Friday, 4 July 2025
Hard News Team

ว่างงานยังน่าห่วงไตรมาสที่ 2 พุ่งเกือบ 2%

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยอัตราการว่างงานของไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 64 ว่า ปัจจุบันตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง โดยการว่างงานยังอยู่ที่ระดับ 1.9% ใกล้เคียงกับ 2% ในไตรมาสก่อน แต่ยังคงอยู่สูงกว่า 1% ในปี 62 ช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเมื่อพิจารณาในรายสาขาการผลิตพบว่าสาขาท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งสาขาด้านการผลิตสื่อและกิจกรรมบันเทิงอื่น ๆ ยังได้รับผลกระทบรุนแรง และมีอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในช่วงนี้ที่กำลังเกิดวิกฤตจากการบาดของไวรัสโควิดอย่างหนัก  

สำหรับสาขาที่มีการว่างงานสูงสุด พบว่า สาขาตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยว มีอัตราการว่างงาน 23.8% สาขาการขนส่งทางอากาศ 21.2% สาขาที่พักแรม 10.6% สาขาการผลิตภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และรายการโทรทัศน์ การบันทึกเสียงลงบนสื่อและการจัดพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่ดนตรี 5.3% สาขาการจัดผังรายการและการแพร่ภาพกระจายเสียง 4.8% สาขากิจกรรมด้านการกีฬา ความบันเทิง และการนันทนาการ 3.6% สาขากิจกรรมไปรษณีย์และการรับส่งพัสดุภัณฑ์ 3.1% และสาขากิจกรรมการสร้างสรรค์ศิลปะและความบันเทิง 2.8%  

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแยกตามสาขาอาชีพ จากข้อมูลพบว่า ในช่วงปี 63 ทุกอาชีพมีอัตราการว่างงานสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีในปี 64 ยังมีอัตราการว่างงานในบางสาขาอาชีพลดลงจากปีก่อน ทั้ง พนักงานบริการ พนักงานขายในร้านค้าและตลาด ผู้ปฏิบัติการเครื่องจักรโรงงานและเครื่องจักร และผู้ปฏิบัติงานด้าน การประกอบ ขณะที่ในบางสาขาอาชีพอัตราการว่างงานยังคงเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ ช่างเทคนิคสาขาต่าง ๆ และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเสมียน  

‘นิกร’ ย้อนความหลัง ถ้า วันนี้บรรหารอยู่ คงได้ฟังคอมเม้นต์ สถานะการณ์บ้านเมือง

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว รำลึกเนื่องในวันคล้ายวันเกิด นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า "19 สิงหาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดท่านบรรหาร ศิลปอาชา บุคคลสำคัญท่านหนึ่งซึ่งควรค่าที่ผมระลึกถึง ปกติตอนท่านยังอยู่เราก็จะเปิดบ้านจรัล รับมิตรสหายผู้คนที่มาอวยพร จากนั้นท่านบรรหารจะให้ผมจัดแถลงข่าวให้ความเห็นต่อสถานะการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นโดยท่านมักจะให้ความเห็นที่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างไม่ละเลยแต่มีความเป็นกลางๆเสมอ ช่วงหลังที่ท่านจากไปแล้วพวกเราจะไปร่วมทำบุญเพื่อท่านที่ครอบครัวศิลปอาชาจัดขึ้นที่สุพรรณบุรีทุกปี แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์COVID-19 จึงต้องงดไปในปีนี้ แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด อย่างไร ท่านก็จะอยู่ในใจของพวกเราเสมอไป"

“จุรินทร์”หวัง “พรรคร่วมรบ.-ฝ่ายค้าน-ส.ว.” จับมือแก้รธน. เพื่อให้ถึงฝั่งฝัน อย่างน้อยนำร่องแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นปชต.ยิ่งข้ึน

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2และวาระ 3 ในที่ประชุมร่วมรัฐสภาสัปห์ดาหน้าว่า สำหรับพรรคประชาธิปตย์ ยังยืนยันชัดจนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ซึ่งหลักการในร่างที่ผ่านวาระที่2 ก็ยังเป็นไปตามหลักการเดิม คือการเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ และมีส.ส.เขต 400 คน แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน  ซึ่งพรรคจะต้องยืนยันหลัการให้เป็นไปตามนี้ และถ้ามีประเด็นไหนที่ไม่สอดคล้องกับหลักนี้ ก็จะแปรญัตติเพื่อให้กลับเข้าสู่หลักที่ประชุมรัฐสภาได้รับหลักการไป ทั้งนี้พรรคยืนยันว่าจะสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะถือว่าเป็นร่างของพรรคตั้งแต่ต้น
  เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันพรรคการเมืองต่างๆ และส.ว.เพื่อให้สนับสนุนร่างของพรรคประชาธิปัตย์ให้ผ่านไปได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับในพรรคการเมืองต่างๆ ก็ได้มีการประสานกันอยู่ โดยเฉพาะในการทำหน้าที่เป็นกมธ.ฯร่วมกัน เพียงแต่เราก็ต้องเคารพในการตัดสินใจซึ่งกันและกัน  ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองและส.ว.ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ดุลพินิจ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้อย่างน้อย 3 ส่วน คือพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน และส.ว. ต้องจับมือร่วมกัน ไม่เช่นนั้นก็ผ่านยาก 
 เมื่อถามวา ดูแนวโน้มแล้วจะสามารถไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนอยากให้ไปถึงฝั่งฝัน และอยากให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน เพราะเป็นเจตนารมณ์ชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ต้น และเป็นร่างเดียวที่ผ่านขั้นรับหลักการ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการนำร่องการแแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิไตยยิ่งชึ้น เปิดโอกาสให้ประชาชนมีทางเลือกที่มีเสรีภาพ หรือมีสิทธิมากขึ้นในการตัดสินใจระหว่างคนกับพรรคแยกออกจากกันได้ 
 

พล.อ.ประวิตร  ประชุม คกก."คุ้มครองมรดกโลก"  ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ  ร่วมสนับสนุน"แก่งกระจาน" ได้ขึ้นเป็นมรดกโลก   เห็นชอบเสนอไทยเป็นเจ้าภาพ  จัดประชุมครั้งที่46  สร้างการยอมรับ สู่ระดับสากล 

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00น.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 2/2564 โดยมี รมว.วธ. และ ปล.ทส. เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ Video Conference

ที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ แนวทางการดำเนินงานตามมติ คณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 ที่ได้มีการประชุม โดยให้ไทยต้องรายงาน สถานภาพ การอนุรักษ์ แหล่งมรดกโลก พื้นที่กลุ่ม"ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่" รวมถึง ความคืบหน้าการปฏิบัติการ เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดและค้าไม้พะยุงโดยมอบให้ กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและ เสนอคณะอนุกรรมการ มรดกโลกทางธรรมชาติ ต่อไป พร้อมทั้งได้เห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดทำรายงานตามมติ ของคณะกรรมการมรดกโลก ภายหลังขึ้นทะเบียน พื้นที่กลุ่มป่า"แก่งกระจาน"เป็นมรดกโลกแล้ว จากการประชุมครั้งที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อม ต่อภารกิจของผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพสากล ว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN)ภายใต้สถานการณ์ โควิด-19 และให้ศึกษาความเป็นไปได้ ในการขยายขอบเขตแหล่งมรดกโลกข้ามพรมแดน รวมทั้ง ได้มีมติเห็นชอบ เสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่46 ในปี พ.ศ.2566 (ไทยเคยเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่18 พ.ศ.2538) เพื่อยกระดับมาตรฐานประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล เนื่องจากไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมในการจัดการประชุมระดับนานาชาติแล้ว ที่ผ่านมา

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณ ประชาชนทั้งประเทศที่ให้การสนับสนุน พร้อม คณะกรรมการฯ ,ก.ทรัพยฯ,ก.วัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนินการอนุรักษ์ และคุ้มครองมรดกโลก ที่ผ่านมา ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ เรื่องการได้รับเลือกให้กลุ่มป่าแก่งกระจาน ขึ้นเป็น มรดกโลกแล้ว นำมาซึ่งการส่งเสริม การอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สะท้อนการบริหารจัดการที่มีคุณภาพของภาครัฐ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งได้เชิญชวนคนไทย ร่วมสนับสนุน ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม คณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 46 ด้วย

ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ไปได้สวย นักท่องเที่ยวสะสมกว่า 2 หมื่นคน

หลังจากที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่เกือบ 20,000 คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย. 2564) จำนวนกว่า 371,826 คืน มีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน

โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล เยอรมนี และฝรั่งเศส โดยจำนวนนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดนั้น ตรวจคัดกรองพบเชื้อจำนวน 55 คน คิดเป็น 0.28 % และนำเข้าสู่กระบวนการของสาธารณสุขแล้ว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ยิ่งลักษณ์’ จวกรัฐบาลบิ๊กตู่ล้มเหลว ราคาข้าวตกต่ำซ้ำเติมชาวนา หนี้สินล้นพ้นตัว ยิ่งจนลง เสียดายนโยบายปรับโครงสร้างเกษตรที่เคยทำไว้

วันที่ 19 สิงหาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า แม้ประเทศไทยของเราได้ชื่อว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเกษตรกรจะกินดีอยู่ดีค่ะ ชาวนาเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่ราคารับซื้อกลับลดลงอย่างหนัก ขณะที่ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ข้าวเจ้านาปรังฤดูใหม่กำลังจะทะลักออกสู่ตลาดจำนวนมากมายหลายสิบล้านตัน แต่ราคาข้าวแทบทุกชนิดได้ร่วงลงไปก่อนหน้าแล้ว เช่น ข้าวเปลือกเจ้าแห้ง (ความชื้น15%) ราคาเหลือเพียงตันละ 7-8 พันบาท ดิฉันเป็นห่วงมากค่ะ ว่าราคาข้าวปีนี้จะตกตํ่ามากกว่าปีก่อน ซ้ำเติมชีวิตพี่น้องชาวนาไทยจากเดิมที่เดือดร้อน ไม่มีกินมีใช้ มีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่แล้วให้ยากจนลงไปอีก

วันนี้รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาให้กับชาวนา มองไม่รอบด้าน และไม่ทันต่อสถานการณ์ มีแต่มาตรการเดิม ๆ จนทำให้วิกฤติราคาข้าวบานปลาย ดิฉันมีความเห็นว่า รัฐบาลควรจะหาแนวทางแก้ไขเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันทีค่ะ เช่น การออกมาตรการสนับสนุนต้นทุนการผลิต อย่างเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าเช่านา เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการเข้าไปดูแลด้านราคาให้กับชาวนา ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาการขนส่ง การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เพราะเมื่อส่งออกได้มากขึ้น ราคาข้าวก็จะสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยชาวนาในทางอ้อม เพราะการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวคือการช่วยเศรษฐกิจไทยในภาพรวมทั้งประเทศค่ะ

ดิฉันเสียดายโอกาสในการปรับโครงสร้างเกษตรทั้งระบบที่ได้เริ่มวางรากฐานไว้เมื่อครั้งที่ดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น การทำเกษตรโซนนิ่ง การลดการผลิตข้าวคุณภาพต่ำ และการปลูกพืชอื่น หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว การพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มผลิตภาพของแรงงาน ไปจนถึงมาตรการลดต้นทุนโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตร การขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาส และมอบอนาคตที่ดีให้กับอาชีพชาวนา ให้สมกับคำว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ จะได้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งค่ะ


ที่มา : https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/photos/a.201001219944341/4639957352715350


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'โฆษกรัฐบาล' ย้ำ หลังพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ปลดกระท่อมพ้นยาเสพติดให้โทษ มีผล 24 ส.ค.นี้ ส่งผลปล่อยผู้ทำผิด 1,038 ราย ให้ปชช.ปลูก-บริโภค-ซื้อขายใบได้

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 จะมีผลวันที่ 24 ส.ค.นี้ โดยปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้ประชาชนสามารถปลูกและขายได้ รวมทั้งปล่อยผู้กระทำความผิดตามกฏหมายพืชกระท่อมในวันที่ 24 ส.ค. จำนวน 1,038 ราย โดยถือว่าไม่เคยกระทำความผิด สำหรับผู้ถูกจับกุมหรือจำเลยในชั้นต่าง ๆ จะดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปล่อยตัวผู้กระทำความผิดและผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า เบื้องต้นภาครัฐจะได้รับประโยชน์เมื่อมีการปลดกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ สามารถลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของภาครัฐ ผู้ต้องหาหรือจำเลย 1,691,287,000 บาท โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาพบว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลเท่ากับ 76,612 บาท ซึ่งคดีข้อหาพืชกระท่อมที่ขึ้นสู่ศาลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 - 30 มิ.ย. 2564 มี 22,076 คดี

นายอนุชา กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบถึงข้อกฎหมายว่า ประชาชนสามารถปลูกและบริโภคกระท่อมตามวิถีชาวบ้าน รวมถึงซื้อหรือขายใบกระท่อมโดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ หากนำไปผสมยาเสพติดอื่น ๆ เช่น 4 คูณ 100 ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ส่วนการนำเข้าหรือส่งออกไปต่างประเทศในเชิงอุตสาหกรรมต้องขออนุญาตก่อน

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระสำคัญเร่งด่วน เน้นจับกุม ยึดทรัพย์ ลงโทษทางอาญา เครือข่ายผู้ค้า ควบคู่ไปกับบำบัดโดยนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ต้องรณรงค์สร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันในกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่เป็นแรงงานนอกระบบด้วย”


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ชวน" คาด ถกงบ 65 จบ 20 ส.ค. ไม่หวั่นม็อบมาสภาฯ ชี้ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหา เผย พร้อมเปิดรับ มีมาตรการดูแลความปลอดภัย

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวาระ 2-3 ว่า อภิปรายถึงมาตรา 8 ถือว่าใช้ได้ เพียงแต่งบประมาณของกระทรวงกลาโหมมีการอภิปรายกันยาว โดยวันนี้จะเริ่มอภิปรายที่มาตรา 9 คาดว่าเวลาที่เหลืออีก 2 วันน่าจะเพียงพอกับมาตราที่เหลือ ซึ่งอาจจะจบในวันที่ 20 ส.ค. ช่วงดึกๆ ทั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี เพราะได้มีการย้ำว่าเป็นการอภิปรายแปรญัตติ อย่าไปอภิปรายเป็นวาระที่ 1 ซึ่งเมื่อวานนี้ตั้งใจจะให้การประชุมเลิกดึกกว่านี้ แต่สมาชิกเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ คนขับรถ จะเดินทางกลับในช่วงเคอร์ฟิวลำบาก แต่เราก็มีหนังสือรับรองไว้แล้ว และได้มีการเตรียมรถรับส่งเจ้าหน้าที่ไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าวันที่ 20 ส.ค. อาจจะมีผู้ชุมนุมมาชุมนุมที่รัฐสภา จะมีการกำชับเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างไร นายชวน กล่าวว่า มีการเตรียมไว้แล้ว โดยทั่วไปที่มาชุมนุมที่รัฐสภาไม่มีปัญหามาก และสภาฯ เปิดรับสามารถมายื่นหนังสือได้ และที่สำคัญคือให้เป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ ซึ่งคงไม่ต้องมีการยกระดับการดูแลความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ก็ดูแลตามปกติ เพียงแต่อย่าไปประมาท
 

ไชโย! “จุรินทร์” เคาะจ่ายชดเชยฝายหัวนา 350 ราย 34.66 ล้านบาท หลังรอมา 20 ปี

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลา 14.30  น. มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ Zoom ณ ห้อง 201 สภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาครั้งที่ 2 / 2564 ซึ่งฝ่ายเลขาคือสำนักกฎหมายและที่ดินกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินค่าขนย้าย กรณีที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน 350 แปลง เนื้อที่ 770-1-59 ไร่ ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ เฉพาะกลุ่มโนนสัง กลุ่มราษีไศล และกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน


 โดยมติที่ประชุม เห็นชอบรายชื่อราษฎรผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่ถูกเขตการก่อสร้างที่มีสิทธิได้รับค่าทดแทนค่าขนย้าย (ที่ดิน) ตามหลักเกณฑ์แห่งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2532 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการฯ ทั้งสองคณะ จำนวน 350 แปลง เนื้อที่ 770-1-59 ไร่ เป็นเงิน 34.66 ล้านบาท โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

"และรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ยังได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ทั้งนี้ไม่ให้เป็นปัญหายืดเยื้อและให้อำนวยความสะดวกให้กับราษฎรอย่างเต็มที่เนื่องจากที่ผ่านมาใช้เวลาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้นานมากแต่สำเร็จในยุคนี้ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์แก่ราษฎร " รองโฆษกรัฐบาล  กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากนายจุรินทร์ต้องการเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งยืดเยื้อมานานสำหรับการประชุมครั้งนี้นอกจากตัวแทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องแล้วยังมีผู้แทนกลุ่มราษฎรในพื้นที่ทุกฝ่ายเข้าร่วมด้วย เช่น ตัวแทนสมัชชาคนจนตัวแทนราษฎรตำบลโนนสัง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ยืดเยื้อมา 20 ปีเพราะการพิสูจน์สิทธิและการแก้ไขปัญหาเกษตรกรที่มีผู้แทนหลายกลุ่ม แต่ยุติได้ในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาชุดนี้เพราะมีนายจุรินทร์ เป็นประธาน เนื่องจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ข้อมูลประสบการณ์การแก้ไขปัญหาเกษตรกรควบคุมการประชุมให้ความขัดแย้งในตัวแทนชาวบ้านยุติและเกิดความยุติธรรม ซึ่งหลังจากนี้ไปจะมีการนำเข้าอนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและจ่ายเงินให้เกษตรกรตามสิทธิเป็นลำดับถัดไป

เดินหน้า "5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" ฝ่าวิกฤติโควิด กระทรวงเกษตรฯ ผนึกเครือข่ายเกษตรอินทรีย์คิกออฟสภาเกษตรอินทรีย์พีจีเอส.ครั้งแรกในไทย “อลงกรณ์”เล็งเป้าตลาดแสนล้านปั้นไทยฮับอาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวปาฐกถาพิเศษในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการแนวทางและแผนดำเนินการขับเคลื่อน”สภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส.แห่งประเทศไทย”วันนี้ว่า สินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมากโดยมีมูลค่ากว่า1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า3ล้านล้านบาท มีอัตราเติบโตปีละ 20% ตลาดที่สำคัญของโลกคือยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วนตลาดที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วคือ จีน ออสเตรเลีย และอาเซียน สำหรับในประเทศไทยมีมูลค่าตลาด 3,000 ล้านบาท และส่งออก 2,000 ล้านบาท ยังขยายตัวได้อีกมากด้วยนโยบายและกลยุทธ์ใหม่ๆ

คาดว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงเรื่องสุขภาพจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ทวีมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มที่ เพราะจะเป็นประโยชน์กับตัวเกษตรกรและผู้บริโภคในประเทศ รวมทั้งเป็นสินค้าเกษตรแห่งอนาคต(Future Food)ที่มีโอกาสเติบโตในตลาดโลกได้อย่างมากจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ด้านการผลิต การแปรรูป การบริโภค การค้าสินค้า และ การบริการเกษตรอินทรีย์ ที่มีความยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและได้จัดให้มี "ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2564" โดยมีคณะกรรมการเกษตรอินทรีย์แห่งชาติและคณะกรรมการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเป็นกลไกระดับนโยบายและมีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนภายใต้3คณะทำงานได้แก่คณะกรรมการด้านเกษตรอินทรีย์ คณะทำงานด้านเกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรผสมผสานและคณะทำงานด้านวนเกษตรและเกษตรธรรมชาติ


ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดงบประมาณปี 2564จำนวน 1.9 พันล้านบาทสนับสนุนโครงการของกระทรวงทบวงกรมต่างๆรวมทั้งสิ้น 209 โครงการเช่นโครงการข้าวอินทรีย์ ที่ขยายพื้นที่ได้ปีละประมาณ 3 แสนไร่ 

สำหรับปี2563ที่ผ่านมาคณะกรรมการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนที่มีดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานได้เร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการปี 2564-2565เดินหน้าจัดทำร่าง พรบ.เกษตรกรรมยั่งยืนพร้อมกับอนุมัติให้มีการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติรวมทั้งการจัดทำโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง(Urban Farming)และโครงการธนาคารสีเขียว(Green Bank) เพื่อสร้างโอกาสในวิกฤติโควิด19ได้มอบให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)จัดทำหลักเกณฑ์การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม(PGS)พร้อมกับจัดตั้ง”สภาเกษตรอินทรีย์ พีจีเอส.(PGS)แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก

วันนี้จึงถือเป็นวันดีเดย์ก้าวแรกของสภาเกษตรอินทรีย์ พีจีเอส. ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะเครือข่ายองค์กรเกษตรอินทรีย์หลักๆเช่น มูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทย มูลนิธิ เกษตรกรรมยั่งยืน สมําพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส สหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่ง ประเทศไทย  ยังมีกลุ่มเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส ในเครือข่ายอื่นๆ อีกเป็นจํานวนมากที่พร้อมจะร่วมกันขับเคลื่อนสภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส และแผนดําเนินงานขับเคลื่อนระบบ พี จี เอสของประเทศให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
(1) เพิ่มพื้นที่และปริมาณการผลิตเกษตรอินทรีย์
(2) เพิ่มการค้าและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์
(3) เพื่อให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
(4) เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของสินค้าและบริการด้านเกษตรอินทรีย์ในระดับภูมิภาค

การจะบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวต้องบริหารเชิงกลยุทธ์แบบSand Box Modelให้เกิดความคล่องตัวเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่นทั้งนี้จะต้องพัฒนามาตรฐานเกษตรอินทรีย์สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค การพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์โดยเชื่อมโยงการทำงานกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC)อย่างใกล้ชิดด้านการวิจัยพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการอบรมบ่มเพาะเกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งการพัฒนาตลาดกลางสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบออนไลน์และออฟไลน์เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ของสินค้าเกษตรอินทรีย์ในระบบทรัพย์สินทางปัญญาและการเชื่อมโยงการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์จากผลผลิตทั้งพืชและสัตว์กับโครงการ1กลุ่มจังหวัด1นิคมเกษตรอุตสาหกรรม ประการสำคัญคือจะต้องมีรวมศูนย์ข้อมูลกลางของเกษตรอินทรีย์ซึ่งสามารถใช้ศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ(National Agriculture Big Data Center:NABC)ได้ทันทีและควรยึดหลัก”Zero Kilometer”คือ”ผลิตที่ไหนขายที่นั่น”จะได้ผลิตตามความต้องการของตลาดที่ใกล้ตัวที่สุดจากในชุมชนสู่ภายในจังหวัดในระดับภาคระดับประเทศและต่างประเทศตาม5ยุทธศาสตร์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แก่ตลาดนำการผลิต,เทคโนโลยีเกษตร4.0,3S(safety-security-sustainability เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง เกษตรยั่งยืน,ศาสตร์พระราชาและบูรณาการเชิงรุกทุกภาคส่วน
เพื่อบรรลุเป้าหมาย 4ประการ
(1) เพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 600,000 ไร่ ภายในปี 2564
(2) เพิ่มจำนวนเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย ภายในปี 2564
(3) เพิ่มสัดส่วนตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศต่อตลาดส่งออกโดยให้มีสัดส่วนตลาดในประเทศร้อยละ 40 ต่อตลาดส่งออกร้อยละ 60
(4) ยกระดับกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้านเพิ่มขึ้น

“สภาเกษตรอินทรีย์ พีจีเอส.ต้องบูรณาการ360องศา เปิดกว้างสร้างพันธมิตรทำงานเชิงโครงสร้างและระบบ วันนี้เป็นวันแรกเป็นช่วงของการจัดตั้งและเดินหน้า(Setup Startup)ต่อด้วยการเชื่อมโยงต่อยอดให้สำเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ สภาเกษตรอินทรีย์เปรียบเสมือนคานงัดที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญต่ออนาคตของเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยของเรา”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

การประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติครั้งนี้มีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเป็นประธานในพิธีเปิดและกล่าวปาฐกถาพิเศษมอบนโยบายโดยมีนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กล่าวรายงาน  ผ่านระบบ zoom cloud meeting โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมกว่า300คนรวมทั้งนายสำราญ สารบรรณ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรและอดีตอธิบดีกรมการข้าว นางจินตนา อินทรมงคล ผู้แทนมูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทย นายอนันตโชค ศักดิ์สวัสดิ์ ผู้แทนสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส นายอนุรักษ์ เรืองรอบ ตัวแทนสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย นายชฤทธิพร เม้งเกร็ด ผู้แทนสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย  นายสมนึก ยอดดำเนิน จากบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และผู้แทนเกษตรกร และผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านเกษตรอินทรีย์ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top