Sunday, 27 April 2025
Hard News Team

ปชป.เข้มคุมโควิด - จนท.สลับ WFH เปิดทำการปกติ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์และการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด19 ในส่วนของพรรค ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้กำชับให้บุคลากรของพรรคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเคร่งครัด ขณะนี้ได้มีการให้เจ้าหน้าที่พรรคได้สลับกันทำงานที่บ้าน “Work From Home”เพื่อร่วมป้องกันและควบคุม ส่วนที่สำนักงานใหญ่ของพรรคฯ ก็จะมีการคัดกรองก่อนเข้าอาคาร ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ประชาชนผู้มาติดต่อก็มีการคัดกรองและต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา 

ขณะเดียวกัน นายราเมศ กล่าวต่อว่า ทุกคนทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในการแพร่ระบาดรอบแรกสามารถแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยม ทุกคนจึงต้องมีวินัย ใส่ใจส่วนรวม ร่วมมือกัน เชื่อว่าเราทุกคนจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี พรรคและสมาชิกพรรคทุกคนขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทุ่มเททำงานกันด้วยความเหน็ดเหนื่อย ขอบพระคุณที่เสียสละเพื่อประชาชนและประเทศ

เบิกตัว “เพนกวิน” ขึ้นศาลคดี ม.112 ปราศรัยม็อบเฟส “ทนาย-แม่” ยังห่วงอดอาหารประท้วงจนอาการหนัก

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.286/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112 กรณีจำเลยร่วมชุมนุมปราศรัยกลุ่มม็อบเฟส เมื่อวันที่ 14 - 15 พ.ย. 2563 ที่แยกคอกวัว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง โดยศาลเบิกตัวนายพริษฐ์ จำเลย ซึ่งอดอาหารประท้วง ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 และถูกแจ้งข้อหาตาม ม.112 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยก่อนการพิจารณาคดีว่า คดีนี้คนละคดีกับที่มีการถอนทนายความ (คดีชุมนุม 19 - 20 ก.ย. 2563 ที่จำเลยยื่นถอนทนายความ) คดีนี้ตนเป็นทนายจำเลยเพียงคนเดียว กังวลว่าราชทัณฑ์จะไม่ให้พบปะกับเพนกวิน มีหลายเรื่องที่ต้องคุยกับเพนกวิน เรื่องสู้คดี จะคิดแบบเดียวกับคดีนั้นหรือไม่ จะถอนทนายความหรือไม่ ส่วนไม่ได้เจอกับเพนกวินนานแค่ไหนนั้น ตนมีทนายไปเยี่ยมเพนกวินอยู่บ้าง แต่ติดวันหยุดยาว เพนกวินเจ็บป่วยอยู่ที่สถานพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ทราบมาปัจจุบันอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีคนมากมายติดต่อมาให้ตนคุยกับเพนกวินเลิกการอดอาหาร 

นายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า เราเคยขอต่อศาลให้นำเพนกวินไปจองจำไว้ที่โรงพยาบาลก็ไม่ให้ เราขอให้เอาหมอมาตรวจที่ห้องพิจารณาคดี ศาลก็ไม่ให้ กังวลนาทีต่อนาที ตนรับผิดชอบคดีก็พยายามคุยกับผู้เกี่ยวข้องให้เพนกวินออกไปรักษาตัว เขาไม่สบายใจ เชื่อเรื่องการประทุษร้ายในเรือนจำ ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร มีผู้ใหญ่เสนอผ่านตนให้คุยกับเพนกวินตนก็จะบอกให้ แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่ใจเขา การอดอาหารเขายืนยันว่าเขาไม่ได้ทำร้ายใคร เขาทำร้ายตัวเอง สิ่งที่กระบวนการยุติธรรมทำเป็นการทำร้ายคนอื่นด้วย เขาคิดถึงเพื่อนที่ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ด้าน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน เปิดเผยว่า วันนี้ถ้าได้พูดคุยกับเพนกวิน ไม่ถูกกีดกัน ก็จะถามไถ่ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราอยากฟังจากปากลูกเราเอง อยากรู้จริง ๆ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง เป็นห่วงมาก 30 กว่าวันแล้ว ที่ได้ยินมาเขามีอาการวูบ เป็นลม น้ำตาลตกหลายครั้งแล้วในช่วงไม่กี่วัน สายน้ำเกลือมีเลือด เป็นห่วงว่าจะมีภาวะอะไรไหม จะคุยกันหลายเรื่อง พยายามจะทำทุกวิถีทางให้ดีที่สุด หลังจากวันนี้เพนกวินไม่น่าจะมีคิวขึ้นศาล อีกครั้งประมาณปลาย พ.ค. ช้าเกินไป อยากขอความเป็นส่วนตัวในการพูดคุย

“สิระ” ซัด “จตุพร” โหนกระแสเด็ก หลังโดนเสื้อแดงเท เย้ย หวังจะเป็นหัวหน้าสุดท้ายตกม้าตาย ไม่มีใครเชื่อลมปาก เชื่อ ทุกวันนี้ไม่กล้าส่องกระจก เพราะเจอแต่คำว่าตกอับขึ้นเต็มหน้า

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาเรียกร้องให้ มีการอนุญาตให้แกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังได้รับสิทธิ์การประกันตัวว่า ประชาชนดูก็รู้ว่านายจตุพรไปไม่รอด ไม่เหลือภาวะผู้นำทางความคิดอีกแล้ว การชุมนุม 2 - 3 วันที่ผ่านไป ภายใต้แกนนำหลักอย่างนายจตุพร ปลุกระดมมวลชนไม่ขึ้น มีคนมาร่วมหรอมแหรมหลัก 10 เพราะไม่มีใครเชื่อคำพูดที่ไร้สัจจะวาจาของนายจตุพรอีกแล้ว สุดท้ายนายจตุพรก็ต้องมาโหนกระแสพึ่งบรรดาเด็กที่ติดคุกทั้งหลายให้มาเรียกมวลชนให้ จากที่เคยประกาศตัวขึงขัง หวังจะสถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้า แต่กลับต้องมาเดินตามตูดเด็ก ตนอยากถามนายจตุพรว่า หน้าฉาบปูนซีเมนต์กี่ชั้น ถึงได้หนาขนาดนี้ ไม่อายตัวเองก็น่าจะอายหมาบ้าง ทำร้ายประเทศชาติให้ย่อยยับมานานเท่าไหร่แล้ว 

“นายจตุพรเคยพูดไว้ว่า เป้าหมายที่สำคัญคือการไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง โดยที่จะไม่ก้าวล่วงสถาบัน แต่วันนี้กลับกลืนน้ำลาย ออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้กระทำความผิดในคดี 112 พฤติกรรมของนายจตุพรแสดงให้เห็นว่าไม่มีจุดยืนใด ๆ ทั้งสิ้น ยอมทำทุกอย่าง ไม่สนถูกผิด เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ผมอยากถามนายจตุพรว่า ที่คนเสื้อแดงเขาไม่ออกมาร่วมชุมนุม เป็นเพราะอะไร นายจตุพรต้องไปหาคำตอบให้ตัวเอง ว่าเคยไปก่อกรรมทำชั่วอะไรกับพวกเขาไว้บ้างหรือไม่ วันนี้ถ้าตนเป็นนายจตุพร คงไม่กล้าส่องกระจกมองหน้าตัวเองด้วยซ้ำ เพราะส่องไปก็จะเห็นแต่คำว่า ตกอับ อยู่เต็มหน้าไปหมด” นายสิระ กล่าว 

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร ระบุถึงกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาลแจ้งดำเนินคดีจากการจัดให้มีการชุมนุมที่บริเวณ อนุสรณ์สถานพฤษภา 35 สวนสันติพร เมื่อวันที่ 4 , 5 และ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯว่า น่ากลัวจังเลยนั้น นายสิระ กล่าวว่า นายจตุพรอย่าดีแต่ปาก กล้าพูดก็ขอให้กล้าเดินไปรับกรรมตามกฎหมายด้วย อย่าทำตัวเป็นคนประเภทที่มีปากเหมือนมีตูด คำพูดไม่ใช่เสียงตด ลูกผู้ชายพูดแล้วต้องแอ่นอกรับด้วย เพราะที่ผ่านมา เห็นชัดว่า นายจตุพรไม่เคยทิ้งพฤติกรรมเดิมๆตั้งแต่ปี 53 ที่ก่อเหตุเผาบ้านเผาเมือง ลั่นวาจาบนเวทีว่าจะรับผิดชอบจากการก่อการร้าย แต่สุดท้ายกลับชิงหาย ปล่อยคนเสื้อแดงบาดเจ็บ ล้มตาย ตัวเองเสวยสุข และตนอยากถามว่า นายจตุพรกับพวก ได้ไปชดใช้ค่าเสียหายจากการสั่งเผาตึกย่านราชปรารภตามคำสั่งของศาลเเพ่งหรือยัง

หนุ่มส่งของเดลิเวอรี่เซ็ง ถูกพิตบูลลูกค้ากัดระหว่างไปส่งอาหาร ด้านเจ้าของชดใช้แค่ 100 บาท พร้อมบอกจะติดต่อมาใหม่ แต่สุดท้ายหายเงียบ

เป็นอีกปัญหาซ้ำซากในสังคมไทย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่เป็นพนักงานส่งของได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อทำการส่งอาหารที่บ้านหลังหนึ่ง แต่กลับถูกสุนัขพิตบูลของลูกค้ากัดเข้าที่บริเวณข้อเท้าซ้ายเป็นแผล 2 จุด ซึ่งเจ้าของสุนัข ชดใช้ให้เบื้องต้นเพียง 100 บาท และบอกว่าจะติดต่อกลับมาใหม่ แต่สุดท้ายยังไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐานผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์

โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา ม.377 และอาจต้องชดใช้ในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์จากการทำงาน หรือ ขาดรายได้ ตาม ป.แพ่งและพาณิชย์ ม.443


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000036751

https://www.facebook.com/groups/862974280826865/permalink/1222445311546425/

เพจ Street Hero Project ไขข้อข้องใจ ทำไมอิสราเอลฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม 70% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่มีการฉีดให้ประชากรสูงที่สุดในโลก โดยระบุว่า...

ทำไมอิสราเอลถึงฉีดวัคซีนได้ถึง 70% เป็นประเทศแรกของโลก เอาข้อมูลมาให้วิเคราะห์กัน

1.) อิสราเอลยอมจ่ายค่าวัคซีนล่วงหน้าให้บริษัทผู้ผลิตในราคาที่แพงกว่าที่สหรัฐฯ และยุโรปซื้อมากกว่า 35%

เฉลี่ย 1 คน ใช้เงิน 47 us แต่ยุโรปใช้เงิน 35 us (วัคซีนของ Pfizer และ Moderna)

2.) พื้นที่ประเทศขนาด 2 หมื่น ตร.กม. (เล็กกว่าโคราชเล็กน้อย) ประชากร 8.66 ล้านคน ทำให้ใช้งบประมาณและจำนวนวัคซีนไม่เยอะ ใช้เวลาฉีดวัคซีนรวมกว่า 100 วัน

3.) ปัจจุบันอิสราเอลมีผู้ติดเชื้อสะสม 8 แสนกว่าคน เสียชีวิต 6 พันกว่าคน และผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 2 ร้อยกว่าคน

#ข้อมูลเสริม

อันดับ 2-3 ของโลก คือ อังกฤษที่ 48% และสหรัฐฯ ที่ 40% ทั้งสองคือประเทศที่วิจัยและผลิตวัคซีนได้เอง

ในเอเชีย สิงคโปร์เป็นชาติแรกที่ได้วัคซีนโดยจ่ายเงินล่วงหน้าในราคาที่แพงกว่าประเทศในเอเชียด้วยกัน

ปัจจุบันสิงคโปร์ฉีดวัคซีนได้ที่ 20% เกาหลีใต้ 3% ญี่ปุ่น 0.9% ไทย 0.7% เวียดนาม 0.1%

พอจะได้คำตอบไหมครับ

https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/israel-said-to-be-a-leader-in-number-of-covid-related-fines/


ที่มา : https://www.facebook.com/838203756283643/posts/3525020537601938/

เฟซบุ๊ก Brian B. - News Atlas โดยไบรอัน เบอร์เลติก ได้โพสต์ข้อความชวนคิดในหัวข้อ “พันธมิตรชานม: ทวิตเตอร์สร้างอิโมจิสำหรับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย” ว่า...

เฟซบุ๊ก Brian B. - News Atlas โดยไบรอัน เบอร์เลติก ฝรั่งอเมริกันที่เคยออกมาแฉว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือหนึ่งของอเมริกาในการแทรกแซงประเทศต่าง ๆ จนถูกปิดเพจไปก่อนหน้า ได้โพสต์ข้อความชวนคิด โดยอิงจากบทความของสำนักข่าวบีบีซี (BBC) ในหัวข้อ “พันธมิตรชานม: ทวิตเตอร์สร้างอิโมจิสำหรับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย” ว่า...

'ทวิตเตอร์' ได้เปิดตัวอีโมจิใหม่ สำหรับกลุ่มพันธมิตรชานม (Milk Tea Alliance) ที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของชาวเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน โดยกลุ่มพันธมิตรนี้ ได้รวบรวมเอากลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านปักกิ่ง (anti-Beijing) ในเกาะฮ่องกง และประเทศไต้หวัน พร้อมกับกลุ่มรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย และประเทศเมียนมาไว้ด้วยกัน

ในเนื้อหายังบอกอีกว่า สิ่งที่สำนักข่าวบีบีซี (BBC) ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีอยู่ 2 อย่างที่เหมือนกัน คือ

1.) กลุ่มนักเคลื่อนไหวเหล่านี้เกลียดประเทศจีน

2.) พวกเขาทั้งหมดได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านทาง กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Endowment for Democracy – NED)

ทุกคนสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเงินทุนสนับสนุนนี้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทุกคนเข้าไปที่เว็บไซต์ของกองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ ของสหรัฐฯ (National Endowment for Democracy – NED) แล้วเข้าไปดูที่ข้อมูลภายใต้รายชื่อของแต่ละประเทศเหล่านี้ เช่น ประเทศไทย , ประเทศเมียนมา ที่พวกเขายังคงเขียนชื่อเดิม ประเทศพม่า และ เกาะฮ่องกง ครับ

ทวิตเตอร์ กล่าวว่า “ในเวลาที่เกิดการก่อความไม่สงบหรือการปราบปรามอย่างรุนแรงขึ้น สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างอิสระ (Open Internet) สำหรับการอัพเดต ณ เวลาที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว, เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และการให้บริการที่จำเป็นต่างๆ”

จากส่วนหนึ่งของบทความนี้ ที่ทางทวิตเตอร์ได้กล่าวไว้คือ “เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้” หมายความว่า ทางทวิตเตอร์กำลังบอกทุกคนว่า ทางทวิตเตอร์กำลังเซ็นเซอร์ข้อมูลบางส่วนออกจากระบบเครือข่ายของพวกเขา ทวิตเตอร์กำลังไล่ระงับผู้ใช้งานที่ต่อต้านเรื่องเล่าของประเทศสหรัฐฯ ที่ผมได้เคยยกตัวอย่างมามากมายกับข้อมูลเหล่านี้ผ่านคลิปที่ผมได้เคยเผยแพร่ทางช่องยูทูป: แลนด์ เดสทรอยเยอร์ (YouTube: Land Destroyer) ของผม

จากเว็บบล็อกของทางทวิตเตอร์ กับบทความเมื่อเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 2020 ซึ่งเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทางทวิตเตอร์ได้พบบัญชีมากกว่า 900 บัญชี ที่ได้ถูกระงับลบออกจากระบบเครือข่ายของทางทวิตเตอร์ เนื่องจากสามารถ “เชื่อถือได้ว่ามีความเชื่อมโยง (reliably link)" กับกองทัพบกได้

เวลาที่ใครใช้คำอย่าง “เชื่อถือได้ว่ามีความเชื่อมโยง" นั้น หมายความว่าคนๆ นั้นไม่มีหลักฐาน และไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงให้ดูได้ เพราะถ้ามีหลักฐานจริง ทางทวิตเตอร์คงนำมาแสดงให้เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าบัญชีเหล่านั้นมันเชื่อมโยงกับกองทัพบกจริง พวกเขาจึงใช้คำนี้เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐานครับ กองทัพบก คือ กลุ่มคนที่ยืนหยัดเพื่อประเทศของเขาและต่อต้านคนที่มาก่อการจลาจลและปลุกปั่นที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐฯ และรวมถึงพวกม็อบหัวรุนแรง แต่ทางทวิตเตอร์กลับระงับและลบบัญชีของพวกเขาทิ้ง

บทความในเว็บไซต์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) เป็นอีกหนึ่งตัว อย่างที่ผมอยากจะกล่าวถึงนะครับ “ทวิตเตอร์ระงับบัญชีของไทยรอยัลลิสต์ ที่เชื่อมโยงถึงการมีอิทธิพลเพื่อจูงใจในการรณรงค์” และเช่นเคย ทวิตเตอร์ใช้วิธีเดิมๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทวิตเตอร์ก็แค่ระงับบัญชีของผู้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐฯ เพื่อให้มีข้อมูลเพียงด้านเดียวเท่านั้นบนทวิตเตอร์ และนี่คือเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Networks) ของประเทศสหรัฐฯ ครับ

ผมได้เคยชี้ถึงประเด็นที่ผมกำลังกล่าวถึงอยู่หลายครั้ง ว่าเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ของประเทศสหรัฐฯ นั้น ได้ร่วมงานโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งทุกคนจะสามารถเห็นผลงานนั้นได้จากบทความในเว็บ ไซต์ของ สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ที่ทางประเทศสหรัฐฯ ร่วมมือกับทางทวิตเตอร์ กับบทความหัวข้อที่ว่า ”กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเจรจากับทวิตเตอร์เรื่องอิหร่าน” ”กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวไว้เมื่อวันอังคารว่า พวกเขาได้ติดต่อไปยังทวิตเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อขอให้พวกเขาชะลอการอัพเกรดที่จะลดเวลาการให้บริการในช่วงเวลากลางวันกับชาวอิหร่านที่กำลังถกกันเรื่องการเลือกตั้ง”

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประเทศสหรัฐฯ กำลังดำเนินการการปฏิวัติสี (Colour Revolution) อย่างรุนแรง อยู่ในประเทศอิหร่าน พวกเขาได้ใช้ทวิตเตอร์ในการประสานและวางแผนงาน และไม่ต้องการให้เกิดการสะดุดหรือหยุดชะงักการใช้งานระหว่างที่พวกเขากำลังปฏิบัติการกันอยู่

ผมอยากจะขอยกบทความจากเว็บไซต์ของนิวยอร์ค ไทมส์ (New York Times) เมื่อปีค.ศ. 2011 นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมันเป็นบทความที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันมีการยอมรับอยู่หลายประเด็นด้วยกัน ภายใต้หัวข้อ ”กลุ่มองค์กรต่างๆของสหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนการการลุกฮือของชาวอาหรับ” พวกเขาออกมายอมรับว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ให้เงินทุนสนับสนุนกลุ่มต่อต้านเหล่านั้นทั้งหมด การลุกฮือในครั้งนั้นไม่ได้เป็นการเกิดขึ้นแบบอย่างฉับพลัน กระทันหัน หรือที่ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันเองของกลุ่มชาวอาหรับ แต่กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับการถูกฝึกอบรมมาก่อนหน้านั้นนานหลายปีแล้วครับ และจากบทความเดิม ยังมีการยอมรับเกี่ยวกับการฝึกอบรมดังกล่าว ที่ระบุว่า ”ผู้นำเยาวชนของชาวอียิปต์บางคนได้เข้าร่วมการประชุมเทคโนโลยีในปี ค.ศ. 2008...”

“...และบรรดาผู้ให้การสนับสนุนการประชุมนี้ ได้แก่ เฟสบุ๊ค (Facebook) , กูเกิล (Google) , เอ็มทีวี (MTV - Music Television) , โรงเรียนกฏหมายโคลัมเบีย (Columbia Law School) และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ” บรรดาผู้ให้การสนับสนุนเหล่านี้ได้ร่วมงานกันมาเป็นเวลาสิบปีแล้วและยังคงร่วมงานกันอยู่ การที่ทวิตเตอร์ได้ทำอีโมจิเพื่อกลุ่มพันธมิตรชานมนั้น เพราะกลุ่มพันธมิตรชานมเป็นโครงการของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐครับ

ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เต็มไปด้วยรัฐบาลของแต่ละประเทศที่สร้างความสัมพันธ์กับประเทศจีนมาเนิ่นนานและจะไม่มีวันที่จะตัดความสัมพันธ์ที่ว่านั้น เพราะเพียงแค่ประเทศสหรัฐฯ สั่งให้ทำ ดังนั้น ประเทศสหรัฐฯ จึงต้องสร้างกลุ่มต่อต้านเหล่านี้ เพื่อใช้ในการโค่นรัฐบาลเหล่านั้น แล้วเปลี่ยน แปลงระบอบการปกครองโดยตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นมาแทนที่เพื่อให้ตัดความ สัมพันธ์กับประเทศจีนลงครับ

และจากข้อความของทวิตเตอร์ที่ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับการทำอีโมจิ เพื่อกลุ่มพันธมิตรชานม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนายเนติวิทย์ ที่ทุกคนคงจำเขาได้ เขาเป็นนักเคลื่อนไหวชาวไทยคนหนึ่งที่ได้ไปพูดบรรยายในงานเวทีเสรีภาพออสโล (Oslo Freedom Forum) ซึ่งสำนักข่าวบีบีซี (BBC) ได้ไปร่วมทำข่าวและยอมรับเองผ่านการรายงานว่า

“นี่อาจไม่ได้เกิดขึ้นจากการปลุกจิตวิญญาณในตัวของนักเคลื่อนไหว แต่ถ้าหากการเรียนการสอนจากที่นี่ไปจะประสบความสำเร็จในการโค่นล้มรัฐบาลให้ได้อย่างถาวรนั้น คนที่มาที่นี่จะต้องมีระเบียบ ต้องทุ่มเทกับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน นักเคลื่อนไหวที่นี่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกับการจัดการประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในฮ่องกง ณ ปัจจุบัน แผนการของพวกเขาคือการนำผู้คนนับพันออกมาลงถนน ที่จริงแล้วมันได้เกิดขึ้นจากที่นี่เมื่อเกือบสองปีก่อน”

นี่คือทุกแง่มุมที่นักข่าวบีบีซีได้พยายามบอกกับทุกคน เกี่ยวกับนักเคลื่อน ไหวเหล่านี้ รวมไปถึงที่ทางทวิตเตอร์ให้การสนับสนุนพวกเขา พวกเขาพยายามทำให้เหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด นักเคลื่อนไหวทุกคนได้มารวมตัวกันเอง แต่มันไม่ใช่เลยครับ พวกเขาทั้งหมดได้รับเงินทุนและได้รับการสนับสนุนและกำกับโดยกลุ่มคนกลุ่มเดียวกันในวอชิงตันดีซี

นี่คือความอันตรายของการปล่อยให้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของประเทศสหรัฐฯ ครอบครองพื้นที่ทางข้อมูลในประเทศของทุกคน ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค่อนข้างที่จะติดหรือพึ่งกับการใช้งานบนเฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์มากเกินไป พวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างและพัฒนาแพลต ฟอร์มของตัวเองและผลักดันให้เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ ของประเทศสหรัฐฯ ออกไปจากพื้นที่ข้อมูลของทุกคนครับ

ไบรอัน เบอร์เลติก ฝรั่งอเมริกันที่เคยออกมาแฉเฟซบุ๊ก


ที่มา: https://www.facebook.com/105777441608823/posts/119955130191054/

 

“เทพไท” แนะ รัฐบาล สั่ง คลัง - สศช. หรือ กมธ.ติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้1.9ล้านล้านบาท แถลงความคืบหน้ากับประชาชน

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทยได้ออกมาวิจารณ์โครงการกู้ครบรอบ 1 ปี เพื่อเยียวยา - ฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล สูญหาย ล้มเหลว ยิงไม่ตรงเป้า สวยแต่รูปจูบไม่หอม ว่า เป็นเรื่องที่สังคมต้องการคำตอบว่า จำนวนเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้มาเพื่อใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ที่เกิดจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงบัดนี้เวลาล่วงเลยมาเป็น 1 ปีแล้ว สังคมก็อยากจะได้คำตอบว่าจำนวนเงิน 1.9 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลได้นำไปใช้ในโครงการอะไรบ้าง และมีความคืบหน้าอย่างไร ซึ่งรัฐบาลก็ควรจะให้คำตอบกับประชาชน ในฐานะเป็นเจ้าของประเทศ ที่ต้องรับผิดชอบภาระเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทของรัฐบาลด้วย 

นายเทพไท กล่าวว่า "ตนเห็นว่ารัฐบาลสามารถสั่งการให้กระทรวงการคลัง หรือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  แถลงความคืบหน้าการใช้เงินกู้ดังกล่าว ต่อประชาชนได้ หรืออาจจะประสานงานให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานฯ

ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการติดตามและตรวจสอบการใช้เงินของรัฐบาลจำนวน 1.9 ล้านล้านบาท จาก พ.ร.ก.เงินกู้ทั้ง 3 ฉบับ ให้แถลงข่าวในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารโดยตรง ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง และเกิดความสงสัยในสังคม รัฐบาลจึงควรจะรายงานความคืบหน้าการใช้ พ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับ จากจำนวนเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา"

กนอ. ปลื้ม! ผลงานลงทุนกลุ่มยานยนต์-การขนส่ง พุ่ง 1 แสนล้านบาท

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63 - มี.ค.64) มีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 106,146.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 78,758.09 ล้านบาท ที่ทำได้ 27,388.47 ล้านบาท หรือคิดเป็น 287.56% เป็นผลจากการแจ้งเริ่มประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมในช่วง 1 ถึง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องและขยายการลงทุนเพิ่ม ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความต้องการขยายการลงทุนอีกมากโดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์และการขนส่ง , เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ , กลุ่มยาง พลาสติกและหนังเทียม , กลุ่มเครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์  ที่ยังคงมีการลงทุนมากที่สุดในช่วง 2 ไตรมาสของปี 64 เช่นกัน ขณะที่มีการจ้างงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 4,655 คน ซึ่งลดลงกว่าปีก่อนหน้า 42% เนื่องจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนโดยเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง 13.94% ยังคงครองแชมป์การลงทุน รองลงมาคืออุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ 11.69% อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม 7.95% อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ 7.2% อุตสาหกรรมปุ๋ย สีและเคมีภัณฑ์ 5.99 % โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจมาลงทุนมากเป็นอันดับ 1 ถึง 37.36% รองลงมาคือนักลงทุนจากประเทศจีน 8.16 % อเมริกา 6.79 % สิงคโปร์ 6.78 % และไต้หวัน 4.11 %

“สำหรับการขาย/ให้เช่าที่ดินในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64 ในภาพรวมประมาณ  473.75 ไร่ ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผู้ประกอบการซื้อ/เช่าประมาณ 1,398.84 ไร่ คิดเป็น 66.13% แบ่งเป็นการขาย/เช่าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 394.42 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี 79.33 ไร่ ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ในภาพรวมจะชะลอการลงทุนอยู่บ้าง เนื่องมาจากการระงับเดินทางข้ามประเทศชั่วคราว แต่ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถจูงใจการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมได้”  นางสาวสมจิณณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปี 64 กนอ.มีแนวทางยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมให้สามารถขับเคลื่อนภาคการผลิต โดยเพิ่มศักยภาพการให้บริการระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปการในนิคมอุตสาหกรรม ที่ตั้งเป้าให้ทุกนิคมก้าวสู่นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ โดยการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงข้อมูล การขับเคลื่อนการบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภค รวมถึงบริการต่าง ๆ ในนิคมอุตสาหกรรม

เป็นเรื่องราวที่แพร่หลายในสังคมของชาวเมียนมา สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึงคราวที่ประชาชนชาวเมียนมาได้รับวัคซีนบ้าง

เป็นเรื่องราวที่แพร่หลายในสังคมของชาวเมียนมา มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีนโยบายมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนรัฐประหารว่า หากเหล่าผู้นำทางการเมืองและกองทัพ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และผู้ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ได้รับวัคซีนหมดแล้ว ก็จะถึงคราวที่ประชาชนชาวเมียนมาได้รับวัคซีนบ้าง

ความจริงการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวเมียนมา เป็นนโยบายต่อเนื่องเพื่อควบคุมโรคโควิดที่สานต่อเป็นวาระแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดการยึดอำนาจขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเลือกที่จะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ถึงจะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ถูกอ้างมา เช่น กลัวความไม่ปลอดภัยของวัคซีน หรือไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศไม่จำเป็นต้องฉีดก็ดี หรือหลายคนบอกว่าก็เคยเป็นแล้วมีภูมิแล้วไม่อยากฉีด

แต่ก็มีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เชื่อและเอย่าคิดว่านี่คือสาเหตุหลักของคนไม่ฉีดวัคซีนคือการที่ยอมรับการฉีดวัคซีนเท่ากับการเห็นดีเห็นงามกับกองทัพ

การฉีดวัคซีน COVISHIELD เริ่มฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในเมียนมาก่อนตั้งแต่มกราคม 2021 ที่ผ่านมา

การฉีดวัคซีนในเมียนมาผู้เข้ารับการฉีดจะต้องทำการแสดงตนด้วยบัตรประชาชนพร้อมประวัติบิดา มารดา รวมถึงต้องเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนว่าไม่มีความเสี่ยงในการฉีดวัคซีน ซึ่งเมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้วทางหน่วยงานที่ฉีดวัคซีนจะมีเอกสารออกให้เป็นภาษาเมียนมาว่าได้รับวัคซีนแล้ว

เอกสารที่ได้จากกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาที่แจ้งว่าได้รับวัคซีนแล้ว

สำหรับคนเมียนมาที่มีโอกาสในครั้งนี้ แต่เลือกที่จะละทิ้ง เพราะคิดว่ากองทัพจะนำชื่อเหล่านี้ของพวกเขาไปอยู่ในลิสต์ของผู้สนับสนุนทหารตามที่กลุ่มประชาธิปไตยได้เรียกร้องนั้น พวกเขาหารู้ไม่ว่า กำลังเสียโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ หากเขาจะเดินทางไปประเทศอื่น

เพราะแค่นำเอกสารฉบับนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วให้กระทรวงการต่างประเทศเมียนมารับรอง ก็สามารถเดินทางไปประเทศอื่น ๆ ได้ และการที่เอกสารนี้ติดตัวไปสามารถการันตีได้ระดับหนึ่งดังที่ไทยได้มีประกาศออกมาแล้วว่าหากใครมีการฉีดวัคซีนจากต่างประเทศมาแล้วจะลดการกักตัวลงเหลือเพียง 7 วันเท่านั้น

สุดท้ายขึ้นกับคนเมียนมาเหล่านั้นจะคำนึงถึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้แล้วละเลยโอกาสที่จะได้แก่ตนหรือจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตนก่อนแล้วหาโอกาสกลับมาทำในสิ่งที่ตนต้องการทีหลัง


ที่มา: AYA IRRAWADEE

อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้! ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสม จัดเก็บภาษีใหม่ หวั่นซ้ำเติมประชาชน

วันที่19 เมษายน พ.ศ.2564 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ยืนยันว่าจะยังไม่มีการจัดเก็บภาษีใหม่ ๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นการออกภาษีใหม่ ๆ จึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะ โดยขณะนี้กระทรวงการคลังและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้มาตรการภาษีในการเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากกว่า

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ที่กระทรวงการคลังได้รับนโยบายจากรัฐบาลมานั้น แต่ละกรมจัดเก็บรายได้ คือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างดำเนินการ ในส่วนของกรมสรรพสามิตนั้นได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ ไม่ใช่แค่การจัดเก็บรายได้เท่านั้น แต่ได้พิจารณาในทุกเรื่อง ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องปฏิรูปโครงสร้างภาษีออกมาให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และตอบโจทย์ภารกิจของกรมสรรพสามิต

“กรมฯ กำลังดำเนินการอยู่ ต้องดูในทุกมิติ ไม่ใช่แค่การออกพิกัดอัตราภาษีใหม่เท่านั้น แต่ต้องดูให้ครอบคลุมรวมไปถึงภาษีที่จัดเก็บอยู่แล้วก็ต้องทำให้ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องดูในภาพที่ใหญ่ขึ้นว่าจะต้องดำเนินการในส่วนไหนบ้าง เช่น ภาษีบาปที่ยังมีช่อง ก็ไปศึกษาดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนภาษีใหม่ ๆ ที่มีการเสนอ เช่น ภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า และภาษีจากความเค็ม ทีมกำลังทำการบ้านอยู่ มีความคืบหน้า ข้อมูลทั้งหมดมีอยู่แล้ว แต่อยากขอเวลาทำงานให้รอบคอบมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่ายังมีเวลาเพราะช่วงโควิด และช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวแบบนี้คงไม่เหมาะหากจะออกภาษีใหม่ ๆ มาใช้ ทุกอย่างยังมีเวลา อยากศึกษาให้ดีและรอบคอบก่อน” นายลวรณ กล่าว

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตเตรียมพิจารณาขยายเวลาเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีความหวานตามขั้นบันไดไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนจะขยับไปนานเท่าไหร่นั้น คงเป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายจะพิจารณาอีกที

นายลวรณ กล่าวอีกว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63 - มี.ค.64) ถือว่าทำได้ในระดับที่น่าพอใจ จากอานิสงส์ของการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์และภาษีเบียร์ที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ในปีงบประมาณ 2564 จะทำได้สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงการคลัง และสูงกว่าการจัดเก็บในปีงบประมาณก่อนหน้าแน่นอน

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2564 ด้วย หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อการเดิน การบริโภคและใช้จ่ายมากขึ้น ก็จะส่งผลดีกับรายได้จากภาษีน้ำมันที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีมาก ๆ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2564 ซึ่งการจัดเก็บรายได้จากภาษีน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 แสนบาทต่อปี

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการพิจารณาโครงสร้างภาษีกัญชานั้น กรมสรรพสามิตมองว่ายังมีเวลาในการศึกษาแนวทางดำเนินการให้รอบคอบ โดยยังต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายนโยบายด้วยว่าจะกำหนดให้กัญชาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ในระดับใด โดยปัจจุบันยังเป็นเพียงการนำมาใช้ในการทำอาหารปรุงสด หรือการเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งไม่เสียภาษีสรรพสามิต แต่การที่กรมฯ จะเข้าไปจัดเก็บภาษีได้นั้น ก็ต่อเมื่อมีการนำกัญชามาบรรจุลงขวดหรือกระป๋อง จึงยังมีเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้อยู่พอสมควร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top