Wednesday, 7 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ผู้ป่วยติดโควิด-19 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีใจ!! หลังได้รับ "COVID HOME CARE" ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้าน ให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564  นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบกล่องโควิดโฮมแคร์ จำนวน 100 ชุด ข้าวสาร ไข่อาหารแห้ง ขนมเด็ก และเสื้อ PPE ยาฟ้าทลายโจร โดยมี พันเอก รณชัย เวียงวงษ์ ผบ.นพค.42 สำนักพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาให้เกียรติร่วมพิธี พร้อมด้วย นายอับดุลฮาดี เจ๊ะยอ ข่าวสด จ.ยะลา นายนิแอ สามะอาลี นักประชาสัมพันธ์ สำนักงานประประชาสัมพันธ์ จ.ยะลา ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ ให้ชาวบ้านที่ติดโควิดรักษาตัวที่บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.กาบัง อ.ยะหา อ.เมือง จ.ยะลา อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.มายอ จ.ปัตตานี อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

โดย นายแพทย์ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ผู้รับผิดชอบโครงการ Covid Home Care กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส และพื้นที่ในจังหวัดสงขลายังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเตียงสนามไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยโควิด ทำให้ผู้ป่วยต้องกักตัวเองและดูแลรักษาตัวที่บ้านในเบื้องต้นมีความต้องการเพิ่มขึ้น ดังนั้น สมาคมสมาพันธ์ฯและเครือข่ายเราดูแลกัน หรือ we care network ได้ร่วมกับสมาคมนักสื่อพิมพ์ภาคใต้และศูนย์พัฒนาอาชีพกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้านให้สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระแก่บุคลากรทางการแพทย์อีกทางหนึ่ง

นายกสมาคมสมาพันธ์ฯกล่าวโดยเบื้องต้นจะมอบกล่อง COVID HOME CARE จำนวน 100 กล่องเพื่อให้พันธมิตรทั้ง 2 องค์กรนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน  นอกจากนี้ทางสมาคมสมาพันธ์ฯยังได้ร่วมกับสถานีวิทยุ ม.อ ปัตตานีเพื่อนำกล่อง COVID HOME CARE มอบให้กับผู้ป่วยโควิดที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน ซึ่งได้มอบไปแล้ว 100 กล่อง ทางวิทยุ ม.อ ปัตตานี ได้นำมอบให้ผู้ป่วยไปหมดแล้ว ทางโครงการฯก็จะมอบกล่องเพิ่มอีก 100 กล่องเพราะมีผู้ป่วยต้องการรักษาตัวเองที่บ้านเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางโครงการเปิดช่องทางติดต่อผ่าน Line : @covidhomecare ให้ผู้ป่วยโควิดเข้ามาลงทะเบียน และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อให้คำปรึกษาในแนวทางการรักษาตัวเองที่บ้านได้ 

“เราคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดความแออัดที่โรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลได้อย่างทั่วถึง“ นายแพทย์ฆนัทฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายมะสากี อาบูถัดสา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ได้กล่องโควิด COVID HOME CARE เพื่อมอบให้กับชาวบ้านที่ติดโควิดแล้วรักษาตัวที่บ้าน ตอนนี้ เตียงเต็มชาวบ้านต้องการ COVID HOME CARE แบบนี้จำนวนมาก ทำให้เราทุกคนที่ได้รับวันนี้รู้สึกดีใจ อย่างบอกไม่ถูก

 

เชียงใหม่ - อุตสาหกรรมเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ นำเสนอผลงานผู้ประกอบการ กลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟในภาคเหนือ สร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจ

อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีเปิดกิจกรรมเจรจาธุรกิจพร้อมนำเสนอผลงานผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟในภาคเหนือ ภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์กลางอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟในภูมิภาค (Lanna Coffee Hub) กิจกรรมพัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟ (Coffee Entrepreneurs Development)

โดยมีนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานกล่าวเปิดงาน นายบุญอุ้ม วงศ์บุตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวรายงาน มีผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนราชการ และผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

โครงการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ได้รับโอกาส ในการต่อยอดธุรกิจสู่เวทีระดับสากล นอกเหนือจากองค์ความรู้และการพัฒนาทักษะจากการอบรม เพื่อพัฒนาทักษะและขีดความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมกาแฟและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมตอบโจทย์กลุ่มตลาดเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบ BCG Model และเป็นที่รู้จักในวงกว้างอันนำไปสู่การเกิดศูนย์กลางอุตสาหกรรมกาแฟในระดับภูมิภาค     

ทั้งนี้ นายบุญอุ้ม วงศ์บุตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวให้ข้อมูลในฐานะผู้ให้ทุนว่า สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2564  โดยจัดให้มีนิทรรศการแสดงผลงานผลิตภัณฑ์และจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำจำนวนกว่า 50 บูธ

ปทุมธานี - สสส.ร่วมชุมชนสวนอาหารบ้านพักผ่อน จัดโครงการบริโภคอย่างปลอดภัยเรียนรู้อาหารสมุนไพร สู้โควิด-19

เมื่อวันที่ 18 คุลาคม 2564 ที่ลานจัดกิจกรรมสวนอาหารบ้านพักผ่อน ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ดร.ณัจยา แก้วนุ้ย ผจก.โครงการส่งเสริมอาหารปลอดภัยฯ / ดร.วิฑูร อินทร์จันทร์ นายวิชัย ขุนศรี ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลหลักหก / กำนันเพ็ญใจ จันทร์หอมกุล เลขาฯนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ / ผู้ใหญ่ธนพร อิษฎานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ตำบลหลักหก / นายนพนรรจ์ จันทร์หอมกุล เจ้าของสวนอาหารบ้านพักผ่อน / นางสาวอรวีร์ หินแดง ผู้จัดการสวนอาหารบ้านพักผ่อน  พร้อมด้วยประชาชนในชุมชน 40 คน ร่วมกับ สำนักกองทุนส่งเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดโครงการบริโภคอย่างปลอดภัยเรียนรู้อาหารสมุนไพรสู้โควิด-19 จังหวัดปทุมธานี โดยมีเครือข่ายประชาคมอาหารเพื่อสุขภาพ จังหวัดปทุมธานี ร่วมรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในชุมชน ได้หันมาดูแลสุขภาพจากการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ และปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีโทษต่อร่างกาย ตามแนววิถีใหม่ แบบ New normal

โดยการรณรงค์ของภาครัฐเพื่อให้ความรู้ กับประชาชนในชุมชน ตลอดจนผู้บริโภคให้ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ สร้างภูมคุ้มกันให้ร่างกายซึ้งจะได้รับความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆที่มีการพัฒนา โดยเฉพาะโรคในปัจจุบัน ไวรัสโควิด-19 การรักษาที่ดีที่สุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการบริโภคอาหารให้เป็นยา ด้วยการใช้สมุนไพรพื้นบ้านซึ้งมีอยู่มากมายในการปรุงอาหาร ร่วมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันแบบเว้นระยะห่างล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ก็จะเป็นอีกส่วยหนึ่งในการระมัดระวังอย่างถูกวิธีไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

กำนันเพ็ญใจ จันทร์หอมกุล เลขาฯนายกเทศมนตรี ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าว่า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่สีแดงเสี่ยงโควิด-19 สูง โดยเฉพาะที่ชุมชนหลักหกของเราโควิดระบาดข่อนข้างมากเพราะมีส่วนเชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานคร ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางชุมชนได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายโควิด-19 อย่างเข้มข้น รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทาง สสส.เล็งเห็นความสำคัญให้การสนับสนุนมอบความรู้ให้ประชาชนในชุมชนด้วยการส่งเสริมสนับสนุนบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ สร้างภูมคุ้มกันให้ร่างกายซึ้งจะได้รับความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ที่มีการพัฒนา โดยเฉพาะโรค ไวรัสโควิด-19 ซึ้งนอกจากให้องค์ความรู้แล้วยังได้มีการสาธิตการปรุงอาหารด้วยสมุนไพร

อันได้แก่ เมนูผัดฉ่าปลาทับทิมอันอุดมไปด้วยเครื่องเทศนา ๆ ชนิด โดยมีการสาธิตปรุงสด ๆ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรมได้ชิม ส่วนที่เผ็ดร้อนไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็นไก่บ้านต้มขมิ้นรสชาดจัดจ้านดับคาวได้เป็นอย่างดี จบคาวตามด้วยหวานก็ยังคงเป็นสมุนไพรอย่างต้มถั่วเขียวใส่ น้ำตาลทรายแดง น้ำขิงและแป๊ะก้วย ช่วยดับเผ็ดรสชาติกลาง ๆ หวานไม่มาก สดชื่น ตบท้ายด้วยน้ำสมุนไพรยอดนิยมซึ้งเป็นสูตรเฉพาะของร้านอาหารบ้านพักผ่อน เป็นน้ำกระชายขาวปั่นสดผสมน้ำผึ้งน้ำมะนาวแช่เย็น ซึ้งทางร้านได้แจกจ่ายสูตรให้ความรู้ประชาชนทั่วไปสามารถไปทำทานที่บ้านได้โดยไม่ยาก จะเห็นได้ว่าสมุนไพรในอาหารของคนไทยคุ้นเคยอยู่แล้วนำกลับมาใหม่ด้วยการรณรงค์อย่างจริงจังก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตนแบบ New normal เพราะประชาชนในชุมชนต้องช่วยเหลือตัวเองและต้องอยู่กับเชื้อโรคที่แพร่หลายในขณะนี้ด้วยการทานอาหารเป็นยาเสริมภูมคุ้มกัน

จันทบุรี - “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” โปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วม กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่หอเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี และคณะเดินทาง ประชุม พร้อมติดตามสถานะการณ์ความคืบหน้าในการแก้ไขสถานะการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานะการณ์อุทกภัย จากเหตุการณ์ภัยพิบัติ พายุโซนร้อน ไลออนร๊อก และพายุโซนร้อน คมปาซุ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 48 ตำบล 279 หมู่บ้าน 37 ชุมชน รวม 11,079ครัวเรือนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1,692 หลังคาเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 9452.50 ไร่สิ่งสาธารณประโยชน์เช่น ถนนคอสะพาน และสถานที่ราชการได้รับความเสียหาย

สงขลา - “เฉลิมชัย” ควง “นิพนธ์” ตรวจคลองอาทิตย์ และคลองร.1 มั่นใจแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ - น้ำแล้งสงขลา ทั้งระบบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ ม.9 ต.ท่าหินกิน อ.สทิงพระ  จ.สงขลา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรับทราบปัญหาอุปสรรค โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอำเภอระโนด และส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ร่วมติดตามและให้การต้อนรับ

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ เป็นหนึ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา ที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยมาโดยตลอดเมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรเป็นประจำ เมื่อมีการรุกตัวของน้ำเค็มถึงทะเลสาบตอนบน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ได้มีการขุดลอก และขยายคลองพลเอกอาทิตย์ฯ จากความกว้างเดิม 40 เมตรเป็น 70 เมตร และขุดขยายคลองหนัง บริเวณ อำเภอสทิงพระ เพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำ ก่อสร้างแก้มลิงรวมไปถึงปรับปรุงแก้มลิงเดิมเพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ก่อสร้างระบบกระจายน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่การเกษตร ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำจาก 2 ล้าน ลบ.ม. เป็น 7 ล้าน ลบ.ม. หรือมากกว่าเดิมกว่า 3 เท่าตัว โดยสามารถเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 12,000 ไร่ โดยมีแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 

ต่อจากนั้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และท่านนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาติดตามความก้าวหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในตัวเมืองหาดใหญ่ และเก็บกักน้ำไว้สำหรับการเพาะปลูกด้านการเกษตร ผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภค อุตสาหกรรม สนองความต้องการใช้น้ำในด้านต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลาที่กำลังขยายตัว

โดยการดำเนินงานจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งเดิมสามารถระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อรวมกับอัตราการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภาที่ระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำให้สามารถระบายน้ำได้สูงสุดรวม 1,665 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งประมาณ 5.00 ล้านลูกบาศก์เมตร มีระยะเวลาโครงการ 8 ปี (พ.ศ.2558 – 2565) วงเงินงบประมาณ 6,500 ล้านบาท

กรุงเทพฯ - โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณี กองทัพเรือ “ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ รื้อต้นไผ่ภายในกองทัพเรือ”

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีสื่อมวลชนและสำนักข่าวหลายสำนัก นำเสนอข่าว กองทัพเรือ ปรับภูมิทัศน์ ในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิมและวังนันทอุทยานโดยระบุว่า ผู้บัญชาการทหารเรือท่านปัจจุบัน ได้สั่งให้มีการรื้อต้นไผ่ซึ่งปลูกในสมัย พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์  ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ เพราะมีความขัดแย้งกับ พลเรือเอก ลือชัย ฯ นั้น โฆษกกองทัพเรือ

ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เนื่องจากภายในเขตพระราชวังเดิม นอกจากจะเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานของกองทัพเรือแล้ว ยังมีโบราณสถานที่สำคัญที่กองทัพเรือดูแลรักษา ตกแต่งภูมิทัศน์ให้มีความงดงามอยู่เสมอ แต่เนื่องจากต้นไผ่ ซึ่งปลูกมาเป็นเวลากว่า 3 ปี จึงเจริญเติบโตสูงขึ้นและบดบังอาคารสำนักงาน รวมถึงบดบังทัศนียภาพโบราณสถานที่สวยงามอีกด้วย

จึงจำเป็นต้องถอนหรือตัดออกบางส่วนเพื่อความสวยงาม ส่วนในพื้นที่ กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน ก็พบว่าต้นไผ่ขึ้นสูงจนบดบังอาคารเช่นเดียวกัน  รวมถึงบดบังเส้นทางจราจรในพื้นที่ดังกล่าวด้วย จึงให้มีการตัดถอนออกบางส่วนเพื่อปรับภูมิทัศน์ ด้วยเช่นกัน โดยต้นไผ่ที่ถอนออกมานั้น จะได้นำไปปลูกที่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ศาลายาต่อไป โดยผู้บัญชาการทหารเรือ มิได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ดำเนินการรื้อต้นไผ่ตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด

 

 

สตูล - ผู้ว่าฯ รับมอบเตียงสนามแอร์โรคลาส พร้อมชุดเครื่องนอน จำนวน 70 ชุด มูลค่า 210,000 บาท เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลสนามในจังหวัดสตูล

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และนายจรัส บำรุงเสนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล ร่วมรับมอบเตียงสนามแอร์โรคลาส พร้อมชุดเครื่องนอน จำนวน 70 ชุด มูลค่า 210,000 บาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด และบริษัท แอร์โรคลาส จำกัด พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค-บริโภค ได้แก่ ข้าวสาร น้ำดื่ม เจลแอกอฮอล์และหน้ากากอนามัย จากนายธเนตร์ กรอบเพชร กรรมการผู้จัดการ TJM SU Autotire และกลุ่มออฟโรดTJM SV Autotire เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลสนามในจังหวัดสตูล

นอกจากนี้ กลุ่มออฟโรดTJM SV Autotire ได้สาธิตวิธีการประกอบเตียงอีกด้วย โดยเตียงสนามแอร์โรคลาสผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงและวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป น้ำหนักเบา แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน สามารถรับน้ำหนักได้กว่า 200 กิโลกรัม ติดตั้งได้รวดเร็ว และที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องการสะสมของเชื้อโรค โดยส่งมอบให้กับศูนย์พักคอย (Community Isolation) และโรงพยาบาลสนามที่ต้องการใช้งานต่อไป

แฉ!! รัฐบาลสหรัฐฯ​ หนุนบริษัทวัคซีน​ มุ่งทำ​ 'กำไร'​ จากชีวิตมนุษย์ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.24

สุดท้ายผลประโยชน์​ ก็ยังเป็นสิ่งหอมหวนของคนที่เห็นแก่ได้เสมอ!! 

แอบถ่าย!! นักวิทยาศาสตร์ Pfizer หลุดเผยนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ หนุนบริษัทวัคซีนให้มุ่งทำ​ 'กำไร'​ จากชีวิตมนุษย์

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

“13 ตุลาฯ รำลึก” บันทึกความทรงจำจากพสกนิกรคนหนึ่ง | MEET THE STATES TIMES EP.30

 ???? “13 ตุลาฯ รำลึก” บันทึกความทรงจำจากพสกนิกรคนหนึ่ง...
???? “คิดถึง มิลืมเลือน” ในหลวงในความทรงจำ รำลึกวันสวรรคต รัชกาลที่ 9

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

“Squid Game” สุดปัง!! ดันหุ้นอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงพุ่งทะยาน | Knowledge Times EP.28

???? KnowledgeTimes BizView
???? “Squid Game” สุดปัง!! ดันหุ้นอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงพุ่งทะยาน 

ปังไม่หยุด! สำหรับซีรีส์เรื่อง “Squid Game” หรือชื่อไทยว่า “เล่นลุ้นตาย” โดยผู้สร้าง “ฮวังดงฮยอก” ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในการสร้างปรากฏการณ์ความฮอตให้คนทั้งโลก รวมถึงทำให้วัฒนธรรมการละเล่น ไปจนถึงการเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ขึ้น จนเป็นไวรัลที่มองข้ามไม่ได้!!

ล่าสุด Squid Game ได้พิสูจน์ความเป็นซีรีส์ยอดนิยมแห่งปี ที่ไม่ใช่แค่เรตติ้งที่พุ่งกระฉูดเท่านั้น แต่ยังสร้างสถิติเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่สามารถคว้าอันดับ 1 ความยอดนิยมบน Netflix ในสหรัฐฯ ไปเรียบร้อย

ที่สำคัญ ซีรีส์เรื่องนี้ ยังส่งผลไปถึงราคาหุ้นของ Netflix รวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ มีมูลค่าขยับปรับตัวสูงขึ้นกันถ้วนหน้า 

โดย Bucket Studio ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทต้นสังกัดของนักแสดงนำ “อีจองแจ” มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 2% ในช่วงที่ออนแอร์วันแรกในการซื้อขายตลาดหุ้น KOSPI ของเกาหลีใต้ โดยราคาดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 5,290 วอน เมื่อเทียบกับในช่วงก่อนที่ Squid Game จะออนแอร์ที่ระดับ 2,800 วอน ดันมูลค่าหุ้นจาก 114 พันล้านวอน ขึ้นมาเกือบแตะ 2 แสนล้านวอน (หรือ 170 ล้านดอลลาร์) (ณ วันที่ 17 ก.ย.)

ในขณะที่ Showbox ซึ่งถือหุ้นใน บริษัท Siren Pictures ผู้ผลิตซีรีส์เรื่องดังกล่าว พุ่งขึ้นกว่า 50% โดยราคาหุ้นปรับขึ้นอยู่ที่ 5,980 วอน (ณ วันที่ 17 ก.ย.) ขณะที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นเคยตกลงไปถึง 10%

“โอแทวอน” นักวิเคราะห์จาก Korea Investment & Securities กล่าวว่า บริษัทสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง Squid Game ยังทำให้หุ้นในกลุ่มสื่อและโฆษณาของเกาหลีใต้ได้อานิสงส์ไปด้วย เช่น Astory เพิ่มขึ้น 15.7%, Next Entertainment World เพิ่มขึ้น 12.7% และ Samhwa Networks เพิ่มขึ้น 10.2% ในช่วง 3 วันหลังซีรีส์เรื่องนี้ออนแอร์

ส่วนหุ้นของ Netflix เอง ก็ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งปิดการซื้อขายไปที่ 610.34 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนให้ความมั่นใจว่าบริษัทยังคงสามารถสร้างฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็เพิ่มขึ้นอีก 5.2% โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 640.39 ดอลลาร์ 

“Reed Hastings” CEO ของ Netflix ระบุว่า ความสำเร็จของ Squid Game สร้างความประหลาดใจให้กับ Netflix เช่นกัน เนื่องจากบริษัทไม่ได้คาดหวังว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกมากมายขนาดนี้ นอกเหนือจากนั้น สินค้าอย่างรองเท้าสลิปออนสีขาว ที่นักแสดงใช้ใส่ในฉากการเล่นเกม ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 7,800% เลยทีเดียว 

ขณะที่ ผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ยังพยายามหาซื้อชุดวอร์มและรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่คล้ายกับที่ผู้เข้าแข่งขันในซีรีส์สวมใส่ ตามข้อมูลของ Lyst Insights พบว่า ยอดขายชุดวอร์ม เพิ่มขึ้น 97% ส่วนรองเท้าผ้าใบสีขาวมียอดขายเพิ่มขึ้น 145% ขณะที่ชุดที่มีลักษณะคล้ายผู้คุมในซีรีส์ ยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 35%  

นอกจากนี้ในโลกโซเชียล อย่าง TikTok ยังมีกระแสนำเกมที่ปรากฏในซีรีส์ไปเล่นตาม โดยเฉพาะเกม “AEIOU” ซึ่งมาสคอตเด็กผู้หญิงผมแกะได้รับความนิยมสูงมาก จนถูกนำไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่สร้างกระแสอย่างมากคือ เกมแกะน้ำตาล หรือขนมทัลโกนา ที่กลับมาฮิตอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเกมที่เด็ก ๆ เกาหลีใต้ ยุค 80- 90 นิยม ก่อนที่จะเลือนหายไปตามกาลเวลา

ไม่เพียงในต่างประเทศเท่านั้น ในไทยเราเองก็ไม่น้อยหน้ากัน เราได้เห็นเหล่าคนบันเทิง มาแต่ง Cover ตามตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวยักษ์ใหญ่ในเกม AEIOU หรือแม้แต่ขนมทัลโกนาน้ำตาลเคี่ยว ก็ต่างฮิตทำตาม ๆ กัน รวมไปถึงเปิดให้บริการเกมบนมือถือชื่อ “Squid Game Challenge” ที่ดัดแปลงจากซีรีส์ บนระบบ Android ใน Google Play Store ของไทยด้วยเช่นกัน 

ทำให้เห็นว่า Squid Game เป็นเหมือนเครื่องตอกย้ำว่า อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้มีความต้องการจากทั่วโลกไม่น้อย และเป็นที่น่าจับตามองว่า กระแสการตอบรับซีรีส์จากเกาหลีใต้ครั้งนี้ อาจจะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญของ HOLLYWOOD ในอนาคตก็เป็นได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top