Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

รัฐบาล เผย ข่าวดี ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ที่วิจัยและพัฒนาในประเทศ ลุ้นขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย.เดือนนี้ เล็งต่อยอดผลิตเชิงพาณิชย์ลดนำเข้าจากต่างประเทศ

13 ก.ค. 64 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาล

โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวทช., องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท. เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิ์ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 95

มากไปกว่านั้น ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมคาดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในราคาที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก

นางสาวรัชดา ได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ด้วยว่า ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจนถึงระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา

ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยนักวิจัยไทยก็มีความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศปฉ.ปชป. ช่วยคนแก่ติดเตียงอายุ 104 ปี ติดโควิด ส่งตัวไปรักษาเร่งด่วน ญาติปลื้มหลังช่วยเหลือทันท่วงที 

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้รับผิดชอบประสานข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อการส่งต่อ ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ (ศปฉ.ปชป.) เปิดเผยว่าทีมอาสาของศูนย์ฯ ได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยหาเตียงให้กับผู้ป่วย ล่าสุดได้รับแจ้งจากนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. ของพรรค ว่าได้ให้การช่วยเหลือหาเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด-19 อายุ 104 ปี เพื่อส่งตัวต่อไปเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลหลังจากทราบผลการตรวจว่าติดเชื้อ และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงหากปล่อยให้รอเตียงหลายวันเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อคือนางทองหล่อ อินทร์อ่ำ ข้อมูลจากเพจ CWN News Thailand ระบุว่าน่าจะเป็นคนไทยที่มีอายุเกือบมากสุดที่ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีอายุตามบัตรประจำตัวประชาชน 99 ปี เกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.  2465 แต่หลานชายซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันระบุว่าคุณยายทองหล่อมีอายุที่แท้จริงคือ 104 ปีแล้ว แต่ตอนทำบัตรประชาชนไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้อง โดยนางทองหล่อเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่บ้าน ซ.สวนผัก 25 ถ.สวนผัก เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมลูกสาว ลูกเขย และหลาน ๆ  ติดรับเชื้อจากลูกเขยที่มาดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ ได้ไปตรวจเชื้อครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ก.ค. และตรวจครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลกลาง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ผลการตรวจออกมาเมื่อวันที่ 11 ก.ค. พบว่าติดเชื้อโควิด  และเนื่องจากคุณยายทองหล่อ อายุมากถึง 104 ปีแล้ว หลานชายจึงได้ขอความช่วยเหลือเร่งด่วนในวันเดียวกันไปยังนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ช่วยดูแลในพื้นที่ นายชนินทร์จึงได้มีการเร่งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำผู้ป่วยส่งไปยังสนามที่ดูแลโดยโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมืองเป็นผลสำเร็จวานนี้ (12 ก.ค. 64) 

ภายหลังจากนั้นเฟซบุ๊กของ Sirichai Singhajaru ซึ่งเป็นหลานชายของนางทองหล่อ โพสต์ข้อความขอบคุณนายชนินทร์ รุ่งแสงและผู้เกี่ยวข้องที่ช่วยประสานเตียงให้คุณยายด้วยความรวดเร็ว จนถึงมือสถานพยาบาลด้วยความปลอดภัย 

โดยนายชนินทร์ เป็นหนึ่งในทีมอาสาช่วยประสานหาเตียงของพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่การระบาดระลอกใหม่ที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง ที่ผ่านมาได้ช่วยประสานเตียงให้ผู้ป่วยไปแล้วหลายราย รวมถึงการแจกจ่ายข้าวกล่อง และการแจกถุงยังชีพให้กับผู้ที่เดือดร้อนต้องกักตัว 

“การประสานเตียงในช่วงนี้จะทำงานได้ยากจากสถานการณ์วิกฤตเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ที่ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับจำนวนเตียงที่จะรองรับ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีผู้ป่วยรอเตียงตกค้างอยู่ที่บ้านจำนวนมาก ทั้งสีเขียวและสีเหลือง บางรายเข้าข่ายสีแดงที่ต้องเร่งหาเตียงให้อย่างรวดเร็ว แต่ทีมอาสาของพรรคฯ ยังมุ่งมั่นทำงานที่จะให้ความช่วยเหลือ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เปิดศูนย์มา มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือมามากกว่า 1,000 ราย และช่วยเหลือได้เกิน 80% ถึงแม้ในช่วงนี้บางวันทีมจะหาเตียงให้ได้เพียง 4-5 ราย ก็นับว่าช่วยต่อลมหายใจให้ได้อีกหลายครอบครัว ดีกว่าการอยู่เฉยๆ และไม่ลงมือทำอะไร” นางดรุณวรรณ กล่าว

รมว.แรงงาน เผยความคืบหน้าช่วยเหลือแรงงานในแคมป์ก่อสร้าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านอาหารคนงานแคมป์ก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 12 -27 ก.ค. 64 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม เพื่อควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยมีคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง และที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงานทั้งภายในและภายนอกสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง ห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงานเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 30 วัน นั้น 

“ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ต่างห่วงใยทั้งแรงงานไทย และแรงงานต่างด้าวที่ได้รับผลกระทบจากการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาล จึงกำชับให้กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ซึ่งผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับฟังปัญหาหลายด้าน ทั้งจากผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และสมาคมภัตตาคารไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน จึงได้ให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และสมาคมภัตตาคารไทยทำข้าวกล่องเพื่อส่งแคมป์คนงานที่ถูกกักตัวช่วงที่มีการปิดสถานที่ก่อสร้าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่แรงงานภายในแคมป์ไปพร้อมกับช่วยเหลือผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และสมาคมภัตตาคารไทยให้มีรายได้ โดยมีกระทรวงแรงงานเป็นผู้สนับสนุนค่าอาหาร จนครบกำหนดตามประกาศ ซึ่งในระหว่างวันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานรับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนาย ไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือแรงงานในแคมป์ก่อสร้าง ด้านอาหาร โดยล่าสุดได้มอบหมายสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ซึ่งมีแคมป์คนงาน จำนวน 520 แห่ง และสำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี สำนักงานจัดหางานจังหวัดนนทบุรี สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐม และสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีแคมป์คนงานรวม 797 แห่ง เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร ระหว่างกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และสมาคมภัตตาคารไทย ที่เป็นผู้จัดทำอาหาร และสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เป็นผู้ดูแลแจกจ่ายอาหารให้แก่แรงงานในแคมป์ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกรมการจัดหางานหวังอย่างยิ่งว่า ระหว่างวันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 ที่ดำเนินการโครงการฯ นี้ จะได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่าอาหารแก่แรงงานในแคมป์ก่อสร้าง ทำให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ต้องหยุดงานได้จนครบกำหนด

กองทัพบกใช้ศักยภาพสัตว์บรรทุกต่างลาดตระเวนร่วมกำลังพล ลดความตรากตรำ ในการป้องกันชายแดน

พันตรีหญิง จุฑาทิพย์ วุฒิรณฤทธิ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การนำสัตว์บรรทุกต่างมาใช้ในภารกิจป้องกันชายแดนสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เป็นหนึ่งในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสัตว์บรรทุกต่างได้ถูกฝึกฝนให้ปฏิบัติในภารกิจดูแลแนวชายแดน การบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือกำลังพลในการเดินเท้าลาดตระเวน ดูแลตลอดแนวชายแดน สามารถช่วยการตรวจการณ์ และเพิ่มระยะในการปฏิบัติภารกิจได้มากขึ้นครอบคลุมในพื้นที่ปฏิบัติการ โดยการนำกำลังและสัตว์บรรทุกต่างเข้าปฏิบัติการในแต่ละภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกัน อาทิ

กองกำลังผาเมือง ใช้ล่อ 24 ตัวปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและขนส่งสิ่งอุปกรณ์ให้กลับฐานปฏิบัติการในพื้นที่ห่างไกลโดยกรมการสัตว์ทหารบกได้สนับสนุนตั้งเพิ่มเติมอีก 10 ตัว ใน 4 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงาน

กองกำลังนเรศวร พื้นที่ปฏิบัติการเป็นป่าและภูเขาสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้ม้าลาดตระเวน ส่วน ล่อ นำส่งน้ำและเสบียงให้กับกำลังพลในฐานปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ปางมะผ้า, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยเป็นสัตว์บรรทุกต่างจาก กรมทหารราบที่ 14 และโครงการอาชาบำบัด 58

กองกำลังสุรสีห์ มีการใช้สัตว์บรรทุกต่างเข้าพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรีเพื่อลาดตระเวนและส่งกำลังบำรุงในพื้นที่ที่ยานพาหนะไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยใช้กำลังพลพร้อมล่อ 4 ตัว ส่งสิ่งอุปกรณ์จำเป็นให้กับ กองร้อยทหารพรานที่ 1106 ใน 3 ฐานปฏิบัติการ ได้แก่ ช่องทางกระซุ้ง, บ.พุระกำ และ ช่องทางพุระกำ และดำเนินการใช้ล่อ 6 ตัว นำอุปกรณ์ลวดหนามหีบเพลงส่งให้กับ กองร้อยทหารพรานที่ 1103 ณ ฐานปฏิบัติการช่องทางโป่งแห้ง

กองกำลังบูรพา ทำการลาดตระเวนด้วยม้าตามเส้นทาง/พื้นที่ตามแนวชายแดน 4 อำเภอ ได้แก่อ.ตาพระยา, อ.โคกสูง, อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด เพื่อเสริมการปฏิบัติในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลาดตระเวนด้วยม้านั้น มีคุณลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน อาทิ ตรวจการณ์ได้ในระยะไกลเข้าถึงพื้นที่ที่มีเส้นทางที่ยากลำบากทำให้หน่วยสามารถลาดตระเวนได้เป็นบริเวณกว้างมากขึ้นภายใต้ระยะเวลาเท่าเดิม โดยได้รับกาสนับสนุนม้าจาก กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และกองพันทหารม้าที่ 30 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์

ทั้งนี้ การใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า สามารถช่วยเสริมการปฏิบัติภารกิจ และลดความตรากตรำของกำลังพลได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ต้องการให้ใช้ทรัพยากรของกองทัพบกที่มีให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และอนุรักษ์กำลังรบ โดยเฉพาะกำลังพลให้ปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศยากลำบาก เพื่อเป็นกองทัพบกที่เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

พท.แนะใช้หอประชุม รร.เป็นที่กักตัวแทนเถียงนา รับช่วย ปชช.จนเงินเดือน ส.ส.หมดทุกเดือน 

นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แนวคิดเถียงนาโมเดลของ ศบค.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สถานการณ์จริงหลายพื้นที่ในจ.ขอนแก่น ได้มีประชาชนใช้เถียงนาอยู่อาศัยชั่วคราวหลังพบว่าตนเองติดโควิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะในอ.สีชมพู ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดคลัสเตอร์ฟันน้ำนม เด็กและครูในสถานรับเลี้ยงเด็กติดเชื้อจำนวนมาก ส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องกักตัว แต่ด้วยศักยภาพของเถียงนานั้นไม่สามารถที่จะใช้เป็นสถานที่กักตัวได้ เป็นได้เพียงสถานที่แยกตัวเท่านั้น เนื่องจากเถียงนาไม่มีระบบสาธารณูปโภคเพียงพอต่อการใช้ชีวิต เช่น ห้องน้ำ ไฟฟ้าซึ่งจำเป็นมาก จึงได้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น โดยได้ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันจัดทำถุงกำลังใจ ซึ่งมีอาหารแห้งพร้อมรับประทาน รวมถึงของใช้จำเป็นเบื้องต้น ประสานไปยังอำเภอนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่กักตัวและแยกตัวในอ.ภูเวียง อ.เวียงเก่า อ.หนองนาคำ และอ.สีชมพูแล้ว 

นายภาควัต กล่าวต่อว่า เหตุที่จำเป็นต้องเปิดรับบริจาค เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายอมรับว่าได้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว ที่เป็นเงินเดือนและค่าตอบแทน ส.ส. ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ติดต่อกันหลายเดือนจนหมดแล้ว แม้เงินเดือน ส.ส.อาจจะน้อยเมื่อเทียบกับเงินเดือนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ผอ.ศบค.และรัฐมนตรีอีกหลายคนที่สละเงินเดือน 3 เดือน แต่ยืนยันว่าจะทำงานให้คุ้มค่ากับเงินเดือนที่มาจากเงินภาษีของพี่น้องประชาชนที่จ้างมาทำงานให้คุ้มค่าครบทุกบาททุกสตางค์ ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่เถียงนาหลายอำเภอในขอนแก่นค่อนข้างลำบาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลโดย ศบค.จัดโซนนิ่งสถานที่กักตัว โดยใช้สถานที่หอประชุมโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนมาเป็นสถานที่กักตัว เพราะมีห้องน้ำและเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่าเถียงนา

‘โฆษก ศบศ.’ แจง ผู้ไม่หวังดีสร้างเฟคนิวส์ป่วนภูเก็ตแซนด์บ็อก ยันยังไม่ปิดเกาะภูเก็ต โวนักท่องเที่ยวยังทยอยเดินทางมาต่อเนื่อง เผยยอดจองโรงแรมตั้งแต่เดือนก.ค. - ก.ย. 64 ทะลุ 1.7 แสนคืน

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ประเด็น Phuket Sandbox ควบคุมการแพร่โควิด-19 ไม่อยู่ สั่งปิดทั้งเกาะภูเก็ตแล้วนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ขณะนี้ ยังไม่มีการปิดเกาะภูเก็ต และการดำเนินการ Phuket Sandbox ยังดำเนินการตามแผนเดิม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือประชาชนไม่ส่งต่อข้อความดังกล่าว เพื่อป้องกันข่าวปลอมหรือข่าวที่ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ซึ่งตอนนี้จังหวัดภูเก็ตได้มีการตรวจคัดกรองป้องกันตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในส่วนผู้ที่ติดเชื้อทุกรายเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ก็กักตัวตามมาตรการเช่นกัน

โฆษก ศบศ. กล่าวต่อว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว จากปีละประมาณ 450,000 ล้านบาท ในปี 2563 มีรายได้เพียง 108,464 ล้านบาท และ 5 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 5,200 ล้านบาท เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้ลูกจ้างและผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องปิดกิจการ โดยธุรกิจเป็นแบบพึ่งพาชาวต่างชาติ ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตอยู่ในสถานะมีความเปราะบางสูงมาก โครงการ Phuket Sandbox จึงมีความสำคัญในการนำร่องของการเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอีกครั้ง

โดยตั้งแต่มีการเปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงวันนี้เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว มียอดนักท่องเที่ยวสะสมจำนวน 4,778 คน มีการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวน 176,993 คืน โดย ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในช่วง 3 เดือนแรก ของการเปิดภูเก็ต ไว้ที่จำนวน 100,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 8,900 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวอีกว่า จังหวัดภูเก็ตได้ปรับความเข้มข้นในการเดินทางเข้าภูเก็ตทั้งจากในและต่างประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 15-31 กรกฎาคม 2564 ข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 จังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งที่ 3858/2564 และ คำสั่งที่ 3860/2564 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด (กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ พื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี สระบุรี ชัยนาท นครนายก ระยอง ปราจีนบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง นครสวรรค์ ตาก อุทัยธานี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี นครราชสีมา นครศรีธรรมราช กระบี่ ระนอง) ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส หากเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนกา จำนวน 1 เข็ม ต้องได้รับมาแล้วอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ด้วยวิธี Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน หรือ RT-PCR มีผลตรวจโควิดไม่เกิน 7 วัน โดยทุกคนต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หมอชนะ และยินยอมให้เข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลาที่อยู่ในภูเก็ต


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รัฐบาล เผย ไทย วิจัยยาฟาวิพิราเวียร์ สำเร็จ อย.จ่อขึ้นทะเบียนตำรับยา หวัง ลดนำเข้า-ส่งขายตปท.

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circula-Green Economy) ของรัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวทช. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท. เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 95 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมคาดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในราคาที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ด้วยว่า ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจนถึงระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือรัฐ-เอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยนักวิจัยไทยก็มีความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย

“ณัฏฐ์ชนน” เผย "ภูมิใจไทย" พร้อมสู้ศึกซักฟอก ไม่สนกระแสจี้ถอนตัวพรรคร่วมรบ.  ลั่น ไม่คิดหนีปัญหาวิกฤตโควิด แต่หากทำแบบนั้นปชช.ไม่ให้โอกาสกลับมารอบหน้า วอนนักการเมืองอย่าซ้ำเติมสถานการณ์

ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส. สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ เป็นการอภิปรายซักฟอกรัฐบาล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งสำคัญของเราคือการทำงาน โดยในพรรคเองได้กำชับส.ส.ให้ลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้าน สิ่งไหนที่ไปซ้ำเติมสถานการณ์เราก็หยุด ดังนั้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนั้น ทางพรรคภูมิใจไทยก็จะอภิปรายปัญหาในพื้นที่ เช่น ตนก็จะพูดเรื่องการจัดสรรวัคซีน และการเยียวยาประชาชนในเขตพื้นที่ที่ศบค.ยังไม่อนุมัติงบประมาณ ซึ่งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยชัดเจนว่าจะอภิปรายปัญหาในพื้นที่เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่เราต้องตระหนักมากที่สุดตอนนี้ คือ ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมพยายามแก้ไขปัญหา  เราอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายคนถามว่าทำไมพรรคภูมิใจไทยไม่ถอนตัวและทำไมไม่ลาออก ถ้าวันนี้หากพรรคภูมิไจไทยถอนตัวจากรัฐบาลก็จะทำให้รัฐบาลยุติการบริหารงาน แต่วันนี้มีสถานการณ์โควิด หากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวแล้วรอบหน้าประชาชนคงไม่ให้โอกาสกลับมา เพราะเวลาที่มีปัญหากลับหนีปัญหาหรือตัดช่องน้อยแต่พอตัว ตนคิดว่านายกฯก็เช่นกัน ท่านก็คงอึดอัดใจคิดจะตัดสินใจหลายอย่าง แต่หากกลับมารอบหน้าจะยากมาก และแทบไม่มีโอกาสได้กลับมา แต่ถ้านายกฯแก้ปัญหาให้หมดโควิด ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ตนคิดว่าประชาชนจะตัดสินใจอีกรอบหนึ่ง

เมื่อถามว่าการที่จี้ให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า เป็นความสะใจของหลายคนที่ถามว่าทำไมไม่ลาออก แต่วันนี้เกิดปัญหา พวกเราเข้ามาแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดปัญหาแล้วจะให้พวกตนลาออกเพื่อให้รัฐบาลล้ม แล้วถามว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการรณรงค์หาเสียงออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตอนนี้เป็นไปได้ยาก และเป็นการซ้ำเติมปัญหา ดังนั้นหลังสถานการณ์โควิดค่อยมาประเมินกันใหม่  และพวกตนก็จะประเมินตนเอง

เมื่อถามว่าตอนนี้มีหลายพรรคการเมือง เช่น พรรคไทยสร้างไทย  และพรรคเสรีรวมไทย รวมถึงภาคประชาชนล่ารายชื่อฟ้องนายกฯบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ผิดพลาด และเป็นรัฐบาลฆาตกร นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า เป็นประเด็นทางการเมืองที่เมื่อพรรคเหล่านั้นจะลงสนามเลือกตั้งก็ต้องเปิดประเด็นสิ่งที่เห็นต่างและคิดว่าประชาชนได้ประโยชน์ แต่กระบวนการทั้งหมดในการดำเนินคดี ถ้าทำได้ก็ต้องไปว่ากันตามช่องทางกฎหมาย แต่จะผิดหรือถูก พวกเราเป็นนักการเมืองก็รู้ ซึ่งสิ่งสำคัญไม่อยากให้นักการเมืองไปซ้ำเติมสถานการณ์ วันนี้ทุกคนสับสนหมด ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหา เรื่องวัคซีน กระบวนการโรงพยาบาลสนามที่ไม่มีความชัดเจน ดังนั้นเราต้องตั้งสติดีๆ และแก้ไขปัญหาไปทีละอย่าง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา เผย การฉีดวัคซีนสลับชนิดได้ผลดี ยอมรับ ท้อใจที่ให้ความรู้แต่กลับถูกถากถาง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า...

โควิด-19 วัคซีน การศึกษาวิจัยนำไปสู่การปฏิบัติจริง การสลับชนิดของวัคซีน

ทางศูนย์ได้มุ่งมั่นทำการศึกษาวิจัย โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และคณะแพทย์มากกว่า 30 ชีวิตที่ทำอยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง covid-19 vaccine ที่มีโครงการทำอยู่มากกว่า 5 โครงการ เพื่อนำมาใช้อย่างเร่งด่วนในประเทศไทยให้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีอยู่

การสลับชนิดของวัคซีน เราทำมาโดยตลอดและเห็นว่า การให้วัคซีนเข็มแรกเป็นชนิดเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัส Vector จะกระตุ้นได้ดีมาก

การให้วัคซีนเชื้อตายที่เป็นทั้งตัวไวรัส เปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายเราเคยติดเชื้อ และมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาระดับหนึ่ง หรือสร้างความคุ้นเคยกับระบบภูมิต้านทาน เมื่อกระตุ้นด้วยต่างชนิดโดยเฉพาะไวรัสเวกเตอร์ จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า booster effect เหมือนกับคนที่หายแล้วจากโรคโควิด-19 และได้รับวัคซีนเสริมอีก 1 ครั้ง ก็จะมีการกระตุ้นภูมิต้านทานขึ้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเราก็ได้ทำการทดลองแล้ว

การศึกษานี้เราไม่ได้ทำเฉพาะการตรวจวัดภูมิต้านทานเท่านั้น เรายังได้ทำภาวะขัดขวางไวรัส inhibition test ที่สามารถขัดขวางได้ดีมาก เฉลี่ยถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และมีหลายรายถึง 99 เปอร์เซ็นต์

ในทำนองเดียวกันการให้เชื้อตาย 2 เข็ม ยิ่งสอนให้ร่างกายเหมือนกันติดเชื้อจริงแบบเต็ม ๆ หรือแบบรุนแรง แล้วเมื่อมากระตุ้นด้วยวัคซีนไวรัส Vector จึงมี Booster effect ที่สูงมาก

การศึกษาวิจัยของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เรากำลังทำการศึกษากับสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ delta และระบบภูมิคุ้มกันชนิดที่เรียกว่า T cell หรือ CMIR

แน่นอนการศึกษานี้ ฝรั่งไม่ทันแน่นอน เพราะฝรั่งไม่ได้ใช้วัคซีนเชื้อตาย และจีนก็ไม่ได้ใช้วัคซีนไวรัสเวกเตอร์อย่างกว้างขวางในขณะนี้

ข้อมูลขณะนี้ผมมีเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะสรุป เพราะทุกท่านให้ความร่วมมือดีมาก รวมทั้งอาสาสมัครที่อยู่ในการศึกษา เป็นจำนวนมาก ผมต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง

ข้อดีที่ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขยอมรับ และนำมาปรับใช้ในเชิงนโยบายจากการศึกษานี้

1.) ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนได้ภูมิต้านทานที่สูงภายในเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าการให้วัคซีนไวรัสเวกเตอร์ในประเทศไทยที่จะได้ภูมิต้านทานสูง ต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์ เหมาะสมกับการที่โรคกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ซึ่งเรารอไม่ได้

2.) เป็นการปรับใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ขณะนี้ที่จำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุด

3.) การกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย virus Vector สามารถทำได้ให้เกิดภูมิต้านทานที่สูงมาก โดยไม่ต้องรอวัคซีนชนิดอื่น เพื่อประโยชน์ของบุคลากรทางการแพทย์

ข้อมูลที่ได้ขณะนี้มีเป็นจำนวนมากพอ โดยเฉพาะการฉีดสลับเข็ม ข้อมูลที่ถูกบันทึกในหมอพร้อมมีมากกว่า 1,200 ราย โดยที่ไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงแต่อย่างใด

ผมเองท้อใจหลายครั้งที่ไม่อยากจะมาโพสต์ให้ความรู้ และมีการหยุดเป็นครั้งคราว แต่ก็มีผู้ทักท้วงมาเป็นจำนวนมาก ว่าถ้าหยุดก็จะเข้าทางของผู้ไม่หวังดี ผมเองมุ่งทำการศึกษาวิจัยมาเกือบ 40 ปี เพื่อให้ความรู้กับชาวโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย เพราะเผยแพร่ในวารสารนานาชาติมาตลอด

สังคมไทยในภาวะวิกฤตแบบนี้ แทนที่จะร่วมมือกัน สามัคคี แต่กลับเป็นพยายามที่จะพูดจาถากถาง ดึงเข้าสู่การเมือง ในบางครั้งมีการกล่าวหาที่เลื่อนลอย และไม่เป็นความจริง

มีหลายคนเสนอให้ กฎหมายเข้ามาจัดการ ผมเองไม่เคยไปสนใจอ่านเลยไม่เดือดร้อน แต่ที่เดือดร้อนมากกลับเป็นลูกศิษย์ที่ยังเคารพอาจารย์ ส่วนลูกศิษย์ที่ไม่เคารพก็ไม่เป็นไรผมไม่เคยถือ และขณะนี้ ก็ได้มีการจับแล้ว 1 คน และจะคงมีรายต่อ ๆ ไป โดยที่ผมจะยุ่งเกี่ยวให้น้อยที่สุด ขอให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพ และจริยธรรม ที่ต้องให้เกียรติกันและกัน

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5964810220228212&id=100000978797641


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เพิ่มเติมคำเตือนบนเอกสารข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด-19 จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ระบุข้อมูลบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอาการระบบประสาทที่เกิดขึ้นยากมาก ๆ ในช่วง 6 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน

เมื่อวันจันทร์ (12 ก.ค. 64) ทางสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เพิ่มเติมคำเตือนบนเอกสารข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด-19 จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ระบุข้อมูลบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอาการระบบประสาทที่เกิดขึ้นยากมาก ๆ ในช่วง 6 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน

ในหนังสือที่ส่งถึงบริษัท ทางเอฟดีเอจัดให้โอกาสเกิดโรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain Barre syndrome) หรือโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ทำให้กล้ามเนื้ออัมพาตอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน ยังคงอยู่ในระดับ 'ต่ำมาก ๆ' และแนะนำว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ควรรีบไปพบแพทย์หากเกิดอาการต่าง ๆ ในนั้น รวมถึงอ่อนแรงหรือเป็นเหน็บชา เดินลำบากและเคลื่อนไหวใบหน้าลำบาก

มีประชาชนฉีดวัคซีนโดสเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแล้วราว ๆ 12.8 ล้านคนในสหรัฐฯ และทางเอฟดีเอระบุว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ในบุคคลที่ฉีดวัคซีน 100 ราย ในนั้น 95 รายเป็นเคสอาการสาหัส ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิต 1 ราย

จอห์นสันแอนด์จอห์นสันระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาอยู่ระหว่างพูดคุยหารือกับทางคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบเกี่ยวกับเคสอาการกิลแลง-บาร์เร

อย่างไรก็ตาม พวกเขาเน้นย้ำว่าเคสอาการกิลแลง-บาร์เร ที่ได้รับรายงานในบุคคลที่ฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันนั้นถือเป็นอัตราที่เล็กน้อยมาก ๆ

สำหรับกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร หรืออาการระบบประสาท จัดอยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวนที่พบได้ค่อนข้างยาก เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและผลิตสารภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีออกมาทำลายเซลล์ประสาทของระบบประสาทรอบนอกจนอักเสบและสูญเสียการทำงาน ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนแรง มึนงง เกิดเหน็บชาตามร่างกายในระยะแรก และอาการอาจรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นอัมพาตในที่สุด

ทั้งนี้ เคสกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ไม่มียาหรือวิธีรักษาเฉพาะ แต่ร่างกายคนเราสามารถเยียวยาตนเองให้หายได้ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลา แนวทางการรักษาจึงทำโดยประคับประคองอาการไม่ให้แย่ลง เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และคนส่วนใหญ่มักฟื้นตัวโดยสมบูรณ์จากอาการกิลแลง-บาร์เร

ที่ผ่านมา อาการดังกล่าวเคยถูกโยงกับวัคซีนต่าง ๆ นานา ที่เด่นชัดที่สุดคือ โครงการฉีดวัคซีนระหว่างการแพร่รระบาดของไข้หวัดหมูในสหรัฐฯ ช่วงปี 1976 และอีกหลายทศวรรษก็ถูกโยงกับวัคซีนที่ใช้ระหว่างโรคระบาดใหญ่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ปี 2009

จากถ้อยแถลงของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) พบว่า เคสส่วนใหญ่เกิดกับผู้ชาย ในนั้นจำนวนมากมีอายุ 50 ปีขึ้นไป และซีดีซีพบว่ามันไม่สูงไปกว่าเคสอาการกิลแลง-บาร์เร ที่คาดหมายว่าจะเกิดกับบุคคลที่ได้รับวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ของไฟเซอร์ อิงค์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา อิงค์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบยุโรปแนะนำออกคำเตือนแบบเดียวกันกับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งใช้พื้นฐานเทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

คำเตือนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความผิดหวังสำหรับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญสำหรับฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ยากเข้าถึงและในหมู่ผู้คนที่ลังเลฉีดวัคซีน เพราะมันใช้เพียงแค่โดสเดียว และสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ ต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา

แต่วัคซีนตัวนี้มีอันต้องสะดุดลง จากการถูกโยงกับอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก แต่เสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต และปัญหาการผลิตที่ล่าช้า ณ โรงงานผลิตหลัก

อย่างไรก็ตาม คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ สรุปในเดือนเมษายน ว่า ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงจากประเด็นลิ่มเลือดอุดตัน

 

 

(รอยเตอร์)

ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000068027


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top