อดีตทูต แนะ!! อยากเท่าเทียม ควรเบรก ‘บอลประเพณี’ แล้วปรับแนวคิดไปร่วมทำกิจกรรมรับใช้สังคมแทน

ไม่นานมานี้ ‘นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล’ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดราม่าเกี่ยวกับยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ว่า...

เอางี้มั้ยครับ ถ้าอยากเน้นความเท่าเทียมกันในสังคม ด้วยการยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ผมว่าเรามองไปที่ต้นตอเลยดีกว่า นั่นคือ เลิกจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬา - มธ. ไปเลยละกัน นี่พยายามช่วยน้องๆ คิดนะครับ 

เพราะอะไร จะสรุปเป็นข้อๆ ละกัน 

1.) การแข่งขันฟุตบอลแต่ละปี เน้นเอาชนะ สร้างอัตตาว่า สถาบันของฉันเก่งกว่าของแก เวลาใครชนะ ใครแพ้ ก็ก่อให้เกิดอารมณ์ ทั้งสะใจ ทั้งประชดประชัน ทั้งเคือง ทั้งน้อยใจ บางทีก็เกิดปะทะกันในระหว่างเล่น บางทีอาจสร้างความแตกแยกแบ่งเขาแบ่งเราเกทับกันมากกว่าสร้างสามัคคีด้วยซ้ำ ยิ่งการแข่งขันในยุคปัจจุบันเน้นเอาชนะมากกว่าทุกสิ่ง ถึงขนาดดึงเอานักเล่นทีมชาติมาสังกัดสถาบันของตัวเอง แทนที่จะใช้ นิสิต นศ. จริงๆ เล่น 

2.) ประหยัดไม่ต้องมาทำเสื้อเชียร์ขาย ไม่ต้องตัดชุดแพงๆ เน้นแฟชั่นทุนนิยมให้บรรดาเชียร์ลีดเดอร์ ไม่ต้องขนคนให้มานั่งตากแดดแปรอักษร 

3.) จะได้ไม่ต้องมีขบวนล้อการเมืองที่มองอะไรแบบเอียงข้าง ด้วยมิติแบนๆ ด่าอีกฝ่าย แต่ไม่แตะอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ทำระยำพอกัน หรือมากกว่า

ถ้าเลิกที่ต้นตอได้ ก็ไม่ต้องอัญเชิญพระเกี้ยว แต่ผมเสนอทางออกว่า แทนที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอล ก็จัดให้นิสิต นศ.ของทั้งสองมหาวิทยาลัยออกไปทำกิจกรรมรับใช้สังคม ทำอะไรให้ปังๆ ใหญ่ๆ ไปเลยในแต่ละปี เช่น ไปช่วยกันปรับปรุงสลัม ไปช่วยกันปลูกป่า ไปช่วยกันทำความสะอาดล้างถนน ไปช่วยสร้างโรงเรียนหรือซ่อมแซมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ฯลฯ

ว่าแต่ว่าโครงการทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อประชาชนแบบนี้ จะมี นิสิต นศ.ที่ชอบอ้างเรื่องความเท่าเทียมกัน อ้างประชาชน ไปกันสักกี่คน เท่านั้นแหละ !?


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1515696892120416&id=100010403598013