สำนักข่าว Nikkei Asia ได้อ้างรายงานข้อมูลจาก Apple Supplier Responsibility Report ประจำปี 2020 พบว่า จีนได้แซงหน้าไต้หวัน กลายเป็นผู้ส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้กับ Apple เป็นอันดับ 1 ไปเสียแล้ว แม้จีนจะเจออุปสรรคจากมาตรการกีดกันการค้า และคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างหนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม
จากรายงานพบว่ามีบริษัทมากถึง 200 แห่งที่เป็นฐานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้บริษัท Apple และในจำนวนนี้ เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในจีน และ ฮ่องกงถึง 51 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ที่พบบริษัทจีนเพียง 42 แห่งที่รับงานผลิตชิ้นส่วนให้ Apple จึงทำให้จีนกลายเป็นประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงาน Apple มากที่สุด จากที่เคยเป็นตำแหน่งของไต้หวันอยู่นานหลายปี
และการเพิ่มฐานการผลิตในจีน ยังทำให้ Apple สามารถขยายศักยภาพในการผลิตในเอเชียได้เป็นอย่างดี ส่วนเหตุผลหลักที่ทำให้ Apple ตัดสินใจเลือกบริษัทของจีนเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนหลักเพราะต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าใครในท้องตลาด ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้นให้กับทุกสินค้าของ Apple
จากรายงายยังพบว่ากว่า 98% ของต้นทุนการผลิตของ Apple ถูกใช้ไปกับการลงทุนใน Supplier และขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนจากโรงงานทั้งใน และต่างประเทศ จึงชี้ให้เห็นได้ว่า Apple พึ่งพาบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ จากโรงงาน Supplier ทั่วโลกอย่างมาก
และถึงแม้ว่า Apple จะมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านมาตรฐานของสินค้า แต่ทั้งนี้การควบคุมต้นทุนก็ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของการผลิต ที่ทำให้ Supplier จากจีนเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องนี้ ที่แม้แต่ผู้บริหารการผลิตของ Apple ยังต้องยอมรับว่า บริษัทในจีนมีความสามารถในการผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์ได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ ในราคาที่ถูกกว่าฐานการผลิตที่อื่นมากๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่ Apple ไม่สามารถมองข้ามได้
จากการประกาศสงครามการค้ากับจีนตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ในปี 2017 ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลของโจ ไบเดน ที่เริ่มคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ของจีนด้วยเหตุผลด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน จนมีข่าวว่าหลายบริษัทของอเมริกา รวมถึง Apple วางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่น เช่น เวียดนาม และ อินเดีย
แต่จากรายงานนี้กลับพบว่าประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายฐานการผลิตของ Apple มากที่สุดคือ ญี่ปุ่น จากเดิมที่เคยมีบริษัทผลิตชิ้นส่วนให้ Apple ถึง 43 แห่งในปี 2017 แต่ล่าสุด ลดเหลือเพียง 34 บริษัท ส่วนไต้หวันที่เคยเป็นเบอร์ 1 ของกลุ่ม Supplier ของ Apple มาโดยตลอด จากเดิมที่มี 52 บริษัท ตอนนี้เหลือเพียง 48 บริษัท
ตอนนี้แม้แต่บริษัท Supplier รายใหญ่ของ Apple ทั้ง Foxconn และ Pegatron ที่มีฐานการผลิตหลายประเทศ ก็ยังต้องระวังจะเสียตลาดให้กับ Supplier จากจีนที่ตอนนี้มาแรงเหลือเกิน ส่วนมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่ผ่านมา ส่งผลให้ Apple จำเป็นต้องเลิกสัญญากับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนเพียงรายเดียวก็คือ O-Film Technology ที่มีข่าวว่ามีการใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์ในโรงงาน ส่วนโรงงานอื่นๆในจีนยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ
ถึงจะยอมรับว่าตลาดผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนยังสดใส แต่ยังมีอยู่สิ่งหนึ่งที่จีนยังพัฒนาได้ไม่ถึงระดับที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดชั้นนำได้ คือการผลิต ‘เซมิคอนดักเตอร์’ ที่เป็นหัวใจในการประมวลผลขั้นสูง นอกจากนี้ อัตราค่าแรง และค่าครองชีพของจีน มีแนวโน้มสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมากภายในประเทศ ที่ทำให้จีนเองก็ต้องขยายโรงงานไปตั้งในประเทศอื่นที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าอย่างเช่นในเวียดนาม
และด้วยการลงทุนทั้งสหรัฐ และ จีน ก็ทำให้เวียดนามกลายฐาน Supplier ที่เติบโตอย่างมาก จากเดิมที่เคยมีบริษัท Supplier ให้กับ Apple อยู่ 14 บริษัทในปี 2018 เพิ่มเป็น 21 บริษัทจากรายงานปีล่าสุดซึ่งในจำนวนนี้ก็เป็นบริษัทจากจีนที่มาลงทุนในเวียดนามถึง 7 บริษัทด้วยนั่นเอง
ต้องมอบมงกุฎเจ้าตลาดแห่ง Supplier ให้พี่จีนจริงๆ
อ้างอิง
https://asia.nikkei.com/Business/China-tech/China-ousts-Taiwan-as-Apple-s-biggest-source-of-suppliers
https://www.technologytimes.pk/2021/06/02/china-superseded-taiwan-as-apples-number-one-supplier-source/
https://www.apple.com/supplier-responsibility/pdf/Apple-Supplier-List.pdf
โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9