รัฐบาลเตรียมจับคู่ประเทศเดินทางนำร่อง 2 ประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมการหารือเพื่อจัด Travel Bubble หรือการจับคู่ประเทศเดินทาง กับประเทศที่มีศักยภาพใช้เป็นกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวควบคู่กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวร่วมกัน
โดยล่าสุดจะมีการพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน รวมไปถึงการพิจารณาร่วมกับทางการมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นเดียวกัน
สำหรับแนวทางการจัด Travel Bubble เป็นการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวตามพื้นที่ที่กำหนด เน้นการควบคุมและจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้อยู่ในมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งผู้ที่เดินทางภายใต้ Travel Bubble สามารถเดินทางภายใน Bubble ดังกล่าวได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว ซึ่งจะทำเป็นข้อตกลงร่วมกันในลักษณะทวิภาคี (Bilateral Agreement) เพื่อกำหนดจำนวนคนที่จะอนุญาตให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน รวมทั้งการจัดการพิเศษ (Special Protocols) ได้แก่ การขอวีซ่า การโดยสารเครื่องบิน ที่พัก การเยี่ยมเยือน การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และผู้รับประกัน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการปรับนโยบาย เปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้ระบบ Test & Go ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งส่งผลให้ยอดการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพิ่มขึ้นภายในวันแรกรวมแล้วกว่า 35,046 ราย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินว่า ยอดรวมการลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงกว่า 6 หมื่นราย
โดยเฉพาะในช่วงเดือนก.พ. - มี.ค. ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่สามารถแบ่งแยกตามกลุ่มประเทศได้เป็น กลุ่มประเทศยุโรป 73.9% กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก 10.3% และกลุ่มประเทศอื่น ๆ 15.8% (สถิติข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1-30 มกราคม 2565) สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและเอเชียตะวันออกที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นโดยรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย