Sunday, 11 May 2025
Hard News Team

“บิ๊กตู่” ขอโทษ ทำหลายคนไม่สบายใจ ยอมรับทำงานคนหมู่มากย่อมมีปัญหา ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ พร้อมแสดงความเสียใจฉีดวัคซีนมีปัญหา ยืนยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ปฎิเสธตอบทุกคำถามหวั่นถูกตีความ

ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ ที่จุดบริการฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ โดยระบุว่า การฉีดวัคซีนในวันนี้เป็นการฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ ที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา 3.5 ล้านโดส ทั้งวัคซีน astrazeneca และซิโนแวค และเข้ามาเพิ่มในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะต้องบริหารสถานการณ์ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน โดยปัจจุบันมีการจัดสรรวัคซีนเตรียมพื้นที่ต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และวันนี้อยู่ในขั้นตอนการฉีดเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะบริหารวัคซีนรายสัปดาห์และนำมาแจกจ่ายตามสถานการณ์ ทุกกลุ่มเป้าหมาย 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจกับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีปัญหาทุกคน ยืนยันว่า ทุกคนทำงานกันอย่างเสียสละ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่ารัฐบาลพยายามทำเต็มที่ คำว่าเต็มที่ก็คือเต็มที่ตามสถานการณ์ที่มีอยู่ปัจจุบันทั้งในประเทศและสถานการณ์วัคซีนโลก  เราจำเป็นต้องบริหารให้สอดคล้องกับความเสี่ยง อะไรที่ทุกคนไม่สบายใจจนต้องขอโทษ และจะทำให้ดีที่สุด พร้อมระบุว่าทุกคนทำอะไรเพื่อคนไทยทุกคน แน่นอนว่าต้องมีปัญหาเพราะคนจำนวนมาก แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจกับสาธารณสุข ทุกคนก็เหนื่อยพอสมควรแรงกดดันสูงในเมื่อทุกคนอยากฉีด เราก็มีหน้าที่ในการหาวัคซีน ในได้ช่องทางที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็พูดได้หมด ขอให้สงบเรียบร้อย พร้อมกับระบุว่า การใช้สถานีกลางบางซื่อ ให้บริการรับคนได้จำนวนมากก็ดี เพราะถือว่าให้ทุกคนได้รู้จากสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดในอาเซียน นี่แหละคืออนาคตที่รัฐบาลแล้วทำไว้ให้หลายอย่าง เพราะฉะนั้นขอให้คิดถึงสิ่งดีๆหาสิ่งดีๆให้เจอบางทีก็อาจจะมองไม่เห็น จริงๆตอนไม่ได้ไปตรวจแต่ไปเยี่ยมให้กำลังใจเพราะเขาทำกันดีอยู่แล้ว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธการตอบคำถามสื่อมวลชน พร้อมกับระบุว่า ขออย่าซักถามเพราะจะนำให้เกิดการตีความ ก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน

“เรืองไกร” เตรียมยื่น “ชวน” เตือน “พิธา” ระวังสิ้นสภาพถูกเพิกถอนสิทธิปมหั่นงบไปใช้ส่วนอื่น

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฐานะกรรมาธิการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาฯ กล่าวว่า ตนเห็นข่าวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. และ 6 มิ.ย.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับการจะปรับลดงบประมาณปี 2565 แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ และคงจะต้องเตือนด้วยความหวังดี ทั้งนี้ ตามเนื้อข่าวนายพิธา ตั้งใจทำงานดี โดยจะใช้ฐานะ กมธ.คนหนึ่ง ปรับลดงบประมาณออกจำนวนหนึ่ง และกล่าวด้วยว่าจะนำงบประมาณที่ปรับลดไปใช้อย่างนั้นอย่างนี้ การกระทำดังกล่าวของนายพิธานั้นมีสองส่วน ส่วนหนึ่งทำได้ แต่อีกส่วนหนึ่งทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ส่วนที่ทำได้ คือ ส.ส. หรือกรรมาธิการ ทำการปรับลดงบประมาณได้ ยกเว้นเฉพาะบางรายการที่ห้ามไว้ ส่วนที่ทำไม่ได้ คือการปรับลดงบประมาณที่มีผลทำให้ ส.ส. หรือ กมธ.มีส่วนในการใช้งบประมาณ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม จะกระทำมิได้

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายพิธาคิดและจะทำในส่วนที่สอง คืออ้างว่าจะนำงบประมาณที่ปรับลดไปใช้อย่างนั้นอย่างนี้ จึงทำไม่ได้ กรณีนายพิธาถือเป็นความคิดที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เกิดการกระทำตามมา ประกอบกับ กมธ.งบประมาณมีทั้ง ส.ส. และคนที่ไม่ใช่ ส.ส. ดังนั้นเพื่อให้เกิดความระมัดระวังมิให้มีการฝ่าฝืนม.144 ตนจึงเห็นว่าควรนำเรื่องนี้แจ้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อเตือน ส.ส. ในสภาฯ และอีกทางหนึ่งตนก็แจ้งให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ฐานะประธานกรรมาธิการฯ แจ้งเตือนในที่ประชุมด้วย โดยจะยื่นหนังสือให้ประธานสภาฯ ในช่วงบ่ายเพื่อดำเนินการแจ้งเตือน ส.ส. ต่อไป

ราเมศ ย้ำ ปชป รุกผลักดันแก้ปัญหาที่ดินทำกิน อย่างเป็นระบบ ยั่งยืน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชนว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พบปะและช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าการให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกิน ที่มีหลายกรณีปัญหา ที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่จริงใจในการคลายความทุกข์ให้ชาวบ้าน หลายพื้นที่มีการขีดเขตป่าทับที่ดินประชาชน หลายพื้นที่มีประชาชนถูกไล่ดำเนินคดีทั้งๆ ที่ดินแปลงดังกล่าวอาศัยอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษกว่า 100 ปี หลายพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่สาธารณะทับที่ดินของชาวบ้าน ใครไม่เป็นเช่นนั้นย่อมไม่รู้สึก ถึงความทุกข์ที่เกิดขึ้น ตื่นเข้ามาไม่รู้ว่าจะถูกดำเนินคดีเมื่อใด ลูกหลานจะอยู่อย่างไรหากไม่มีที่ดินทำกินจะอพยพไปอยู่ที่ไหน 

ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครผิดใครถูก แต่อยู่ที่การพิสูจน์สิทธิอย่างตรงไปตรงมา ประชาชนรับได้หากมีการดำเนินการที่ตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ชาวบ้านไม่ได้ปฏิเสธกฎหมายเลยแม้แต่น้อย การต้องการเพียงที่ดินทำกิน คือสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน หากรัฐไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้เป็นระบบและยั่งยืน ปัญหาก็จะถูกส่งจากรุ่นสู่ไม่มีวันจบสิ้น ประชาชนจำนวนมากถามหาสิทธิแบบไหนก็ได้ที่ให้มีที่ทำกิน ทุกพื้นที่มีการถามถึงโฉนดชุมชน สิทธิในการใช้ประโยชน์พื้นที่ดินในชุมชน 

ส่วนของพรรคมีการขับเคลื่อนโดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเร่งออกโฉนดเป็นแนวทางที่ดีและประสบความสำเร็จ ที่มีการเดินสำรวจในหลายพื้นที่ 

แต่ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่ทำการเดินสำรวจควรดำเนินการเร่งพิสูจน์สิทธิในคราวเดียวกัน ควรร่วมพูดคุยเพื่อหาแนวทางกัน หากที่ดินแปลงใดมีปัญหาดังที่กล่าวมา จนท ก็จะข้ามไป เว้นปัญหาไว้ไม่มีการเข้าไปสำรวจพิสูจน์สิทธิในคราวเดียวกัน ความทุกข์ของประชาชนก็ไม่จบสิ้น
พรรคจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่วมกันขับเคลื่อนเป็นวาระเพื่อประชาชนต่อไป และจะนำเสนอกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในส่วนของพรรคเพื่อนำไปขับเคลื่อนต่อสู้ในเรื่องการวางโครงสร้างในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินเพื่อให้เกิดผลสำเร็จและยั่งยืนต่อไป

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง คลื่นเสียง สำหรับนักเรียน ม.5

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง คลื่นเสียง สำหรับนักเรียน ม.5

ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse
.

.

 

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน คอขวด SMEs ‘แหล่งทุนฝืด - เข้าถึงเงินยาก - องค์ความรู้น้อย - โกออนไลน์อ่อน’ ส่วนเสี้ยวแห่งปัญหา ที่ต้องหาทางแก้ผ่าน ‘สภาเอสเอ็มอี’

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน คอขวด SMEs ‘แหล่งทุนฝืด - เข้าถึงเงินยาก - องค์ความรู้น้อย - โกออนไลน์อ่อน’ ส่วนเสี้ยวแห่งปัญหา ที่ต้องหาทางแก้ผ่าน ‘สภาเอสเอ็มอี’

รู้จัก ‘หมู-วรวุฒิ อุ่นใจ’ รองหัวหน้าพรรคกล้า ขุนพลเศรษฐกิจสาย SMEs 
ผู้กล้าทิ้งธุรกิจพันล้าน (B2S-OfficeMate) ทะยานสู่รั้วการเมือง 
กับความตั้งใจที่จะขอนำประสบการณ์ที่มี ช่วยเหลือ SMEs ไทย ให้ไปรอด!!

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES 

.


.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Next Generation EU อีก 10 ปีข้างหน้าของสหภาพยุโรป | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

Next Generation EU อีก 10 ปีข้างหน้าของสหภาพยุโรป

ในระหว่างที่ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติโรคระบาด​ และแต่ละประเทศ​ คงทำได้แค่จัดการกับสถานการณ์ในวันนี้​ ทั้งด้านการจัดการโรคและด้านเศรษฐกิจ

แต่กลับกัน​ ในวันนี้กลุ่มประเทศภายใต้สหภาพยุโรป​ หรือ​ อียู​ ได้สร้างเซอร์ไพรซ์​ ด้วยการวางแผนอนาคตให้อียูในหลายๆ​ ด้าน​ ทั้งเศรษฐกิจและสังคม​ ไว้อย่างน่าสนใจ

พวกเขากำลังทำอะไร? 

มาลองติดตาม​ Next Generation EU​ อีก 10 ปีข้างหน้าของสหภาพยุโรป​ กันดูที่นี่... 

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.

‘นักธุรกิจ_ใจบุญ’ มอบหมายให้  ‘ผู้นำคนพิการ’ เป็นสะพานบุญถวายเก้าอี้ แด่พระภิกษุสงฆ์

บุษราวรรณ  นวเลิศพร กรรมการผู้จัดการโรงแรมคูณ สุขุมวิท107 มอบหมายให้ ชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร


พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร / นายสิทธิชัย เพ็งพานิช / นายชัชชัย แก้วธรรม (กลุ่มจิตอาสาเพื่อทำดี) เป็นตัวแทนเข้ากราบนมัสการ พระครูวิบูลย์สีลวัฒน์ หรือ ‘หลวงพ่อถวิล’ เจ้าอาวาสวัดบางหัวเสือ ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ  ‘พระครูสุนทรสุตสาร’ หรือ ‘หลวงพ่อพยุง กตปุญโญ’   เจ้าอาวาสวัดท้องคุ้ง ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ  นำ ‘เก้าอี้’ ถวายให้กับทั้ง 2 วัด วัดละ 50 ตัว รวมเป็นจำนวน 100 ตัว ใช้ในงานกิจกรรมต่างๆของทางวัด และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อ ‘พุทธศาสนา’ และ ‘ฆราวาส’ ต่อไป

โดย ‘พุทธศาสนิกชน’ ต่างมีความเชื่อกันว่าหากใครได้ร่วมทำบุญให้แด่ พระภิกษุ สามเณร จะทำให้ไปเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง มีความมั่งมีศรีสุขมากด้วยสมบัติและข้าทาสบริวาร และผลบุญกุศลที่ได้สะสม ในปัจจุบันก็จะส่งให้อนาคตในภายภาคหน้าจะมากไปด้วยทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ มีกิน มีใช้ไม่ขาดมือ  มีคนเคารพหน้าถือตามากมาย  จึงขออนุโมทนาผลบุญนี้ไปยังทุกๆท่านๆโดยถ้วนหน้า เทอญ. สาธุ
 

Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน ประวัติศาสตร์ชาตินิยม คือ การแบ่งแยกคนชาติพันธุ์ออกจากความเป็นคนไทย 

Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.2/3 ตอน ประวัติศาสตร์ชาตินิยม คือ การแบ่งแยกคนชาติพันธุ์ออกจากความเป็นคนไทย 

การไม่ยอมรับว่าสังคมไทยเป็นพหุทางวัฒนธรรม ทำให้คนชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ ถูกแบ่งแยกออกไปโดยปริยาย แล้วคนเหล่านั้นมักจะถูกละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจ

พบกับ มานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล 

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Host & Content Creator THE STATES TIMES
.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ธนกร’ วอนกลุ่มไม่หวังดีหยุดสร้างเฟคนิวส์โจมตีงบ 65 จวกสร้างความสับสนให้ประชาชนยิ่งซ้ำเติมประเทศ จี้ดีอีเอสเร่งเอาผิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2565 ในวาระแรก ก็มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีออกมาสร้างข่าวเท็จเผยแพร่ตามโซเชียลต่างๆ ในหลายประเด็นด้วยกัน อาทิ 

1.) สถาบันพระมหากษัตริย์ได้งบประมาณปี 65 จำนวน 3 หมื่นกว่าล้านบาท ทั้งที่ในข้อเท็จจริง เป็นงบประมาณที่รัฐบาลโดยหน่วยงาน/กระทรวงต่างๆ ดำเนินการให้กับประชาชนตามแนวทางพระราชดำริ ที่เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิต/ปากท้องของประชาชน ส่วนงบสำหรับหน่วยงานในพระองค์ได้รับงบประมาณ 8,761 ล้านบาท คิดเป็น 0.26% ของงบประมาณประเทศทั้งหมด และได้รับลดลงจากปี2564 จำนวน 219 ล้านบาท ซึ่งโดนปรับลดด้วยซ้ำไป นายธนกร กล่าวต่อว่า 

2.) งบของกระทรวงศึกษาถูกตัด 20,000 ล้านบาท ทั้งที่ในความจริง งบกระทรวงศึกษาลดลงร้อยละ 1.14 เนื่องจากจำนวนนักเรียนลดลง 60,000 คน ตามโครงสร้างประชากรของประเทศที่มีอัตราการเกิดลดลง แต่งบประมาณในเรื่องพัฒนาการศึกษาเพิ่มมากขึ้นจากปี 2563 ถึง 5,000 ล้านบาท คิดเป็น 103.27% 

3.) งบกระทรวงสาธารณสุขถูกตัด 4,300 ล้านบาท ทั้งๆ ที่โควิดระบาดหนัก ในความเป็นจริง งบกระทรวงสาธารณสุขที่ถูกตัด เป็นค่าใช้จ่ายฝึกอบรมสัมมนา ค่าใช้จ่ายการประชุม ค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่กระทบการให้บริการประชาชน และด้านการเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์กลับได้งบประมาณเพิ่มถึง 10,000 ล้านบาท 

4.) กล่าวหาว่างบสถาบันวัคซีนให้แค่ 22 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงรัฐบาลตั้งงบประมาณปี 63-64 และใช้เงินกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องจัดหาวัคซีนทั้งจากต่างประเทศและผลิตในประเทศ 21,000 ล้านบาท นายธนกร กล่าวอีกว่า 

5.) มีการกล่าวหาว่า งบประมาณบัตรทองถูกตัด 2,000 ล้านบาท ทั้งที่ในความเป็นจริง งบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2565 ได้รับงบประมาณสูงถึง 198,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2564 ที่ตั้งไว้ 194,508 ล้านบาท และมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลให้ประชาชนอีก13 รายการ 

6.) ข้อกล่าวหาว่างบกองทัพได้เพิ่ม 2,700 ล้านบาท และงบประมาณสูงมากกว่างบกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่ในข้อเท็จจริง งบประมาณด้านสาธารณสุข 295,673.9 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณ กลาโหม 92,399 ล้านบาท กระทรวงกลาโหมถูกลดงบประมาณจากปี 2563-64 อย่างต่อเนื่อง ปี 2563 อยู่ที่ 232,000 ล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 215,000 ล้านบาท และปี 65 อยู่ที่ 203,000 ล้านบาท และตัวเลขที่ฝ่ายค้านกล่าวว่ากองทัพได้งบเพิ่มนั้นเป็นตัวเลขที่นำเอาเฉพาะโครงการด้านยุทโธปกรณ์ของปีงบประมาณ 64 และ 65 มาคำนวณ และกล่าวหาว่ากองทัพได้งบประมาณเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่ในภาพรวมงบกลาโหมถูกตัดเยอะเป็นอันดับต้นๆ และ

7.) งบบัตรสวัสดิการประชารัฐ ถูกตัด 20,000 ล้านบาทแต่ในข้อเท็จจริงเนื่องจากกองทุนบัตรสวัสดิการประชารัฐยังเหลือเงินอยู่ 20,400 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมกับงบประมาณปี 65 ที่ตั้งให้ 30,000 ล้านบาท จะมีเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 50,000 ล้านบาท กับประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการ 14.6 ล้านคนครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ตนหวังว่าการกระทำดังกล่าวคงไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้กับประเทศ และขอให้กระทรวงดีอีเอสเร่งดำเนินการเอาผิดคนกลุ่มนี้ทันทีด้วย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ ชวนบริจาค!! ช่วยสานฝัน ปันสุข สร้างอนาคต ให้คนพิการ ได้ท้องอิ่ม มีแรงสู้ต่อไป

'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ ชวนบริจาค!! ช่วยสานฝัน ปันสุข สร้างอนาคต ให้คนพิการ ได้ท้องอิ่ม มีแรงสู้ต่อไป

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 'มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ'​ องค์กรสาธารณะกุศลด้านคนพิการ ที่ดูแลผู้พิการกว่า 800 คน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ณ เวลานี้เข้าขั้นวิกฤติหนัก ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้จำเป็นในการเลี้ยงดูคนพิการที่อยู่ในความดูแล ขาดแคลน เดือนร้อนถ้วนหน้า วอนพี่ๆ​ น้องๆ​ และประชาชน ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหาร และของใช้จำเป็นต่างๆ เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป เผยหลังโควิด-19 พ่นพิษยอดบริจาคลด กระทบหนัก เป็นช่วงเวลาที่คนไทยต้องช่วยกัน หรือท่านจะใดสะดวกบริจาคเป็นเงินได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 โดยในการบริจาคสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ สนใจให้การข่วยเหลือ โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102   

'ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์'​ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยถึงการระบาดระลอก 3 ของ โควิด-19 ที่รุนแรงกว่าเดิม ส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าจะดีกับตกต่ำอย่างต่อเนื่องลงไปอีก อันเป็นเหตุให้การดำเนินงานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้รับผลกระทบอย่างหนักถึงขึ้นวิกฤติก็ว่าได้

เนื่องจากขาดแคลนข้าวสารอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อย่างหนัก​ โดยทางมูลนิธิฯ​ จำเป็นต้องบริโภคข้าวสาร 7​ หมื่นกิโลกรัมต่อปี สืบเนื่องจากมูลนิธิฯ มีนักเรียนและนักศึกษาทึ่เป็นคนพิการในความดูแลที่อาศัยอยู่ประจำ รวมบุคลากรและครู ซึ่งอยู่ในความดูแลกว่า 800 คน โดยทั้งหมดนี้​ มูลนิธิฯ​ ดูแลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการในทุกๆ เรื่องเพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม  

นอกจากนี้ สถาบันศึกษาในการดูแลของมูลนิธิฯ​ ทั้ง 4 แห่งเป็นการให้บริการแบบประจำที่มูลนิธิฯ​ จะต้องดูแลทั้งในเรื่องที่พัก อาหาร การจัดการศึกษาและกิจกรรมอื่นๆ​ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคนพิการมีฐานะยากจน ดังนั้นมูลนิธิฯ​ จะต้องหางบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการ โดยการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รวมไปถึงการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

“สำหรับเรื่องของอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ณ เวลานี้ เนื่องจาก สต๊อกข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็นของมูลนิธิลดลงอย่างมาก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติก็ว่าได้ จึงวอนขอความเมตตาจาดผู้มีจิตศรัทธาที่พอจะมีกำลัง​ ให้ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อาทิ นม ทิชชู่ น้ำมันพืช หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทั้งแบบเจลและแบบน้ำ เป็นต้น เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป 

หรือท่านใดไม่สะดวก​ สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้ได้ โดยโอนเงินผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้หรือสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795, 094-665-2223” เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวในท้ายสุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top