Sunday, 27 April 2025
Hard News Team

เพจ วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ภาพทวิตเตอร์เกี่ยวกับข้อความของผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่มองว่าลูกคือผู้มีบุญคุณต่อพ่อแม่ โดยทวิตนี้เป็นคนรีทวิตต่อหลายหมื่นครั้ง

โดยชาวเน็ตได้แสดงความคิดเห็นถึงทวิตเตอร์ดังกล่าวว่ามีตรรกะประหลาดมากว่า...

- ขนาดพ่อแม่บางคนเป็นเกษตรกร เงินเดือนไม่ได้สูงทนอดมื้อกินมื้อ ยังส่งลูกจนเรียนจนจบปริญญาตรี ขอแค่ได้เห็นลูกยิ้มก็มีความสุขแล้ว

- จะหาใครที่เห็นลูกเจ็บแล้วรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า เป็นห่วงเสมอเวลาลูกห่างกัน ดูแลตั้งแต่ยังพูดไม่ได้กว่าจะโต #สงสารพ่อแม่คนคิดแบบนี้เลย

- ปล ผมก็ศึกษาธรรมะนะครับ ไม่มีพระไตรปิฏกฉบับไหนกล่าวแบบนี้เลยนะ


ที่มา: https://www.facebook.com/groups/280946712327847/permalink/1189182668170909/

ส.ส.ก้าวไกล รุดฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ย้ำรัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนให้เร็วและหลากหลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งทางแอปพลิเคชันไลน์ถึง ส.ส. เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ส.ส.ที่มีความประสงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถไปรับการฉีดวัคซีนได้ที่ สถาบันบำราศนราดูร ห้องประชุมอัจฉรา วันที่ 16-30 เมษายน 2564 เวลา 09.00-16.00 น.ในวันเวลาราชการ สำหรับ ส.ส. ท่านใดที่อยู่ในระหว่างการกักตัว สามารถรับบริการได้หลังจากที่ครบกำหนดการกักตัวแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมอัจฉรา สถาบันบำราศนราดูร  นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แก่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ นายสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ นายวุฒินันท์ บุญชู นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ นายธีรัจชัย พันธุมาศ และนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ที่ไม่อยู่ในช่วงกักตัวเพื่อสังเกตอาการและไม่มีความเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นการรณรงค์และป้องกันการเเพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 
 

โดย นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า วันนี้การฉีดวัคซีนไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันเฉพาะตนเองเท่านั้น แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในการร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำมาหากินประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงกับสภาพปกติ รวมทั้งการไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขเมื่อเกิดการติดเชื้อด้วย เพราะวัคซีนมีผลทำให้ลดความหนักของอาการจากโรคโควิด

นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังคงจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนให้เกิดความสมดุล อย่างเร่งด่วน โดยสำรองวัคซีนทางเลือกต่าง ๆ ให้มีความหลากหลายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากเกิดอุบัติการณ์จากการฉีดวัคซีนยี่ห้อใดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน และมีความจำเป็นต้องระงับการฉีดวัคซีนยี่ห้อนั้นไว้ก่อนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เช่น กรณีการเชื่อมโยงกับภาวะการเกิดลิ่มเลือด จนทำให้หลายประเทศในยุโรปกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับอายุของผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา หรือประเทศเดนมาร์กที่ยกเลิกการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาทั้งหมด หรือกรณีที่สหภาพยุโรปจะไม่ต่อสัญญากับผู้ผลิตวัคซีนชนิดไวรัล เวกเตอร์ ได้แก่ แอสตราเซเนกา และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเมื่อสัญญาสิ้นสุดลง ประเทศจะได้มีวัคซีนทางเลือกอื่นในการฉีดให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

"การฉีดวัคซีนในวันนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ในเมื่อวัคซีนที่รัฐบาลมีอยู่มีกระจุกอยู่เท่านี้ ประชาชนก็จำเป็นต้องฉีด เพราะในมุมของเราและสังคมโดยรวม การฉีดดีกว่าการไม่ฉีด แต่หากรัฐบาลสามารถกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนที่ดีกว่านี้ มีวัคซีนทางเลือกที่หลากหลายในปริมาณที่สมดุลเพียงพอ ความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนที่ประชาชนต้องแบกรับก็จะลดลง ประชาชนก็จะมีโอกาสได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่สูงขึ้น ในขณะที่รัฐบาลก็จะสามารถบริหารการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมั่นใจ" นางสาวศิริกัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจาก กระทรวงสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นและไลน์ “หมอพร้อม” ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพื่อลงคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนให้ทุกคนไปลงทะเบียนและเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อพลิกฟื้นประเทศกลับสู่ภาวะปกติ

"อนุทิน" วางกรอบคุมโควิด 19 ระลอกใหม่ ต้องคลี่คลายใน 1 เดือน เผยเป้าฉีดวัคซีนทีมสาธารณสุขครบ 100% ในสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวขณะตรวจเยี่ยมการให้บริการวัคซีนโควิด-19 กับประชาชนโดยระบุว่า ได้รับการประสานงานจากสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ให้สมาชิกรัฐสภา อาทิ ส.ส. ส.ว. มารับบริการวัคซีน ซึ่งใครก็ตามที่เข้าข่ายตามเกณฑ์การรับวัคซีนระยะแรก เช่น ต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก เดินทางบ่อย มีโรคประจำตัวตามเกณฑ์รับบริการ ก็ต้องให้ฉีดแน่นอน เพราะท่านทั้งหลาย ล้วนเป็นประชาชนเหมือนกัน ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล จะมารับวัคซีนในวันนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าได้วิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน นายอนุทิน ตอบว่า นักการเมือง ก็เป็นประชาชน ถ้ามีองค์ประกอบเป็นไปตามเกณฑ์การรับบริการ ก็ฉีดได้ ขอเรียนว่าวัคซีนที่ไทยนำเข้ามามีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ได้ผ่านการตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว ขอให้ผู้รับบริการมั่นใจ 

ผู้ที่ได้รับวัคซีน จะไม่ป่วยหนักแล้วจะไม่เสียชีวิต อย่างไรก็ตามถึงจะฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ก็ต้องตั้งการ์ดสูง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ ถ้าทำงานที่บ้านได้ อยากให้ดำเนินการเรื่องนี้ การทำงานที่บ้าน ไม่ทำให้ประสิทธิภาพของานตกลงเลยไปเลย ตนเคยทำงานที่บ้านแล้ว ได้งานมากกว่าเดิมด้วย สำหรับแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขอให้ท่านดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเคร่งครัด ท่านเป็นบุคลากรที่สำคัญอย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมือง เป็นด่านหน้าในการ ป้องกันโรคระบาดและปกป้องชีวิตคนไทย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขวางเป้าว่าภายในสัปดาห์หน้าจะให้บริการบุคลากรทางการแพทย์ครบ 100% เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ท่านในการปฏิบัติหน้าที่ 

ส่วนเรื่องความพร้อมของทรัพยากร จากที่มีกระแสข่าวว่าเตียงไม่พอนั้น นายอนุทินเปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแล้วเราได้มีการสำรองเตียงเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและมั่นใจว่าเตียงมีพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน วันนี้ ได้ขยายการให้บริการของโรงพยายาลสนาม และกำลังเร่งเปิดฮอสพิเทลเพิ่มเติม ในส่วนของยา อุปกรณ์ป้องกัน บุคลากร ได้วางแผนไว้แล้ว แต่พร้อมปรับเปลี่ยนทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับการรักษา ที่ให้เป็นหน้าที่ของทีมแพทย์ ส่วนฝ่ายผู้บริหาร ยืนยันว่า ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ 

วางกรอบไว้ว่า จะต้องคลี่คลาย สถานการณ์การระบาดของคลัสเตอร์สถานบันเทิงให้ได้ภายใน 1 เดือน ที่ตั้งระยะเวลาไว้แบบนี้ เพราะมีเกณฑ์ว่า หากผู้ติดเชื้อ มาจากคลัสเตอร์ สถานบันเทิง เมื่อได้สั่งปิดให้บริการ พร้อมไปกับใช้มาตรการที่เข้มข้น เท่ากับ ตัดวงจรแพร่เชื้อ วงรอบของการระบาดน่าจะยุติลงในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่หากระหว่างนั้น พบคลัสเตอร์ใหม่ การควบคุมโรคก็ต้องอาศัยระยะเวลานานขึ้น สำหรับเรื่องข้อมูลข่าวสาร ภาครัฐ เปิดเผยทุกความเป็นจริง ไม่มีการปิดกั้นข้อมูลสำหรับฝ่ายการเมืองที่มีข้อเสนอแนะหรือมีข้อสงสัยหากเป็นไปด้วยเจตนาดีต่อชาติต่อบ้านต่อเมืองต่อประชาชนก็พร้อมตอบทุกคำถาม 

อดีต ส.ส.ปชป. วัชระ เพชรทอง เชื่อ “ตู่-จตุพร” ปลุกม็อบ “ตู่ชนตู่” ขึ้น รอดูพัฒนาสู่ม็อบสามัคคีไม่เอาลุง ชี้ชั้นเชิงชวนมวลชนยังเก๋า เชื่อจุดติดใหญ่เมื่อไรรัฐยกกฎหมายไล่สอยรายคน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์การออกมาเคลื่อนไหวม็อบ 4-4-4 ภายใต้การนำของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช.ที่มีเป้าหมายจะขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า

ตนมองว่าแม้นายจตุพรว่าจะถูกหลายฝ่ายดิสเครดิตทั่วสารทิศ แต่จะเห็นว่านายจตุพรไปตามคำเชิญของนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกลุ่มญาติฯ ซึ่งมีนักต่อสู้เดือนตุลา กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน และเครือข่ายคนทุกสีจึงย่อมมีน้ำหนักในการเคลื่อนไหว อีกทั้งนายจตุพรยังเป็นผู้ที่เจนจัดในการปลุกม็อบ นำม็อบและจบม็อบตั้งแต่ยุคพฤษภาทมิฬ จนถึงยุคคนเสื้อแดง ยุทธปัจจัยในการนำและเคลื่อนม็อบ จึงมีประสบการณ์อย่างโชกโชน เรียกว่าแค่หลับตาก็รู้ว่าจะเดินหมากอย่างไร ดังนั้น ยุทธการณ์ “ตู่ชนตู่” จึงประมาทไม่ได้เป็นอันขาด

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนบรรดาคนเสื้อแดงที่กลับใจไปอยู่กับรัฐบาล หากนับตามฝีมือแล้วยังห่างชั้นนายจตุพรอยู่มาก แต่ก็เข้าตำราโบราณว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ภาพลักษณ์ชายชุดดำ และวลีเผาบ้านเผาเมืองอาจคาใจคนกรุงเทพฯ จำนวนมาก แต่การพุ่งเป้าล้มรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียวย่อมทำให้ได้แนวร่วมมากขึ้น จึงต้องดูจังหวะการเคลื่อนไหวที่อาจมีการประสานให้ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีการนำแบบรวมหมู่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต หรือจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจขึ้นมาแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กปปส.หรือไม่

“สถานการณ์ความเบื่อหน่าย พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเข้าสู่ช่วงสุกงอมหรือไม่ ให้ดูที่ยุทธการเปิดไพ่ทีละใบว่ามีผู้นำมวลชน ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา นักวิชาการ ชาวนาชาวไร่ ผู้นำเกษตรกร พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้นำแรงงานหรือกลุ่มพลังกดดันทางสังคมได้ทยอยเปิดตัวเข้าร่วมอย่างเป็นระบบหรือไม่ มีมวลชนเข้าร่วมหลังเทศกาลสงกรานต์แบบไหลมาเทมาหรือไม่ ถึงจุดนั้นรัฐบาลก็ต้องตั้งรับให้ดี ผมคิดว่ารัฐบาลคงใช้กฎหมายเป็นตัวหลักในการจัดการกับม็อบหรือผู้นำม็อบ คงจะมีการตรวจสอบเป็นรายบุคคลว่าใครมีคดีความอยู่ในชั้นไหนหรือหน่วยงานใดบ้าง แล้วใช้กำลังภายในจัดการทีละคนทีละกลุ่มเพื่อตัดกำลัง เหมือนที่กลุ่ม กปปส.เคยโดนมาแล้ว”

นายวัชระมองด้วยว่า ม็อบ “ตู่ชนตู่” จะพัฒนาสู่ม็อบ “สามัคคีคนไม่เอาลุงตู่” ในที่สุด แต่จุดจบจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามอย่ากะพริบตา เพราะคู่ชกครั้งนี้สมศักดิ์ศรี ไม่ใช่ม็อบเด็กๆ คิกขุอาโนเนะ ที่ไม่รู้จักว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เพราะเมื่อสภาไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา การอภิปรายนอกสภาและมีเป้าหมายเพื่อขับไล่รัฐบาล จึงเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรของการเมืองไทย ซึ่งอาจจบลงแบบ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ หรือ ลาออก หรือ ยุบสภา หรือ รัฐประหาร หรือ ม็อบถูกรัฐบาลกวาดล้างพ่ายแพ้ไปก็เป็นได้


ที่มา: https://mgronline.com/politics/detail/9640000036009

โควิดทำพิษ! รัฐบาลรับจีดีพีปีนี้พลาดเป้า 4%

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ อาจโตไม่ถึงเป้าหมาย 4% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้ หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดขงไวรัสโควิด-19 ในระลอกใหม่เดือนเมษายน อย่างหนัก แม้ว่าในปัจจุบันการส่งออกจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่รัฐบาลจะต้องกลับไปดูในเรื่องการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในประเทศว่าจะกระตุ้นอย่างไรด้วย 

“แม้ว่าจีดีพีที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4% อาจไม่เป็นไปตามเป้า แต่เราจะต้องกัดฟันสู้ พยายามหาโอกาส แม้จะเป็นรูที่เล็ก แต่ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อทุกคนในประเทศ  ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศยังเดินหน้าต่อ และมีโครงการดี ๆ ที่ยังรออยู่ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่และคนไทยทุกคน โดยการเดินหน้าเศรษฐกิจของรัฐบาลต้องควบคู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่ทั้ง 2 ทาง”

รองนายกฯ ยอมรับว่า ขณะนี้ ต้องเอาเรื่องของความมั่นใจของประชาชนก่อน เพราะสิ่งสำคัญที่สุด คือต้องควบคุมการแพร่ระบาด โดยไม่ให้ประชาชนรู้สึกกังวล ซึ่งเชื่อว่าจะดีขึ้น เพราะเราปรับตัวกันพอสมควรแล้ว และยังเชื่อมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุข และศบค.จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดหลังระบาดในรอบนี้ได้ แต่ก็ขอให้ประชาชนมีความระมัดระวัง ส่วนจะกระทบกับแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 ก.ค.นี้ หรือไม่ คงต้องประเมินสถานการณ์รายวันต่อไป

‘บิ๊กตู่’ เรียกถกทีมเศรษฐกิจ และฝ่ายกฎหมาย รัฐบาล หารือ 4ประเด็นด้านเศรษฐกิจ ทั้งแผนฟื้นฟูการบินไทยเข้า ก่อนชง ครม. - ช่วยเหลือโควิด รอบ 3 -แก้หนี้ครู และ กยส. -สรุปแอปพลิเคชันลงทะเบียนรับวีคซีน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุม นัดพิเศษ ทีมเศรษฐกิจ และ ฝ่ายกฎหมายรัฐบาล  อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการ สมช. และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย 

ซึ่งมีวาระการหารือที่สำคัญ 4 เรื่องคือ แผนฟื้นฟูการบินไทย ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 17 เม.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังหารือถึงแผนบรรเทาผลกระทบโควิดรอบที่ 3 รวมทั้งการแก้ปัญหาหนี้ กยส. และหนี้ครู รวมทั้ง ข้อสรุปการลงทะเบียนรับวัคซีน ผ่านแอปพลิเคชัน ที่ธนาคารกรุงไทย รับเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ นายกรัฐมนตรีจะยังไม่มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยได้รับการประสานว่าการชี้แจงจะมีภายหลังการประชุม ศบค.ในช่วงเย็น

ผอ.กองสลากฯ เตือนซื้อหวยออนไลน์ จากแอปฯ - เว็บ ‘มังกรฟ้า’ หากถูกรางวัล อาจขึ้นเงินไม่ได้ ระบุขึ้นเงินรางวัลต้องใช้สลากฯ ตัวจริงเท่านั้น พร้อมเร่งรวบรวมข้อมูลเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือไม่

กระแสฮือฮาวงการหวย พ่อค้าแม่ค้าต่างแห่นำสลากกินแบ่งรัฐบาลฝากขายผ่านทางออนไลน์ ทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ‘มังกรฟ้า’ ซึ่งเป็นของบริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 24 หมู่ 2 ถนนราชพฤกษ์ หมู่ 2 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยในแต่ละงวดมียอดร่วม 1 ล้านใบ ทำให้ผู้ซื้อสามารถช็อปออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมขายหวยผ่านแอปฯ ‘จีแอลโอ ออฟฟิเชียล เซลเลอร์ส’ ในวันที่ 1 มิ.ย.ประกบแอปฯ ‘มังกรฟ้า’ แต่ขายถูกกว่า

จากความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 เม.ย. พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีที่มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านออนไลน์หรือผ่านแอปพลิเคชันนั้น ถือเป็นอีกช่องทางการขาย แต่ถ้าขายสลากฯ ไม่เกินราคาที่กำหนดไม่ถือว่ามีความผิด แต่ถ้าขายเกินราคาถือว่าผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกัน การขายสลากฯ นั้น ผู้บริโภคต้องได้รับใบสลากฯ จริง หากไม่ได้อาจเข้าข่ายการหลอกหลวงผู้บริโภคหรือฉ้อโกง เรื่องดังกล่าวสำนักงานสลากฯ ร่วมมือกับตำรวจ บก.ปคบ. เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมการจำหน่าย ตรวจสอบราคาจำหน่าย รวมถึงการทำสลากฯรวมชุดด้วย หากตรวจพบว่ากระทำความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และมีความผิดตาม พ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

พ.ต.อ.บุญส่งกล่าวอีกว่า สำนักงานสลากฯ ขอย้ำเตือนผู้ซื้อสลากฯ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อสลากฯ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วย หากซื้อไปแล้วแต่ไม่ได้รับใบสลากฯ ตัวจริงมาไว้ในครอบครอง เมื่อถูกรางวัลอาจไม่สามารถนำสลากฯ มาขอรับเงินรางวัลได้ ส่วนกรณีของมังกรฟ้าที่ขายสลากฯ ออนไลน์นั้น ต้องไปตรวจสอบว่าผิดเงื่อนไขการเป็นตัวแทนขายสลากฯ ของสำนักงานสลากฯ และขายเกินราคาหรือไม่ หากผิดเงื่อนไขและจำหน่ายสลากฯ เกินราคาต้องไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ผอ.กองสลากฯ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ ยังไม่ได้เปิดจำหน่ายสลากฯ ผ่านเครือข่าย “จีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส” เพื่อขายสลากฯ ไม่เกินใบละ 80 บาทให้แก่ประชาชน เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมของเครือข่ายที่เข้าร่วมนำร่องโครงการ ทั้งนี้ การขายสลากฯ ผ่าน “จีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส” นั้นจะแตกต่างจากการขายผ่านออนไลน์ ผู้ซื้อสลากฯต้องมาซื้อสลากฯ ณ ร้านจำหน่ายสลากฯ หรือผู้ที่เข้าร่วมเครือข่าย เมื่อเลือกเลขที่จะซื้อแล้ว ต้องชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อชำระเงินแล้วจะได้รับสลากฯ ตัวจริงไป ต่างจากการขายสลากฯ ออนไลน์ เพราะเป็นการสแกนสลากฯ ขายแล้วให้ผู้ซื้อโอนเงินไปให้สลากฯ ตัวจริงจะส่งตามไป หรือไม่ส่งขึ้นอยู่กับความไว้ใจและเชื่อใจกัน แต่ถ้าหากถูกรางวัลแล้วไม่สามารถขึ้นรางวัลได้ เพราะสลากฯไม่รับรองใบสลากฯ ที่สแกน แต่จะรับเฉพาะสลากฯ ใบจริงเท่านั้น

ด้านนายพชรล์ เมสสิยาห์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้มียี่ปั๊วรายใหญ่จำนวน 30 ราย และเป็นพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปประมาณ 100 ราย ส่วนยอดที่จำหน่ายไปแล้ว 781,000 ใบ รอบขายงวดวันที่ 16 เม.ย. จะช้าเพราะคนส่วนใหญ่กลับบ้าน แต่ถ้าหากขายไม่หมดแล้วถูกรางวัลต่าง ๆ จะให้เจ้าของสลากฯ มารับกลับคืนไป เมื่อมีลูกค้าได้รับรางวัล บริษัทจะแจ้งไปยังลูกค้าว่าจะรับสลากฯ ไปขึ้นเงินเอง หรือจะรับเงินสด หากลูกค้าขอรับเป็นเงินสดบริษัทจะหัก 2 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ได้รับรางวัล บางรายลูกค้าถูกรางวัลที่ 1 เดินทางมาขอรับเอง บริษัทจ้างคณะเชิดมังกรและสิงโตมาแสดงความยินดีด้วย

เมื่อถามว่า ลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสลากฯ ในแอปพลิเคชัน ปรากฏว่าราคาจำหน่ายสลากฯ 80 บาท แต่กลับมีค่าดำเนินการ 20 บาท รวมต้องจ่ายค่าสลากฯ 1 ใบ ในราคา 100 บาท นายพชรล์ตอบว่า ส่วนต่าง 20 บาทนั้นเป็นค่าดำเนินการที่พ่อค้าแม่ค้าเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง หากไม่ต้องการที่จะซื้อสลากฯ สามารถกดออกได้ทันที

สำหรับวิธีการซื้อสลากในแอปพลิเคชัน “มังกรฟ้า” ผู้สื่อข่าวทดสอบเข้าไปเลือกซื้อสลากฯ พบว่าผู้ซื้อต้องเข้าระบบเลือกตัวแทน หรือพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายสลากฯ หรือลูกค้าบางคนที่ไม่เคยเลือกซื้อมาก่อน อาจจะเลือกดูชื่อตัวแทนว่าถูกโฉลกกับคนไหน ก่อนจะเลือกซื้อตัวเลขตามที่ต้องการ มีช่องให้กรอกตัวเลขจำนวน 6 ช่อง หรือจะเลือกซื้อแบบ 3 ตัวหน้า 3 ตัวหลัง หรือ 2 ตัวท้าย รูปสลากฯ จะขึ้นโชว์ว่ามีแบบชุด 2 ใบ ชุด 3 ใบ ชุด 4 ใบ ถ้ามีตัวเลขตามที่ต้องการ สามารถกดซื้อลงตะกร้าได้เลย จะมีช่องแสดงว่าราคาสลากฯ 80 บาท ค่าดำเนินการ 20 บาท รวมราคา 100 บาท ก่อนทำการโอนเงินไปตามหมายเลขบัญชีของตัวแทนขาย ระบบจะบันทึกข้อมูลเข้าระบบ และมีข้อความ SMS แจ้งมาที่โทรศัพท์มือถือของลูกค้า เพื่อให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลา และใช้เป็นหลักฐานขึ้นเงินรางวัลด้วย


ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/2069864

ยอดใช้มอเตอร์เวย์ใหม่โคราช สงกรานต์ 7 วันกระฉูด 1.43 แสนคัน

กรมทางหลวง รายงานยอดการใช้บริการทางหลวงทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ว่า ปริมาณจราจรขาเข้ากรุงเทพฯ ของวันที่ 15 เม.ย.2564 บนทางหลวงสายหลัก 10 สาย และทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) สาย M7 รวมทั้งหมด 861,993 คัน แบ่งเป็นมีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 507,007 คัน ลดลง 17.2% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปี 2562 ขาออก 354,986 คัน ลดลง 9.7% เทียบกับสงกรานต์ปีก่อน

ทั้งนี้ บนมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา สายใหม่ที่เปิดให้บริการฟรีชั่วคราว ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว ระยะทาง 35.75 กม. ซึ่งเป็นทางยกระดับบนถนนมิตรภาพ ช่วงผ่านเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา โดยขาเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2564 มีปริมาณรถสะสมจำนวน 24,651 คัน โดยยอดสะสมตั้งแต่เปิดให้บริการวันที่ 9 - 15 เม.ย.2564 รวม 7 วัน มีทั้งหมด 143,345 คัน

เฟซบุ๊ก 'ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr.Suvit Maesincee' ได้โพสต์ถึงสุนทรพจน์สุดแหลมคมและลึกซึ้งต่อชาวโลกเมื่อเร็ว ๆ นี้ จากมาดาม 'หัวชุนยิง' โฆษกหญิงประจำกระทรวงต่างประเทศของจีน ความว่า...

***ชาวต่างประเทศที่กินข้าวของจีน ห้ามทำจานข้าวของจีนแตก!

ถ้อยคำเหล่านี้ถือได้ว่ามีความหมายลึกซึ้งและกินความมาก...

1.) จีนจะไม่ยอมอดทนต่อชาวต่างชาติที่มาทำมาหากินอยู่ในจีนแต่ยังจ้องทำลายล้างจีน

2.) จีนจะไม่ยอมให้ชาวต่างชาตินำเรื่องการค้ามาใช้เป็นเรื่องการเมือง

3.) ไม่ต้องมาบอกจีนว่า ให้ทำอะไร หรือไม่ทำอะไร ดูแจ๊คหม่าเป็นตัวอย่าง

4.) จีนจะไม่ยอมให้ต่างชาติคนหนึ่งคนใด บริษัทใดๆ มหาเศรษฐีคนใด กองทุนที่ทรงอิทธิพล ฯลฯ ใด ๆ มากดดันจีน ไม่ว่าจะเป็นทางหนึ่งหรือทางใด!

นี่คือเรื่องที่ขอร้องไปยังโกลด์แมน แซ็กส์, ซิติแบงก์, เอชเอ็นบีซี, แอปเปิล, ซัมซุง, ร็อธชายด์ ฯลฯ และคนที่มีคุณสมบัติคล้ายโซรอส, วอร์เร็น บัฟเฟ่ต์ ฯลฯ ด้วย

***จีนจะไม่ยอมอ่อนข้ออย่างเด็ดขาดอีกต่อไปที่จะให้ใครก็ตาม มารุมย่ำยีบรรพบุรุษจีนให้แปดเปื้อนด้วยเรื่องฝิ่น และผู้ที่ต้องการให้จีนตกเป็นเมืองขึ้น รวมทั้งผู้ที่ต้องการทำลายล้างทุกชนชาติ

บุคคลหนึ่งบุคคลใด บริษัทใด ๆ สถาบันการเงินหรือสถาบันที่คล้ายคลึงกันกับ เอ็นจีโอ ซึ่งนิ่งเฉยเงียบกริบ ไม่ยอมเข้าใจคำพูดของมาดามหัว จะถูกโยน (ขับไล่) ออกจากจีน

***คนทั้งหลายซึ่งไม่เข้าใจวลี สุภาษิต หรือสำนวนของจีน ต้องเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของจีน

***เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเอชและเอ็ม บริษัทข้ามชาติของสวีเดนถูกสั่งปิดกิจการและห้ามประกอบกิจการในจีน

***จีนขอบอกสหรัฐและประเทศตะวันตก ว่า

...พวกคุณมีระบบการเมืองเป็นของคุณเอง และเราก็มีระบบที่เป็นของเราเหมือนกัน

- การที่คุณต้องการให้ประเทศของคุณดำเนินไปตามระบบของคุณเอง นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

- ในประเทศจีน เราก็มีกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นของเราเอง เราจึงต้องการให้บรรดาเด็ก ๆ ของเรามีสัมมาคารวะ มีความประพฤติดี และเชื่อฟังคำสั่งสอน

นี่คือวัฒนธรรมของจีน และเมื่อพวกคุณมาอยู่ที่นี่แล้ว พวกคุณก็จะต้องยึดถือปฏิบัติตามนี้ ถ้าพวกคุณไม่สามารถปฏิบัติตามได้ พวกเราก็จะโยน (ขับไล่) พวกคุณออกไปจากจีน!


ที่มา: https://www.facebook.com/1385294465110613/posts/2135190660120986/

ชำเลือง ตรีเดชา แปลจาก Mdm.Hua's Speech

พิษโควิดหลังสงกรานต์ ทุบหุ้นไทยเปิดลด 8.96 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้า วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 ดัชนีอยู่ที่ 1,532.16 จุด ลดลง 8.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,038.03 ล้านบาท โดย บล.กรุงศรี ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัว 1,530 - 1,535 จุด ก่อนจะสลับรีบาวด์จากแรงกดดันยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศพุ่งขึ้นสูงถึงวันละ 1,500 คน ส่งผลกระทบต่อภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นเหนือ 63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลด้วย

ด้าน บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองแนวโน้มเช่นกันว่า ดัชนีคาดว่าจะแกว่งตัวลงก่อนค่อยปรับตัวขึ้นทีหลังระหว่าง 1,525 - 1,550 จุด จากปัจจัยลบภายในประเทศเป็นหลัก โดยการระบาดของไวรัสโควิดในประเทศยังคงทวีความรุนแรง ติดตามตัวเลขหลังเทศกาลสงกรานต์โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,543 ราย ประกอบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ในภาพรวมทางฝ่ายวิจัยจึงยังไม่เห็นทิศทางที่ผู้ติดเชื้อรายวันจะปรับตัวลดลงได้ในระยะเวลานสั้น และคาดว่าปัจจัยนี้จะกดดันตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลงในระยะสั้นด้วย

ทั้งนี้ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ โดยล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 เมษายนว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แม้น้อยกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโต 19% แต่สถิติล่าสุดที่ออกมา ถือเป็นการขยายตัวรายไตรมาสของจีดีพีจีน ในระดับมากที่สุดตั้งแต่ปี 2535


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top