โฆษกก้าวไกล แนะ รมว.ศธ. นำงบ 5 แสนล้านที่เพิ่งผ่านสภา มาปรับใช้ในการเยียวยาสถานศึกษา-ผู้ปกครอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม 14 มิถุนายนนี้

นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง การเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการออกประกาศ โดยก่อนหน้านี้ 27 พฤษภาคม คุณตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.ออกประกาศกำหนดแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ. ถือปฏิบัตินั้น ตนมองว่าภาระไปตกอยู่กับโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งรับภาระค่าใช้จ่ายหนัก คุณตรีนุชต้องดูด้วยว่าต้นทุนที่จะลดได้มาจากไหน ไม่ใช่ประกาศลดแล้วสั่งให้โรงเรียนปฏิบัติตามคำสั่งของคุณเท่านั้น ในสถานการณ์ภายใต้สภาวะวิกฤตเช่นนี้ เราต้องการรัฐที่มีประสิทธิภาพและรับผิดชอบชีวิตของประชาชนในทุกมิติ 

นาวสาวสุทธวรรณ ระบุอีกว่า แน่นอนว่าเราเห็นด้วยกับการคืนเงินบำรุงการศึกษาให้กับผู้ปกครองในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด แต่ในอีกมิตินึงท่านไม่ควรโยนภาระในแก่สถานศึกษามากจนเกินไป เพราะโรงเรียนทุกโรงเรียน ไม่ว่าจะรัฐหรือเอกชน ก็มีค่าใช้จ่ายที่เป็น fixed cost กันอยู่แล้วทุกเดือน ทั้งเงินเดือนครู แม่บ้าน รปภ. ธุรการ ที่ต้องจ่าย ส่วนภาครัฐที่เป็นข้าราชการอาจไม่เท่าไหร่ แต่คนที่เป็นสัญญาจ้างต่าง ๆ ถ้าลดต้นทุนออกตรงนี้ไปจะลำบากทันที ส่วนเอกชนไม่ว่าจะขยับส่วนไหนทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายหมด เงินเดือนบุคลากร ค่าบำรุงรักษาสถานที่ ค่าบริหารจัดการ ค่าสาธารณูปโภค ในส่วนนี้ไม่ได้ลดลง ถ้าโรงเรียนไหนกู้เงินมาลงทุนปรับปรุงพื้นที่ ดอกเบี้ยที่กู้มาก็ยังคงวิ่งไปอยู่ ที่ผ่านมารัฐไม่ได้มีมาตรการช่วยเรื่องการพักเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างเป็นรูปธรรมเลย ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่ท่านคิดจะนำมาเป็นส่วนลดให้ผู้ปกครองได้ในความเป็นจริงจึงไม่มากนัก 

ทั้งนี้นางสาวสุทธวรรณยังให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนมาตรการที่ออกมาในทุกมิติอีกครั้ง ท่านควรจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองแทนโรงเรียนเหล่านั้น โดยการใช้ก้อนเงินกู้ 500,000 ล้าน ที่เพิ่งผ่านสภาไปมาบริหารจัดการ นอกจากนี้ ศธ.ยังควรกำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองให้ชัดเจน เช่น ชุดนักเรียน ยังไม่จำเป็นต้องให้ซื้อใหม่ เรียนออนไลน์ยิ่งไม่ต้องใช้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย วันที่นักเรียนต้องไปโรงเรียนควรอนุโลมเรื่องการแต่งกาย ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนก็ได้ ให้ใส่ชุดไปรเวทที่สุภาพแทน นี่เป็นพื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุดที่กระทรวงศึกษาธิการจะสามารถลดภาระผู้ปกครองและสถานศึกษาได้