Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

มหาดไทย เบรกจดหมายลาออกผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เสนอย้ายแล้ว สลับ 3 เก้าอี้ผู้ว่าฯ ให้ ‘วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี’ กลับบ้าน เป็นผู้ว่าฯ อ่างทอง พร้อมโยก ‘ณรงค์ รักร้อย’ จากอุทัยธานี ไปเป็นผู้ว่าฯ สมุทรสาครคนใหม่

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 3 ตำแหน่ง โดยให้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร คนใหม่ และนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการอ่างทอง ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี  

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทยเสนอโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยหลายตำแหน่ง แต่ไร้ชื่อนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร 

ต่อมา นายวีระศักดิ์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงเจตจำนงค์ของลาออก เนื่องจากปัญหาสุขภาพ จากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อปลายปี 2563 ในการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 และตัดพ้อถึงการโยกย้าย ก่อนยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ

จากนั้นมีรายงานว่าทางกระทรวงมหาดไทย ได้ระงับหนังสือลาออกฉบับดังกล่าว ก่อนเสนอโยกย้าย ที่วันนี้จะมีมติครม.ดังกล่าว

สำหรับ ‘ผู้ว่าฯ ปู นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี’ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เกิดวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2504  เกษียณอายุราชการ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 ภูมิลำเนาพื้นเพเป็นชาวจังหวัดอ่างทอง ซึ่งคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้ถือเป็นการย้ายกลับมาบ้านเกิด

สำหรับ ‘นายณรงค์ รักร้อย’ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ว่าที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร คนใหม่นั้น ปัจจุบันอายุ 58 ปี เกิดวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2506


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม.อนุมัติค่าเครื่องมือนักเรียนอาชีวศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติอัตราค่าเครื่องมือประจำตัวผู้เรียนเฉพาะอาชีพของนักเรียนสายอาชีพ อาชีวศึกษาต่อคน ตามประเภทวิชา ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจำนวน 10 ประเภทวิชา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป 

สำหรับการช่วยเหลือ ประกอบด้วย ประเภทวิชาอุตสาหกรรมอัตราค่าเครื่องมือ  2,000 บาทต่อคนต่อปีการศึกษา,  พาณิชยกรรม 1,000 บาท, ศิลปกรรม 1,000 บาท, คหกรรม 1,200 บาท, เกษตรกรรรม 1,600 บาท, ประมง 1,200 บาท, อุตสาหกรรมสิ่งทอ  1,200 บาท, เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 1,800 บาท, อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1,200 บาท และ อุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรี 1,000 บาท

ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะฝีมือให้เต็มศักยภาพ ฝึกประสบการณ์อาชีพได้อย่างเต็มที่ต่อเนื่องตลอดหลักสูตร เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษา และยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง สร้างแรงจูงใจให้มีการเรียนต่อสายอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน 

ส่วนงบประมาณการค่าใช้จ่ายในปีการศึกษา 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 383 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าเครื่องมือนักเรียนสายอาชีพระดับปวช.ปีที่ 1 ในสถานศึกษาของรัฐ 429 แห่ง จำนวน 275ล้านบาท และสถานศึกษาของเอกชน 445 แห่ง จำนวน 107ล้านบาท

ครม.เห็นชอบเพิ่มทุน 4.18 พันลบ. ให้ EXIM Bank มุ่งช่วยเหลือ SME ขยายตลาดในประเทศ CLMV และตลาดใหม่

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ว่า ครม.เห็นชอบกำหนดให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM Bank ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขั้น แต่ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ.2558 สามารถใช้เงินจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อการเพิ่มทุนได้ และอนุมัติกรอบวงเงินที่จะจัดสรรจากกองทุนฯ เพื่อการเพิ่มทุน เพื่อขยายการดำเนินงานให้แก่ ธสน. จำนวนไม่เกิน 4,189 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อมุ่งช่วยเหลือและสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ SMEs เป็นหลัก สามารถทำการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

โดยมีเป้าหมายขยายการดำเนินงานในกลุ่มตลาด 3 กลุ่ม ได้แก่ 1)ตลาดในประเทศ 2) ตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และ3)ตลาดใหม่ (New Frontiers) เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายสถาบันการเงินเฉพาะกิจระยะ 5 ปี (ปี 2564-2568) ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นควรให้กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีการกำหนดตัวชี้วัดเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์จากการเพิ่มทุน ธสน. อย่างน้อยให้ครอบคลุมตัวชี้วัด เช่น ด้านการขยายสินเชื่อ ด้านฐานะทางการเงิน ด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น

‘สิระ’ ยังไม่จ่าย 1 ล้าน กังขา ‘ไฮโซลูกนัท’ ตาบอดจริงหรือไม่ หลังแหล่งข่าวกระซิบมองเห็น 15% ยันไม่บ่ายเบี่ยง ลั่น เงินมีเยอะ ท้า ตรวจหมอคนกลางรพ.รัฐ 3 คน พิสูจน์ความจริง

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการท้าพิสูจน์กับนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ว่าดวงตาบอดสนิทจริงหรือไม่ ว่า วันนี้ไม่ขอเรียกว่าไฮโซลูกนัทแล้ว ขอเรียกนายธนัตถ์ เพราะรู้สึกว่าพ่อแม่ของนายธนัตถ์ไม่แฮปปี้ตามที่เป็นข่าว เพราะได้ไปร่วมชุมนุม ส่วนเรื่องของดวงตา เมื่อวานนี้ตนบอกว่าหากนายธนัตถ์ตาบอดสนิทและต้องหาแพทย์มายืนยันพร้อมใบรับรองแพทย์ ตนพร้อมให้เงิน 1 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคืนนี้เห็นว่ามีใบรับรองแพทย์แล้ว และแพทย์บอกว่าต้องรักษาดวงตา 6 เดือน ถามว่าตอนนี้บอดสนิทจริงหรือไม่ ซึ่งที่ตนทราบมาจากแหล่งข่าว อาจเป็นข่าวดีของนายธนัตถ์ว่ามองเห็นแล้ว 15% ซึ่งหากเป็นข่าวดีและข่าวจริงก็ขอแสดงความดีใจกับนายธนัตถ์ว่าดวงตาพอมองเห็น

นายสิระ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) นายธนัตถ์ได้ไปออกรายการโทรทัศน์ ซึ่งตนจับผิดได้หลายเรื่อง คือการที่นายธนัตถ์มาแหกตาตัวเองก็แหกตาได้คนเดียว จะแหกตาคนทั้งประเทศไม่ได้ แค่นิ้วอยู่ใกล้ดวงตา ตาก็กระพริบ คนตาบอดที่ไหนจะกระพริบตา และเมื่อวานนี้แพทย์ไปหรือไม่ ก็ไม่ได้ไป ใครเขาจะให้คนตาใกล้บอดไปแหกตาออกทีวี พิธีกรใจร้ายไปหรือไม่ นายธนัตถ์แหกตาตัวเองเพื่ออะไร เรื่องนี้ต้องให้แพทย์แหก ต้องการแหกตาตัวเองเพื่อแหกตาคนทั้งประเทศหรือ หากนายธนัตถ์ตาบอดสนิทจริง ใบรับรองแพทย์ต้องระบุว่าไม่สามารถรักษาได้ แล้วทำไมถึงบอกว่าต้องรักษา 6 เดือน หากตาบอดจริงไปถามแพทย์เลยว่าต้องควักดวงตาออกหรือไม่ เมื่อควักดวงตาออกแล้วจะใส่ดวงตาเทียมหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากตาบอดจริงตนต้องขอแสดงความเสียใจกับนายธนัตถ์ และตนจะพานายธนัตถ์ไปสภากาชาดไทยเพื่อขอไปรับบริจาคดวงตาจากผู้มีจิตศรัทธา

“ถ้านายธนัตถ์แน่จริง วันจันทร์นัดเจอกัน ไม่เอาที่สภา มาที่บ้านผมก็ได้ ผมเอาเงิน 1 ล้านบาท ส่วนนายธนัตถ์เอาเงิน 10 ล้านบาทมาประกบกันและหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้แพทย์คนกลางมาตรวจสอบ 3 คนว่านายธนัตถ์ตาบอดจริงหรือไม่ ผมก็กลัวว่าตอนนี้ที่บ้านไม่เอาด้วย นายธนัตถ์จะมีเงิน 10 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งหากนายธนัตถ์ไม่ได้ตาบอดจริง ผมก็ขอให้นายธนัตถ์เอาเงิน 10 ล้านบาทไปซื้อข้าวหอมมะลิแจกคนหลักสี่-จตุจักร และผมจะบอกว่าเงินค่าข้าวสารหอมมะลินี้มาจากนายธนัตถ์” นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่าวันนี้นายธนัตถ์จะเดินทางมาที่รัฐสภาจะไปเจอกันหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ไม่เจอ เพราะว่าสิ่งที่เขานำมาแพทย์คนเดียวจะวินิจฉัยถูกหรือไม่ เคยเห็นหรือไม่แพทย์ลืมผ้าก๊อซในช่องท้อง หรือแพทย์วินิจฉัยโรคและทำให้คนตาย วันนี้หากนายธนัตถ์ตาบอดจริงไปเบิกประกันหรือยัง ตนเชื่อว่ามีการทำประกัน ไปถามประกันเลยว่านายธนัตถ์ได้มาทำเรื่องตาบอดสนิทหรือยัง

เมื่อถามว่าเป็นการบ่ายเบี่ยงที่จะไม่จ่ายเงินหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ‘ไม่ใช่บ่ายเบี่ยง ถามว่าแพทย์คนเดียวจะเชื่อได้หรือไม่ว่าวินิจฉัยถูกต้อง และแพทย์คนนั้นเป็นคนรักษาซึ่งรับเงินค่ารักษาจากนายธนัตถ์อยู่แล้ว ทำไมไม่เอาแพทย์คนกลาง เงินน่ะผมมีเยอะ ผมต้องการจ่ายและจะแสดงความยินดีกับนายธนัตถ์ที่ไม่เสียดวงตา แต่หากตาไม่บอดจริง นายธนัตถ์ก็ต้องทำตามที่พูด หากอยากพิสูจน์ความจริงเอาแพทย์คนกลางจากโรงพยาบาลรัฐบาล หากนายธนัตถ์แน่จริงมั่นใจว่าดวงตาบอดสนิท ทำไมไม่ยอมพิสูจน์กับหมอคนกลาง ผมคิดว่าแฟร์ ๆ’ 


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม.ไฟเขียวคงเก็บภาษีแวตไว้ที่ 7% นาน 2 ปี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยให้คงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตรา 7% สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีที่เกิดขึ้น เป้นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2566 พร้อมทั้งรับทราบมาตรการภาษีบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID - 19 ที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการไปควบคู่กัน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ประชาชนและผู้ประกอบการและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับมาตรการภาษีอื่น ๆ มีดังนี้ 1. ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ การนำส่ง และการชำระภาษีอากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เงินหรือสภาพคล่องอยู่ในมือประชาชนและผู้ประกอบการให้ยาวนานขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการสาธารณะ โดยการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการฯ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้อยู่ในมือประชาชนและผู้ประกอบการในระบบเศรษฐกิจประมาณ 181,221 ล้านบาท 

2. งดหรือลดเบี้ยปรับสำหรับกรณีที่ประชาชนและผู้ประกอบการไม่สามารถยื่นแบบแสดงรายการฯ ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะภายในกำหนดเวลา หรือยื่นแบบแสดงรายการฯ ผิดพลาด สำหรับแบบที่ต้องยื่นภายในเดือนก.ย. – ธ.ค. 2564 ตามลำดับ โดยหากยื่นแบบฯ ภายใน 3 เดือน นับแต่พ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบฯ ที่ได้ขยายออกไปข้างต้นจะได้รับการงดหรือลดเบี้ยปรับ โดยงดเบี้ยปรับเมื่อชำระภาษีและเงินเพิ่มครบถ้วน และลดเบี้ยปรับในอัตราต่ำสุด 2% เมื่อชำระภาษีไม่น้อยกว่า 25% ของภาษีที่ต้องชำระ

นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังได้ลดค่าปรับทางอาญากรณีดังกล่าวให้เหลืออัตราต่ำสุด โดยหากมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ลดเหลือ 1 บาท หากมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ลดเหลือ 2 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากค่าปรับทางอาญาเป็นการเปรียบเทียบปรับแทนการฟ้องร้องดำเนินคดี จึงไม่อาจงดค่าปรับให้ได้

ครม. เปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลใหม่ ‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ ขึ้นแท่นตามประสงค์นายกฯ หวังเพิ่มบทบาทให้ตอบโต้ทางการเมืองมากขึ้น

ทำเนียบรัฐบาล 24 ส.ค.- ที่ประชุมครม. เปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลใหม่ ‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ ขึ้นแท่นตามประสงค์นายกฯ หวังเพิ่มบทบาทให้ตอบโต้ ทางการเมืองมากขึ้น พร้อมโยก ‘อนุชา บุรพชัยศรี’ นั่งรองเลขาฯ นายกฯ ฝ่ายการเมือง ส่วน ‘นพ.ไตรยฤทธิ์’ เป็นอธิบดีดีเอสไอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน วันนี้ (24 ส.ค.) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คนใหม่

ขณะเดียวกันเห็นชอบให้นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทนนายอนุชา บูรพชัยศรี มาที่ถูกโยกไปเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลคนใหม่เป็นความประสงค์โดยตรงของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต้องการให้โฆษกรัฐบาลคนใหม่เข้ามามีบทบาทตอบโต้ทางการเมืองมากยิ่งขึ้น


ที่มา : https://tna.mcot.net/politics-764733


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สายเขียวเฮ ! ปลดล็อก เสรี ‘กระท่อม’ แล้ว มีไว้ครอบครอง ซื้อขายได้ ‘รมว.ยุติธรรม’ เผยปล่อยตัวนักโทษกระท่อม 1,038 คน 

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงปลดล็อค ให้พืชกระท่อมไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป หลังเริ่มมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 8 พ.ศ. 2564 วันนี้เป็นวันแรก โดยให้ถือว่าประชาชนสามารถปลูกพืชกระท่อมได้อย่างเสรี หรือจะบริโภคก็สามารถทำได้ ส่วนกรณีการเทียบสัดส่วน 4×100 ยังเป็การผิดกฎหมายอยู่ 

โดยสาระสำคัญการบังคับใชกฎหมายคือให้ผู้ที่ปลูกกระท่อม ไว้ครอบครองสามารถซื้อ ขาย หรือนำมาบดเคี้ยวได้ และปลูกต้นกระท่อมเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังขยายไปถึงการสามารถส่งขายเป็นพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมโดยไม่ต้องขออนุญาต และหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายรองตามมา ซึ่งจะมีบทบัญญัติเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดห้ามขายให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นเยาวชน รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเตรียมกำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น ในโรงเรียน วัด ส่วนประเภทธุรกิจการส่งออกหรือนำเข้านั้นจะต้องขออนุญาต

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดี อยู่ในเรือนจำ 1,038 คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจ และอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด   


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศรีสุวรรณ เรียก "โลโซลูกนัท" หลังแจ้งความสน.ชนะสงคราม ฝ่ากฎหมายร่วมม็อบ-แต่งกายเลียนแบบไม่เหมาะสม

ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ "ไฮโซลูกนัท" ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มทะลุฟ้าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.64 ที่ผ่านมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีฐานความผิดหลายข้อหา อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองนั้น

การกระทำดังกล่าวเริ่มต้นที่สี่แยกคอกวัว แล้วเคลื่อนขบวนพาเหรดกีฬาสีทะลุฟ้า ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นการกีดขวางทางสัญจรของประชาชน มีการปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ซึ่งมีแนวร่วมส่งเสียงโหวกเวก เป็นที่เบื่อหน่าย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสาธารณะ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ย่ำเกรงกฎหมายของบ้านเมือง ทั้งๆที่นายธนัตถ์เคยเป็นถึงผู้สมัคร ส.ส. เป็นผู้มีมีการศึกษาสูง ควรที่จะมีสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง รู้ชอบชั่วดี แยกผิด แยกถูกได้ แต่กลับมาเป็นแกนนำสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง

การกระทำของไฮโซลูกนัท มีหลายกระทงความผิดด้วยกัน อาทิ ความผิดฐานฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง(ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 3 ส.ค.64, ความผิดฐานฝ่าฝืน หรือการกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558

อีกทั้งยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป  หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก ตาม ม.216, ความผิดฐานกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 และยังพบว่าบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีการพ่นข้อความในลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี ตาม ปอ.112 ด้วย ซึ่งไฮโซลูกนัทและผู้ที่ร่วมชุมนุมดังกล่าวย่อมต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำความผิดมาตราดังกล่าวด้วย ตาม ป.อ.มาตรา 83 นอกจากนั้นยังแต่กาย Cosplay ใส่สูท สะพายกล้อง ตาบอดในลักษณะล้อเลียนเบื้องสูง ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันมากมายทั้งประเทศ

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยให้นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ซึ่งต้องเรียกใหม่ว่า "โลโซลูกนัท" ย่ามใจในการชุมนุมที่ผิดกฎหมายสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมดังกล่าวต่อไปอีกได้ จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามในวันนี้ เพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดและดำเนินคดีตามครรลองของกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคม

“ก้าวไกล” ยันจุดยืนแก้รธน. หนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เสนอ ปรับปรุงคำนวณคะแนนรธน.ปี 40 เอื้อพรรคใหญ่ โว ใครจะไปรู้ บัตร 2 ใบ ปี 40 ก้าวไกลอาจได้แลนด์สไลด์ 

ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่. … พ.ศ. … (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือก) รัฐสภา แถลงจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อวาระการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 24-25 ส.ค.เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

โดยนาย ปดิพัทธ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล คือ 1.สนับสนุนการแก้ไขกติกาการเลือกตั้งให้ใช้บัตร 2 ใบ และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมกลายพันธุ์ตามรัฐธรรมนูญ 60 อันเป็นปัญหาทางการเมืองและความไม่สง่างามของรัฐสภาในปัจจุบัน 2.ขอเสนอให้ปรับปรุงกติกาการคำนวณคะแนนของรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เหมือนกับที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะถึงจะเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของพรรคการเมือง แต่มีความชัดเจนในข้อเท็จจริงว่าเป็นการคำนวณคะแนนที่เบี่ยงเบน ไม่สะท้อนเสียงที่ถูกต้องของประชาชนที่ลงคะแนน และเอื้อประโยชน์ให้ให้กับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 3.ขอเสนอการคำนวณจำนวนเก้าอี้ ส.ส. ด้วยระบบจัดสรรปันสัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อให้จำนวนเก้าอี้ ส.ส. ตรงกับจำนวนคะแนนของพรรคที่ได้รับในการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงของประชาชนได้อย่างถูกต้อง ป้องกันการเกิดเสียงข้างมากและทำให้การเลือกตั้งเป็นกระบวนการสร้างฉันทามติ

นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า 4.พรรคก้าวไกลยืนหยัดในความถูกต้อง ชอบธรรมของกระบวนการนิติบัญญัติ เนื่องจากการพิจารณาในชั้นกมธ. มีกมธ.จำนวนมากและนักวิชาการทางกฎหมาย ได้ชี้ถึงประเด็นที่บกพร่องในร่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหลักการไว้แคบมากให้แก้ไขเพียง 2 มาตรา เหตุผลประกอบหลักการที่ขัดแย้งในตัวเอง และกมธ.เสียงข้างมากที่หยิบเอามาตราที่รัฐสภามีมติไม่เห็นชอบไปแล้วในวาระที่ 1 มาเพิ่มในชั้นกมธ. การเพิ่มเติมและตัดมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในหลักการ ถือเป็นการกระทำที่ทำลายหลักความถูกต้องของกระบวนการนิติบัญญัติ รวมถึงจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงที่อันตรายในอนาคตและสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น นายธีรัจชัย จึงได้เสนอญัตติด่วนให้รัฐสภาวินิจฉัยก่อนจะพิจารณาในวาระ 2 และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอการแปรญัตติสงวนความเห็นในมาตรา 83 และ 91 เท่านั้น เพื่อเป็นทางออกให้กับรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอย่างถูกต้อง รอบคอบที่สุด

ด้าน นายธีรัจชัย กล่าวถึงญัตติขอให้รัฐสภาวินิจฉัยตีความข้อบังคับรัฐสภา ว่า ในการทำงานของคณะกมธ.มีการพิจารณาว่า สามารถแก้ไขให้เหมือนร่างของพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยที่ถูกตีตกในชั้นรับหลักการไปแล้วได้หรือไม่ นอกจากนี้ กมธ.บางคนยังได้อ้างถึงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 114 หลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ให้กำหนดโดยชัดแจ้ง หมายความว่า แก้ไขได้เฉพาะมาตรา 83 และมาตรา 91 เท่านั้น แต่ที่แก้ไขปัจจุบันมีการแก้ไขที่นอกเหนือจาก 2 มาตรานี้ ซึ่งกมธ.บางคนได้ระบุไว้ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถนำสิ่งที่ถูกตีตกแล้วมาใส่ไว้ได้ แต่ตามข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 124 กำหนดไว้ว่าให้สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้แปรญัตติเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลง แต่ในชั้นกมธ.นั้น กมธ.กลับเป็นผู้เสนอแก้ไขเอง โดยไม่ได้มาจาก ส.ส.หรือส.ว.แปรญัตติ ขณะเดียวกันกระบวนการพิจารณากฎหมายมหาชน หลักคือไม่มีกฎหมาย ไม่มีอำนาจ ซึ่งกมธ.ไม่มีกฎหมายให้อำนาจว่าจะต้องแก้ไขขัดต่อหลักการหรือเกินกว่าหลักการได้ แต่สามารถแก้อะไรก็ได้ภายใต้หลักการ ที่ผ่านมาในชั้นกมธ. ไม่ให้กมธ.ลงมติว่าเห็นด้วยกับผู้แปรญัตติหรือไม่ แต่บอกว่าหากผู้แปรญัตติไม่เห็นด้วยกับกมธ.ให้สงวนความเห็น การกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ชอบ

เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลแก้ระบบเลือกตั้งเพื่อให้พรรคได้ประโยชน์ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ระบบการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้ประโยชน์ที่สุดคือบัตรใบเดียว เพราะจะทำให้เราได้ ส.ส.จำนวนมาก แต่ต่อให้เป็นบัตร 2 ใบ แบบปี 40 ใครจะไปรู้ แลนด์สไลด์รอบหน้าอาจจะมาที่พรรคก้าวไกลก็เป็นไปได้ ตั้งแต่วาระที่ 1 พรรคก้าวไกลได้เคยยืนยันไปแล้วว่านักการเมืองไม่ควรมาเถียงกันเอง แต่ควรเป็นเรื่องของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในการร่างรัฐธรรมนูญและเคยบอกไปแล้วว่าหากแก้ระบบเลือกตั้งแต่ไม่ปิดสวิตช์ ส.ว. ไม่มีประโยชน์ แต่ตอนนี้ต้องสู้เพื่อความถูกต้อง คือกระบวนการนิติบัญญัติจะต้องถุกต้อง หากผ่านไปเช่นนี้จะเป็นปัญหาในอนาคตและเป็นบรรทัดฐานอย่างไม่รู้จบ พรรคก้าวไกลไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อความถูกของกติกา

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนต่อไป เราจะสู้เรื่องการวินิจฉัยข้อบังคับก่อน ไม่แน่ว่าเราอาจจะชนะในรอบนี้ก็ได้

“บิ๊กตู่” สั่งติดตามผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้านและดูแลผ่านระบบออนไลน์

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ตอนหนึ่งว่า ขอให้ติดตามผู้ป่วยโควิด - 19 ที่กักตัวที่บ้านและดูแลผ่านระบบออนไลน์ โดยขอให้ทำงานต่อไป ทุกโรงพยาบาลให้มีการดูแลผู้ป่วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังขอให้ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณให้เพียงพอ และยังกล่าวถึงการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด- 19  mRNAของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคืบหน้าไปอย่างมากโดยขอให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้ติดตามอย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top