สหรัฐฯ ย้ายที่ทำการสถานทูตพ้นกรุงเคียฟ อ้างรัสเซียโจมตีทำลายล้างยูเครนได้ทุกเมื่อ

สหรัฐฯ กำลังย้ายปฏิบัติการของสถานทูตประจำยูเครน จากกรุงเคียฟไปยังลวิฟ เมืองทางตะวันตก จากการเปิดเผยของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศในวันจันทร์ (14 ก.พ.) โดยอ้างถึง "การเร่งเสริมกำลังพลของกองทัพรัสเซีย"

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เตือนว่ามอสโกกำลังเดินหน้าสะสมกำลังพลมากกว่า 100,000 นาย ใกล้ชายแดนติดกับยูเครนและในเบลารุส และอาจลงมือโจมตีทำลายล้างได้ทุกเมื่อ ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ แม้ว่าทางรัสเซียยืนกรานปฏิเสธคำกล่าวหาของทางตะวันตก และบอกว่าพวกเขาไม่มีแผนรุกรานใดๆ

"การรุกรานใดๆ เข้าสู่ยูเครนจะนำมาซึ่งความรุนแรงครั้งเลวร้าย การทำลายล้างครั้งใหญ่ และความสูญเสียที่ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวอเมริกา ชาวยูเครนหรืออื่นๆ" เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ

บลิงเคน กล่าวในถ้อยแถลงว่า การตัดสินใจย้ายปฏิบัติการของสถานทูตไปยังเมืองลวิฟ ห่างจากชายแดนทางตะวันตกของยูเครนติดกับโปแลนด์ ราวๆ 80 กิโลเมตร เป็นการดำเนินการภายใต้ความกังวลด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของสถานทูตได้รับคำสั่งให้เดินทางออกจากยูเครน และพลเมืองสหรัฐฯ ได้รับคำแนะนำให้เดินทางออกจากประเทศแห่งนี้ด้วยระบบขนส่งพาณิชย์

บลิงเคน เน้นย้ำว่าการย้ายปฏิบัติการของสถานทูตในครั้งนี้ ไม่ได้ดำเนินการในแนวทางที่บ่อนทำลายแรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และคณะผู้แทนทูตของสหรัฐฯ จะยังคงติดต่อกับรัฐบาลยูเครน "สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้ากดดันมอสโกเพื่อหนทางออกทางการทูต" เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม ไพรซ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "เรายังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่ารัสเซียให้ความสนใจหรือไม่ ในการแสวงหาเส้นทางด้านการทูต"

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้บอกต่อว่า "วอชิงตันให้ความสนใจกับความเห็นของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่กล่าวระหว่างประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเขาบอกว่ามอสโกจะเดินหน้าด้วยความพยายามทางการทูต เพื่อบีบคั้นตะวันตกให้ได้มาซึ่งคำรับประกันด้านความมั่นคง"

"สิ่งที่เราบันทึกไว้ก็คือ เราไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆ ในความพยายามลดสถานการณ์ความตึงเครียดจากกองกำลังรัสเซีย" ไพรซ์กล่าสว

ในเรื่องของการย้ายปฏิบัติการของสถานทูต ไพรซ์อ้างอิงจากการประเมิน ระบุว่า "จากสิ่งที่เรากำลังเห็นในภาคสนามด้วยตาของตนเอง มันคือการเดินหน้าเสริมกำลังโดยปราศจากเหตุยั่วยุของรัสเซีย"

"มีความเป็นไปได้อย่างชัดเจน บางทีอาจเป็นจริงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ว่าบางทีรัสเซียอาจตัดสินใจเดินหน้าปฏิบัติการทางทหาร" เขากล่าว พร้อมเผยว่าอุปทูตคริสตินา เควีน ทูตสูงสุดของสหรัฐฯ ประจำยูเครน จะทำงานจากเมืองลวิฟ และสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟจะได้รับการคุ้มกันจากตำรวจยูเครน


(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9650000015296