Sunday, 11 May 2025
Hard News Team

'ผบ.ตร.'​ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม 'สถานีตำรวจส่วนแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'​ ตามโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยกเพื่อบริการประชาชนและลดความแออัด

ตามนโยบายของ พลตํารวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้แก่ คณะทํางานนโยบายการพัฒนางานป้องกันและปราบปราม โดยมี พลตํารวจเอก มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะทํางาน และมี พลตํารวจโท รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทํางาน

โดยให้ดําเนินการโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยก เพื่อเป็นหน่วยบริการประชาชนนอกสถานที่และกระจายการบริการสู่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความแออัด ของสถานีตํารวจหลัก ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชนอย่างทั่วถึง อีกทั้งเพื่อเป็นการควบคุม การเกิดอาชญากรรมบ่อยครั้งและเป็นการเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล/โฆษกกองบัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยว่า วันที่ 4 มิ.ย. 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของสํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยม 'สถานีตํารวจส่วนแยก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ'​ ซึ่งเป็นสถานีตํารวจส่วน แยกของสถานีตํารวจ​นครบาลพญาไท

โดยได้พิจารณาจากการเลือกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น เป็นศูนย์กลาง การคมนาคม พื้นที่ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ ล่อแหลมต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม อยู่ใจกลางชุมขน และเป็นที่ตั้งของสถานที่สําคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านทอง และหน่วยราชการที่ สําคัญ รวมถึงพิจารณาสถิติคดีเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ในพื้นที่ของสถานีตํารวจนครบาลพญาไท จึงได้เลือกพื้นที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นสถานที่จัดตั้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถานภาพอาชญากรรม กับลักษณะทางกายภาพตรงกับเจตนารมณ์และแนวคิดในการจัดตั้งสถานีตํารวจส่วนแยก

ทั้งนี้ โฆษกกองบัญชาการตํารวจนครบาล ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของการเข้ารับการฉีด วัคซีนป้องโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของข้าราชการตํารวจผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนนั้น ในสถานีตํารวจนครบาลพญาไท ข้าราชการตํารวจทุกนายเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คิดเป็น อัตรา 100% เพื่อเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่ข้าราชการตํารวจและพี่น้องประชาชนผู้ที่มาใช้บริการ

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ขานรับนโยบายรัฐ ชูนโยบายเร่งด่วน ฟื้นฟูวิสาหกิจชุมชนหลังพิษโควิด-19 จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ระหว่างวันที่ 11-15 มิ.ย.นี้

นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนในวงกว้าง และเพื่อเป็นการขานรับนโยบายรัฐในการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจฐานราก สร้างศักยภาพของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ดีพร้อมจึงมีนโยบายเร่งด่วน เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนในสถานการณ์เร่งด่วน ซึ่งมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับชุมชนในการนำความรู้และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าชุมชน และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง

พร้อมพัฒนาและขยายช่องทางการตลาด เชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ ผ่านกิจกรรมพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ภายใต้ โครงการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชนคลื่นลูกใหม่ เพื่อการแข่งขันในตลาด New Normal ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจ กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำ และกิจกรรมทดสอบตลาด โดยจะมุ่งเน้นการอบรมให้ความรู้ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การนำแผนงานไปทดลองและปรับปรุงสินค้า รวมถึงการนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงแล้วได้มาตรฐานมีคุณภาพไปทดสอบตลาดทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนการนำผลการทดสอบตลาดนั้นมาทำแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังให้การส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความสามารถในการบริหารธุรกิจสมัยใหม่ การสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งในกระบวนการผลิต การนำเสนอสินค้า การบริการและการตลาด เพื่อสร้างผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนคลื่นลูกใหม่ให้มีองค์ความรู้สามารถวิเคราะห์ธุรกิจตนเอง สามารถแก้ไขปัญหาธุรกิจของตนเองได้เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเองในสถานการณ์ปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ดีพร้อม ได้เร่งดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในการขยายช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมทดสอบตลาด Market Survey ซึ่งในยุค New Normal ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การตลาดแบบออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทและมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมาก ดีพร้อมจึงเร่งผลักดันและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ให้มีขีดความสามารถในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ อันจะทำให้ผู้ประกอบการเกิดทักษะประสบการณ์

และสามารถเชื่อมโยงเพื่อการแข่งขันในระดับสากลได้อย่างแท้จริง โดยความน่าสนใจของกิจกรรมทดสอบตลาด Market Survey ในครั้งนี้เป็นการจัดงานในรูปแบบ Virtual Event ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานมหกรรมแสดงสินค้าในรูปแบบโลกเสมือนจริงในระบบออนไลน์ที่ดีพร้อมจัดขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนี้มาใช้ในการจัดกิจกรรม เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งภายในงานได้รวบรวมสินค้าดีมีคุณภาพจากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศกว่า 140 ราย อาทิ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร อาหารและเครื่องดื่ม ถือว่าครบจบในงานเดียว

นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการจัดสัมมนาโดยมีวิทยากรชื่อดังระดับประเทศ ทางด้าน e-Commerce เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมได้ฟรี อาทิ การทดสอบตลาด Market Survey พื้นฐานการสำรวจ และการทำตลาดด้วย Facebook การทำตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง (DIY e-Commerce) การดีลกับโรงงานเพื่อสร้างสินค้านวัตกรรม อัปเดตหลังโควิด ภูมิศาสตร์ e-Commerce ของประเทศไทย และพื้นฐานของการขายออนไลน์ ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน 2564 รวมระยะเวลา 5 วัน โดยผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมงานได้อย่างต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง และคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลาของการจัดงาน นายภาสกร กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมงานได้ทุกวัน ตั้งแต่ วันที่ 11-15 มิถุนายน 2564 ผ่าน www.dcivirtualevent2021.com


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'เฉลิมชัย'​ เดินหน้าโครงการ 'แบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัย COVID-19'​ ช่วยเพชรบุรี​ ด้าน 'อลงกรณ์'​ เผยรัฐบาลจัดสรรวัคซีนเพิ่มให้เพชรบุรีเริ่มฉีดมิถุนายนนี้ พร้อมเปิดตลาดกลางสินค้าเกษตรออนไลน์สัปดาห์หน้าภายใต้ยุทธศาสตร์ '1ปิด1เปิด'​

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีมอบข้าวสารและผลผลิตทางการเกษตรภายใต้โครงการ 'แบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัย COVID-19'​ ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบรรเทาปัญหาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ น้ำพริก, เครื่องแกง, พริกสด, มะเขือ, แฟง, ฟักทอง, สับปะรดดอนขุนห้วยป ไข่ไก่, มะนาว, กล้วยน้ำว้า, กล้วยหอมทอง และภาชนะใส่อาหาร

โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี, นายไพโรจน์ พ่วงทอง สมาชิกวุฒิสภา, นายชาญณรงค์ พวงสั้น เกษตรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี, นายกเทศมนตรีเทศบาลเขาย้อย, นายกอบต.ตำบลหนองชุมพลเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และเยี่ยมให้กำลังใจแก่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ที่ประกอบอาหารภายในวัดศีลคุณาราม ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้​ นายภัคพงศ์ ได้กล่าวขอบคุณ​เจ้ากระทรวงเกษตร และคณะที่ช่วยเหลือจังหวัดเพชรบุรีและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19​ ในขณะนี้

ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์, ดร.กัมพล สุภาแแพ่ง, นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขและส่วนราชการกระทรวงเกษตรในจังหวัดเพชรบุรี​ ได้ร่วมสมทบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งมอบผ่านพระครูศรีวัชราภรณ์เจ้าคณะอำเภอเขาย้อยให้กับครัวกลางวัดศีลคุณาราม

โดยก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยได้มอบเงิน​ 2​ แสนบาท​ สนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีสู้ภัยโควิดโดยมอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี

นอกจากนี้​ นายอลงกรณ์​ ยังได้กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบว่า จากการประสานงานล่าสุดนายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขได้รับการยืนยันจาก​ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขว่า รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนเพิ่มให้เพชรบุรีล็อตที่​ 2​ อีก​ 49,000 โดส​ รวมทั้งวัคซีนที่จะฉีดให้กับผู้ลงทะเบียน​ 'หมอพร้อม'​ โดยจะเริ่มฉีดตามกำหนดในเดือนมิถุนายนนี้ และหวังว่ารัฐบาลจะจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอต่อการฉีดให้ชาวเพชรบุรีไม่น้อยกว่า 70% ให้ทันวันที่​ 1​ ตุลาคมซึ่งเป็นวันที่ชาวเพชรบุรีจะเปิดเมืองของเราภายใต้ยุทธศาสตร์ '1ปิด1เปิด'​

หลังจากเสร็จพิธี ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรพร้อมด้วยนางสาวศิริวรรณ เครือเล็กเกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายชาญ พวงสั้น เกษตรจังหวัด, นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อนพาณิชย์จังหวัดและคณะได้เดินทางไปประชุมหารือกับนายหยัน เยื่อใย ประธานสหกรณ์การเกษตรท่ายางและผู้จัดการตลาดเกษตรเพื่อเตรียมความพร้อมของการเปิดโครงการตลาดกลางสินค้าเกษตรออนไลน์ที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรหนองบ้วยและบ้านลาด​ ซึ่งจะเปิดการขายแบบซอล์ฟโอเพนนิ่งก์ (Soft Opening) ในสัปดาห์ภายใต้เพชรบุรีโมเดล '1ปิด1เปิด'​ คือระดมพลคนเพชรฯ​ ปิดโควิดให้เร็วที่สุดและเปิดเศรษฐกิจเร็วที่สุดไปพร้อมๆ​ กัน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใน กทม. มีประชาชนประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านคน 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใน กทม. มีประชาชนประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านคน 

จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้งการระบาด รวมแล้วต้องให้บริการฉีดวัคซีน 12 ล้านโดส เราควรฉีดให้เสร็จใน 4 เดือน หรือ 120 วัน (ถ้าช้ากว่านี้ อาจจะมีปัญหาในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ) ดังนั้น ในกรุงเทพมหานคร เราต้องบริการฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 100,000 โดส การเปิดจุดบริการฉีดน้อยแห่งจะทำให้เป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด ขณะนี้ กทม. มีจุดบริการฉีดวัคซีน ไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง คิดว่ายังไม่รวมของมหาวิทยาลัยต่างๆ  คำนวณง่ายๆ เอาตัวเลขกลมๆ แต่ละจุดบริการควรฉีดได้ 3,000 ถึง 5,000 ราย ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด

ในการเริ่มต้นแรกๆ แต่ละจุดอาจจะฉีดได้ไม่ถึงเป้าและควรต้องปรับระบบไปทุกๆ วัน พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ลังเลที่จะฉีดและอำนวยความสะดวกในการไปรับการฉีด 

การกระจายวัคซีน ของกรมควบคุมโรคติดต่อ สธ. กทม. และมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ในขณะนี้ถูกต้องเหมาะสมแล้วครับ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ก็ทำมาพักหนึ่งกว่าจะปรับระบบได้ ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ปริมาณวัคซีนกำลังทยอยเข้ามา จึงเหมาะแล้วที่ควรให้เริ่มไปช่วยกันหลายๆ แห่งเพราะทุกๆ ที่ต้องใช้เวลาพัฒนาขบวนการให้ได้เร็วและใช้คนประจำให้น้อยให้ได้เพราะต้องทำกันอีกนานมากๆๆ….. …ถึงตรงนี้แหละครับ (ร่ายที่มาที่ไปเสียยาว) ทั้งสามส่วนงานข้างต้นและราชวิทยาลัย / โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มีการหารือคุยกันใกล้ชิดตลอดเวลา และเห็นพ้องต้องกัน ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน คือทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วครับ และทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์จะได้รับการจัดสรรวัคซีนหลักมา เมื่อมีปริมาณวัคซีนหลักมากขึ้นนะครับ

สำหรับ หกแสนกว่าคนที่ได้ลงทะเบียนรอมารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์บริการวัคซีนของราชวิทยาลัยฯ และได้รับหมายเลข ID ที่ไปแล้ว ผู้ที่ได้รับหมายเลข ID มากกว่า 250,000 ขึ้นไปที่สามารถหาจุดฉีดวัคซีนที่อื่นๆ ใน กทม.ได้ ผมขอแนะนำว่าให้ไปลงทะเบียนและหาที่ฉีดวัคซีนโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงถ้าติดเชื้อและผู้ที่เสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อและแพร่เชื้อได้ง่าย ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และผู้ด้อยโอกาสที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตหรือการจองออนไลน์ รวมถึงผู้ที่ไว้วางใจโรงพยาบาลจุฬาภรณ์โรงพยาบาลจะทยอยเรียกเข้ามารับวัคซีนต่อไปโดยเร็ว เช่นเดียวกันกับผู้ที่มีนัดรับวัคซีนเข็มที่สองยังเข้ามารับตามนัดได้ครับ……และเมื่อมีวัคซีนมาเพิ่มปรับแผนใหม่จะแจ้งอีกครั้ง????????????

“ทำดีไว้แล้วก็จะดี”

“ทำดีไว้แล้วก็จะดี”

นิธิ มหานนท์ 
เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
4 มิถุนายน 64
#ความดีต้องช่วยกันทำ
#สามัคคีกันไว้เราต้องสู้กับมันไปอีกนาน
#วัคซีนช่วยฟื้นชีวิตชีวาสังคมไทย


ที่มา : https://www.facebook.com/755523894/posts/10159298700433895/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเดนมาร์กในวันจันทร์ ได้เรียกร้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุของประเทศ ให้ทบทวนการตัดสินใจไม่ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า หลังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเดนมาร์กในวันจันทร์ ได้เรียกร้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุของประเทศ ให้ทบทวนการตัดสินใจไม่ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า หลังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ เดนมาร์กหยุดใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเคสลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงที่เกิดขึ้นน้อยมากในผู้รับวัคซีนบางราย 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เดนมาร์กกำลังเผชิญกับปัญหาความยุ่งยากเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนแผนฉีดวัคซีนแก่ทุกคนในเดือนกันยายน ณ ตอนนี้ คาดหมายว่าปัญหาล่าช้าน่าจะกินเวลาราว ๆ 2 สัปดาห์

แมกนัส ฮิวนิกเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐว่า ด้วยบริบทนี้รัฐบาลกำลังร้องขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพิจารณาทบทวนใหม่ 

“ตอนนี้เราถลำเข้าสู่การแพร่ระบาดมากกว่าเดิม วัคซีนจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า ตอนนี้ถูกใช้ในยุโรปมาแล้วระยะหนึ่ง” ฮิวนิกเก้กล่าว “มีข้อมูลมากขึ้นบนพื้นฐานทั่วโลกสำหรับประเมินประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงของวัคซีน” เขากล่าว

เจ้าหน้าที่เดนมาร์กถอนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าออกจากโครงการฉีดวัคซีนของประเทศในช่วงกลางเดือนเมษายน และหยุดใช้งานวัคซีนของจอห์สันแอนด์จอห์นวันในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ไม่ใช่แค่ความกังวลด้านสุขภาพ แต่การระงับใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวของเดนมาร์กยังมีเหตุผลจากข้อเท็จจริงที่ว่า โรคระบาดใหญ่ดูเหมือนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีอุปทานวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติใช้อย่างเพียงพอ นั่นก็คือวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา

ทั้งนี้ เดนมาร์กเป็นชาติแรกของยุโรปที่หยุดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในโครงการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ แต่ในวันที่ 20 พฤษภาคม พวกเขาผ่อนปรนข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีนทั้งสองตัว

อย่างไรก็ตามจากข่าว ก็ยังมีอีกมุมที่น่าสนใจที่ไม่ได้ระบุไว้ ซึ่งทาง ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เพิ่มเติมอีกเหตุชวนคิดไว้ว่า... 

"อีกสาเหตุที่ไม่ได้ระบุในนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่เริ่มจะพบว่าวัคซีนซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA อย่าง Pfizer และ Moderna ที่ส่งผลข้างเคียงต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจในหมู่เด็กวันรุ่น ระหว่างอายุ 16-19 ปี" 

 

ที่มา:
https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/denmark-reconsider-exclusion-jj-astrazeneca-shots-2021-05-31/

https://www.facebook.com/100001625041497/posts/4183493018381492/

https://mgronline.com/around/detail/9640000052645


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เฟซบุ๊ก​ Thailand​ FACT Today​ ได้เผยภาพผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) หลังได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา​ พร้อมระบุ...

เฟซบุ๊ก​ Thailand​ FACT Today​ ได้เผยภาพผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) หลังได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา​ พร้อมระบุ...

คนไทย

ไม่แพ้ใครในโลก

โดยมีภาพบรรยากาศ​ ท่านรองนายกและรัฐมนตรีสาธารณสุข กับ ดร. แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก​ (WHO) ประจำประเทศไทย หลังรับวัคซีนโควิด19 จากแอสตร้าเซนเนกา ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ประเทศไทย

ซึ่ง ดร.แดเนียล กล่าวว่า... 

"มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ของวัคซีน และอยากเชิญชวนให้คนไทยมารับวัคซีนกันให้มากๆ"

ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน​ สาธารณสุขเริ่มมีการให้บริการวัคซีนแอสตราฯ ฝีมือคนไทย ให้กับประชาชน และกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์แล้ว

 

ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5994546647252579&id=3080161418691131


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกคณะก้าวหน้า ‘ช่อ พรรณิการ์’ ด้อยค่าวัคซีนซิโนแวค ชี้มีประสิทธิภาพประมาณ 50% เท่านั้น ต่อให้ฉีดให้คนครบ 100% ทั้งประเทศ ภูมิก็ไม่ขึ้นถึง 70-75% คาใจ เหตุใด ‘อนุทิน’ ยังสั่งเพิ่มต่อเนื่อง

แม้ว่า คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ออกมาชี้แจงทุกประเด็นเกี่ยวกับการผลิต และส่งมอบวัคซีนแอสตราเซนเนก้า ของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ 

ที่ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก จำนวน 1.8 ล้านโดสไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2564 ให้กับแอสตราเซนเนก้า โดยทางบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ถือเป็นโรงงานเดียวในไทยและเอเชียที่มีศักยภาพในการผลิตวัคซีน หลังจากได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ไปแล้วก็ตามที

ถึงกระนั้น ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ก็ยังคงคาใจเรื่องการส่งมอบวัคซีนแอสตราเซนเนก้า โดยได้โพสต์ข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊ก Pannika Chor Wanich โดยมีข้อความระบุว่า...

งงค่ะ เมื่อวานบอกว่าที่ส่งมอบ 1.8 ล้านโดสคือให้ไทย แต่วันนี้บอกส่งให้แอสตร้าเซเนก้า แล้วแต่แอสตร้าจะไปจัดสรรให้ประเทศไหน สรุปว่าเดือนนี้ไทยได้กี่โดสกันแน่จากแอสตร้า?

แต่การที่ สธ.แถลงว่า เดือนนี้มีวัคซีนฉีดให้ประชาชน 6 ล้านโดส (ซึ่งเป็นตัวเลขแผนที่เคยระบุไว้ว่าเดือนมิ.ย. แอสตร้าต้องส่งวัคซีนให้ไทย 6 ล้านโดส) แต่เป็นซิโนแวคบวกแอสตร้า และตอนนี้ไทยยังมีซิโนแวคเหลือในมืออีกประมาณ 2 ล้านโดส 

บวกสั่งมาใหม่อีก 3 ล้านโดสในเดือนนี้ ก็หมายความว่าเดือนนี้เราน่าจะได้ฉีดซิโนแวคเป็นหลัก เพราะมีอยู่ถึง 5 ล้าน จาก 6 ล้านโดสที่เป็นโควตาวัคซีนเดือนนี้

ปล. อนุทินยังสั่งซิโนแวคมาอีก 11 ล้านโดส อาจเป็นการสำรองใช้เผื่อแอสตร้าส่งมอบได้ไม่ตรงตามแผนในเดือนถัดๆ ไปหรือไม่?

ปล.2 ใครที่คิดว่าวัคซีนอะไรก็เหมือนๆ กัน โปรดเข้าใจว่าซิโนแวคซึ่งมีประสิทธิภาพประมาณ 50% ในการป้องกันโรค ย่อมไม่สามารถทำให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ได้ หรือเกิดช้ากว่าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง 70-95% เพราะต่อให้ฉีดให้คนครบ 100% ทั้งประเทศ ภูมิก็ไม่ขึ้นถึง 70-75% 

ดังมีตัวอย่างในชิลี ที่ปูพรมฉีดซิโนแวคให้ประชากรเกิน 60% ไปแล้วแต่กลับเจอระบาดซ้ำระลอกใหม่ ในขณะที่อิสราเอล สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้ประชากรด้วยอัตราใกล้เคียงกัน และไม่เจอระบาดซ้ำ เพราะฉีดไฟเซอร์ โมเดอร์นาเป็นหลัก

 

ที่มา: https://www.facebook.com/chor.wanich

https://www.facebook.com/336295587309275/posts/832268897711939/

https://www.thaipost.net/main/detail/105184


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รวมมิตรเรื่องงบประมาณ

รวมมิตรเรื่องงบประมาณ

- งบกลาโหมมากกว่างบสาธารณสุขจริงหรือ?

- งบวัคซีน 22 ล้านจริงหรือ?

ที่มา : ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4653245208024415&id=100000169455098


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พิธา ย้ำ พร้อมนำทัพก้าวไกล เดินหน้าจัดสรรงบเพื่อประชาชน ชี้ รัฐต้องเห็นหัวประชาชน แนะ รัฐ วางอิฐก้อนเเรกใหม่ให้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมรับเรื่องร้อง เครือข่าย We Fair เรียกร้อง กมธ.งบ 65 แปรญัตติเอาสวัสดิการปชช.เป็นที่ตั้ง

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 พร้อมด้วย วรรณวิภา ไม้สน กรรมาธิการฯ โดยมีธีรัตน์ สำเร็จวานิชย์ กรรมาธิการสัดส่วนพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาชาติ ร่วมรับหนังสือจาก นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (เครือข่าย We Fair) ที่ขอเรียกร้องคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร (พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติ) เพื่อให้มีการแปรญัตติงบประมาณ โดยจัดลำดับความสำคัญในนโยบายสวัสดิการสังคม  มากกว่านโยบายที่ไม่ใช่ลำดับความสำคัญเช่น การจัดซื้ออาวุธ

พิธา กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการทำงานวันเเรกของตนในฐานะกรรมธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราขอยืนยันว่า งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรมาไม่สอดคล้องกับวิกฤติบ้านเมือง เป็นงบประมาณที่ ‘ไร้สามัญสำนึก’ เป็นการจัดงบประมาณระหว่างอภิสิทธิชนกับประชาชนในประเทศที่เราอยู่ในภาวะที่ดิ่งเหว เป็นการสะท้อนว่าประเทศไทย หรือสังคมไทยเป็นสังคมแบบไหน โดยเรามีหน้าปกป้องสวัสดิการภาษีพี่น้องประชาชนใน 3 ประเด็น  

1.) รีดไขมัน เรารีดเป็นกองกลางให้มากที่สุด เเละกระจายให้คืนให้หน่วยงานสำคัญงบประมาณของอภิสิทธิ์ชนของกำลังพลที่มันไม่สำคัญที่ประชาชนต้องการวัคซีนไม่ได้ต้องการกระสุน   

2.) กระจายคืนหน่วยงานที่สำคัญของประชาชน อาทิ บัตรทอง สปสช เเละกองทุนเสมอภาคทางการศึกษา ที่โดนตัดลดลงในงบปีนี้ ผมทนไม่ได้ในฐานะพ่อคนที่ลูกเล็ก แต่งบด้านการศึกษาถูกตัดออกในช่วงวิกฤติโควิดเช่นนี้ เเละ

3.) เราต้องเจรจาหารือกับทางรัฐบาลถึงความสำคัญของรัฐสวัสดิการที่จะต้องเกิดขึ้นในประเทศ มีความเสมอภาค ที่ตนได้เคยอภิปรายไปเกี่ยวกับพลวัตน์ของรัฐสวัสดิการเบี้ยคนชราถ้วนหน้า ถ้วนประเทศ ให้รัฐบาลต้องคิดใหม่ ถึงผลประโยชน์ของที่ประเทศนี้ในการดูเเลโอบอุ้มคนที่เขาเปราะบสง ที่มีความสำคัญของพลวัตทางด้านเศรษฐกิจ เเละสิทธิมนุษยชนจะต้องกลับมา รัฐบาลต้องคำนึงผลประโยขน์ของประเทศ คนที่เป็นคนวันกลางคนอย่างผมจะต้องมีกำลังชาในการทำงาน เมื่อประเทศไทยได้ฟื้นฟูใหม่ โดยการวางอิฐก้อนเเรกใหม่ให้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ของอภิสิทธิ์ชนที่จัดสรรมา 

พิธา กล่าวต่อไปว่า หลายท่านยังคงไม่ทราบว่าตอนเด็กตนโตมากับคนทุพลภาพ อยู่ในประเทศที่มีความเท่าเทียมมาก ผมเห็นถึงความเเตกต่างระหว่างประเทศเขากับประเทศไทย ที่ประเทศของเขามีรัฐสวัสดิการที่ดูเเลอย่างเต็มที่ เเละเขาคิดกับประชาชนเขาในเเง่สิทธิความเท่าเป็นสังคมสงเคราะห์ โดยตนจะเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาผลักดันให้การเเก้ไขรัฐสวัสดิการเกิดขึ้นในประเทศเรา เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน แก้ไขงบประมาณในปีนี้ปีเเรกที่เราจะวางรากฐานให้รัฐสวัสดิการในประเทศไทย 

ด้านธนพร วิจัน เครือข่ายเเรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่า วันนี้เป็นเเรกของการตั้งกมธ.งบประมาณ 65 ทางพวกเราเครือข่าย we fair ได้ติดตามการจัดทำงบประมาณที่ไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากขึ้น เราจึงมายื่นหนังต่อคณะกรรมาธิการ ให้มีการพูดคุยในการตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น ไปเพิ่มในส่วนรัฐสวัสดิการ ยื่นข้อเรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่ เพื่อจัดสรรงบประมาณเห็นแก่ประโยชน์ประชาชน

ขณะที่ นิติรัฐ ตัวแทนกลุ่ม We fair กล่าวว่า ขอบคุณ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในร่างพระราชบัญญัติงบฯ 65 ในวาระเเรกเราไม่เห็นด้วยที่สภาผู้แทนราษฎรรับรอง เมื่อผ่านวาระ 2 เราเห็นว่าไม่ตอบโจทย์ใน 3 ประเด็น  ประเด็นเเรกเหตุใดงบสวัสดิการประชาชนลด 10% และการไม่มีการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ อาทิ งบประมาณของกระทรวงกลาโหมสูงกว่างบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข เเละประเด็นที่สอง ในกรณีที่ไม่จัดสรรงบประมาณแก้ไขด้านโควิด เเละประเด็นที่สามด้านการเหลื่อมล้ำของประชาชน เเละส่วนในกรณีเงินอุดหนุนของประชาชน ทั้งเด็กเเรกเกิด เบี้ยผู้สูงอายุ เรามีความเห็นว่าไม่มีการปรับเพิ่มในงบประมาณดังกล่าว เเต่ในส่วนของเงินบำนาญข้าราชการปรับขึ้น เปรียบเทียบคือในเงิน 100 บาท ภาษีของประชาชน เป็นเงินสวัสดิการข้าราชการ 15 บาท เเละเงินเดือนข้าราชการ 25 บาท ซึ่งมันสะท้อนความผิดพลาดการจัดสรรงบในครั้งนี้ อาทิ งบกระทรวงกลาโหม 200,000 ล้านบาท เป็นเงินเดือนข้าราชการ 100,000 ล้านบาทเกิน 50% เป็นการเเสดงให้เห็นว่าร่างพรบ.ฉบับนี้ให้ความสำคัญกำลังพลของทัพมากกว่าบุคลากร เเละงบประมาณด้านสาธารณสุขและประชาชน 

“เรามีงบประมาณรายจ่ายมา 3 ปีเเล้ว เเต่เราไม่เคยเห็นงบประมาณด้านรัฐสวัสดิการบรรจุอยู่ในนโยบายของพรรครัฐบาลให้พวกเราเลย ท่านพูดก่อนหาเสียงว่าจะทำให้ประชาชน เเต่ทุกวันนี้เรายังไม่เห็นเลย พรบ.65 ควรสะท้อนเจตจำนงค์ของประชาชนที่เลือกตั้งท่านมาเป็นผู้แทนประชาชน” นิติรัฐ กล่าว

ขณะวรรณวิภา ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่ตนตั้งใจมาเป็นกมธ.งบฯ ปี 65 ในครั้งนี้ เพื่อทวงถามงบประมาณด้านรัฐสวัสดิการให้แก่ประชาชน โดยตั้งเเต่ร่างงบประมาณทุกครั้งที่ผ่านมา ตนทวงถามเรื่องรัฐสวัสดิการมาตลอด เเต่ไม่เห็นความเปลี่ยนเเปลง โดยในพรรคก้าวไกลของเรามีการดำเนินการด้านนโยบายรัฐสวัสดิการให้ประชาชน เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดความเหลื่อมล้ำ นำไปสู่การเท่าเทียมกัน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คืบ! ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ลงเข็มเริ่มก่อสร้างแล้ว ส่งมอบพื้นที่แล้ว 86% คาดส่งมอบพื้นที่ 170 กม. ครบเดือนก.ย.นี้ พร้อมเปิดให้บริการปี 2568

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เตรียมส่งมอบพื้นที่ช่วงสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการประมาณ 5,521 ไร่ งานมีความคืบหน้า 86% ให้กับเอกชนคู่สัญญาแล้ว โดยพร้อมส่งมอบพื้นที่ได้ทั้งหมด ภายในเดือนก.ย.นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันเอกชนได้เข้าพื้นที่ และเริ่มออกแบบเตรียมการก่อสร้าง เช่น งานปรับพื้นที่สำหรับเตรียมก่อสร้างช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภา งานก่อสร้างถนนและสะพานชั่วคราวเพื่อลำเลียงวัสดุ งานก่อสร้างสำนักงานสนาม บ้านพักคนงาน โรงหล่อชิ้นงานโครงสร้าง งานด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและการจัดจราจร โดยการก่อสร้างทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี และจะเปิดให้บริการช่วงพญาไท สุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภา ในปี 68 ส่วนการส่งมอบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ พร้อมส่งมอบให้เอกชนคู่สัญญา โดยยืนยันว่า ผู้โดยสารจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ระหว่างการถ่ายโอนกิจการ โดยเฉพาะเรื่องบัตรโดยสาร ที่สามารถใช้บัตรรายเดือนได้ตามเดิม

ส่วนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โดยเฉพาะการก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 กองทัพเรือ ได้ออกแบบทางวิ่งและทางขับที่ 2 งานทางขับเชื่อมระหว่างทางวิ่ง พร้อมลานจอดศูนย์ซ่อมอากาศยานเสร็จแล้ว คือ ทางวิ่งความยาว 3,505 เมตร ทางขับที่เกี่ยวข้อง 6 เส้นทาง อุโมงค์ลอดใต้ทางวิ่ง และงานระบบที่เกี่ยวข้อง ขณะที่การเตรียมส่งมอบพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้จัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติงานในพื้นที่เขตส่งเสริม สำหรับช่วงการก่อสร้างเพื่อใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่ รวมถึงดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เช่นเดียวกับงานก่อสร้างระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top