Friday, 4 July 2025
Hard News Team

ของดีในอัฟกานิสถาน 'แร่หายาก - ฝิ่นชั้นดี' การันตีความมั่งคั่ง

อัฟกานิสถานมีอะไรที่น่าสนใจ? 

คำถามนี้คงจะไม่พ่วงไปถึงอดีตในช่วงไม่กี่วันที่ดินแดนแห่งนี้เป็นยุทธภูมิสำคัญที่ถูกชาติตะวันตกบางชาติเข้ามาปักหลักนานนับสิบปี

แต่จะเผยให้เห็นถึงว่า อัฟกานิสถาน เต็มไปด้วยสิ่งล้ำค่าที่เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากครอบครอง

เท่าที่ค้นดูใน Google จะพบว่ามีแหล่งแร่สำคัญ ๆ มากมาย รวมทั้งแร่หายาก (Rare Earth) ซึ่งดูจากภาพประกอบประเมินมูลค่าพบว่ามีมูลค่ามหาศาล 

แม้จะเกิดสงครามรบกันเองภายใน ก็สามารถขายเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาบูรณะประเทศได้ แถมยังมีเงินเหลืออีกเยอะดูได้จากลิงค์ "สารคดีอัญมณีที่ซ่อนอยู่" https://bit.ly/2pNr4cf

นอกจากนี้ยังมีแหล่งผลิตฝิ่นชั้นดีติดอันดับของโลกในขนาดแปลงใหญ่มาก ประมาณ 202,000 - 246,000 เฮกตาร์ หรือประมาณ 1,262,500 ไร่ - 1,537,500 ไร่ (ข้อมูลปี 2020 โดย UN) 

ฝิ่นชั้นดีสามารถแปลงเป็นมอร์ฟีนใช้ในทางการแพทย์โดยแยกจากสารอัลคาลอยด์ที่มีกว่า 30 ชนิดเป็นมอร์ฟีนราว ๆ 21% ที่เหลือเป็นยาแก้ไอและยาคลายกล้ามเนื้อรวม ๆ กันราว ๆ 13%

แต่...การปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานนั้นผิดกฎหมาย (หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) 

แต่ขณะเดียวกัน จะมีบางประเทศในยุโรปนั้นถูกกฎหมาย เช่น ที่อังกฤษ (ข้อมูลจากเว็ป VOA https://www.voathai.com/a/british-poppies-22jul11-126556163/924879.html22jul11-126556163/924879.html)

รวม ๆ ดูทรัพยากรเหล่านี้ จึงสรุปได้ว่าอัฟกาฯ นั้นมีเสน่ห์เหลือเกิน

#ใครก็หาข้อมูลได้ด้วยgoogle


ที่มา : https://www.facebook.com/100036374524635/posts/528106905078456/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ธรรมเนียมล้าสมัย!! กระเทาะเปลือก​ ‘สินสอด’ ค่าของ​ 'คน'​ ทำไมต้องวัดด้วยเงินตรา? | Knowledge Times EP.12

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
???? ธรรมเนียมล้าสมัย!! กระเทาะเปลือก​ ‘สินสอด’ ค่าของ​ 'คน'​ ทำไมต้องวัดด้วยเงินตรา?

‘สินสอด’ เป็นธรรมเนียมที่มีมาช้านานในหลากหลายสังคมโลก รวมถึงเมืองไทยของเรา ซึ่งความแตกต่างของธรรมเนียมส่วนใหญ่ก็มักขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมนั้น ๆ โดยสินสอดบนโลกใบนี้ อาจจำแนกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ผ่านผู้รับและผู้จ่าย

- รูปแบบแรก ‘ฝ่ายชายเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนให้กับฝ่ายหญิง’ โดยไม่ได้จำกัดว่าผู้ที่รับจะต้องเป็นเจ้าสาวโดยตรง แต่อาจรวมไปถึงครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวที่ได้รับทรัพย์สินในส่วนนี้ด้วย 

- รูปแบบที่สอง ‘ฝ่ายหญิงเป็นผู้ให้ค่าตอบแทนแก่ฝ่ายชาย’ โดยมากแล้วทรัพย์สินที่ได้จากค่าตอบแทนผู้ที่รับจะเป็นฝ่ายชายโดยตรง

แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปสินสอดต่าง ๆ เหล่านี้ มีความลึกซึ้งมากกว่าแค่การเป็นค่าตอบแทนสำหรับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่สามารถสะท้อนผ่านความเป็นเศรษฐศาสตร์ ผ่าน 3 แนวคิดที่บอกถึงที่มาและหน้าที่ ของค่าตอบแทนการสมรสได้ดังนี้

แนวคิดแรกเพื่อชดเชยปัจจัยการผลิต โดยการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายค่าสินสอด เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของสังคมที่ให้ความสำคัญกับแรงงาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของสังคมเกษตรกรรม เป็นเสมือนการจ่ายเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่ครอบครัวต้องสูญเสียไปในกรณีของครอบครัวฝ่ายหญิง เช่นในจีน และประเทศในกลุ่มแอฟริกา หรือชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการรับสมาชิกซึ่งไม่มีผลิตภาพเข้าสู่ครัวเรือนในกรณีของฝ่ายชาย

แนวคิดต่อมาเพื่อเป็นแรงจูงใจในตลาดคู่สมรส ซึ่งเกิดขึ้นจากความไม่สมดุลของประชากรเพศหญิงและเพศชาย ทำให้ต้องมีการกำหนดสินสอดขึ้นเพื่อเป็นแรงจูงใจ 

แนวคิดสุดท้ายเพื่อให้ฝ่ายหญิงมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบจาก สินสอดที่ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง และ ฝ่ายหญิงมอบให้ฝ่ายชาย 

โดย รูปแบบแรกสินสอดที่ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง เป็นเหมือนหลักประกันให้กับหลังชีวิตแต่งงาน หากหย่าร้างหรือฝ่ายชายเสียชีวิต ฝ่ายหญิงจะได้นำทรัพย์สินจากส่วนนี้มาใช้ดำเนินชีวิตต่อได้

รูปแบบที่สองสินสอดที่ฝ่ายหญิงมอบให้ฝ่ายชาย มีขึ้นเพื่อใช้แสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของฝ่ายหญิง แต่จุดประสงค์แต่เดิม คือทรัพย์สินที่ครอบครัวฝ่ายหญิงมอบให้แก่เจ้าสาวเมื่อสมรส จากความต้องการแบ่งมรดกให้กับลูกสาว ก่อนที่บิดามารดาจะเสียชีวิต

แต่ด้วยบริบททางสังคมที่แตกต่างกันและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้วิถีชีวิตปรับเปลี่ยนไป แนวคิดทั้ง 3 รูปแบบ จึงอาจไม่สามารถอธิบายผ่านเศรษฐศาสตร์ได้ทั้งหมด

รวมไปถึงสังคมไทยในปัจจุบัน การเรียกสินสอดโดยครอบครัวฝ่ายหญิง “เพื่อเป็นค่าน้ำนม” และ “เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายชายสามารถเลี้ยงดูบุตรสาวได้” อาจไม่สอดคล้องกับแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ทั้ง 3 ในข้างต้นเท่าไหร่นัก

โดยวัตถุประสงค์ในการเรียกสินสอดเพื่อเป็นค่าน้ำนม อาจคล้ายกับแนวคิดชดเชยปัจจัยการผลิต ที่มองว่าสินสอดคือส่วนที่มาชดเชยกำลังการผลิตที่ครอบครัวต้องสูญเสียไป แต่ในกรณีของค่าน้ำนม คือ การคิดจากต้นทุนการเลี้ยงดูฝ่ายหญิงมาตั้งแต่อดีต และผลผลิตที่ฝ่ายชายจะได้ในอนาคตทั้งในฐานะแรงงานหรือความพึงพอใจ 

อีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของสินสอดในสังคมไทย มีขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือที่ใช้คัดกรองสถานภาพทางสังคม รวมถึงประกาศสถานะทางการเงิน ความพร้อมของฝ่ายชายผ่านมูลค่าสินสอด และใช้สร้างกำแพงสำหรับกีดกันคู่แข่งอื่น ๆ ที่มีฐานะไม่เป็นไปตามความต้องการของฝ่ายหญิง

จะเห็นได้ว่า ‘สินสอด’ เป็นธรรมเนียมที่อยู่ในทุกสังคมโลก แม้อาจดูเป็นเหมือนเครื่องมือในการวัดค่าความเป็นคนผ่านเม็ดเงิน แต่เมื่อมองลึกลงไป ‘สินสอด’ คือสิ่งที่สะท้อนสังคมและแสดงให้เห็นถึงความเป็นเศรษฐศาสตร์ ต้นทุน ผลผลิต ที่รวมไปถึงหลักประกันคุณภาพชีวิตเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจก้าวออกไปสร้างครอบครัวเป็นของตนเอง

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน หายห่วง รมว.เฮ้ง สั่ง กสร. ออกประกาศกระทรวงขอความร่วมมือนายจ้างให้หญิงตั้งครรภ์ทำงานที่บ้านลดเสี่ยงโควิด-19

สมาชิกเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน (Labour Network for People Rights) และตัวแทนครอบครัวแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รวมตัวกันของแรงงานจากหลายจังหวัดหลายภาคธุรกิจทั้งจากพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นำโดย นางสาวศรีไพร นนทรี ผู้แทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง นางสาวธนพร วิจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คุณจเด็ด เชาวิไล มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และผู้แทนเครือข่ายฯจากพื้นที่สมุทรปราการ สระบุรี รังสิต และปทุมธานี จำนวน 10 คน ขอเข้าพบ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะกำกับดูแลงานด้านนโยบายคุณภาพชีวิตแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อดังนี้

1) สนับสนุนให้บริษัทมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับคนงาน เพื่อคัดกรองคนงานที่ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง 

2) มีมาตรการให้บริษัทจัดหาสถานที่สำหรับคนงานที่ต้องแยกกักตัว รักษา (Community Isolation) ทั้งในส่วนพื้นที่ของบริษัทหรือการประสานชุมชนในการจัดหาสถานที่

3) มีมาตรการในการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ โดยจัดสถานที่ทำงานใหม่ให้เหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์ให้มีความปลอดภัย

4) ต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อคนงานอย่างเร่งด่วน

5) มีมาตรการชัดเชนในการเยียวยาตามสิทธิของลูกจ้างที่มีอยู่ และสิทธิในการเยียวยาเพิ่มเติมตามมาตรการของภาครัฐ ทั้งกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มครอบครัวคนงานที่เสียชีวิตจากโควิด-19

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้น ปัจจุบันกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งการตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก ในสถานประกอบการ การส่งเสริมให้สถานประกอบการดำเนินการตามโครงการ Factory Sandbox การฉีดวัคซีนโควิดแก่ผู้ประกันตน และการเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนมาตรการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ โดยจัดสถานที่ทำงานใหม่ให้เหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์ให้มีความปลอดภัยนั้น ผมได้ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเร่งออกร่างประกาศกระทรวงโดยเร็วที่สุด และเร่งประชาสัมพันธ์ออกไป เพื่อขอความร่วมมือไปยังสถานประกอบการให้สตรีที่มีผลตรวจว่าตั้งครรภ์ ควรกำหนดให้มีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) โดยให้จ่ายค่าแรงเต็มจำนวน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 

นางสาวศรีไพร นนทรี ผู้แทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง กล่าวว่า ขอบคุณท่าน รมว.แรงงาน ที่ท่านได้รับเรื่อง รับลูก และแจ้งให้เราทราบในทันทีว่าจะออกประกาศกระทรวง เพื่อแยกคนท้องออกจากพื้นที่เสี่ยงโควิด ให้สามารถทำงานที่บ้านได้ และได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน ซึ่งทางเราที่มาในวันนี้รู้สึกหายห่วงที่อย่างน้อยสิ่งที่ได้มาเข้าพบท่าน ได้รับการดูแลและดำเนินการโดยทันที เพื่อให้เครือข่ายแรงงานได้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่จากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลดูแล

เปิดสถิติตัวเลข ‘เฟซบุ๊กนายกฯ’ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อวาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 พอพูดถึงเฟซบุ๊กของนายกฯ งานนี้เลยขอแอบเข้าไป ‘ส่อง’ ดูความเคลื่อนไหว

เพราะหากย้อนไปกว่า 3 ปี นายกฯ ลุงตู่ ได้เปิดใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัว เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติม ซึ่งดูเหมือนว่า ช่องทางในเฟซบุ๊ก ดูจะ ‘แอ็คทีฟ’ มากที่สุด มีข่าวสารและกิจกรรมอัปเดตแบบวันต่อวัน รวมทั้งมีผู้เข้าไปติดตาม กด LIKE, Comment และ Share กันมากมาย

THE STATES TIMES เลยไปรวบรวมข้อมูล เรื่องน่ารู้ในเฟซบุ๊กของนายกฯ มาให้ทราบกัน ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่า นายกฯ มีเฟซบุ๊ก ก็เข้าไปกดติดตามกันได้ที่ https://www.facebook.com/prayutofficial นะจ๊ะ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือในช่วงโควิด - 19

นายณัฐพงษ์ นวลมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ไชยกันย์ รองศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส นางขนิษฐา มะลิสุวรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดยะลา นายสมพงศ์ ฉิมหนู ผู้อำนวยการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองยะลา และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดยะลา มอบน้ำดื่มให้กับโรงพยาบาลสนาม ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสาป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหน้าถ้ำ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเปาะเส้ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลำใหม่ โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และตัวแทนเป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบหนังสือสืบสานศาสตร์พระราชา จัดมุมเรียนรู้ใน กศน.ตำบล ให้แก่ กศน.ตำบล ทั้ง 14 ตำบล รวมทั้งห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี และห้องสมุดประชาชนจังหวัดยะลา พร้อมนี้ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อหารือเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม “สธ. และ ศธ. ห่วงใยคนในสถาบันศึกษาปอเนาะ จังหวัดปัตตานี” ในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ณ สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

‘ประชาธิปไตยแบบไทย มีความต้องการแต่ขาดความเข้าใจ’ | Click on Clear THE TOPIC EP.26

????ประชาธิปไตยแบบไทย มีความ "ต้องการ” แต่ขาดความ “เข้าใจ”!!
????ชวนคุยเรื่อง ‘ประชาธิปไตย’ ที่ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่เข้าใจถูกแล้วจริงหรือ?!!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ... 

หยก THE STATES TIMES

ใน Topic : ประชาธิปไตยสไตล์ไทย ๆ มีความ "ต้องการ” แต่ขาดความ “เข้าใจ”!

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อว. เผย พัฒนาวัคซีนโควิด 4 ชนิด กระตุ้นภูมิคุ้มกันดี ปลอดภัยสูง เริ่มทดสอบในมนุษย์ระยะแรกแล้ว

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยวัคซีนโควิด-19 โดยนักวิจัยไทย 4 ชนิด ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นความหวังของไทยในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีน ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนี้...

1.) วัคซีน ChulaCov19 วัคซีนชนิด mRNA โดย รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 เดือน ส.ค. 64 ตั้งเป้า เม.ย. 65 เริ่มฉีดได้ทั่วประเทศ

2.) วัคซีนใบยา พัฒนาจากเซลล์ใบยาสูบ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 และ 2 เดือน ธ.ค. 64

3.) วัคซีน DNV-HXP-S วัคซีนชนิดเชื้อตาย โดยองค์การเภสัชกรรมและมหาวิทยาลัยมหิดล

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ช่วงปลายปี 64 คาดว่าจะสำเร็จกลางปี 65

4.) วัคซีนโควิเจน วัคซีนชนิดดีเอ็นเอ โดยบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะแรก เดือน ต.ค. 64

ทั้งนี้ วัคซีนทั้ง 4 ชนิด ประสบความสำเร็จจากการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี และมีความปลอดภัยสูง


ที่มา : https://www.posttoday.com/social/general/660951


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

บอร์ดพืชน้ำมัน เคาะแผนบริหารการนำเข้ามะพร้าวปีนี้

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการบริหารการนำเข้ามะพร้าวผล ตามกรอบความตกลง AFTA ปี 2564 ช่วงที่ 2 (เดือนก.ย. – ธ.ค. 2564) โดยใช้ผลการรับซื้อผลผลิตมะพร้าวในประเทศของผู้ประกอบการฯ ตั้งแต่วันที่  1 ม.ค. - 6 ส.ค. 2564 มาพิจารณาจัดสรรปริมาณนำเข้าให้แก่ผู้มีสิทธินำเข้าในอัตรา 1 : 2.5 (นำเข้า 1 ส่วน ต่อการรับซื้อมะพร้าวผลในประเทศ 2.5 ส่วน) จำนวน 15 ราย รวมปริมาณจัดสรรนำเข้า 78,477 ตัน  

นอกจากนี้ เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการพืชน้ำมันฯ ได้มีมติเห็นชอบการใช้มาตรการปกป้องพิเศษ  ภายใต้ความตกลง WTO ปี 2564 โดยใช้หลักการคำนวณที่ปริมาณสินค้ามะพร้าว 311,235 ตัน ซึ่งคำนวณจากข้อมูลปริมาณการนำเข้ามะพร้าว ย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี (ปี 2561 – 2563) โดยหากมะพร้าวที่นำเข้ามาในประเทศไทยรวมกันเกินกว่าปริมาณ 311,235 ตัน ทางกรมศุลกากรจะจัดเก็บอากรในอัตราที่เพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ สศก. คาดการณ์ ว่า ปี 2564 จะมีผลผลิตมะพร้าว 0.876 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 1.269 ล้านตัน และคาดว่าในปีนี้ จะมีการนำเข้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์รวม 0.418 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการใช้ในช่วงครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ราคาที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคามะพร้าวผลใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ในเดือนสิงหาคม 2564 เฉลี่ยผลละ 8.19 บาท ลดลงจาก 11.91 บาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลง 31.23%

‘ดร.วรัชญ์’ โพสต์ข้อความตอบคำถาม ทำไมรัฐซื้อซิโนแวก เพิ่ม ชี้! ฉีดไขว้ AZ ได้ผลดี และหากสั่งซื้อตอนนี้ ได้ของเร็วสุด

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Warat Karuchit’ ระบุถึงประเด็นรัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวกเพิ่ม ว่า Vaccine Q&A

คำถามข้อที่ 1

Q: ทำไมต้องสั่ง Sinovac เพิ่ม?

A: เหตุผลอย่างน้อย 2 ข้อคือ

1.) เพื่อนำมาฉีดเป็นเข็มแรกให้สูตรผสมที่มี AZ เป็นเข็มสอง เนื่องจากเหตุผล 2 ข้อคือ (1.) ระยะเวลาการฉีดเข็ม 2 สั้นกว่า AZ-AZ ทำให้ได้วัคซีนครบโดสเร็วกว่า (2.) สูตรนี้พิสูจน์แล้วว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ใกล้เคียงหรือสูงกว่า AZ-AZ (ซึ่งสูตร AZ-AZ ก็ยังคงมีการฉีดอยู่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของวัคซีนในขณะนั้น) แสดงให้เห็นว่า แม้ SV+SV ที่ช่วงแรกได้ฉีดไป จะสร้างภูมิคุ้มกันได้น้อยกว่าสูตรอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีน SV ไม่มีผลในการป้องกันโรคเลย สามารถนำมาฉีดเป็นเข็มแรกที่ต่อด้วยวัคซีนอื่นได้ผลดีเช่นกัน ต้องย้ำว่าครั้งนี้สั่ง SV มาฉีดเป็นเข็มแรกเท่านั้น ไม่ได้สั่งมาเพื่อฉีดเป็นเข็มที่ 2 (หรือ 3)

2.) เป็นวัคซีนที่สั่งแล้วได้ของเร็วที่สุด คาดว่าน่าจะได้ในเดือน ก.ย.นี้ ที่ Pfizer ยังไม่ได้ จึงสามารถนำมาเสริมกับ AZ ในการฉีดให้ได้วงกว้างที่สุด (ซึ่งการฉีดสลับ ต้องเริ่มจากตัวที่สร้างภูมิน้อยก่อน คือ SV-AZ หรือ SV+SV+PZ หรือ AZ+PZ แต่ไม่ใช่ PZ เป็นเข็มแรก ดังนั้นจึงต้องสั่ง SV มาให้มากพอในการฉีดเข็มแรกให้ได้มากที่สุด หาก PZ เข็มแรกก่อน จะต้องเก็บไว้ให้เข็มสองด้วย จะได้จำนวนน้อยลง ซึ่งการได้ฉีดเข็มแรก ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร ก็มีส่วนป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตให้ลดน้อยลงได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ WHO ที่เร่งฉีดวัคซีนใด ๆ ก็ได้ให้มากที่สุด เร็วที่สุดก่อน และ Sinovac ก็ผ่านการรับรองจาก WHO และ COVAX เองก็สั่งซื้อ Sinovac เข้าโครงการเพิ่มด้วย

(ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมไม่สั่ง Sinopharm แทน Sinovac คำตอบก็คือ เป็นเทคโนโลยีเดียวกัน ผลที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกันครับ)

คำถามข้อที่ 2

Q: ทำไมไม่สั่ง Pfizer เพิ่ม?

A: สั่งไปแล้ว 20 ล้านโดส และสั่งเพิ่มอีก 10 ล้านโดส ทั้งหมดจะได้แบบทยอยมาใน Q4 (ต.ค.) แต่บางส่วนอาจได้ก่อน (ตามที่เจรจาไว้) ในเดือน ก.ย. ก็จะนำมาฉีดให้เร็วที่สุด

(เขียนจากความเข้าใจส่วนตัวของผม โปรดอย่าอ้างอิงตำแหน่งหรือสังกัดใด ๆ ครับ)


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4875349222480678&id=100000169455098&_rdc=2&_rdr


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

การบินไทย เปิดตารางบิน ส.ค. – ต.ค.นี้ ทั้งในและต่างประเทศ

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในประเทศและระหว่างประเทศ ระหว่างเดือนส.ค. – ต.ค. 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการการเดินทาง รวมทั้งปรับตารางบินให้เป็นไปตามกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยในเส้นทางในประเทศ ประกอบด้วย เส้นทาง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินที่ ทีจี 922 ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และเที่ยวบินที่ ทีจี 916 ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์ โดยเริ่มทำการบิน ตั้งแต่ เดือนก.ย.-ต.ค.2564 

ส่วนเส้นทางสนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ คือ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-แฟรงก์เฟิร์ต ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-ลอนดอน ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์, เส้นทาง กรุงเทพฯ-ปารีส-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออก จากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และเส้นทาง กรุงเทพฯ-ซูริก-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์

ขณะที่ เส้นทางยุโรปและออสเตรเลีย คือ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอน ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และอาทิตย์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน  โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โคเปนเฮเกน ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร และเสาร์ (หมายเหตุ : เดือนกันยายนทำการบินเฉพาะวันเสาร์), เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ซิดนีย์ ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และอาทิตย์

รวมถึงเส้นทางเอเชีย คือ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ โดยให้บริการในเดือนต.ค. 2564, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซากา ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกพฤหัสบดี และเสาร์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว (นาริตะ) ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดีและเสาร์

เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว (ฮาเนดะ) ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร และเสาร์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-นาโกยา ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โซล ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์, เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ไทเป ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และศุกร์ และเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-จาการ์ตา ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top