Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

ตำรวจออกหมายเรียก-หมายจับเพิ่มอีก 118 หมาย จ่อฟันแกนนำ-ม็อบ หลายข้อหา

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวเมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า กรณีมีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 22 สิงหาคม 2564 ประกอบด้วย

1.) กลุ่มทะลุฟ้า เวลา 14.45 น. รวมตัวที่แยกคอกวัว แล้วเคลื่อนขบวนไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้ปราศรัยโดยใช้เครื่องกระจายเสียง ปิดการจราจรทำกิจกรรมเล่นกีฬาสี เวลา 15.00 น. ตำรวจประกาศให้ยุติการกระทำดังกล่าว กระทั่งเวลา 19.30 น. ได้ประกาศยุติการชุมนุม

2.) กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 17.00 น. รวมตัวที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 17.20 น. ตำรวจประกาศให้ยุติการกระทำดังกล่าว แต่ผู้ชุมนุมกลับใช้ความรุนแรงขว้างปาลูกหิน ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง เวลา 17.45 น. ตำรวจจึงเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อความวุ่นวายได้ 35 ราย ยึดรถจักรยานยนต์ 20 คัน อาวุธปืน วัตถุระเบิด และอาวุธอื่น ๆ ได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยพนักงานสอบสวนดำเนินการร้องขอต่อศาล เพื่อพิจารณาริบของกลางทั้งหมดเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย ขณะเดียวกันตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย นอกจากนี้มีทรัพย์สินสาธารณประโยชน์ ทรัพย์สินราชการ และเอกชนเสียหายส่วนหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ

“ขณะนี้ บช.น.ได้ออกหมายเรียกผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เพิ่มเติมอีก 118 หมาย แบ่งเป็นแกนนำ 16 หมาย ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และความผิดอื่น ผู้ชุมนุม 102 หมาย ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงพนักงานสอบสวน ดำเนินการขอศาลออกหมายจับข้อหาครอบครองวัตถุระเบิด, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, อั้งยี่ ซ่องโจร, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'หมอวรงค์' โพสต์จวก 'ไฮโซลูกนัท' เป็นพวกหิวแสง ซ้ำยังแต่งตัวล้อเลียน ลั่นมากเกินไป! คนไทยไม่ให้อภัย!

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า...

#คนไทยไม่ให้อภัย

พวกที่เรียกตัวเองว่าสลิ่มกลับใจ 

วันหนึ่งคุณไปเป่านกหวีดขับไล่คนโกงชาติ พวกบ้าอำนาจ ที่ต้องการออกกฎหมายล้างผิดพวกตนเอง 

เวลาผ่านไปคุณกลับสำนึกผิด ไปขอโทษพวกโกงชาติ บ้าอำนาจ ที่ไปไล่เขา จนคิดว่า การโกงชาติ การออกกฎหมายล้างผิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 

วันนั้นผมมองคนแบบนี้เพียง นอกจากหิวแสงแล้วยังต้องกลวงถึงทำได้ 

แต่วันนี้คุณกับมาให้ร้าย โจมตีพระมหากษัตริย์ ที่พระองค์อยู่ในหัวใจของประชาชน มาแต่งกายเลียนแบบพระองค์ ทั้ง ๆ ที่พระองค์สวรรคตไปแล้ว แบบนี้ผมว่า #มันมากเกินไปแล้วครับ 

แค่นี้คุณยังแยกแยะความดีกับชั่วไม่ออก อะไรคือปัญหาในการพัฒนาประเทศ นักการเมืองโกงชาติ หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมคิดว่าคนไทยไม่ให้อภัยคุณแน่นอน


ที่มา: https://www.facebook.com/1635406246730420/posts/2984597678477930/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เผยเส้นทางความสำเร็จของ ‘มาดามแป้ง’ กับการทำทีมฟุตบอลทีมชาติไทย

กลายเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย สำหรับการเข้ามารับงานเป็น ‘ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย’ ของมาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ งานนี้บิ๊กบอสหญิงคนนี้จะเข้ามาดูแลทีมฟุตบอลชาย ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (U-23) และทีมชาติชุดใหญ่ 

ซึ่งที่ผ่านมา มาดามแป้งเคยรับบทบาทคุมทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมาแล้วกว่า 12 ปี และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ THE STATES TIMES จึงไปรวบรวมเหล่าความสำเร็จที่เธอได้สร้างไว้ร่วมกับทีมฟุตบอลหญิงไทย มาให้ได้ทราบกัน ส่วนผลงานกับทัพช้างศึกไทยจะแจ่มแจ๋วขนาดไหน อีกไม่นานคงได้รู้กัน #เชื่อ(มือ)แป้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สสว. และ SME D Bank เดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว ขยายสิทธิ์ยื่นกู้ “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” ดอกเบี้ย 1% ต่อปี ในพื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว เพิ่มเป็น 35 จังหวัด

สสว. และ SME D Bank เดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว ขยายสิทธิ์ยื่นกู้ “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” ดอกเบี้ย 1% ต่อปี ในพื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว เพิ่มเป็น 35 จังหวัด ใช้เกณฑ์เสียภาษีพิจารณา หนุนเข้าถึงแหล่งทุนง่ายและรวดเร็ว แนะรีบแจ้งความประสงค์ภายใน ส.ค.นี้ 

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ SME D Bank ร่วมดำเนินการ “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” วงเงิน 1,200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ และธุรกิจสปาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม เกสต์เฮาส์ ใน 10 จังหวัด พื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว และกลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยเปิดแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์จำนวนมาก 

อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่าง ๆ เช่น สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย  สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เป็นต้น ทำให้ สสว. และ SME D Bank เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนที่ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว (supply chain) กำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ดังนั้น จึงเปิดกว้างขยายให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว มีสิทธิ์ยื่นกู้โครงการดังกล่าว ดังนี้  

- ธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาต์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว (Supply Chain) ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว-ทัวร์ ธุรกิจคมนาคมขนส่ง ธุรกิจสปา และธุรกิจค้าส่งค้าปลีก จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจเพื่อความบันเทิง 

- ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร ได้แก่ เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ขนม เบเกอรี่ เป็นต้น

โดยตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว และจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม 35 จังหวัด ประกอบด้วย 1.) กรุงเทพมหานคร 2.) กาญจนบุรี  3.) ชลบุรี 4.) ฉะเชิงเทรา 5.) ตาก  6.) นครปฐม 7.) นครนายก 8.) นครราชสีมา 9.) นราธิวาส 10.) นนทบุรี 11.) ปทุมธานี 12.) ประจวบคีรีขันธ์  13.) ปราจีนบุรี  14.) พระนครศรีอยุธยา 15.) เพชรบุรี 16.) ปัตตานี 17.) เพชรบูรณ์  18.) ยะลา 19.) ระยอง 20.) ราชบุรี 21.) ลพบุรี 22.) สงขลา 23.) สิงห์บุรี 24.) สมุทรปราการ 25.) สมุทรสงคราม 26.) สมุทรสาคร 27.) สระบุรี 28.) สุพรรณบุรี 29.) อ่างทอง 30.) ภูเก็ต 31.) กระบี่  32.) พังงา 33.) สุราษฎร์ธานี 34.) เชียงใหม่ และ 35.) บุรีรัมย์ หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติมในอนาคต   

สำหรับผู้ประกอบการที่ได้เคยแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ในโครงการดังกล่าวเข้ามาแล้ว แต่ธุรกิจไม่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายเดิม แต่เข้าค่ายอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ปรับใหม่ ธนาคารจะนำข้อมูลกลับมาพิจารณา เพื่อพาเข้าสู่กระบวนการอำนวยสินเชื่อต่อไป  

ทั้งนี้ เกณฑ์การพิจารณา ยังให้สิทธิ์พิเศษเช่นเดิม  โดยดูจากแค่หลักฐานการเสียภาษีในปี 2563 หรือ 2562 ที่ผ่านมา ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น 

ด้านคุณสมบัติผู้ยื่นกู้ ต้องเป็นสมาชิก สสว. กรณียังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สสว. สามารถขอขึ้นทะเบียนก่อนได้ ( http://members.sme.go.th/newportal/ ) เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มรายย่อย (Micro) และขนาดย่อม (Small) ตามนิยามของ สสว. อีกทั้ง ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเงินทุนในโครงการพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ หรือกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ รวมถึงต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 

ส่วนหลักประกัน บุคคลธรรมดา ใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือค้ำประกัน นิติบุคคล ใช้กรรมการผู้มีอำนาจแทนนิติบุคคลค้ำประกัน  

วงเงินกู้ สำหรับบุคคลธรรมดา พิจารณาจากการชำระภาษี ภ.ง.ด.90 ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า และความเป็นเจ้าของสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท หากจำนวนเงินที่ชำระภาษี 0-10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท, จำนวนเงินที่ชำระภาษี 10,001-20,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 200,000 บาท และจำนวนเงินที่ชำระภาษีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท  กรณีมีสถานประกอบการเป็นของตัวเองหรือบุคคลในครอบครัว ให้วงเงินเพิ่มอีกลำดับละ 50,000 บาท แต่รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับนิติบุคคล ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายในงบการเงินปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท  

นางสาวนารถนารี เผยด้วยว่า ความคืบหน้าการดำเนินโครงการดังกล่าว นับตั้งแต่เริ่มเปิดแจ้งความประสงค์จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มียอดแจ้งความประสงค์เข้าเกณฑ์ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 1 ใน 3 ของวงเงินทั้งหมด และเมื่อมีการขยายกลุ่มเป้าหมาย คาดว่า ความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยการพิจารณาจะใช้กระบวนการมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน (First Come First Serve) กำหนดปิดรับแจ้งความประสงค์ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้เท่านั้น หรือเมื่อเต็มวงเงิน 

ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ ขอให้รีบดำเนินการแจ้งความประสงค์โดยเร็ว ก่อนที่วงเงินจะเต็ม ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ สแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือคลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka รวมถึง เว็บไซต์ของ SME D Bank, Line OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชั่น : SME D Bank สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่” ไฟเขียวโครงการประกันรายได้ข้าว ฤดูกาลใหม่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 64/65 รอบที่ 1 และเห็นชอบในหลักการมาตรการคู่ขนาน โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือแนวทางการจัดสรรงบประมาณพร้อมจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อนำเสนอครม. พิจารณาต่อไป  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อประชาชนเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

สำหรับโครงการประกันรายได้ฯ กำหนดเป้าหมายเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.689 ล้านครัวเรือน โดยราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

“นายกฯ ยังแสดงความห่วงใยต่อปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย เช่น การแข่งขันกับต่างประเทศที่มีราคาข้าวถูกกว่าของไทย การขาดแคลนตู้สินค้า ค่าระวางเรือที่สูง โรงสีขาดสภาพคล่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ผู้ส่งออกจะได้รับผลดีในเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าถึง 8% จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก รวมถึงการบริหารจัดการตู้สินค้าสำหรับข้าวให้เพียงพอ และเสนอแนะแนวทางช่วยเหลือชาวนาภาคอีสานที่ทำนาได้ปีละครั้งให้หันมาปลูกพืชอื่นควบคู่การปลูกข้าวให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และปริมาณน้ำ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นแทนการเข้ามาหางานทำในเมืองด้วย”

เปิดใจ 'กลุ่มเส้นด้าย' ถอดบทเรียน สะท้อน 'น้ำใจไม่เคยจาง' | Click on Clear THE TOPIC EP.27

???? เปิดใจ 'กลุ่มเส้นด้าย' ถอดบทเรียนการช่วยเหลือภาคประชาชน สะท้อน 'น้ำใจคนไทยไม่เคยจางหาย'
???? ห้ามพลาด!! จิตอาสาช่วยผู้ป่วยโควิด-19 “กลุ่มเส้นด้าย” ที่ถูกถักต่อ...จากแรงผลักดันที่เกิดขึ้นสุดเขย่าหัวใจ!! 

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ... 

แขกรับเชิญพิเศษ ‘คริส โปตระนันทน์’ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้าย

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กจวกรัฐบาล 'ลูงตู่' ไร้กลไกบริหารประเทศ 7 ปีผ่านไปปัญหาเดิมยังอยู่

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'Yingluck Shinawatra' ว่า...

ย้อนไปใน วันที่ 23 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นวันที่ดิฉันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะอยากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน สร้างความมั่นคงทางรายได้ในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับภาคอุตสาหกรรมเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมไปถึงการเชื่อมโยงเส้นทาง และสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองหลักไปสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสทำมาค้าขายให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น 

แต่ผ่านไป 10 ปีแล้วหลายอย่างยังย่ำอยู่กับที่ การบริโภคในประเทศยังไม่สามารถเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เรายังคงพึ่งพาการส่งออก และการท่องเที่ยว เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาด รายได้แทบเป็นศูนย์ รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์การเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องกู้หนี้ยืมสิน ส่งผลให้อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงกว่า 90% ค่าแรงแทบไม่ขยับ เงินเดือนปริญญาตรียังอยู่กับที่ แต่ค่าครองชีพกลับถีบตัวสูงขึ้น ขณะที่สินค้าเกษตรตกต่ำยังเป็นปัญหาเดิมที่เผชิญทุกปี แต่รัฐบาลกลับไร้กลไก และมาตรการในการยกระดับราคาสินค้าเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่เกษตรกร ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำของไทยยิ่งแย่ลง รวยกระจุก จนกระจาย ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐก็ย่ำแย่ต้องทำงบประมาณขาดดุล ต้องกู้จนเต็มเพดานซึ่งจะกลายเป็นภาระของประชาชน และเป็นภาพที่ไม่ดีนักต่อสายตานักลงทุน 

หากไม่มีการรัฐประหารในวันนั้น แผนงานต่าง ๆ ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาคงสำเร็จเป็นรูปธรรมไปนานแล้ว ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่เลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สำหรับบางคนเวลา 7 ปีหลังรัฐประหารภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะผ่านไปเร็ว แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้น มันเป็นความยาวนาน และทรมานของคนไทยทั้งประเทศค่ะ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องมาหาหนทางเริ่มต้นกันใหม่กับโอกาสที่เสียไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รมว.ยุติธรรมควงเลขา ป.ป.ส. ลงพื้นที่ 3จ.ภาคใต้ คิกออฟปลดล็อกพืชกระท่อมพรุ่งนี้ ย้ำทำกฎหมายเพื่อประโยชน์ประชาชน ใช้ได้เสรีตามวิถีชีวิตแต่อย่าไปทำ4x100 หวังผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกสร้างรายได้ ชาวบ้านยก "สมศักดิ์"เป็นบิดาพืชกระท่อมไทย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดพื้นที่นำร่องพืชกระท่อม คือ บ้านนาสาร ต.น้ำพุ จ.สุราษฎร์ธานี ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนให้กระทรวงยุติธรรมยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดได้สำเร็จ และมอบแนวนโยบายเกี่ยวกับพืชกระท่อมในอนาคต โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมงาน ทั้งนี้ก่อนเดินทางนายสมศักดิ์ และคณะได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งผลออกมาเป็นลบทั้งหมด และในงานได้มีมาตรการคัดกรองและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด

โดยนายวิชวุทย์ กล่าวว่า ชาวบ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการประกาศอิสรภาพของพืชกระท่อม เพราะที่แห่งนี้ถือเป็นเมืองหลวงของพืชกระท่อม นอกจากนี้ชาวบ้านได้ยกย่องให้นายสมศักดิ์ เป็นบิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ที่ช่วยให้พืชกระท่อมเป็นพืชสารพัดประโยชน์ ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้ได้ตามวิถีชีวิต รวมถึงมีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมาก ช่วยให้ชาวบ้านสามารถทำเป็นพืชทางการเกษตรได้และคนที่ถูกดำเนินคดีก็จะเป็นอิสระด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พืชกระท่อมเดิมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท5 แต่หลังจากที่พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ถอดพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งจะตรงกับวันพรุ่งนี้ประชาชนสามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้พืชกระท่อมทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ในขณะนี้ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ.... ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่างกฎหมายมีหัวใจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลและป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดภายหลังถอดให้โทษ โดยเฉพาะควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชนนำกระท่อมไปใช้ในทางทีผิด และให้ชาวบ้านเข้าถึงการปลูกและแปรรูปพืชกระท่อมได้ สามารถรวมกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเป็นรายบุคคลเพื่อจำหน่ายเองได้ ดังนั้น พ.ร.บ.พืชกระท่อม ฉบับนี้จึงถือเป็นกฎหมายที่มาจากวิถีชาวบ้านความต้องการของประซาชนโดยประชาชน เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

"วันนี้ผมดีใจไม่แพ้กับพี่น้องชาวใต้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เราจะได้กระท่อมเสรี เป็นความดีใจและภาคภูมิใจร่วมกันกันที่เราได้ร่วมทำงานหนักกันมาโดยตลอด ผมลงมาที่นี่หลายครั้งตั้งแต่เราได้ดำเนินการปลดล็อก และได้มาพูดคุยหวังให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ตอนนี้เรากำลังปลูกเสรี ใช้เสรี แต่อย่าเอาไปผสมยาเสพติดทำเป็น 4x100 เพราะมีความผิด ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หากเราไม่ร่วมมือกันโอกาสปลดล็อกก็คงยาก เราปฏิบัติดีประพฤดีทำให้หลายฝ่ายเห็นจนสนับสนุนเรา ในสมัยก่อนรัฐบาลก็เคยคิดจะปลดล็อกแต่ทำไม่สำเร็จ จนผมเข้ามาเป็น รมว.ยุติธรรม ได้เห็นแนวทาง และเห็นปัญหาคนล้นคุก มีคนที่เกี่ยวข้องกับคดีพืชกระท่อมเยอะ ซึ่งตนได้นำความรู้ของรุ่นพี่ที่ทำไม่สำเร็จ ทำให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน และที่ผ่านมามี ส.ส.หลายท่านมีความคิดที่จะปลดล็อก เราจึงร่วมแรงร่วมใจกัน"นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ตนตั้งใจให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ เราจะทำอย่างไร พืชกระท่อมมีสรรพคุณทางยาสูง วันนี้มีการผลิตผงจากใบแห้งขายสหรัฐฯ ตรงนี้จะเป็นเศรษฐกิจใหม่ที่ขายต่างประเทศด้ เราต้องทำให้ได้ การดำเนินการต่างๆต้องทำให้สอดคล้องกับราคาตลาด เราไม่ควรใช้ในครัวเรือนอย่างเดียวแต่ต้องทำเป็นพืชเศรษฐกิจ หากในภาครัฐได้จัดระเบียบการปลูก การผลิต เป็นอุตสาหกรรมให้เรียบร้อย ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจได้ต่อไป และที่ชาวบ้านยกย่องตนเป็นบิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ผมคิดว่า น่าจะเป็นนายสงคราม บัวทอง กำนัน ต.น้ำพุ มากกว่า ที่เป็นผู้ริเริ่มและผลักดันมานานแล้ว ทั้งนี้ในขณะนี้ในส่วนของกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังคดีพืชกระท่อม 1,038 ราย ที่รอหมายศาลปล่อยตัว ส่วนในชั้นอัยการที่กำลังพิจารณาคดีมี 9,000 คดี ในชั้นสอบสวนของตำรวจมี 2,400 คดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะรับการปล่อยตัวและยกเลิกคดีทั้งหมด

จากนั้นได้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ผู้สนับสนุนพื้นที่นำร่องในการควบคุมพืชกระท่อม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 189 คน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชาวบ้าน ได้ให้วงฌา-มา แต่งเพลงเพื่อขอบคุณรัฐบาลและนายสมศักดิ์ ที่ช่วยปลดล็อกพืชกระท่อมจนสำเร็จ โดยมีชื่อเพลงว่า "24 สิงหาชาวประชาเฮโล"

นบข. เห็นชอบมาตรการคู่ขนาน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 “บิ๊กตู่”ย้ำให้ใช้จ่ายงบประมาณให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ร่วมประชุม ว่า เป็นการติดตามสถานการณ์ข้าวโลก ข้าวไทย ความต้องการใช้ข้าวปี 2564/65  ความคืบหน้าผลการดำเนินมาตรการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนาน ปี 2563และ 2564

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกร จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเกษตรกรและประชาชนให้ดีที่สุด โดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังแสดงความห่วงใยต่อปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย เช่น การแข่งขันกับต่างประเทศที่มีราคาข้าวถูกกว่าของไทย การขาดแคลนตู้สินค้า ค่าระวางเรือที่สูง โรงสีขาดสภาพคล่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้น แม้ผู้ส่งออกจะได้รับผลดีในเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าถึงร้อยละ 8  จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก รวมถึงการบริหารจัดการตู้สินค้าสำหรับข้าวให้เพียงพอ  นายกรัฐมนตรียังเสนอแนะแนวทางช่วยเหลือชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ทำนาได้ปีละครั้ง โดยให้หันมาปลูกพืชอื่นควบคู่การปลูกข้าวให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และปริมาณน้ำ เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนสามารถมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้นในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวแทนการเข้ามาหางานทำในเมืองด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการมาตรการคู่ขนาน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/2565 รอบที่ 1 โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือแนวทางการจัดสรรงบประมาณพร้อมจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อนำเสนอครม. พิจารณาต่อไป  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อประชาชนเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง 

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจรในระยะที่ 2 (ปี 2565 – 2568) โดยกระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. ร่วมเป็นหน่วยงานร่วมดำเนินการ และให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์และการตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP รวมทั้งเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ จัดสรรโควตาร้อยละ 10 ของโควตาการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 1,700 ตันต่อปี สำหรับจัดสรรให้เฉพาะผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ให้กับกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร ที่ดำเนินโครงการ   ทั้งนี้ ประโยชน์ที่จะได้รับคาดว่าคือ เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตข้าวคุณภาพที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 30,000 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 350 ล้านบาท (ข้าว GAP เพิ่มขึ้นตันละ 500 บาท ข้าวอินทรีย์เพิ่มขึ้นตันละ 2,000 บาท) รวมถึงขยายพื้นที่การผลิตข้าวคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์และข้าว GAP อย่างน้อย 700,000 ไร่ นอกจากนี้ เกษตรกรและผู้บริโภคยังมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรและสารตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

โฆษก ศบศ. เผยที่ประชุมเคาะลดวันกักตัว ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ใช้สูตร 7+7 ให้นักท่องเที่ยวเดินทางพื้นที่นำร่องเชื่อมโยงภูเก็ตได้ มั่นใจ 25 ส.ค.เที่ยวบินภูเก็ต-สมุย เปิดให้บริการอีกครั้ง ดึงยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มแน่ 

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบการขยายพื้นที่ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้กว้างขึ้น โดยให้นักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นในลักษณะ 7+7 เป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังพื้นที่นำร่องอื่น ๆ ได้เพิ่มเติม โดยปรับลดเวลาที่ต้องอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน ซึ่งพื้นที่นำร่องประกอบด้วย พื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป 

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อยู่ที่ 22,810คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวนกว่า 409,390 คืน ยังคงมีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน โดย 5 อันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยหลังจากที่ปรับเป็นสูตร 7+7 ให้นักท่องเที่ยว 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ อยู่ภูเก็ตครบ 7 วันแล้วเดินทางไปพื้นที่นำร่องอื่นต่อได้ 7 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นได้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางออกจากพื้นที่ภูเก็ตทางบก ขณะนี้มีจำนวนสะสมอยู่ที่ 3,578 คน 

โดยปลายทาง 5 อันดับอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และชลบุรี ซึ่งปัจจุบันแต่ละจังหวัดมีการเตรียมการวางแผน บริหารจัดการควบคุมเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดแล้ว ขอให้ประชาชนในพื้นปลายทางมั่นใจได้

นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล ที่เชื่อมต่อกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น มีกลุ่มแซนด์บ็อกซ์เข้ามาแล้วจำนวนเกือบ 400 คน มีจำนวนคืนเข้าพักแรมรวมเกือบ 3,000 คืน (รูมไนท์) จำนวนวันพักเฉลี่ย 9 คืนต่อคน ประมาณการรายได้อยู่ที่ 17.28 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยเนื่องจากเส้นทางการบินภูเก็ต-สมุยได้หยุดทำการบินไปตั้งแต่วันที่ 3-16 สิงหาคม 2564 ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต และจะประกาศต่อจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เนื่องจากการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินภูเก็ต-สมุยจะกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นไป คาดว่าหลังจากเปิดเส้นทางการบินภูเก็ต-สมุย และใช้มาตรการ 7 + 7 แล้ว จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวสมุยพลัสโมเดลเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศว่า โควิด-19 ระบาดหนักในไทย ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เร่งสื่อสารตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และทัวร์โอเปอร์เรเตอร์ ในเชิงซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (City marketing) แยกจังหวัดภูเก็ตออกมาจากประเทศไทยในภาพรวมว่าภูเก็ตมีความปลอดภัย รัฐบาลได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ สาธารณสุข ภายใต้มาตรการสาธารณสุข และการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการประเมินและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top