Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

“ผบ.ทสส.” ปช.หน่วยมั่นคง จัดกำลังตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด -สายตรวจ คุมเข้มทุกพท. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ตามนโนบายรัฐบาลและศบค.

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส/หน.ศปม.) สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เริ่มดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดสายตรวจในการลาดตระเวนเพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติ การเดินทางข้ามพื้นที่อย่างเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต จำนวน 88 จุด ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนจากมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดฯ ของบุคคลในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด ให้บังคับใช้บทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ทั้งนี้ ผบ.ทสส/หน.ศปม. ได้ขอความร่วมมือกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วน มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยขอให้งดเว้นการจัดกิจกรรมทุกรูปแบบที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่ประจำอยู่ในพื้นที่ควบคุมจุดตรวจหรือด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนต้องเคร่งครัด รวมทั้งการปฏิบัติเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่อาจลักลอบเข้ามาในราชอาจักรไทย

สำหรับ การควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ตามแนวชายแดนนั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการปฏิบัติโดยการเพิ่มกำลังทหาร ตำรวจ สนธิกำลังกับกองกำลังป้องกันชายแดน อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้เน้นย้ำการวางจุดตรวจพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อป้องกันการข้ามเข้ามายังประเทศไทย พร้อมทั้งสั่งการให้ใช้เครื่องมือพิเศษตรวจพื้นที่ และประสานกระทรวงมหาดไทยใช้ชุมชนเข้มแข็งตามแนวชายแดนช่วยตรวจตราแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลควบคุมพื้นที่ทหารที่ทำหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นและเข้มงวดในมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด

ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน โปรดให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามที่ภาครัฐกำหนดโดยเคร่งครัด งดการออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลาที่กำหนดโดยไม่มีความจำเป็น หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from home) อย่างเต็มรูปแบบ ร่วมกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ  มีวินัยในการปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค โดยกองทัพไทยพร้อมเคียงข้างพี่น้องประชาชนและจะปฏิบัติภารกิจเพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ทอ.เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ที่จังหวัดลพบุรี รับมือโควิด มั่นใจมีความพร้อมเปิดรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทันที

 พล.อ.ท. ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทยแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งมีข้อจำกัดจำนวนเตียงไม่สามารถรองรับกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้น กระทรวงกลาโหมจึงได้สั่งการให้เหล่าทัพจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น เพื่อรองรับขีดจำกัดของสถานพยาบาลต่าง ๆ 

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศป.พรท.ศบภ.ทอ.) เร่งดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและ ศบค.อย่างเร่งด่วน โดยพิจารณาใช้อาคารและสถานที่ และขีดความสามารถของหน่วยที่มีอย่างเต็มความสามารถ 

กองทัพอากาศ ร่วมกับ จังหวัดลพบุรี และ สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี รวมทั้งโรงพยาบาลท่าวุ้งและบริษัท บี.ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด จัดตั้ง ”โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (กองบิน 2) จังหวัดลพบุรี” บริเวณอาคารศูนย์ฝึกภาคพื้นทางยุทธวิธีกองทัพอากาศ กองบิน 2 จำนวน 5 อาคาร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการและสามารถดูแลตัวเองได้ (กลุ่มสีเขียว) รวมทั้งสิ้นจำนวน 400 เตียง โดยแบ่งโซนผู้ป่วยชาย จำนวน 2 อาคาร รวม 160 เตียง และโซนผู้ป่วยหญิง จำนวน 3 อาคาร รวม 240 เตียง พร้อมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับตัวอาคารมีรั้วกั้นโดยรอบพื้นที่ การกำหนดเส้นทางการเข้าออก ทั้งเส้นทางที่ปลอดเชื้อ และเส้นทางกรณีฉุกเฉิน  ซึ่งมีการซักซ้อมการปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วนับเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 ของจังหวัดลพบุรี 

กองทัพอากาศขอให้ประชาชนมั่นใจว่า “โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (กองบิน 2) จังหวัดลพบุรี”ได้รับการตรวจและรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตลอดจนมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลท่าวุ้ง เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ได้เปิดให้บริการรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 วันแรก จำนวน 134 คน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา กองทัพอากาศขอยืนยันว่า จะใช้ขีดความสามารถทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีสุขภาพดีและปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

“เสกสกล” รับ คนแห่ต่อคิวตรวจโคิวิด-19 แน่น ยัน รัฐ เร่งเปิดจุดตรวจเชื้อ วอน ปชช.เชื่อ “บิ๊กตู่”พาพ้นวิกฤต

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ปรากฎภาพประชาชนต่อแถว รอการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ว่า ยอมรับว่าประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกสบาย โดยศบค.ยืนยันที่จะเร่งเปิดจุดตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุข มีมติให้กำหนดแนวทางการใช้วิธีตรวจหาแอนติเจนโดยใช้ ชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test โดยสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่ผ่านการรับรองทางห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อแก้ปัญหาประชาชน เข้าไม่ถึงบริการตรวจโควิดเพราะต้องรอคิวจำนวนมาก 

นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถรักษาพยาบาล โดยจัดตั้ง รพ.สนาม ไอซียูสนาม แยกกักในชุมชน แยกกักที่บ้าน ปรับแผนการกระจายวัคซีน เร่งฉีดผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 60 ปี กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ให้ได้ 1 ล้านโดส ภายใน 2 สัปดาห์ และจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเร่งจัดหาวัคซีนที่ประชาชนต้องการมาฉีดให้ประชาชน

“ยืนยันว่านายกฯจะทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งดูแลด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ เยียวยา และบริหารจัดการวัคซีนให้ประชาชนทุกคน ขอให้ประชาชน เข้าใจว่านายกฯทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ และนายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนรักษาตนเองให้ปลอดภัย อย่าเชื่อ
เฟกนิวส์ ข่าวบิดเบือน ข่าวปลอม หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่เล่นการเมือง จ้องโจมตีทำลายความเชื่อถือของรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อก้าวข้ามวิกฤตไปด้วยกัน

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้  EP.3/1 ตอน Local Creative Culture & Better Living ลายเซ็นสุด Proud ของสื่อก้อนเมฆที่ชื่อ ‘THE Cloud’

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้  EP.3/1 ตอน Local Creative Culture & Better Living ลายเซ็นสุด Proud ของสื่อก้อนเมฆที่ชื่อ ‘THE Cloud’

พบกับ ‘ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Cloud and Ground จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้งสื่อน้ำดีที่ชื่อ ‘THE Cloud’

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES 

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกา ทำข้าวกล่องมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

(11​ ก.ค.64​ ปทุมธานี)​ ที่บริษัท เค เอส เอส อินเตอร์เทด กรุ๊ป จำกัด ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยคณะทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก​ อบจ.ปทุมธานี จัดโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกา เพื่อทำข้าวกล่องนำไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยมี ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง คณะทำงานและที่ปรึกษา​พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย สมาชิกคณะทำงานคอยให้การต้อนรับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี

จากนั้นดร.เกียรติศักดิ ส่องแสงได้กล่าวความเป็นมาของโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกาให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานีทราบ ต่อจากนั้นก็ได้นำข้าวกล่องมอบให้กับคณะทำงาน เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้าน

ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง ให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่าการจัดโครงการครัวคนรักปทุม ลำลูกกาในครั้งนี้ เป็นโครงการที่ ประกอบอาหารปรุงสด ทำเป็นอาหารข้าวกล่อง เพื่อที่จะนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ที่รอการรับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

"สำหรับโครงการนี้เราต้องการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อจากผู้ที่ติดเชื้ออยู่แล้วออกมาหาอาหารทานกันเองนอกบ้าน เราจึงต้องหาอาหารเครื่องดื่มและของใช้ที่จำเป็นไปส่งมอบให้กับเขาเหล่านี้

"วันนี้ก็ได้รับโอกาสจากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานีและท่านรองนายก ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนเมื่อท่านเป็นผู้ติดเชื้อเป็นผู้ป่วยก็ขอให้ท่านได้เปิดเผยว่าท่านรอการรักษา ทางคณะทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนหายจากการเจ็บป่วยโดยเร็ว แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน"

ที่มา: ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย/รายงาน

เกษตรทันสมัย!! ดัน​ 77​ จังหวัดไทย​ พึ่งตนได้อย่างยั่งยืน | Contributor EP.19

อนาคตของภาคการเกษตรไทย 77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน

เปลี่ยนภาพเก่า ชาวนาคลุกฝุ่น ชาวไร่คลุกดิน สู่สังคมการเกษตรไทยโฉมใหม่ หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำเนินยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเกษตรทันสมัยภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’ ได้ขับเคลื่อน AIC (Agritech and Innovation Center) หรือ ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ในระยะเวลาเพียง 1 ปี ก็เห็นผล

- ช่วยยกระดับวงการเกษตรไทย ผ่านการบูรณาการทุกภาคส่วน
- ร่วมหัว จมความคิด พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตะต้องได้
- ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ ไปสู่เกษตรกรตัวจริง
- ใช้งานได้ง่าย ราคาถูก เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรไทยได้ทุกมิติ ทั้งผลิตผล และสินค้าแปรรูป

กลไกใดที่ทำให้วงการเกษตรเริ่มขยับไปในทิศทางที่น่าจะใช้คำว่า ‘ถูกต้อง’ ได้

กระทรวงเกษตรฯ เสกคาถาใด ถึงเริ่มเปลี่ยนทิศเกษตรดั้งเดิม มาสู่เกษตรยุคใหม่ 

ร่วมถอดรหัส เบื้องหลังเกษตรทันสมัย ภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’

77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน จาก คุณอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ 

.


 


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไทยไม่ทน​ -​ ตู่ต้องทน

...วันนี้ที่ 8 กรกฎาคม 2564

...ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ให้นับโทษนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 4176/2552

...ศาลลงโทษจำคุก 12 เดือนต่อจากโทษคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ. 4907/2555

...ทั้งสองคดี​ มี​ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ ฟ้อง​ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาท

...ศาลอาญาได้ออกหมายขังจำคุกคดีถึงที่สุด โดยที่ก่อนหน้านี้นายจตุพร ถูกจำคุกในคดีนี้มาแล้ว 14 วัน จึงต้องนำมาหักจากโทษจำคุก 12 เดือน จึงเหลือที่นายจตุพรต้องถูกจำคุกอีก 11 เดือน 16 วัน

...เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้นำตัวนายจตุพรไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

...หมายเหตุ : คดีสองคดีนี้โจทก์ให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีหนึ่ง เพราะถ้าไม่นับโทษต่อกันจำเลยจะได้ประโยชน์มาก

...ยกตัวอย่าง คดีแรกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ซึ่งจะครบ 1 ปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561

...คดีที่สองศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 ซึ่งครบ 1 ปีในวันที่ 31 มีนาคม 2562

...ถ้าไม่นับโทษคดีที่สองต่อจากคดีแรก เมื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จำเลยก็ถูกจำคุกครบ 1 ปี

...ส่วนคดีที่สองเมื่อถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 ก็ถูกจำคุกครบ 1 ปีเช่นเดียวกัน รวมแล้วจำเลยถูกจำคุกเพียง 1 ปี 3 เดือน เพราะตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จำเลยถูกจำคุกซ้อนกันสองคดี

...แต่ถ้านับโทษคดีที่สองต่อจากคดีแรก โทษในคดีที่สองเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 หลังจากครบการจำคุกในคดีแรกคือวันที่ 31 ธันวคม 2561 คดีที่สองครบ 1 ปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 คือจำเลยถูกจำคุกรวม 2 ปี ตามคำพิพากษาทั้งสองคดี

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3850661081726756&id=100003487051857


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ถอดบทเรียนที่ควรรู้...จากเหตุเพลิงไหม้ ‘โรงงานหมิงตี้’ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

ในดีมีร้าย ในร้ายมีดี!! 
ถอดบทเรียนที่ควรรู้...จากเหตุเพลิงไหม้ 
‘โรงงานหมิงตี้’

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เผาแล้ว 35 ศพ เหยื่อโควิด!! เจ้าอาวาสวัดดังแห่งบางพลี​ ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล เผย จะยอมเผาจนเตาพัง

วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้จัดพิธีทำบุญทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางเมตตารับอนุเคราะห์เผาศพให้ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย​ รวม 35 ราย

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้)  เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง  ร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยนายฉะโอด รุ่งเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย 

โดยมี พ.ต.อ.รักศักดิ์  เมฆจินดา  ผกก.สภ.คลองด่าน ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง อดีตกำนันตำบลบางพลีใหญ่ ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี เจ้าหน้าที่ อสม. และทางครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เดินทางนำอัฐิของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดเข้าร่วมทำพิธีในครั้งนี้

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้)  เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลางได้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจึงได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยทางวัดได้รับฌาปณกิจศพเหยื่อโควิดมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 64 ซึ่งขณะนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เผาศพด้วยโรคโควิด-19 ไปแล้วรวม 35 ราย  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ยังกล่าวต่ออีกว่า บางวันเผา 2 ราย บางวันเผา 3 ราย ตัวเลขสูงสุดที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้รับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดสูงสุดอยู่ที่ 11 รายต่อวัน กระทั่งมาระยะหลังทางวัดได้รับการประสานขอความอนุเคราะห์ให้เผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แบบว่าเผาศพกันรายวัน จนทางวัดต้องแยกเตาเผาศพไว้ 1 เตา เพื่อไว้เผาศพผู้เสียชีวิตแบบเสียชีวิตโดยธรรมชาติ ในส่วนญาติหรือครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มาติดต่อขอให้ทางวัดช่วยเผาศพให้นั้น ทางวัดบางพลีใหญ่กลางไม่เคยเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ ทางวัดจะดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมดแต่หากญาติโยม หรือครอบครัวผู้เสียชีวิตจะร่วมทำบุญก็แล้วแต่ความศรัทธาหรือหากจะไม่ร่วมทำบุญทางวัดก็ไม่เรียกร้อง  เพราะถือว่าวัดคือที่พึ่งของประชาชนมีความทุกข์วัดก็รับอนุเคราะห์ ญาติโยมทุกคนใครมีความเดือดร้อนทางวัดช่วยเหลือได้ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ โดยที่ผ่านมามีประชาชนได้นำน้ำมันมาบริจาคให้กับทางวัด เพื่อไว้ใช้เผาศพผู้ป่วยโควิด

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้เตาเผาศพที่ใช้เผาศพโควิดอาจมีการเสื่อมสภาพได้เพราะต้องใช้ความร้อนสูงมากและเผาอยู่ตลอดแทบทุกวันก็อาจมีการเสื่อมสภาพได้เป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ทางวัดจะอนุเคราะห์เผาศพโควิดจนกว่าเตาเผานั้นจะพังจนไม่สามารถเผาได้  ขณะนี้วัดบางพลีใหญ่กลางมีคิวจองเผาศพโควิด-19 อยู่อีกหลายรายทางวัดก็มีความยินดีรับอนุเคราะห์ทุกราย แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะไม่รับฌาปนกิจศพเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น    

ที่มา: คิว-ข่าวสมุทรปราการ​ รายงาน

รมว.เฮ้ง เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้ประกันตน ม.33 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 4 จังหวัดเศรษฐกิจ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา เริ่ม 8 ก.ค. 64 เป็นต้นไป

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ เซ็นทรัลพลาซ่า ชลบุรี, อมตะ คาสเซิล อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พร้อมเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ผู้ประกันตนใน 4 จังหวัดเศรษฐกิจ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลตำรวจตรีนันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ร่วมตรวจเยี่ยมในครั้งนี้โดยมี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม นาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ ประกันสังคมจังหวัดชลบุรี และผู้บริหารกระทรวงแรงงานพร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ 

จากนั้น รมวแรงงาน และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ต่อไปยังศูนย์ฉีดวัคซีน บริษัท เดลต้า อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) สาขานิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นางสาวไพลิน จินดามณีพร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวปาริฉัตร จันทร์อำไพ ประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา และนางสาวหัฏหิริภิม ณมงคลบุญวงษ์ หัวหน้าประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา สาขาบางปะกง พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงานและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ 

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้การฉีดวัคซีนเป็น “วาระแห่งชาติ”กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายสำนักงานประกันสังคมบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงการคลัง โดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายออกสู่วงกว้างทั้งในโรงงานและสถานประกอบการ ซึ่งระยะแรกได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่สีแดงเข้ม ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.- 6 ก.ค.64 ที่ผ่านมา มีผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็มแรกไปแล้ว 583,313 คน โดยในระยะถัดไปจะได้เร่งฉีดให้กับผู้ประกันตนในจังหวัดพื้นที่เศรษฐกิจ
          
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ตนได้มาเปิดศูนย์วัคซีนโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จังหวัดชลบุรี ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการฉีดให้กับผู้ประกันตน เพื่อสร้างภูมิป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตน คนรอบข้าง และผู้เข้ามารับบริการ เพื่อให้กิจการและเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมกันนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา ซึ่งศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนในแต่ละจังหวัด มีดังนี้ซึ่งจากการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนผ่านระบบ e-service ของผู้ประกันตน ตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 7 ก.ค.64 จังหวัดชลบุรี ที่นิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี เซ็นทรัลพลาซ่า ชลบุรี แปซิฟิกพาร์ค ศรีราชา และเซ็นทรัลมารีน่า พัทยา มีผู้ประกันตนลงทะเบียนต้องการวัคซีน 394,899 คน มีศักยภาพการฉีดวันละ 4,200 คน จังหวัดระยอง ที่สวนอุตสาหกรรมอีสเทิร์นอินดัสเตรียลปาร์ค ปลวกแดง บริษัท เอส ซี จี เคมีคอลไทย จำกัด มีผู้ประกันตนลงทะเบียนต้องการฉีดวัคซีน จำนวน 257,851 คน มีศักยภาพการฉีดได้วันละ 2,000 คน จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่บริษัท เดลต้า อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) มีผู้ประกันตนลงทะเบียนต้องการฉีดวัคซีน จำนวน 150,527 คน และจังหวัดสมุทรปราการ ที่บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ หอประชุมที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ บริษัท ต่อยอดเฟรช (ประเทศไทย) จำกัด และหอชมเมืองสมุทรปราการ มีผู้ประกันตนที่ต้องการฉีดวัคซีนจำนวน 483,426 คน มีศักยภาพ การฉีดวันละ 4,000 คน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เวลา 09.00- 16.00 น. (จันทร์- ศุกร์)


         
ทั้งนี้ เฉพาะผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนผ่านระบบ e-service เท่านั้น ไม่รับ Walk in ขอให้ผู้ประกันตนทุกคนมั่นใจว่า กระทรวงแรงงานพร้อมดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสนับสนุน ให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการวัคซีนโควิด-19 อย่างแน่นอน สำหรับผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการนัดหมายให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในล็อตแรก หากสำนักงานประกันสังคมได้รับการจัดสรรวัคซีน จะนัดหมายให้เข้ารับการฉีดในล็อตถัดไปเรียงตามลำดับการลงทะเบียน หากท่านไม่มาตามกำหนดเวลา จะถือว่าสละสิทธิ์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดต่อ สายด่วน 1506 กด 7 เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top