Friday, 9 May 2025
Hard News Team

'กระบี่'​ กำหนดมาตรการลานเทปาล์มน้ำมันคุณภาพ 18% ขึ้นไป​ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเมืองแห่งปาล์มน้ำมันคุณภาพ

พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดได้ติดตามการดำเนินงานตามโครงการขับเคลื่อนนโยบายเมืองแห่งปาล์มน้ำมันคุณภาพ และตรวจกำกับลานเทปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยกำหนดมาตรการเพื่อให้ลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมันคุณภาพ (18% ขึ้นไป) ได้ปฏิบัติ ดังนี้...

- ลานเทปาล์มน้ำมันต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม พื้นที่ปฏิบัติงานมีจำนวนพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม และถูกสุขลักษณะของพื้นที่ปฏิบัติงาน

- เครื่องชั่งได้มาตรฐานเหมาะสมกับการใช้งานตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์

- ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ในการแยกลูกร่วง โดยรางทะลายปาล์มเป็นรางทึบ ไม่มีตะแกรง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในการแยกลูกร่วง 

- มีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน และถูกต้องตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์ 

- รับซื้อปาล์มทะลายและปาล์มร่วงในราคาเดียวกัน, รับซื้อปาล์มทะลายที่มีคุณภาพตาม มกษ.5402 โดยไม่ซื้อปาล์มดิบ และปาล์มที่ไม่มีคุณภาพ 

- ขนส่งปาล์มถึงโรงานภายใน 24 ชม. นับตั้งแต่รับทะลายปาล์ม

- ไม่กระทำการใดๆ ที่เร่งให้ปาล์มสุกเร็วโดยผิดแผกไปจากธรรมชาติ เช่น ไม่รดน้ำ บ่มปาล์ม ใช้สารเคมี อื่นๆ ที่เร่งให้ปาล์มสุกเร็วขึ้น

- รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ แสงสว่าง อุปกรณ์เครื่องมือ กล้องวงจรปิด ฯลฯ และได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO     

สำหรับลานเทที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด และออกตรวจสอบกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวได้กำหนดโทษ ดังนี้...

- ลานเทปาล์มน้ำมันไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2552 มาตรา 28 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

- หากลานเทปาล์มน้ำมันไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บและไม่จัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน ฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2442 มาตรา 24(5) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมี่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละสองพันบาท

- ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะมีการแจ้ง ลานเทปาล์มน้ำมันต้องประทับแสดงเครื่องหมายคำรับรองของสำนักงานกลางหรือสำนักงานสาขาที่เครื่องชั่งตวงวัดทุกเครื่อง หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ. มาตรการชั่งตวงวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2557 มาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่กินสามปีและปรับไม่เกินหนึ่งแสนสองหมื่นบาท

- ห้ามแก้ไขหรือดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งหรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องช่างโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอื่นที่คล้ายคลึงกันหรือกระทำด้วยวิธีการใดๆ เพื่อให้ความเที่ยงของเครื่องชั่งผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด หากฝ่าฝืนมีความผิด ตาม พรบ. มาตราชั่วตวงวัด (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2557 มาตรา 75 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิดเจ็ดปี และปรับไม่เกิดสองแสนแปดหมื่นบาท 

ข่าว/ภาพ​ มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

บริษัทซิโนแวคและซิโนฟาร์มของจีน ลงนามในข้อตกลงส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมกัน 550 ล้านโดส ให้แก่โครงการโคแวกซ์ ภายในกลางปีหน้า แต่ในระหว่างนี้พร้อมส่งมอบรวมกันก่อน 110 ล้านโดส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่าองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (กาวี) ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญในโครงการโคแวกซ์ ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ ว่าได้ลงนามอย่างเป็นทางการร่วมกับบริษัทเภสัชกรรมแห่งชาติจีน (ซิโนฟาร์ม) และบริษัทซิโนแวค ไบโอเทคของจีน ในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมกัน 550 ล้านโดส

ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ซิโนฟาร์มเตรียมจัดส่งวัคซีนให้ 170 ล้านโดส และซิโนแวคเตรียมจัดส่งวัคซีนให้ 380 ล้านโดส นับตั้งแต่บัดนี้จนถึงช่วงกลางปีหน้า โดยภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ การจัดส่งวัคซีนร่วมกันของบริษัททั้งสองแห่งเข้าสู่โครงการโคแวกซ์ จะเกิดขึ้น 110 ล้านโดส ซึ่งช่วงเวลาของการส่งมอบ เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ 'เดลตา'

สำหรับโครงการโคแวกซ์ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2020 มุ่งสนับสนุนการพัฒนา จัดซื้อ และส่งวัคซีนไปยังกว่า 180 ประเทศทั่วโลก โดยมีองค์การอนามัยโลกเป็นผู้นำ ร่วมกับองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (The Vaccine Alliance หรือ Gavi) ที่ก่อตั้งโดยบิลและเมลินดา เกตส์ และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations หรือ Cepi)

โคแวกซ์ หรือ Covax ย่อมาจาก Covid-19 Vaccines Global Access Facility หรือโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลก


ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/47630/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ผอ.สศค’ เผย! เตรียมคุยออนไลน์ฟู้ดเดลิเวอรี่ ดึงร่วม ‘คนละครึ่ง’ ภายใน ก.ค.นี้ ด้าน ‘ร้านอาหาร-ฟู้ดเดลิเวอรี่’ ประสานเสียงหนุนรัฐปลดล็อก จ่ายคนละครึ่งผ่านแอปฯ ซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม

‘ผอ.สศค’ เผย! เตรียมคุยออนไลน์ฟู้ดเดลิเวอรี่ ดึงร่วม ‘คนละครึ่ง’ ภายใน ก.ค.นี้ ยกเว้น! รายที่มีปัญหา ระบุ! รอเจรจาค่า GP เหตุมีการโปรโมทให้ร้านค้าและไรเดอร์ ด้าน ‘ร้านอาหาร-ฟู้ดเดลิเวอรี่’ ประสานเสียงหนุนรัฐปลดล็อก จ่ายคนละครึ่งผ่านแอปฯ ซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลว่า ล่าสุด ได้หารือกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ (Food Delivery) อย่างไม่เป็นทางการ 2 ราย จากผู้ให้บริการทั้งหมด 4 ราย โดยผู้ให้บริการยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างไม่มีปัญหา ยกเว้นผู้ให้บริการหนึ่งรายที่กระทำผิดกฎหมายอยู่ในขณะนี้ ไม่ตอบข้อหารือของสศค. หลังจากที่ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า ‘ไม่ว่าง’

“สศค.จะไม่ตัดสิทธิผู้ให้บริการรายใดออกไป แต่ต้องการทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นการชำระเงินระหว่างกันโดยตรงไม่ผ่านตัวกลาง (Face to Face)” น.ส.กุลยา ย้ำว่าภายในเดือนนี้จะเชิญผู้ประกอบการมาหารือผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสรุปแนวทางการเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ โดยในระหว่างนี้ สศค.ได้หารือกับธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ให้บริการ ‘เป๋าตัง’ ในประเด็นการชำระเงินจากภาครัฐไปสู่ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ และจากฟู้ดเดลิเวอรี่ไปยังผู้ค้า เป็นต้น

ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องคำนึงถึงความโปร่งใส และไม่มีปัญหาเรื่องทุจริต ที่ผ่านมาสศค.ได้ตรวจพบการทุจริตโครงการคนละครึ่ง และได้ดำเนินการเข้มงวดแล้ว จึงไม่ต้องการเห็นเกิดช่องโหว่ของการทุจริตกลับมาอีก

ส่วนกรณี การลดค่าธรรมเนียม หรือ Gross Profit (GP) นั้น สศค. อยู่ระหว่างพิจารณาถึงความเหมาะสม และเตรียมหารือกับผู้ประกอบการฯ ทั้งนี้ อยากเห็นการมีส่วนร่วมของฟู้ดเดลิเวอรรี่ต่อประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการเคยให้ข้อมูลว่า มีการจัดโปรโมชันให้กับร้านค้า ไรเดอร์ และผู้สั่งซื้ออาหารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เช่น โรบินฮู้ด ไม่เก็บค่าขนส่งลูกค้า เป็นต้น โดยมองว่าเป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือสังคมในช่วงที่ล็อกดาวน์

ด้านนายวรพจน์ พูลถนอมสุข เจ้าของร้านอาหาร ‘เป่าซิงสุกี้’ ย่าน ถ.เจริญลาภ กล่าวว่า เดิมร้านมี 5 สาขา ปัจจุบันเหลือ 3 สาขาและกำลังจะปิดอีก 1 สาขา เหลือเพียง 2 สาขาเพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายสุกี้ฯ โดยหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด และรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้รายได้จากยอดขายลดลงมากกว่า 35%

ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะปลดล็อก เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิในโครงการของรัฐ โดยเฉพาะ ‘คนละครึ่ง’ สามารถจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มผ่านแอปฯ ของฟูดเดลิเวอรี่แล้ว เชื่อว่าจะทำให้ปัญหาการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ซบเซาจากนโยบายของรัฐ พอจะกระเตื้องขึ้นมาได้ โดยอยากให้ภาครัฐเร่งดำเนินในทันที ข้ามกฎระเบียบและขั้นตอนใด ๆ ก็ตามที่จะทำให้โครงการดังกล่าวเกิดความล่าช้า เนื่องจากเวลาที่ทอดยาวออกไป ยิ่งเป็นการทำลายโอกาสของผู้ประกอบการร้านอาหารฯ

ขณะที่ น.ส.รัตนาภรณ์ เวชสวรรค์ เจ้าของร้านข้าวมันไก่ ‘ป.เจริญชัยไก่ตอน’ ย่าน ถ.ประชาราษฎร์ ห้วยขวาง กล่าวว่า ร้านได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิดและมาตรการของรัฐ ทำให้ยอดขายหายไปราว 30-40% ส่วนหนึ่งเพราะประชาชนประหยัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ที่สำคัญคือ ประชาชนไม่ออกจากบ้าน เพราะการประกาศล็อกดาวน์ของรัฐ ทำให้โอกาสที่ร้านฯ จะขายอาหารแก่ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งยิ่งน้อยลงไปอีก

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐคลายล็อก และเปิดให้มีการใช้จ่ายค่าอาหารฯ ในโครงการคนละครึ่ง ผ่านแอปฯ เป๋าตังโดยเร็ว และเปิดให้ทุกแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สามารถรับเงินแทนร้านอาหารได้ ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งนี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติได้อย่างแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารในตอนนี้คือ การกระตุ้นให้เกิดยอดขาย ไม่ว่าจะจากทั้งรัฐบาล หรือแอปพลิเคชัน เพื่อให้ร้านต่าง ๆ ยังมีสภาพคล่องและรักษาธุรกิจต่อไปได้

ส่วนผู้บริหารระดับสูงของแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่รายหนึ่ง (ค่ายสีชมพู) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ แพลตฟอร์มผู้ให้บริการแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่หลายแห่ง ได้ใช้เวทีการประชุมร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เสนอแนวทางการชำระเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่งผ่านแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่มาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากภาครัฐจะเปิดให้มีการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งผ่านแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่จริง เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่บริษัทเจ้าของแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่เท่านั้น เพราะผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด คือ ผู้บริโภคและร้านอาหาร รวมถึงระบบเศรษฐกิจในภาพรวมที่จะกระเตื้องตามกันไป

ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผอ.ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บเฝ้าติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้ หากเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการฟู้ดเดลิเวอรี่สามารถเข้าร่วมได้ ทางแกร็บก็พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน และพร้อมให้ภาครัฐตรวจสอบตรวจสอบความโปร่งใส

ส่วนในทางปฏิบัติ หากภาครัฐปลดล็อกให้มีการใช้จ่ายเงิน (สิทธิ) ในโครงการคนละครึ่งผ่านแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่ แกร็บก็พร้อมร่วมหารือในรายละเอียดกับธนาคารกรุงไทย ที่ดูแลแอปฯ เป๋าตัง ถุงเงิน และระบบการชำระเงินในโอกาสต่อไป


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผบ.ทบ. มอบหมายให้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. แจ้งความเอาผิดกับ 9 มือโพสต์ เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก 8 ราย ทวิตเตอร์ 1 ราย โพสต์กล่าวหาส่งกำลังพลไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ ชี้ทำให้กองทัพบกเสียหาย

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการภาพกำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐฯ ณ Fort Bragg รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค. 64 ที่สนามบินไปเผยแพร่และบิดเบือน โดยกล่าวหาว่าเดินทางไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 และใช้ภาษีประชาชนเป็นค่าตั๋วเครื่องบินในการเดินทางนั้น

.ล่าสุด พล.อ.ณรงพันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้ พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ทำหน้าที่แทนดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่นำภาพไปบิดเบือน จนทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหาย พร้อมให้ พ.อ.ณครสม เนาวบุตร ผู้อำนวยการกองคดี สำนักพระธรรมนูญทหารบก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลล็อตแรก จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย ผู้ในเฟซบุ๊ก จำนวน 8 ราย ทวิตเตอร์ จำนวน 1 ราย และจะมีการทยอยแจ้งความกับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีก ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศบค.ย้ำ ร้านเสริมสวย-ตัดผม นอกห้างฯ เปิดได้!! แต่พบติดเชื้อพุ่ง ก็ถูกสั่งปิดได้

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตอบข้อซักถามถึงกรณีข้อสงสัย คลินิกเสริมความงาม ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ ร้านสัก ในพื้นที่ล็อกดาวน์สามารถเปิดได้หรือไม่ ว่า ตามข้อกำหนดฉบับที่ 27 ที่ได้ประกาศระบุ 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ เท่านั้น ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 4 จังหวัดทางภาคใต้นั้นไม่ได้อยู่ในหลักการเดียวกันนี้

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า โดยสรุปได้เป็นในส่วนของที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า และนอกห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอล ซึ่งส่วนที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า เช่น ร้านตัดผม, ร้านเสริมสวย, ร้านทำเล็บ, สักผิวหนัง, คลินิกทันตกรรม, คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก, คลีนิคเวชกรรมเสริมความงาม, รวมไปถึง ร้านบริการล้างรถ, ซักรีด จะต้องปิดทั้งหมด ซึ่งโดยรวมแล้วกรมควบคุมโรคมีคำแนะนำว่าห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอล จะเป็นที่รวมกลุ่มของคนจำนวนมาก

ดังนั้น จึงต้องขอให้สถานบริการเหล่านั้นที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าจำเป็นจะต้องปิดด้วยทั้งหมด แต่ถ้าร้านหรือคลีนิคเหล่านั้นเปิดอยู่นอกห้างสรรพสินค้าขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด หากจังหวัดไหนพิจารณาให้เปิดดำเนินการได้ ก็ขอให้ฟังประกาศของจังหวัดที่ท่านตั้งอยู่

แต่อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่าหากมีการเปิดดำเนินการแล้วมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็เป็นไปได้ที่จังหวัดนั้น ๆ จะพิจารณาสั่งปิดในโอกาสต่อ ๆ ไป

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ตอนนี้พบว่าคลินิกเสริมความงามหรือร้านเสริมสวยต่าง ๆ ที่แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยหลักการทางจังหวัดอนุญาตให้เปิดได้แต่เจ้าของกิจการคลินิกเหล่านี้หลายที่ ก็พบว่าปิดดำเนินการชั่วคราวในช่วงนี้เพื่อเป็นการช่วยกันเวิร์คฟอร์มโฮมให้มากที่สุด

ก็ต้องขอขอบคุณคลินิกเหล่านี้ที่มีความเป็นห่วงและร่วมด้วยช่วยกันอาจจะต้องเดือดร้อนสูญเสียรายได้แต่ในระยะที่ปิดชั่วคราวนี้ ก็เพื่อลดการเดินทางลดการที่ประชาชนจะออกนอกบ้านถือได้ว่าให้ความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘แรมโบ้’ ซัด ‘โทนี่’ คงไม่มีใครโทรปรึกษานักโทษหนีคดี คงไม่ได้ประโยชน์อะไร ย้ำนายกฯ ไม่คิดลาออก และไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองใคร แนะหากอยากกลับประเทศไทย ทำได้ 2 ข้อคนไทยส่วนใหญ่จะยอมรับได้

14 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมเสวนาผ่านคลับเฮาส์ พร้อมให้นายกฯ โทรหา เพื่อขอคำปรึกษาและระบุว่าหากอยากไล่นายกฯ ให้ไปฟ้องพลเอกประวิตร รวมถึงคนเป็นนักการเมืองจะแคร์ประชาชน คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชน โดยนายเสกสกลระบุว่า คำพูดเหน็บแนมของนายโทนี่ ที่อยากจะเสนอแนะและให้คำปรึกษาไม่ได้ออกมาจากใจเป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองมากกว่า

ตนเองมองว่าคำปรึกษาของนายโทนี่นั้นคงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ ไม่ได้ลงมาสัมผัสกับความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง ขณะเดียวกันในสถานะของคนทำผิดที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเช่นนายโทนี่คงไม่สมควรที่จะโทรไปปรึกษา เพราะปรึกษากับนักโทษที่มีคดีทุจริตติดตัวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร

นายเสกสกลยังย้ำว่า ที่ผ่านมานายกฯ รัฐบาล สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ และตนเองก็เห็นแล้วว่าทำได้ดี ทั้งต้องแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทิ้งเอาไว้ เช่น โครงการรับจำนำข้าว และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่สะสมมานาน ได้พัฒนาประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนได้ร่วมมือกันอย่างดี เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้

ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำจากนายโทนี่ ถ้านายโทนี่จะช่วยประเทศชาติได้ในภาวะนี้ คือ หยุดพูดสร้างความสับสนและด้อยค่าคนอื่น หยุดพูดเหน็บแนมคนอื่น หยุดพูดสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยได้แล้ว นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดในยามนี้

ส่วนที่นายโทนี่บอกว่านักการเมืองทั้งเก่งและไม่เก่งจะแคร์ประชาชน แต่คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชนนั้น ตนเองอยากให้นายโทนี่ อย่าเข้าข้างตัวเองมากเกินไป บางทีคนที่อ้างว่ามาจากประชาชน เอาประชาชนมาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทุจริตโกงกินมากมายจนต้องติดคุกติดตารางหรือหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ อย่างนี้ใช่ใหม? หรือออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ตัวเองใช้เสียงข้างมากลากไปจนถูกเรียกเป็นเผด็จการรัฐสภาหรือระบอบทักษิณ การกระทำเช่นนี้ของนักการเมืองใช่ไหม ที่เรียกว่าแคร์ประชาชนหรือเห็นเงาหัวประชาชน ตนเห็นว่าคนที่เป็นนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เห็นแคร์ประชาชนอะไรเลย เพราะวัน ๆ มีแต่ปากออกมาพูด เพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนไม่หยุด เช่นเดียวกับนายโทนี่ไม่คิดช่วยประชาชนในยามวิกฤตโควิด คิดแต่จะล้มรัฐบาลกลับมามีอำนาจไว้ในมืออีก ในขณะที่บ้านเมืองต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนเองก็อยากให้นายโทนี่ออกมาเตือนคนในพรรคเพื่อไทยด้วยว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรทำอย่างยิ่งในขณะนี้

"ตนเองยังยืนยันว่านายกฯ จะต้องทำงานแก้ไขปัญหาจนครบเทอม จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครทั้งนั้น ดังนั้น คงไม่ต้องไปบอกพลเอกประวิตรให้ไปบอกนายกฯ ประยุทธ์ให้ลาออก และการที่นายโทนี่ออกมาพูดไม่หยุดนั้นตนเองก็มองว่าไม่ได้อยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองอะไร เพราะการออกมาพูดแต่ละครั้งไม่มีเนื้อหาสาระอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่พูดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้น อยากมีบทบาทช่วยพรรคเพื่อไทยเป็นการตีกินทางการเมือง กลัวคนจะลืม โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หวังแต่ว่าการออกมาพูดจะช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้เข้ามามีอำนาจเป็นรัฐบาล เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิดและได้กลับประเทศไทยเล่นนั้นใช่ไหม แต่ตนเองมองว่าหากนายโทนี่อยากกลับประเทศไทย และแน่จริงก็ขอให้กลับมาเลยตอนนี้ กลับมารับโทษที่ตัวเองได้ทำผิดเอาไว้ แค่นี้ก็ได้กลับประเทศไทยแล้วโดยไม่ต้องรอเวลา

แต่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ตนจะต้องถามกลับสองข้อสั้น ๆ ว่า...

1.) ถ้ากลับมาพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายคืนให้ประเทศชาติประชาชนในโครงการที่เกิดการทุจริตในยุครัฐบาลนายทักษิณและยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือไม่

2.) พร้อมที่จะกลับเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

ถ้านายโทนี่และนางสาวยิ่งลักษณ์พร้อมรับเงื่อนไขสองข้อนี้ ตนคิดว่า พี่น้องคนไทยส่วนใหญ่คงไม่ขัดข้องที่จะให้กลับได้ถ้าทำตามสองข้อนี้ ไม่ว่านายโทนี่กับน้องสาวจะเดินเข้าทางช่องประตูหน้าหรือประตูหลังหรือประตูไหน ๆ ก็ตาม ตนมั่นใจคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับได้อย่างแน่นอน" นายเสกสกล กล่าว


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ผบ.ทบ.” สั่งแจ้งความ 9 มือโพสต์ ปม ทหารไปบูสต์วัคซีนเข็ม 3 สหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการภาพกำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค.64 ที่สนามบินไปเผยแพร่และบิดเบือนโดยกล่าวหาว่าเดินทางไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 และใช้ภาษีประชาชนเป็นค่าตั๋วเครื่องบินในการเดินทางนั้น

ล่าสุด พล.อ.ณรงพันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้ พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ทำหน้าที่แทนดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่นำภาพไปบิดเบือน จนทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหาย พร้อมให้ พ.อ.ณครสม เนาวบุตร ผู้อำนวยการกองคดี สำนักพระธรรมนุญทหารบก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลล็อตแรก จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย ผู้ในเฟซบุ๊ก จำนวน 8 ราย ทวิตเตอร์ จำนวน 1 ราย และจะมีการทยอยแจ้งความกับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีก ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แง้ม กลับไทยแน่นอน แต่ยังไม่บอกวัน วิเคราะห์ นายกฯ อาจจะอยู่ไม่ครบเทอม

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ Tony Woodsome พูดในรายการ CARE Talk x CARE Clubhouse : "ล็อกดาวน์ แล้วยังไงต่อ? โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าตนเป็นนายกฯ จะไม่ปล่อยให้เป็นขนาดนี้ ไม่ให้คนต้องมานอนรอคิวแน่นอน เรื่องวัคซีนผมดิ้นรนหาแน่ ไม่ใช่กระจุกเป็นบางที่ แต่ต้องกระจายวัคซีนให้ทั่วและไม่ใช่ให้คนต้องมานอนรอคิวแบบที่เห็น

ส่วนเรื่องวัคซีน ถ้าสหรัฐฯ ให้ไฟเซอร์ ก็ควรให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน เพราะเป็นด่านหน้าที่ต่อสู้โรค แล้วตกลงที่สั่งไฟเซอร์มา 20 ล้านโดส แต่วันนี้สัญญายังไม่ไปถึงไหนเลย อย่าคิดให้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบเลย เอาประชาชนก่อนไหม

"เรื่องโควิดทำไมมันแพงทุกอย่าง วันนี้คนลำบาก คนจนก็เยอะ เราเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่อะไรก็แพงหมด Rapid Test ในเยอรมนี วางขายร้านทั่วไป 35 บาท แต่บ้านเราขาย 300-400 บาท มันแพงได้ยังไง วัคซีนก็เหมือนกัน ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าประเทศอื่น ทำไมแพง ส่วน ศบค. ยุบทิ้งไปเถอะ เพราะอำนาจความเป็นนายกฯ สั่งอะไรก็ได้อยู่แล้ว ศบค. เป็นเหมือนหน่วยที่ปรึกษาที่ใช้อำนาจนายกฯ รัฐมนตรีทำอยู่แล้ว คนไหนไม่ได้เรื่องก็ปรับเลยคณะรัฐมนตรี วันนี้ถ้าไม่ปรับออก แสดงว่านายกฯ เองนั้นแหละไม่ได้เรื่อง"

นอกจากนี้นายทักษิณ ยังย้ำเรื่องการกลับประเทศไทยว่า กลับแน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อนว่าเมื่อไหร่ ถ้ากลับไปไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ทั้งนี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์บอกว่า พี่ ๆ ปรึกษาหน่อย ผมก็พร้อมช่วย เวิร์ค ฟอร์ม ดูไบ ให้เลยเต็มที่ เขาเคยเป็นลูกน้องผม ตอนที่ผมเป็นนายก เขาเป็นพันเอก ถ้าเขามาปรึกษาผม ผมพร้อมช่วย คนเคยเป็นนายกฯ ไม่รักบ้านเมืองก็โง่แล้ว

มีคนถามว่า ตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันที่จะไม่ยอมแพ้ ให้วิเคราะห์แบบไม่ต้องเกรงใจกันเลยว่าน่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่ นายทักษิณ กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะดึงยาวที่สุด ส่วนจะดึงแบบไหนเนี่ยคิดว่าช้าที่สุดก็คงยุบสภาไม่น่าจะเกินเดือนมกราฯ -กุมภาฯ ปีหน้า หรืออาจจะสิ้นปี อันนี้เดาแบบการเมือง ไม่ได้เดาแบบรู้ใจ ดูแล้วคิดว่าอาจจะมีการเลือกตั้งช่วงเดือนกุมภาฯ บวกลบนิดหน่อย ไม่อยู่ครบเทอมหรอก ตนไม่ได้ประเมินแบบเกรงใจ แต่ประเมินจากความทนทาน

เมื่อถามต่อว่า ถ้ามีการยุบสภา แต่ส.ว.ยังยกมือเลือกพล.อ.ประยุทธ์อีกเหมือนเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า มันอยู่ที่พรรคการเมืองไหนจะได้อันดับหนึ่ง ถ้าพรรคที่ชนะพรรคพลังประชารัฐมาก ๆ ถล่มทลาย ตนเชื่อว่า ส.ว. ก็คงยกมือให้ไม่ไหว ผู้นำจีนชอบพูดว่า ถ้าจะครองเมือง ต้องครองใจประชาชนให้ได้ก่อน เพราะฉะนั้นถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะกลับมา ในช่วงจากนี้ไปจนถึงเดือนกุมภาฯ ก็ต้องหาวิธีการครองใจประชาชนให้ได้ก่อนถึงจะได้ครองเมือง แต่ถ้าคิดว่าจะกลับมาโดยไม่ครองใจประชาชนก็คงลำบาก

ถามอีกว่า พี่โทนี่มีอะไรจะบอกคนที่ยังเชียร์พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน เราต้องรักเพื่อนร่วมชาติ ต้องไม่มีอคติต่อกัน วันนี้อาจจะชอบ พรุ่งนี้อาจจะไม่ชอบ เหมือนอย่างตน ก่อนหน้านี้มีคนชอบ ต่อมาก็ไม่ชอบ แล้วก็มาชอบ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสติ อะไรที่ดีที่สุดสำหรับประเทศให้เลือกสิ่งนั้น คิดกันให้รอบคอบ ต้องรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี แล้วไปตัดสินกันที่การเลือกตั้ง


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/587453


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หากประเทศไทยผลิต ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ได้เอง จะเกิดผลดีอย่างไร?

เมื่อวานมีข่าวดี รัฐบาลออกมาอัปเดตความคืบหน้าในการผลิต ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ขึ้นเองในประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท. ที่ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ โดยล่าสุดสามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิ์ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว

สเต็ปต่อมา คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ จะผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และต่อจากนั้น จะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 ภายในประเทศ ได้ใช้ในการรักษาต่อไป

ถือเป็นความสำเร็จ และเป็นข่าวดี ท่ามกลางสภาวะที่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มากขึ้นทุกวัน โดยปัจจุบัน ยาฟาวิพิราเวียร์ ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำหน้าที่ขจัดเชื้อไวรัสออกไปจากร่างกาย ช่วยป้องกันอาการเชื้อลงปอดและภาวะอักเสบ แต่มีผลข้างเคียงที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่โดยรวมถือเป็นยาที่มีความสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในเวลานี้

THE STATES TIMES ไปรวบรวม ‘ข้อดี’ หากว่า ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ จะได้รับการผลิตขึ้นเองภายในประเทศ มาบอกกัน...


อ้างอิง : https://www.gpo.or.th/view/425, https://www.thaihealth.or.th/Content/54569

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6506350


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย !! ผู้รุกรานทางทะเลในถิ่นแดนมังกร ปมแผลลึก 'ปลุกจีน' ฮุบมหาอำนาจทางทะเล I Knowledge Times EP.1

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’

???? 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย !! ผู้รุกรานทางทะเลในถิ่นแดนมังกร 
ปมแผลลึก 'ปลุกจีน' ฮุบมหาอำนาจทางทะเล

เมื่อกองเรือไม่ใช่แค่อำนาจทางการทหารอีกต่อไป แต่เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ประกันทางด้านความปลอดภัย ของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

และนี่คืออีกวิธีการของจีน ที่จะนำมารักษา เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ  

โดยในปี 2050 หรืออีก 30 ปี จีนมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นมาเป็น Navy Supremacy หรือ มหาอำนาจทางกองทัพเรือ ที่พร้อมเขี่ยให้สหรัฐฯ ตกขอบ และชูกองเรือของจีน ให้ก้าวขึ้นมาป็นอันดับ 1 ที่มีอำนาจสูงสุดทางทะเล 

ทำไมจีนถึงคิดแบบนี้ ?

เรื่องนี้มีเหตุมาจากรอยแผลในอดีตของแดนมังกร

เพราะจีนได้รับความเจ็บปวดจากสงครามฝิ่น ทั้ง 2 ครั้ง จากการเข้ามาของชาติตะวันตก ทั้งจากประเทศอังกฤษ และฝรั่งเศส ที่เข้ามาปิดล้อมประเทศจีนด้วยกองเรือ สร้างความเสียหายมากมายหลายด้านให้แก่จีน 

ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็เดินทางเข้ารุกรานทางทะเลและทำการยึดครองจีน 

เช่นเดียวกัน ในการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยครั้งแรกในไต้หวัน / สหรัฐฯ ได้ส่งเรือขนเครื่องบินเข้ามาเกาะใต้หวัน ซึ่งถือว่าเป็นความอัปยศทางการทหารของจีน

สังเกตให้ดีว่า 'บาดแผลทั้งหมด' ล้วนเกิดขึ้นจากการถูกรุกรานทางทะเล 

ดังนั้น จีนจึงแก้เกมด้วยการ เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมเรือรบ ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากรัสเซีย และเร่งการผลิต เพื่อที่จะช่วยลดช่องว่างอำนาจทางทะเล / ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ให้น้อยที่สุด

นอกจากกองเรือแล้ว สิ่งที่จีนคิดต่อ คือ การเร่งป้องกันชายฝั่ง เพื่อป้องกันชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างขีปนาวุธ ที่วางเป็นโดมเหล็กไว้ป้องกันชายฝั่งของจีน 

ซึ่งล่าสุด จีน ได้สร้างขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่ครอบคลุมการป้องกันไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้บริเวณเกาะกวม ที่เรียกได้ว่าเป็นพรมแดนสุดท้ายสหรัฐฯ 

และดูเหมือนว่าจีนจะสามารถตัดกำลังบำรุงของสหรัฐฯ ได้จากบริเวณนี้ 

นโนบายเหล่านี้ เป็นเพียงก้าวแรกของจีน ที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ระดับจีนแล้ว เมื่อคิดทำการณ์ใหญ่ใด ย่อมคิดไกลมากกว่าที่เคย

ฉะนั้น ในส่วนของอำนาจทางทะเล ที่จีนคิดในปี 2050 เพื่อเป็น Navy Supremacy จึงไม่น่าเป็นเรื่องล้อเล่น แต่จะไปตามแผนแค่ไหน เรื่องนี้ต้องตามดูกันต่อไป...


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top