำบุญกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในวาระครบรอบ 110 ปี

กระบี่ - รับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน”

วันนี้ 15 กันยายน 2564 ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  เป็นประธานในการรับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาทเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในจังหวัดกระบี่ โดยมี ผศ.ดร.พิชญ์สินี ขาวล้วน ผู้บริหารโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์กระบี่ และศูนย์พื้นฟูดูแลผู้สุงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงด็อกเตอร์อินเตอร์แคร์ ร่วมกับทีมโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน"

นำโดย ทีมนายแพทย์อนุชา พาน้อย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Doctor A to Z นางกรรณิการ์ จำป่าพันธ์ ผู้ก่อตั้งโครงการช่วยด้วย COO&CO Founder Doctor A to Z พว.นิตยา ชไนศวรรย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเฮลท์แคร์เซอร์วิสจำกัด ร่วมกันมอบสิ่งของบริจาค ยาและเวชภัณฑ์ ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในจังหวัดกระบี่ และได้ส่งมอบต่อให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความจำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้านภายในวิกฤตเตียงเต็มปัจจุบัน และหายป่วยเป็นจำนวนมากทางโครงการและผู้สนับสนุนจึงประสงค์ที่จะขยายความช่วยเหลือผู้ป่วยเป็น 2,000 คน ในจังหวัดกระบี่

‘ตม.ประจวบคีรีขันธ์’ คุมเข้มช่องทางธรรมชาติ สกัดโควิดระบาด!! จับกุมหนุ่มเมียนมาลักลอบนำพาแรงงานถื่อน พร้อมยาบ้า พร้อมรวบ 33 ชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองเพื่อไปทำงาน จว.สมุทรสาคร

วันนี้(15 ก.ย. 2564 ) เวลา 13.30 น.พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ แถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาพร้อมด้วยของกลางยาบ้า และนำพาแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ออกสืบสวนหาข่าว และตรวจสอบผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 14  ต.ค.64 เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคง ได้ตรวจพบบุคคลต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย และสามารถจับกุม นายมิวแตอู อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 10 เม็ด โดยกล่าวหาว่า”มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้าไว้ในความครอบครองโดยผิดกฏหมายและนำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ”   และควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 33 คน ได้ที่บริเวณ ช่องทางธรรมชาติช่องชุมนุมมะละกอ ม.5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ

จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานต่างด้าว เดินทางมาจาก มะริด 10 คน พะลอ 10 คน เมาะลำไย 5 คน มะกุย 1คน มันดาเล 3 คน พะโคะ 1 คน ทวาย 3 คน ทั้งหมดต้องการเดินทางไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร ในเบื้องต้นได้ทำการกักตัวไว้ในสถานที่เกิดเหตุเพื่อทำการคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรน่า ( โควิด 19 ) หลังจากนี้จะได้ทำการสอบสวนขยายผลถึงขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

“พระครูแจ้” จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศล 13 ตุลาฯ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9

ท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประธานจัดกิจกรรม ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ประธานฝ่ายฆราวาส พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี นายแพทย์ สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางพลี ร่วมในพิธี ณ บริเวณ ชั้น 2 ศาลาการเปรียญ วัดบางพลีใหญ่กลาง

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การแจกข้าวสารให้กับประชาชนบริเวณพื้นที่โดยรอบและพื้นที่ใกล้เคียง ข้าราชการตำรวจ และพนักงานลูกจ้างอาชีพเก็บขยะ โดยจะได้รับแจกข้าวสาร คนละ 1 ถุง พร้อมด้วยเงินสดอีกคนละ 500 บาท อีกทั้ง  ยังมีค่าเดินทางมอบให้กับประชาชนอีกคนละ 100 บาท รวม 1,000 ครอบครัว จากนั้น ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง  พร้อมด้วย  คณะเจ้าหน้าที่ร่วมประกอบพิธีสวดมาติกาบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกรณ์

 

ฮือฮา!! พบหัวปลีโผล่ปลายยอดกลางต้นกล้วย ชูช่อตั้งตรงชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้าเหมือนดอกบัวสีแดงสดใส เจ้าของลั่น!! งวดนี้น่าจะมีเลข 9 เพราะเป็นกล้วย

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 64 หลังจากทราบข่าว มีกล้วยประหลาดในพื้นที่โครงการหมู่บ้าน เดอะปาล์ม สุขุมวิท บางเสร่ ในเครือ บริษัท ศิริศาย์ จำกัด ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 190/201 ม.10  อยู่ในโครงการหมู่บ้านเดอะปาล์ม ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบกับ นาย ธเนษฐ จำเนียรกุล อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ที่ได้ปลูกแปลงกล้วยน้ำว้าไว้ข้าง ๆ บ้าน กว่า 20 ต้น

จากการสอบถามทราบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินว่างเปล่า จึงได้ทำแปลงปลูกกล้วยน้ำว้าไว้กว่า 20 ต้น จู่ ๆ มีกล้วยต้นหนึ่งแปลกประหลาดออกปลีมากลางยอดของต้นกล้วยสีแดงสดใส ชูช่อคล้ายดอกบัวซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน หากจะตีเป็นเลขมงคลเลขนี้น่าจะเป็นเลข 9 เนื่องจากเป็นกล้วย " มี ก.ไก่ " ยังไม่มีคนรู้มากเท่าไรนัก นาย ธเนษฐ จำเนียรกุล ได้กล่าวด้วยความประหลาดใจกับกล้วยต้นนี้ พร้อมกับจะไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีเลข 9 ติดตัวไว้บ้างเผื่อมีโชค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top