นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศบค.เห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนธ.ค. 2564 โดยให้มีบริการฉีดวัคซีนอย่างน้อยจำนวน 6.6 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 3.1 ล้านโดส เข็มที่ 2 จำนวน 2.3 ล้านโดส และเข็มที่ 3 จำนวน 1.2 ล้านโดส และจะดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางใหม่ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

โดยประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนส.ค. – ก.ย.2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนธ.ค.2564 ส่วนประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนก.ย. – ต.ค. 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนม.ค.2565 และประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนต.ค. – พ.ย. 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนก.พ.2565 ขณะที่ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนพ.ย. – ธ.ค. 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมี.ค.2565

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็นแอสตราเซเนกา สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 3 – 6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2  สำหรับประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็นไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป รวมถึงประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เข็มที่ 1 ซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เข็มที่ 2 แอสตราเซเนกา สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา โดย ศบค. มีแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพิ่มอย่างน้อย 23 ล้านโดส ภายในเดือนมี.ค. 2565 เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน

นายธนกร กล่าวว่า ศบค. เห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ในปี 2565 โดยตั้งเป้าจะจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส จากบริษัทผู้ผลิตหลายบริษัทด้วยกัน อาทิ AstraZeneca Pfizer และวัคซีนชนิด Protein Subunit เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเพียงพอและครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 80 ของประชากรทุกคนในประเทศไทย สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 12 ปี สามารถได้รับการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยรับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบ walk-in ได้ตามสถานพยาบาลหรือศูนย์บริการฉีดวัคซีนอีกด้วย อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รมว.ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19อย่างดีทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น