Friday, 9 May 2025
Hard News Team

โศกนาฏกรรมโรงเรียนกินนอน​ บาปที่ ‘รัฐบาลแคนาดา’ พยายามโยนให้คริสตจักร

ชวนคิด!! ‘ทรูโด’ เชิญ ‘โป๊ป’ ขอโทษชนพื้นเมือง
เหตุต้องการเบี่ยงประเด็น โศกนาฏกรรมโรงเรียนกินนอนให้พ้นผิดจาก ‘รัฐบาลแคนาดา’
.
NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช
.
โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง
.

.


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'เวียดนาม' เอาด้วย!! ลุยฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อ เข็มแรก AstraZeneca เข็มสอง Pfizer

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามตัดสินใจฉีดวัคซีน 2 ชนิดให้กับประชาชนที่เคยได้รับวัคซีน AstraZeneca เข็มแรกไปแล้ว ให้ได้รับวัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่สอง ซึ่งถือเป็นการบริหารวัคซีนที่ได้มาอย่างจำกัด เพื่อให้โครงการวัคซีนของรัฐบาลไม่สะดุด

สำหรับรัฐบาลเวียดนามนั้น ได้สั่งซื้อวัคซีน Pfizer เข้ามาจำนวน 745,000 โดส คาดว่าจะทยอยมาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ นั่นจึงทำให้ทางรัฐพิจารณาเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่เพิ่งได้วัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มแรกไปแล้ว 8-12 สัปดาห์ ให้มาฉีดวัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่สองได้ทันที

ส่วนประชาชนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนใดใดมาก่อนเลย สามารถฉีด Pfizer เป็นเข็มแรกได้ แต่ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันว่าเข็มที่สองจะยังเป็น Pfizer หรือไม่

แต่ทั้งนี้ การเข้ารับวัคซีนชนิดใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้รับวัคซีนเป็นหลัก ว่าพอใจที่จะรับวัคซีนแบบ 2 เข็ม 2 ยี่ห้อ หรือต้องการจะฉีดเพียงยี่ห้อเดียวให้ครบโดสตามมาตรฐาน แต่ยังแนะนำให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน Covid-19 ที่ตอนนี้เริ่มระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในเวียดนาม

ส่วนการกระจายวัคซีน Pfizer จะเน้นไปที่ 4 เมืองหลักที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดในประเทศ ได้แก่ 'โฮจิมินห์ ซิตี้' ได้ 55,000 โดส 'ฮานอย' 38,000 โดส 'บิ่ญเซือง' และ 'ด่งนาย' ได้เมืองละ 25,000 โดส ส่วนที่เหลือ กระจายไปยังเมืองต่าง ๆ อีก 60 แห่งทั่วประเทศ

ถึงจะมีแผนการกระจายวัคซีนไว้พร้อมแล้ว แต่เวียดนามก็ยังไม่ได้วัคซีนครบ 745,000 โดสตามที่ได้สั่งจองไว้ และเพิ่งได้มาเพียง 97,000 โดสเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเริ่มทยอยจัดส่งภายในสิ้นเดือนนี้ ที่ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนได้ว่าจะมาเท่าไหร่

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามจึงตัดสินใจให้มีการฉีดวัคซีน 2 ชนิด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเวียนนามตัดสินใจอนุญาตให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค 2 ประเภทให้กับผู้รับวัคซีน 1 คน โดยมีเคสที่พบในหลายประเทศเป็นกรณีศึกษาที่มีการฉีดวัคซีน Covid-19 ต่างชนิดกัน โดยเชื่อว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น

โดยยกตัวอย่างกรณีของประธานาธิบดีอังเกล่า มาร์เคิล แห่งเยอรมัน ที่รับวัคซีนเข็มแรกเป็น AstraZeneca ส่วนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนจาก Moderna หรือกรณีในประเทศไทยที่ใช้ AstraZeneca เป็นการกระตุ้มภูมิสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ไปแล้ว 1-2 เข็ม และมีอีกหลายประเทศ ที่กำลังพิจารณาฉีดวัคซีน 2 ชนิดเพื่อต่อสู้กับเชื้อ Covid-19 กลายพันธุ์ เนื่องจากวัคซีน Covid-19 แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าที่แตกต่างกันออกไป แม้ว่าทางองค์การอนามัยโลกจะได้ออกมาเตือนถึงกระแสการฉีดวัคซีนแบบผสมว่าเสี่ยงอันตราย และยังมีงานวิจัยสนับสนุนน้อยมา

ตอนนี้ในเวียดนามได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 4 ล้านคน แต่มีเพียง 280,000 คน ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และยังคงรอวัคซีนที่มาอย่างล่าช้า จึงต้องมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนแบบผสม 2 ชนิดในครั้งนี้ ให้โครงการเดินหน้าต่อโดยไม่สะดุดนั่นเอง


อ้างอิง : VN Express
ผู้เขียน : ยีนส์ อรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ

'ตร.เตือน'​ ควรตรวจสอบก่อนรับเพื่อนในโลกออนไลน์ หากเป็นบัญชีอวตาร อาจเป็นภัยกับตัวเองได้

ตร.เตือน ให้ตรวจสอบก่อนรับเพื่อนในโลกออนไลน์ หากเป็นบัญชีอวตาร อาจเป็นภัยกับตัวเองได้

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพี่น้องประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยม เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ไอจี ทวิตเตอร์ เป็นต้น จึงมีการกดรับเพื่อนในโลกออนไลน์ มาเป็นเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งหลายๆ​ ท่านไม่มีการคัดกรองบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มาขอแอด หรือ ขอเป็นเพื่อน ทำให้มีบุคคลที่ไม่หวังดี ใช้บัญชีอวตาร​ (Avatar) ในลักษณะที่เป็นบัญชีไร้ตัวตน อาจใช้รูปผู้อื่น ชื่อผู้อื่น ชื่อที่ไม่ใช่ชื่อคนทั่วไป เป็นคำกลอน หรือ ใช้รูปการ์ตูน รูปสิ่งของ หรือ ภาพวิวทิวทัศน์ ฯลฯ มาขอเป็นเพื่อนในโลกออนไลน์

ซึ่งหากเรารับบัญชีเหล่านี้เป็นเพื่อนในโลกออนไลน์ เราก็จะถูก​ 'ส่อง'​ หรือติดตามพฤติกรรม ทัศนคติที่เราโพสต์ สถานที่ที่เราไป หรือแม้กระทั่งบ้านที่พักอาศัย สมาชิกในครอบครัว กิจวัตรประจำวัน ฯลฯ ซึ่งมีความเสี่ยงที่ถูกประทุษร้ายทั้งในโลกออนไลน์และโลกความเป็นจริง เช่น ถูกเข้าถึงข้อมูลของเราโดยมิชอบ(Hack), การหลอกลวงฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆ (Fraud, Romance Scam, Email Scam), การแชร์ข่าวหรือข้อมูลปลอม(Fake News), นำภาพหรือชื่อเราไปเปิดบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม อาจถูกข่มขู่ คุกคาม หรือ ประทุษร้ายต่อทรัพย์หรือร่างกาย เป็นต้น

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ ยังได้กล่าวต่อไปว่า จากสถิติการรับแจ้งความของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี​ (บก.ปอท.) ในครึ่งปีแรกของปี 2564 พบว่า สื่อสังคมออนไลน์ที่มิจฉาชีพใช้ประทุษร้ายมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เฟซบุ๊ก,ไลน์,​ ไอจี ตามลำดับ  ซึ่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใยประชาชน จึงได้มีนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการรับเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้... 

1.ไม่ควรรับคนที่ไม่รู้จักเป็นเพื่อน

2.หากต้องการรับที่ไม่รู้จักมาเป็นเพื่อนในโลกออนไลน์ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง มิใช่เป็นบัญชีอวตาร เช่น มีการโพสต์เป็นปกติหรือไม่ หรือมีแต่การแชร์ข่าวต่างๆ เป็นต้น และพิจารณาให้ดีก่อนว่าจะรับบุคคลดังกล่าวเป็นเพื่อนหรือไม่

3.ไม่ควรรับบัญชีที่ใช้ภาพวิวทิวทัศน์ หรือ ไม่ใช้ชื่อ นามสกุล เป็นเพื่อน

4.หากเป็นคำขอเป็นเพื่อนจากบุคคลที่เราไม่รู้จัก และบัญชีดังกล่าวใช้รูปโปรไฟล์ที่ดูดี หน้าตาดี มีฐานะ หรืออ้างว่าเป็นชาวต่างชาติ ให้ระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเป็นบุคคลตามภาพ เพื่อเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากเรา

5.ตรวจสอบประวัติการโพสต์ รูปภาพ การเชคอินสถานที่ต่างๆ ตลอดจนวันที่สร้างบัญชี หากเป็นบุคคลจริง มักจะมีการโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว มีการแสดงความคิดเห็นในโพสต์โดยบุคคลในครอบครัว หรือเพื่อน และบัญชีดังกล่าวถูกสร้างมาเป็นเวลานานพอสมควร หากเข้าเงื่อนไขดังกล่าว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่บัญชีดังกล่าวจะเป็นบัญชีของจริง

6.ไม่ควรตั้งค่าสาธารณะและไม่ควรเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป เช่น ทรัพย์สินมีค่า บ้านพักอยู่ที่ใด มีสมาชิกในบ้านกี่คน ช่วงเวลาไหนที่อยู่บ้านคนเดียว หรือไม่มีคนอยู่บ้าน เป็นต้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘โน้ส อุดม’ เข้าพิธีอุปสมบทเรียบง่าย รับฉายาทางธรรม ‘อธิจิตโต - ผู้มีจิตสูง’

หลังจากที่เพจมนุษย์ตุ๊ดได้ออกมาโพสต์ภาพ โน้ส อุดม แต้พานิช ห่มผ้าเหลือง บวชศึกษาพระธรรม พร้อมกับข้อความว่า ‘ขอร่วมอนุโมทนบุญ กับ พระโน้ส อุดม ด้วยค่ะ ตอนนี้ท่านบวชเป็นพระโดยมีชื่อว่า 'อธิจิตโต' แปลว่า ผู้มีจิตสูง สาธุๆ นะคะ **ลูกเพจส่งรูปนี้มา ไม่แน่ใจว่าบวชวัดไหน ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมแจ้งมาได้นะคะ’

ล่าสุด วันนี้ (13 ก.ค.) เพจ เดี่ยว ได้เผยภาพ ‘โน้ส อุดม’ ขณะกำลังเข้ารับการอุปสมบท พร้อมข้อความว่า…

‘พระอุดม อธิจิตฺโต อุปสมบท ณ วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 15.46 นาฬิกา’

ก่อนหน้านี้ โน้สได้ตัดสินใจปิดกิจการร้านไอศกรีม iberry garden ที่จังหวัดเชียงใหม่เพราะทนพิษโควิดไม่ไหว หลังพยายามยื้อมานาน 2 ปี รวมไปถึงประกาศเลื่อนการแสดงเดี่ยว 13 Thai Stand Up Comedy ที่แฟน ๆ ต่างเฝ้ารอไปเป็นเป็นวันที่ 22 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 อีกด้วย

 

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000068183

https://www.facebook.com/photo?fbid=354773396010498&set=pcb.354773902677114


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพจเฟซบุ๊ก​ 'ความเห็นของผม'​ ได้โพสต์เรื่องราวของอีกบุคคลที่ปิดทองหลังพระ​มาตลอด​ 3​ เดือน...'ครูลิลลี่'​ พร้อมยกเป็นแบบอย่างที่ดี

จากเพจเฟซบุ๊ก​ 'ความเห็นของผม'​ ได้โพสต์เรื่องราวของอีกบุคคลที่ปิดทองหลังพระ​มาตลอด​ 3​ เดือน...

'ครูลิลลี่'​

โดยเธอไม่สนกระแสดราม่าใด ๆ​ แต่ทำด้วยความเป็นผู้ให้​ สมความเป็นครูอย่างแท้จริงว่า...

โพสต์นี้ขอพูดถึงครูภาษาไทยคนหนึ่งเสียหน่อย

ครูสอนภาษาไทยคนนี้ ไม่มีเรื่องดราม่าใด ๆ ใครจะว่าอย่างไรไม่เคยตอบโต้ ทำหน้าที่ของตัวเองไปอย่างเดียวเท่านั้น ทำเงียบ ๆ แค่โพสต์ในพื้นที่โซเชียลของตัวเองเท่านั้น ครูคนนี้ก็คือ “ครูลิลลี่” นั่นเองงง

หากใครยังไม่ทราบ ครูลิลลี่ทำอาหารแจกให้กับบุคคลากรทางการแพทย์มานานกว่า 3 เดือนแล้วครับ แกจะโพสต์การทำอาหารของแกทุกวัน ทั้งของคาว และของหวาน ของหวานส่วนมาก อย่าเรียกว่าส่วนมาก เรียกว่าทั้งหมดทุกวันเลยดีกว่า จะเป็นขนมไทยครับ บอกเลยว่าน่ากินมากกกกกก

โดยในทุก ๆ วัน ก็จะมีคนมาสมทบทุนเพื่อซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหาร บริจาคเงินมั่ง หรือ รับเป็นเจ้าภาพในวันนั้น ๆ บ้าง ครูลิลลี่กับทีมงาน บางวันก็จะมีเพื่อน ๆ นิเทศศาสตร์ จากจุฬาฯ รุ่น 24 มาช่วยทำอาหารด้วย (เห็นมั้ย ผมดูคลิปครูลิลลี่ทำอาหารทุกวันจนจำได้แล้วว่าครูลิลลี่จบนิเทศฯ จุฬาฯ รุ่น 24 ????????????????)

และในคลิปของครูลิลลี่บางคลิปก็จะสอนภาษาไทยควบคู่ไปด้วย เช่น แฟนเพจผม รู้หรือไม่ว่า “ปิ้ง” กับ “ย่าง” ต่างกันยังไง..?

ปิ้ง คือเอาเนื้อสัตว์ชิ้นเล็ก ๆ เสียบไม้ วางบนไฟอ่อน ๆ ใช้เวลาเผาไฟไม่นาน

ย่าง คือเอาเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ วางบนไฟแรง ใช้เวลาเผานาน

หรือเวลาเราเห็นข้าวเหนียวที่ห่อด้วยใบตอง แล้วมีไม้ไผ่เส้นบาง ๆ มัดใบตองอยู่ ไม้ไผ่เส้นบาง ๆ นั้นเขาเรียกว่า “ไม้ตอก” เป็นที่มาของสำนวนว่า “สิ้นไร้ไม้ตอก” คือคนโบราณเขาเปรียบเปรยว่า ยากจนมาก แม้กระทั่งไม้ตอกจะมัดของก็ยังไม่มีเลย

นี่แหละครับ คลิปทำอาหารที่มาพร้อมความรู้ ผมก็เพิ่งรู้เรื่องคำภาษาไทย สำนวนไทย ในหลาย ๆ เรื่อง ก็จากคลิปที่ครูลิลลี่ทำอาหารนี่แหละ

นี่แหละครับ “ปิดทองหลังพระ” ของจริง ใครจะดราม่า ใครจะด่าคนนั้น จะตำหนิคนนี้ ใครจะ call out แกไม่รู้ ไม่สน ฉันจะทำอาหารเพื่อช่วยเหลือบุคคลากรทางการแพทย์ แล้วแกทำทุกวัน ทุกวันจริง ๆ ตื่นตีสามตีสี่ มาเตรียมของนั่งทำ แล้วครูก็มีความสุข ผมก็ดูคลิปสนุก บางครั้งบอกเคล็ดลับการทำอาหารอีกต่างหาก

นี่แหละครับ คุณครูตัวอย่าง เป็น “ครูผู้ให้” อย่างแท้จริง ครูแบบนี้สิน่านับถือเคารพยกย่อง

แต่ครูลิลลี่เลือกที่จะทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นบนพื้นที่เล็ก ๆ ของตัวเอง ปิดทองหลังพระไปเงียบ ๆ

แต่วันนี้อาจจะไม่เงียบแล้วนะครับครู ผมขอนำเรื่องของครูออกมาให้คนได้เห็นหน่อย ว่า “ครู” ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ให้ลูกศิษย์ได้ทำตาม นั้นจะต้องเป็นแบบไหน คนแบบไหนที่เราจะเรียกเขาว่า “ครู” ได้เต็มปาก

ใครจะนับถือคุณครูแบบไหน ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน แต่ผมนับถือคุณครูแบบครูลิลลี่ครับ

ทั้งหมดทั้งมวลคือ “ความเห็นของผม” นะครับ

 

ที่มา : https://www.facebook.com/278356012859325/posts/772111503483771/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม.เห็นชอบ พ.ร.บ.กิจการอวกาศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอวกาศไทย 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ว่า ครม. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ เพื่อกำหนดให้มีองค์กรทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนกิจการอวกาศ กำหนดหลักเกณฑ์และให้บริการรับคำขอและชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุญาตด้านอวกาศ เพื่อให้ดำเนินการกิจการอวกาศเป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศได้เพิ่ม 

โดยสาระสำคัญ กำหนดให้มีนโยบายและแผนกิจการอวกาศ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการอวกาศก่อให้เกิดเศรษฐกิจอวกาศ และกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายกิจการอวกาศ ตามขอบเขตของพระราชบัญญัติ และสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ ทำหน้าที่เลขานุการให้กับคณะกรรมการฯกำกับดูแล ส่งเสริมกิจการอวกาศ เป็นหน่วยรับแจ้งเหตุในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรืออุบัติการณ์จากการดำเนินกิจการอวกาศก่อนประสานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อการแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนั้นกำหนดลักษณะและประเภทการอนุญาต รวมถึงมาตรการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ดำเนินกิจการอวกาศ เพื่อก่อให้เกิดเศรษฐกิจอวกาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ โดยใช้ทรัพยากร เทคโนโลยี และองค์ความรู้จากการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ขับเคลื่อนผ่านธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจให้บริการนำส่งดาวเทียม ธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม ธุรกิจสำรวจอวกาศให้กำหนดโทษผู้ดำเนินกิจการอวกาศ โดยไม่ได้แจ้งหรือไม่มีใบอนุญาตดำเนินกิจการอวกาศ เป็นต้น 

ทั้งนี้ให้ ครม. จัดสรรทุนประเดิมให้แก่สำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติระยะเริ่มแรกตามความจำเป็น และให้นายกรัฐมนตรี เสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐ มาปฏิบัติงานเป็นพนักงานของสำนักงานฯ เป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่ ครม. กำหนด และกำหนดให้รายได้ของสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติเป็นของหน่วยงาน ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน 

‘กรณ์’ วอนรัฐ ปรับปรุงกติกา ลดภาระประชาชน คนยากจนเข้าถึงการตรวจรักษาฟรี

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ความต้องการเตียงเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่ม ‘กล้าอาสา-หาเตียง’ ได้ปรับการทำงานเพื่อช่วยดูแลผู้ป่วยด้วยการแบ่งเป็น 7 ทีม โดยที่มีหนึ่งทีมโดยเฉพาะไว้ช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว อีกทีมดูแลเคสผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง แต่ละทีมมีอาสา 3-5 คน ทำงานกันเกือบตลอด 24 ชม.

โดยทางทีมงานประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันทุก ๆ 4-5 วัน เพื่อซักซ้อมและปรับตัวตามมาตรการของทางราชการที่ก็มีการปรับตามสถานการณ์เช่นกัน และเราคุยกันเพื่อตรวจเช็คสภาพจิตใจของอาสาแต่ละคน เพราะการทำงานอาสานี้ต่างกับการทำงานในช่วงภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ ที่ผ่านมา

“งานนี้อาสาเราต้องพบกับสภาพความกดดันในการทำงานเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วย การจะได้เตียงหรือไม่หลายครั้งหลายคราหมายถึงความเป็นหรือความตายของผู้ป่วย อาสาเราต้องคอยให้กำลังใจ และต้องดิ้นรนทุกหนทางเพื่อช่วยเหลือผู้ที่สถานการณ์บังคับให้ต้องพึ่งเรา เราเองก็ไม่มีอำนาจพิเศษอะไรนอกจากความตั้งใจในการต่อสู้ให้เขามีโอกาสได้รับการรักษา เราเองก็คอยเป็นกำลังใจให้กับอาสาทุกคนว่าถ้าไม่ไหวต้องพัก อย่ากดดันตัวเองจนไปไม่ไหว อย่าเข้าสู่สภาวะซึมเศร้า ปัญหาตอนนี้ คือ ผู้มีอาการหนักเคสสีเหลืองเข้ม และสีแดง ผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีความจำเป็นต้องพึ่งหมอ พึ่งพยาบาล เราจึงสนับสนุนทุกมาตรการที่สามารถลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้บุคลากรทางแพทย์ด่านหน้าต้องติดเชื้อไวรัสเอง” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาจากที่เราพบจากการลงมือทำของทีม ‘กล้าอาสา-หาเตียง’ คือ ความล่าช้าในการรับการรักษา คือ ปัญหาหลักที่ทำให้เรามีผู้ป่วยหนักมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ เงื่อนไขการตรวจ PCR นี่คือสาเหตุที่เราจึงได้ออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาล ข้อเสนอคือ รัฐบาล ต้องจัดหาอุปกรณ์การตรวจแบบ Rapid Antigen ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงได้โดยสะดวกและไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ทำไปแล้วคือแค่บอกว่าอนุญาตให้ใช้ได้ ซื้อได้ แต่ขอย้ำว่า พื้นที่สีแดง ควรต้อง ฟรี! โดยเฉพาะในวินาทีนี้ และขอให้ผ่อนปรน หากรู้ผลตรวจ Rapid Antigen แล้วพบว่าติดเชื้อ ควรเข้าสู่ระบบหาเตียงรักษาพยาบาลได้ทันที และในหลายชุมชนในพื้นที่สีแดง คนส่วนใหญ่เป็นคนยากคนจน ควรจะได้สิทธิ์รับการตรวจแบบ Rapid Antigen ฟรี ซึ่งรัฐจัดให้ได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากนัก แต่ถ้าให้ไปซื้อตรวจกันเองในราคา 300 ถึง 500 บาท คงจะเป็นภาระให้กับประชาชนในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ จึงฝากถึงรัฐบาลให้ปรับปรุงกติกา ลดภาระประชาชน

“วิกฤติครั้งนี้เมื่อสองเดือนก่อนยังไกลตัวประชาชนส่วนใหญ่ แต่วันนี้แทบทุกคนมีผู้ป่วยที่เรารู้จักเป็นการส่วนตัว แม้แต่เศรษฐีที่พยายามใช้เงินเพื่อซื้อความช่วยเหลือให้ลูกน้องที่ป่วยโควิด แต่ปรากฎว่าแม้มีเงินเขาก็ซื้อบริการทางการแพทย์ (ผ่านการรักษาในรพ.เอกชนที่ราคาแพง) ที่ต้องการไม่ได้ เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน จริงอยู่วันนี้คนมีสตางค์อย่างไรก็ยังมีความได้เปรียบ แต่แม้แต่เงินก็ไม่เป็นหลักประกันที่เพียงพอว่าจะช่วยคนได้ ผมประเมินว่าเราจะอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ไปอีกอย่างน้อย 2 เดือน และจะพ้นวิกฤตินี้ไปได้ต้องมีวัคซีนอย่างเดียว ระหว่างนี้ที่พวกผมทำได้ คือ ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเสนอมุมมองและข้อเสนอจากฝ่ายปฏิบัติเพื่อให้รัฐบาลรับรู้ทุกมิติของปัญหา และหวังว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะใส่ใจเท่ากับอาสาทุกคน ทั้งที่ทำงานอยู่กับเรา และกลุ่มอื่น ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วย” นายกรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ ริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย ชาวชุมชน ใช้ลานกีฬาใต้ทางด่วน ตั้งเต็นท์ล้อมสแลน ทำจุดพักคอยชุมชน (Community Isolation) แยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดในชุมชนกันเอง ด้วยความเป็นห่วง ตนพร้อมด้วยทีมงานพรรคกล้า ทั้ง ครูเป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรค นายสมเกียรติ ปัญญะธารา ผู้กล้า - ยานนาวา รีบนำหน้ากากอนามัยโครงการ ‘แจกแมสก์ 5,000,000 ชิ้น’ , ยาฟ้าทะลายโจร , อาหารแห้ง มาช่วยพี่ ๆ น้อง ๆ ที่กักตัวในศูนย์พักคอยที่ทำกันเอง ก่อนจะย้ายไปศูนย์พักคอยที่วัดสะพาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุข และ กทม. เพื่อให้ผู้ที่มีอาการหนักขึ้นเข้าสู่การรักษาพยาบาลได้

แต่ปัญหาตอนนี้ที่กลุ่มกล้าอาสา-หาเตียงพบ คือ ผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีส้ม สีแดง เข้าไม่ถึงเตียงรักษา เพราะเงื่อนไขราชการต้องมีผลตรวจ RT- PCR รับรองก่อน ทำให้ประชาชนต้องรอคิวข้ามคืนเพื่อใช้สิทธิ์การตรวจ แม้ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขเริ่มผ่อนคลายเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจ Rapid Antigen แล้ว แต่ยังต้องตรวจ PCR เพื่อยืนยันผลอีก ถึงจะเข้าสู่ระบบรอที่รักษาได้ กลายเป็นอุปสรรคต่อพี่น้องประชาชนที่ป่วยอยู่แล้ว บางคนคนป่วยนอนติดเตียงยิ่งลำบาก ถ้าต้องออกไปอีก ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษก ทร. เผย ยศ.ทร. ส่งกำลังพลสนับสนุนช่วยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 ของจังหวัดนครปฐม

พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าพลเรือโท เคารพ แหลมคม เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ สั่งการให้จัดกำลังพล จำนวน 10 นาย พร้อมรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน ให้การสนับสนุนโรงพยาบาลพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในการขนย้ายอุปกรณ์ในการจัดเตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ และช่วยดำเนินการประกอบเตียงกระดาษสำหรับใช้ในการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารับการดูแลรักษา ซึ่งจังหวัดนครปฐมกำลังดำเนินการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่ม  หลังพบการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยในพื้นที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงได้ดำเนินการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเป็นแห่งที่ 5 ณ บริเวณอาคาร 100 สมเด็จพระญาณสังวร พุทธมณฑล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

กสม. ส่งหนังสือถึงนายกฯ ให้รัฐบาลชะลอเสนอขึ้นทะเบียนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกก่อน จนกว่าแก้ปมสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยงบางกลอยคลี่คลาย

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ตามที่รัฐบาลจะนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเพื่อรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 16 – 31 ก.ค. 2564 นั้น กสม. โดย น.ส.พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานกสม.ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ลงวันที่ 12 ก.ค.64 เสนอให้รัฐบาลชะลอการเสนอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติออกไปก่อน จนกว่าปัญหาสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยจะคลี่คลาย

โดยระบุว่า กสม. เห็นถึงคุณค่าของการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชนกรณีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน รวมทั้งที่ได้เคยตรวจสอบกรณีดังกล่าว กสม. มีข้อเสนอเพื่อพิจารณาในประเด็นดังนี้ 1. คณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้มีข้อกังวลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ซึ่งในปัจจุบัน ยังปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหากรณีดังกล่าว อาทิ การโต้แย้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิทธิในพื้นที่ดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย

2. แม้ภาครัฐได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยการจัดสรรพื้นที่ให้กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยที่ถูกย้ายออกจากพื้นที่ดั้งเดิมแล้ว แต่ในทางปฏิบัติกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยยังประสบปัญหาในการใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ได้รับการจัดสรรอย่างจำกัด ไม่ครบถ้วน และสภาพดินไม่สามารถทำกินได้อย่างเพียงพอ ต่อมา เมื่อประมาณต้นปี 64 กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยบางส่วนได้กลับเข้าไปทำกินและอยู่อาศัยในพื้นที่ดั้งเดิม ทำให้ถูกจับกุม และเกิดข้อขัดแย้ง กระทั่งได้มีการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 67/2564 ลงวันที่ 16 มี.ค.64 และมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ด้านขึ้นมา เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผลการดำเนินการและข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม ในขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งถูกจับกุมกำลังถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

3. กสม. ขอเสนอให้รัฐบาลชะลอการเสนอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติออกไปก่อน จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายและได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เมื่อปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมแล้ว กสม. พร้อมที่จะสนับสนุนการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติต่อไป

โดยกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอยมีลักษณะเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ซึ่งควรได้รับการคุ้มครองสิทธิในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของตน รวมทั้งมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐธรรมนูญ60 และหนังสือสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามได้ให้การรับรองไว้

มาทำความเข้าใจ หลักปฏิบัติตัวในช่วง ‘เคอร์ฟิวส์ 14 วัน’ ใครออกจากบ้านได้ หรือใครจะขอออกจากบ้าน ต้องทำอย่างไร

เมื่อคืนมีภาพข่าว ‘ถนนโล่ง’ เต็มหน้าฟีดโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเป็นคืนแรกที่คำสั่ง ‘ห้ามออกนอกเคหะสถาน’ ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. เริ่มมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลอด 14 วัน ยังมีผู้ที่สามารถออกนอกเคหะสถานได้ รวมไปถึงผู้ที่ขอออกเป็นกรณี ๆ ไป และผู้ที่สามารถออกได้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ทั้งหมดต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ THE STATES TIMES ไปรวบรวมข้อบังคับต่าง ๆ มาให้อ่านเพื่อความเข้าใจ เผื่อว่าใครที่มีความจำเป็นต้อง ‘ออกจากบ้าน’ อ่านไว้จะได้ไม่ทำผิดกฎระเบียบกัน...


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top