Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

“นายกฯ” ย้ำ ทุกหน่วยงานหามาตรการจ้างงาน คนทำงาน-นศ.จบใหม่-ดูแลหนี้ครัวเรือน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์ภาวะสังคมประจำไตรมาสที่2/2564จากสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ที่ระบุถึงแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2563โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคการผลิตอุตสาหกรรม ดีขึ้นตามแนวโน้มการส่งออก 

แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นายกฯมอบหมายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันพิจารณามาตรการการจ้างงาน มาตรการพยุงการจ้างงาน ช่วยเหลือให้แรงงานยังมีรายได้ เพราะในช่วงโควิด-19แพร่ระบาด อาจส่งผลกระทบอย่างน้อย 3 ปีตั้งแต่ปี 2563-2565 สร้างจุดเปราะบางมีผู้ว่างงาน ผู้เสมือนว่างงาน คือทำงานไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นรวมถึงต้องมีมาตรการรองรับ กลุ่มนักศึกษาจบใหม่ ที่มีแนวโน้มต้องใช้เวลาหางานยาวนานขึ้น

“นายกฯย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็ว พยุงการจ้างงาน ดูแลรายได้ของประชาชน โดยเร่งใช้จ่ายภาครัฐให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้จีดีพี ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกฯรัฐสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการลักษณะร่วมจ่าย หรือ co-pay โดยดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทุกมาตรการ และต้องตรวจสอบการใช้จ่ายให้โปร่งใส ปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ รวมถึงพิจารณามาตรการบรรเทาภาระหนี้สิน ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การดำเนินการมาตรการต่างๆต้องระมัดระวัง เข้าถึงลูกหนี้จริง ดูผลได้ผลเสียทั้งต่อตัวลูกหนี้กับผู้ประกอบการ ไม่ให้ไปใช้หนี้นอกระบบ ขณะเดียวกันต้องไม่ให้ผู้ประกอบการต้องขาดทุนจนเกิดผลกระทบเชิงระบบการเงินในภาพรวม 

"ผู้กำกับหนุ่ย" ชี้ ใช้กำลังประทุษร้าย ให้ผู้ต้องหารับสารภาพ เป็นวิธีผิดกฎหมาย ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายของ สตช. ย้ำทุกองค์กรมีทั้งคนดี-คนไม่ดี 

พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง จ.ชุมพร พรรคกล้า ในฐานะอดีตผู้กำกับฝ่ายอำนวยการกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊กส่วนตัว กรณีออกหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ กับพวก ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนาว่า 

"ทุกองค์กร มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ผกก.นายหนึ่ง อนาคตไกล สังกัด บช.ภ.6  จับกุมผู้ต้องหาแล้วสอบปากคำด้วยการคลุมถุงดำจนเป็นเหตุให้ ผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย จะอย่างไรก็แล้วแต่ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ ส่วนเรื่องทางคดี...ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการยุติธรรม  ซึ่งปรากฎตามคลิปที่แชร์กันในโซเชียล แต่การครอบถุงดำ...เพื่อให้ผู้ต้องหารับสารภาพ หรืออยากรู้ข้อเท็จจริงบางอย่างในการจับกุมยาเสพติด ไม่ว่าจะขยายผล หรือ เพื่อหาที่ซุกซ่อนยาเสพติดที่ยังเหลืออยู่อีก โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายและปรากฏคลิปประกอบด้วยตามที่เห็นกัน เป็นที่สะเทือนจิตใจ ของประชาชนเป็นอย่างมาก ขอให้วิธีการแบบนี้ เป็นคดีสุดท้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินะครับ "

#จากใจผู้กำกับหนุ่ยซึ่งเคยเป็นนักสืบเก่า 
#อดีตสารสืบสวนและรองผู้กำกับสืบสวน

สภาพัฒน์  เผยตัวเลขไตรมาส2/64 คนตกงานพุ่ง7.3 แสนคน ขณะที่เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ                                                              

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/2564 มีอัตราการว่างงาน อยู่ที่ 1.89% ลดลงเล็กน้อยจาก 1.96% ในไตรมาสที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ว่างงาน 7.3 แสนคน ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะต้องจับตาดูในช่วงนี้คือสิ่งที่ผู้ว่างงานโดยไม่เคยทำงานมาก่อน หรือผู้ที่จบการศึกษาใหม่ที่มีการว่างงานเพิ่มขึ้นกว่า 10% ซึ่งขณะนี้มีอยู่กว่า 2.9 แสนคน โดยแนวโน้มผู้ที่จบการศึกษาจากอุดมศึกษา และอาชีวะศึกษา มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากวิกฤตโควิด โดยมีผู้ว่างงานนานกว่า 12 เดือน กว่า 20.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีอยู่ 11.7%
 
สำหรับประเด็นที่ต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด คือเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นจากากรแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการที่เราใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งกระทบต่อเนื่องไปที่รายได้ของแรงงาน ฉะนั้น ช่วงถัดไปจะต้องมีการดูแลผู้ประกอบการให้สามารถรักษาการจ้างงานให้ได้ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะออกมาในระยะถัดไป เพราะขณะนี้ข้อมูลยอดบัญชีคงค้างต่ำกว่า 5 หมื่นบาท ก็ลดลงต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ามีการนำเงินเก็บออกมาใช้ และจะต้องมีการดูแลแรงงานที่มีการปรับตัว โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาใหม่ จะต้องมีมาตรการออกมาในการจ้างงานระยะสั้น เช่น การฝึกอบรม ทำให้สามารถหารายได้ในช่วงที่รอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
 
อย่างไรก็ตามขณะที่มาตรการช่วยเหลือการจ้างงานด้วยการจ่ายเงินคนละครึ่งจะออกมาเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้สภาพัฒน์กำลังทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาก็มีโครงการของรัฐที่ออกไปช่วยการจ้างงานอยู่หลายโครงการ จะต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าหลายๆ โครงการที่มีการจ้างงานไปแล้วในสถานการณ์เหล่านี้จะต้องมีการต่ออายุโครงการเหล่านั้น เพื่อเร่งคงระดับการจ้างงานไว้ ขณะเดียวกันมาตรการอื่น ๆ ที่จะออกมาขอให้รอติดตาม ซึ่งกำลังจะเร่งเสนอมาตรการอยู่ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการรักษาระดับการจ้างงานได้เช่นกัน
 
ทั้งนี้ในส่วนการจ้างงานในไตรมาส 2/64 ปรับตัวดีขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการจ้างงานภาคเกษตรกรรมปรับเพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากแรงงานที่กลับภูมิลำเนาแล้วเข้าสู่ภาคการเกษตร ขณะที่แรงงานนอกภาคการเกษตร ปรับเพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนสาขาการจ้างงานที่มีการปรับลดลง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น ส่วนชั่วโมงการทำงานปรับดีขึ้นจากปีที่แล้ว เฉลี่ย 41.6% เพิ่มขึ้น 8.8% และจำนวนผู้ทำงานที่ทำงานล่วงเวลา มีกว่า 6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 4.5 ล้านคน โดยชั่วโมงการทำงานที่ปรับเพิ่มขึ้นในส่วนของภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เช่น ผลิตภัณฑ์เคมี ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น
 
อย่างไรก็ตามมองว่ามาตรการล็อกดาวน์ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบแน่นอนต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งการจะเป็นผู้ว่างงานหรือไม่นั้น ขณะนี้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ก็พยายามที่จะคงการจ้างงานเอาไว้เหมือนกัน แต่อาจจะมีการลดค่าจ้าง และอาจจะมีผู้ที่เป็นลักษณะเสมือนว่างงานเพิ่มขึ้น ในช่วงไตรมาส 3 ส่วนแนวโน้มการว่างงานในไตรมาส 3 นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะในช่วงวิกฤตที่ผ่านมามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดพื้นที่ 29 จังหวัด และรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาระยะสั้นก่อนแล้ว ฉะนั้น การจ้างงานจะต้องมาพิจารณาข้อมูลอีกครั้ง ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าแนวโน้มจะมีการว่างงานเพิ่มขึ้นหรือไม่
 
“เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง แต่ยังมีบางสาขาที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะสาขาที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ส่วนภาคท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว ฉะนั้น ในส่วนของผู้เสมือนการว่างงานจะยังต้องมีการเฝ้าระวังจากสถานการณ์ของสาขาเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่มีการฟื้นตัวไม่เท่ากัน โดยสาขาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อดูผู้ที่เป็นลักษณะเสมือนว่างงานว่าเราคงต้องมีอะไรออกมาช่วยด้วย” นายดนุชา กล่าว

พท. ผุด แคมเปญเชิญชวนปชช.ลงชื่อโหวตไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” ผ่านเว็บไซต์ เชื่อศรัทธาปชช.จะชนะมือในสภา 

ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยส.ส.พรรค แถลงข่าว เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อโหวตไม่วางใจรัฐบาล ผ่าน https://www.change.org/prayutgetout  ในหัวข้อ “ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์” เพื่อร่วมแสดงพลัง และเจตจำนง ไม่ยอมรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกต่อไป เพราะเป็นผู้นำที่ไร้ความสามารถ บริหารประเทศล้มเหลวซ้ำซาก ปล่อยปละละเลย ทำให้พี่น้องประชาชนประสบกับภาวะทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ซึ่งการเข้าร่วมลงชื่อในครั้งนี้จะเป็นการแสดงพลังของพี่น้องประชาชนอีกทางหนึ่งตามวิถีประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในสภาที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ส.ค. – 2 ก.ย.นี้  ทั้งนี้ การลงมติไม่ไว้วางใจของประชาชนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล จะได้ตระหนักว่า เสียงข้างมากของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลในสภารวมกับเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่อาจค้ำจุนการอยู่รอดของรัฐบาล และการดำรงอยู่ในตำแหน่งของนายกฯได้ ตรงกันข้ามหากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ขาดความเชื่อมั่น ขาดความไว้วางใจ ขาดศรัทธาที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ บริหารประเทศต่อไป ปัญหาวิกฤตของประเทศที่เผชิญอยู่จะไม่อาจแก้ไขได้ และประเทศจะจมดิ่งลึกลงจนกอบกู้แก้ไขลำบากขึ้นทุกที  

“พรรคเพื่อไทยขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแสดงออกด้วยการร่วมลงชื่อ ลงมติในครั้งนี้ จำนวนผู้ร่วมลงชื่อมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสื่อถึงความปรารถนาของประชาชนได้มากเท่านั้น  เพราะเราเชื่อมั่นว่า มือในสภาหรือจะสู้ศรัทธาของประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเดินหน้าทำหน้าที่เปิดโปงความล้มเหลวทุกด้านที่พล.อ.ประยุทธ์ และพวก ได้ทำไว้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ขอให้พี่น้องประชาชนที่อดทนอดกลั้นกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา รอดูการเช็คบิลของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น” นายสมพงษ์ กล่าว

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า การทำงานในสภากับการทำงานนอกสภา เป็นการทำงานคู่ขนานกันไป ก่อนหน้านี้เราเปิดโอกาสให้ประชาชนส่งข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งขณะนี้ประชาชนส่งข้อมูลมามากพอสมควร 

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า สำหรับแคมเปญเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นการปลุกระดม แต่เป็นการทำงานแบบประชาธิปไตยคู่ขนาน คือ ประชาธิปไตยทางตรง และประชาธิปไตยแบบตัวแทน วันนี้จำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องขับเคลื่อนร่วมกัน ส่วนความพร้อมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมาถึง ตอนนี้ถือว่าพร้อมมาก และกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการปรับเนื้อหาให้คมเข้าเป้า โดยจะเน้นที่เรื่องของโควิด – 19 เศรษฐกิจ และการทุจริตคอรัปชั่น หลายเรื่องเป็นบรรยากาศที่ไม่ควรเกิด เราจะต้องชี้ให้เห็นว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยการทุจริต 

ถามต่อว่า เป็นลักษณะที่ชี้ให้สังคมเห็นเหมือนในหลายครั้งที่ผ่านมาหรือครั้งนี้จะมีใบเสร็จที่จะชี้ชัดเอาผิดทางอาญาต่อไปได้ นายสุทิน กล่าวว่า มีทั้งที่มีใบเสร็จ และบางส่วนที่มีการทุจริต ความไม่ชอบมาพากลสมัยใหม่ไม่มีใบเสร็จ เมื่อไม่มีใบเสร็จก็จะชี้ให้เห็นว่าเมื่อได้ฟังแล้วจะเชื่อได้ว่ามีการทุจริต และความผิดพลาด ไม่มีใบเสร็จหรอกสมัยใหม่ แต่พูดแล้วเชื่อ

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้มั่นใจว่าจะน็อครัฐบาลได้เลยหรือไม่ หรือเป็นการเปิดเนื้อหาต่างๆ ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความล้มเหลวเท่านั้น นายสุทิน กล่าวว่า แม้ฝ่ายค้านจะยังไม่อภิปราย ตนเชื่อว่ารัฐบาลต้องหาความชอบธรรม เพียงแต่เราได้ตอกย้ำ และชี้ให้เห็นชัดเจนเท่านั้น ส่วนจะน็อคได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าอยู่ที่ระดับสำนึกของรัฐบาล ว่าเป็นรัฐบาลที่มีสำนึก และรับผิดชอบต่อประชาชนสูง วันนี้ประชาชนน็อครัฐบาลไปแล้ว และสังคมอภิปรายไปก่อนเราแล้ว ไม่ต้องถึงมือเราแต่เชื่อว่าหากถึงมือเราถ้าอยู่ก็คงลำบาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า บรรดาส.ส.ของพรรคเพื่อไทย พร้อมใจกันแต่งกายใส่สูทผูกเนคไทดำ ซึ่งนายประเสริฐ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในความล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี

ร้องต่อ! ศรีสุวรรณ จ่อยื่น ป.ป.ท. สอบแพทย์นครสวรรค์ ออกใบรับรอง การตายหนุ่มถูกถุงคลุมหัวดับ ส่อทุจริตต่อหน้าที่

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นการทั่วไปว่า จากกรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะผู้กำกับโจ้ใช้ถุงคลุมศีรษะรีดเงิน 2 ล้าน ฆ่าพ่อค้ายาเสพติดจนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในขณะนี้นั้น 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ล่าสุดในสื่อออนไลน์ต่างๆยังมีการเปิดเผยเอกสารอีกหนึ่งฉบับ คือหนังสือรับรองการตายของผู้ต้องหา ที่ออกโดยแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ พร้อมระบุสาเหตุการเสียชีวิตโดย สันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตเพราะพิษจากสารแอมเฟตามีน ซึ่งหลังจากมีเอกสารนี้เปิดเผยออกมา จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างมาก ว่าการกระทำในคลิปกับการระบุสาเหตุการตายในเอกสาร มันขัดแย้งกันหรือไม่ 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การเขียนสาเหตุของการตายว่า  “สันนิษฐานว่า พิษจากสารแอมเฟตามีน” ซึ่งระบุเหตุแห่งที่ตายคือการ Overdose ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริงที่เป็นข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏในคลิปวิดีโอโดยชัดแจ้ง การเขียนในลักษณะนี้ชี้ให้เห็นว่า เป็นการจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการหรือไม่ ซึ่งหาพิสูจน์แล้วว่าเป็นการร่วมมือกันกับตำรวจในกรณีดังกล่าวจริง แพทยสภาจะต้องดำเนินการถอนถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ในลำดับถัดไปด้วย เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและขัดต่อจรรยาบรรณแพทย์อย่างร้ายแรง

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แม้เป็นแค่หนังสือรับรองการตายหรือใบ ท.ร. ให้ญาตินำไปขอใบมรณะบัตรที่อำเภอ จะได้นำศพไปทำพิธีได้ ซึ่งหนังสือรับรองการตายมีความมุ่งหมายเพื่อเก็บสถิติการตาย ไม่เกี่ยวกับใบชันสูตรพลิกศพที่หมอจะออกมาให้ตำรวจเพื่อใช้ทำคดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อศพมาถึง รพ. การแอดมิทตรวจร่างกายทั่วไปว่าพบร่องรอยชัดเจนใดๆ ที่เป็นสาเหตุการตายหรือไม่ หรือทำแค่ฟังตำรวจให้ว่าเสพยาบ้ามาและช๊อคหมดสติไปเท่านั้น เพราะถ้าเป็นการตายผิดธรรมชาติตามระเบียบต้องมีการผ่าชันสูตรศพเท่านั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา148 วรรคหนึ่งกำหนด แล้วจึงออกใบชันสูตรศพให้อีกครั้ง ว่าตายจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งจะนำไปสู่การไต่สวนโดยศาล ตามมาตรา 150 ว.3  และ ว.5 ต่อไป แต่ประเด็นสำคัญคือ ศพได้ผ่าจริงๆหรือไม่ เท่านั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นข้อพิรุธ ที่อาจเชื่อได้ว่าแพทย์จากโรงพยาบาลดังกล่าว อาจร่วมมือกับตำรวจในการจัดทำเอกสารใบรับรองการตายอันเป็นเท็จ เพื่อทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปจากข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นอันตรายต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ในวันพฤหัสที่ 26 ส.ค.64 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ท.อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อให้สอบสวนเอาผิดนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

โฆษกรัฐคนใหม่ เผย “บิ๊กตู่” กำชับดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด “แจง” เงินช่วยเหลือ ม. 33 ใน 16 จ.โอนแล้วกว่า 600 ล้าน ส่วน ม.39 โอนแล้ว 5.6 พันล้าน ขณะที่ ม.40 รอรับระหว่าง 24 - 25 ส.ค. วันละ 2 ล้านคน จากนั้น 2

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน ม. 33 ลูกจ้างสัญชาติไทยคนละ 2,500 บาท ในพื้นที่ 16 จังหวัด (นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม สิงห์บุรี) รวม 249,235 คน เป็นเงินกว่า 623 ล้านบาท ส่วนนายจ้างในพื้นที่ 16 จังหวัด ที่จะได้รับเงินเยียวยาให้กับลูกจ้างไม่เกิน 200 คน คนละ 3,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้นั้น สำนักงานประกันสังคมกำลังทยอยตรวจสอบข้อมูลที่นายจ้างกรอกไว้ในระบบ E-Service และจะทำการโอนเข้าบัญชีที่ระบุไว้ทุกวันศุกร์

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 39 และ ม. 40 นั้น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม ได้เริ่มโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 39 ในพื้นที่ 13 จังหวัด (กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา) รวม 1.12 ล้านคน เป็นเงินกว่า 5.6 พันล้านบาท ส่วน ม. 40 ในพื้นที่ 13 จังหวัด มีจำนวน 4.5 ล้านคน ทำการโอนระหว่างวันที่ 24 - 25 สิงหาคม 2564 วันละ 2 ล้านคน จากนั้นวันที่ 26 สิงหาคม โอนที่เหลืออีก 5 แสนคน เป็นเงิน 22,482 ล้านบาท สำหรับกำหนดการโอนเงินให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ในกลุ่ม 16 จังหวัด (กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง) จำนวน 802,397 คน จะได้รับเงินเยียวยาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ในพื้นที่ 13 จังหวัดล็อกดาวน์ จะได้รับเงินเยียวยา ระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ในพื้นที่ 16 จังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์ภายหลังจะได้รับเงินเยียวยา 1 เดือน ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th/eform_news

"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม  ห่วงใยประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ เร่งหาหนทางเพื่อช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจกับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อมทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ควบคู่ไปกับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด"โฆษกรัฐบาลกล่าว

ขอนแก่นเดินหน้าปลูกฟ้าทะลายโจร สมุนไพรพื้นบ้านต้านภัยโควิด ผนึกพลังชุมชนปลูกทุกพื้นที่ นายอำเภอพระยืน ระบุ มุ่งสู่เมืองแห่งสมุนไพรไทย ที่ผลิตได้แบบครบวงจรตามความต้องการของตลาดคนรักษ์สุขภาพ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ส.ค. 64  ที่ บ.ดงกลาง ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น นายชินกร แก่นคง นายอำเภอพระยืน นำคณะเกษตรจังหวัด, เกษตรอำเภอ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ ต.บ้านโต้น ร่วมกันปลูกต้นฟ้าทะลายโจร ซึ่งสำนักงานเกษตร อ.พระยืน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีเกษตรกรในเขตพื้นที่ บ.ดงกลาง เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

นายชินกร แก่นคง นายอำเภอพระยืน กล่าวว่า ฟ้าทลายโจร พืชสมุนไพร ที่ขณะนี้ได้ถูกจัดให้เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้านตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่สามารถใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามที่แพทย์กำหนด ทำให้ขณะนี้กระแสสมุนไพรไทย โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร รวมไปถึง ขิง, ขมิ้น, ข่า, ตระไคร้, ใบมะกรูด และกระชาย เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ดังนั้นการที่ ชาวอ.พระยืน ได้พร้อมใจกันปลูกฟ้าทลายโจรโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตร จ.ขอนแก่น สนับสนุนต้นกล้าฟ้าทะลายโจรมาให้กับชุมชน บ.ดงกลาง แห่งนี้ได้ทำการปลูกเพื่อสร้างเกษตรแปลงใหญ่ในกลุ่มสมุนไพรไทยให้เกิดขึ้นในพื้นที่

“บ.ดงกลาง เป็นที่ตั้งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต.บ้านโต้น ที่มีชื่อเสียงในการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ดูได้จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ฟ้าทะลายโจรแคปซูล หรือชาฟ้าทลายโจร รวมไปถึงน้ำต้มสมุนไพรสูตรต่าง ๆ ที่แพทย์แผนไทยกำหนด ได้รับความนิยมและยอดการสั่งซื้อในจำนวนทีเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่เดิมกำหนดกำลังการผลิตตามคามต้องการของตลาดที่คาดการณ์ไว้แต่วันนี้ยอดการสั่งซื้อมีมากขึ้นทุกวันและยังคงมีการผลิตฟ้าทะลายโจรแคปซูล และ ชาฟ้าทะลายโจร รวมไปถึงกลุ่มสมุนไพรต้านไวรัสที่ถูกนำมาแปรรูปในประเภทต่าง ๆ ที่ยังคงมีการยอดของการสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน”

นายอำเภอพระยืน กล่าวต่ออีกว่า การที่คนพระยืน พร้อมใจกัน สร้างพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ในกลุ่มสมุนไพรพื้นบ้านที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยที่ บ.ดงกลาง เป็นพื้นที่หลักของการปลูกสมุนไพรพื้นบ้านนานาชนิด ซึ่งจากนี้ไปเมื่อผลผลิตเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวตามแนวทางการปลูกที่สำนักงานเกษตร อ.พระยืนกำหนด เกษตรกรโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโต้น จะทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่มีการบริหารจัดการสมุนไพรไทยพื้นบ้าน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ยกระดับสมุนไพรไทยประจำถิ่นสู่ตลาดสมุนไพรไทยในกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนไทยในระดับภูมิภาคที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ปลูกกัญชาไม่ยุ่งยาก เอื้อต่อวิถีการปลูกในชุมชน 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผย ประชาชนสามารถขออนุญาตปลูกกัญชาได้ 3 รูปแบบ 

ส่วนจะมีวิธีการและขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกัน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตบนเรือสำราญ ทั้งที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

ผู้โดยสารรายหนึ่งของบริษัทเดินเรือสำราญ "คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ (Carnival Cruise Line)" เสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด-19 จากการยืนยันของบริษัทในวันอังคาร (24 ส.ค.) ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกนับตั้งแต่เรือสำราญกลับมาล่องเรือในแคริบเบียน และสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน

คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ เปิดเผยว่า เหยื่ออยู่บนเรือคาร์นิวาล วิสตา ที่ออกเดินทางจากเมืองกัลเวสตัน รัฐเทกซัส เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เพื่อมุ่งหน้าสู่เบลีซ ผู้โดยสารรายนี้ได้รับการรักษาพยาบาลบนเรือ และต่อมาได้รับการอพยพจากเบลีซกลับมารักษาตัวยังสหรัฐฯ พร้อมเชื่อว่าผู้โดยสารรายนี้ไม่น่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่บนเรือ

"เราเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของแขกคนหนึ่งซึ่งล่องเรือกับคาร์นิวาล วิสตา" คาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ระบุในถ้อยแถลง "เราจะคอยให้การสนับสนุนครอบครัวของเธอ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมที่จะเป็นการซ้ำเติมความเศร้าโศกของพวกเขา"

คณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวของเบลีซ ระบุว่า หลังจากล้มป่วย ผู้โดยสารรายนี้ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนในประเทศ ก่อนอพยพทางอากาศพาเธอกลับไปยังสหรัฐฯ โดยเครื่องบินพยาบาล

นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ยังไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวของผู้โดยสารรายนี้ได้ แต่ระบุว่าผู้โดยสารรายดังกล่าวซึ่งเป็นผู้หญิงวัย 77 ปี จากโอคลาโฮมา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม

ข่าวคราวการเสียชีวิตของเธอมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเรือคาร์นิวาล วิสตา แจ้งว่าผู้คนบนเรือ 27 รายติดเชื้อโควิด-19 โดยทางคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวของเบลีซเผยว่า หลังจากเรือคาร์นิวาล วิสตา เดินทางมาถึง เรือได้รายงานว่ามีลูกเรือ 26 คน และผู้โดยสาร 1 คนมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก และทั้งหมดที่ติดเชื้อนั้นล้วนแต่ฉีดวัคซีนแล้ว

เรือลำนี้บรรทุกผู้โดยสารเกือบ 3,000 คนและลูกเรือ 1,441 ราย ตอนที่เดินทางถึงเบลีซ

เทกซัสเป็นหนึ่งในหลายรัฐที่ห้ามภาคธุรกิจบังคับใช้พาสปอร์ตวัคซีนหรือข้อพิสูจน์ว่าบุคคลนั้น ๆ ฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางคาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ยืนยันในวันอังคาร (24 ส.ค.) ว่านับตั้งเริ่มล่องเรืออีกครั้งในกรกฎาคม มากกว่า 95% ของผู้โดยสารล้วนแต่ฉีดวัคซีนแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางคาร์นิวัล ครุยส์ ไลน์ ยังได้ปรับนโยบายโควิด-19 เริ่มบังคับสวมหน้ากากสำหรับผู้โดยสารที่อยู่ในลิฟต์ พื้นที่บันเทิงในร่มที่กำหนด ร้านค้าปลีกและในคาสิโน ในวันที่ 7 สิงหาคม นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเริ่มบังคับผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนแล้วมอบผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นลบก่อนขึ้นเรือแล้วด้วย


(ที่มา : เอ็นบีซีนิวส์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000083681


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความซัด ระบบราชการเป็นมะเร็งร้ายอยู่ทั่วประเทศ ไร้วี่แววปฏิรูป

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงกรณีผู้กำกับคนดัง ทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข่าวดังในขณะนี้ ว่า...

ยอมรับเถอะครับว่า ปัญหาคือระบบราชการที่เป็นมะเร็งร้ายอยู่ทั่วประเทศ

ยัดยา แบล็คเมล์ เก็บส่วย ซ้อมผู้ต้องหาบังคับเอาเงินล้มคดี
เอาเด็ก 12 ขวบ หลอกให้อาเสี่ยบ้ากามปี้ แล้วบุกห้องถ่ายรูปตอนแก้ผ้า แล้วแบล็คเมล์ทีละ 5 ล้าน 10 ล้านนี่เรื่องปกติ

มันมีมาตลอด

เหมือนจ่ายใต้โต้ะเขตเวลาต่อเติมบ้านอย่างถูกกฎหมายหละครับ

เคสนี้ที่ดัง เพราะ “บังเอิญ” ตาย

เงินที่ตำรวจระดับผู้กำกับเหล่านี้หาไป เค้าหาไปทำอะไร?
ก็หาไปจ่ายผู้ใหญ่เพื่อการแต่งตั้งโยกย้ายในแต่ละปียังไงหละครับ

ผู้กำกับ สน.ต่าง ๆ ใช้เงินประมูลกันเกือบทั้งนั้น สน.ดี มีร้านค้าเยอะ มีธุรกิจแยะ ก็จ่ายสูง เพราะทำเงินได้เยอะ

เป็นมาแบบนี้หลายสิบปี แปลกใจอะไรกันเหรอครับ?

ส่วนตำรวจผู้น้อยที่ไม่มีเงินนะเหรอ?
ไม่เติบโตครับ
จน เครียด มีหนี้ กินเหล้า ลูกติดยา ฆ่าตัวตาย

ไม่เคยเห็น ผบ.ตร. หรือหน้าไหนในรัฐบาลสนใจปฏิรูป
นายกประยุทธ์พูดเรื่องปฏิรูปตำรวจเป็นวาระหลักอยู่พักนึง
ก็โยนทิ้งเหมือนหลาย ๆ เรื่อง อย่างการปฏิรูป การต้านคอร์รัปชันที่ทำอะไรไม่สำเร็จซักเรื่อง


ที่มา : https://www.facebook.com/100000004424101/posts/4586425801367522/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top