แนะดันไทยสู่สังคมไร้เงินสด รัฐยังต้องพัฒนาอีกเพียบ

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือเนชั่นแนล อี-เพย์เมนต์ ว่า การทำธุรกรรมไร้เงินสดของไทยยังมีมูลค่าที่ไม่สูงมากนักหากไทยต้องการยกระดับให้เป็น สังคมไร้เงินสดมากขึ้น จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาขึ้นอีก แต่ก็ยังพบว่ามีช่องว่างหรือข้อจำกัดในทางปฏิบัติ เช่น ทักษะด้านดิจิทัลของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ เห็นได้จากจำนวนคนไม่น้อยที่ต้องเดินทางมาลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือของรัฐที่ธนาคารเอง 

ขณะเดียวกันยังพบอีกว่า ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม และมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับรายได้ของกลุ่มผู้รายได้น้อย จึงเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยี รวมถึงอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกหลอกและการสูญเสียทางการเงินได้อีกด้วย 

ทั้งนี้ สศช. มีข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริม และแก้ไขข้อจำกัดเพื่อนำไปสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด คือ ภาครัฐควรสนับสนุนให้มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงที่ครอบคลุมและมีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงอาจมีการอุดหนุนช่วยเหลือการเข้าถึง อุปกรณ์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และการเสริมสร้างการมีทักษะความรู้ด้านการเงินและ ความรู้ดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่อาจเข้าไม่ถึงองค์ความรู้และตามไม่ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เท่าทันและปูองกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยคุกคามทางดิจิทัล 

รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมให้มี ระบบธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลอย่างทั่วถึงและครอบคลุม โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อยให้มีบริการ รับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปสู่การใช้งานที่แพร่หลายของบริการทางการเงินรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น  เช่นเดียวกับการมีกลไกติดตามดูแลรักษาฐานข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีความรัดกุมทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในการใช้บริการ และการนำข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ประโยชน์ต่อยอด ทั้ง การพัฒนาเครื่องมือทางการเงินในการให้กู้ยืม รวมทั้งการนำข้อมูล มาใช้ประกอบการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ เพื่อลดการตกหล่นและคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว