Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

ทบ. แจงผุดภารกิจใช้ C295 เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ไม่ใช่ลดกระแสโจมตีกองทัพจัดหาเครื่องบินลำเลียง CASA บอกแล้วแต่คนจะมอง แต่ตรรกะที่ผ่านมา ใช้ยานพาหนะ ช่วยเหลือประชาชนตลอด 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจง กรณีใช้เครื่องบินลำเลียง 295  หรือ C295 มาใช้ในภารกิจรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา  ว่าเป็นการลดกระแสช่วงที่กองทัพโดนโจมตี รวมถึงประเด็นการจัดซื้อเครื่องบินลำเลียง CASA หรือไม่ ว่า แล้วแต่คนจะมอง แต่ยืนยันว่า กองทัพบก  ไม่ได้มองว่าเป็นการลดกระแสอะไร เพราะพิจารณาจากตระกะที่ผ่านมา การใช้ยานพาหนะของทบ. โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์เคลื่อนย้าย เราใช้ยานพาหนะพวกนี้มาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะใช้แค่ C295 แต่ก็เล็งใช้ยุทโธปกรณ์อื่นด้วย เพื่อเสริมขีดความสามารถในการช่วยเหลือประชาชน 

ส่วนจะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่นั้น พันเอกหญิงศิริจันทร์ ระบุ ขณะนี้เตรียมแสตนบายไว้ 1 ลำ ส่วนการนำคนขึ้นเครื่อง ต้องรับการส่งเคสมาจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ก่อน เพราะต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ต้นทาง และต้องมีระบบสาธารณสุขปลายทาง รองรับด้วย 

โดยระยะทางอยากส่งให้ไกลที่สุด เนื่องจากในพื้นที่ใกล้ๆ มีรถดำเนินการอยู่แล้ว  ผบ.ทบ. จึงอยากย่นระยะการเดินทางระยะไกล  โดยไกลสุด จะอยู่ที่ชั่วโมงบิน 2-2 ชั่วโมงครึ่ง  เหนือ ใต้ อีสาน ไปได้หมด  อาจมีข้อจำกัด คือ จังหวัดที่ไปจะต้องมีสนามบินให้ลง  หรือลงจังหวัดใกล้เคียงได้ ก็ต้องมีรถมารองรับ 

พาณิชย์เปิดยอดส่งออกไทยเดือนมิ.ย.สูงสุดรอบ 11 ปี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนมิ.ย. 2564 ว่า การส่งออกเดือนมิ.ย.นี้ สูงสุดในรอบ 11 ปี โดยมีมูลค่า 23,699.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 738,135 ล้านบาท ขยายตัว 43.82% สินค้าที่มีการขยายตัวมากที่สุดคือ ผลไม้ ขยายตัว 185% แบ่งเป็นทุเรียนขยายตัว 172% มังคุดขยายตัว 488.26% รองลงมาคือ อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัว 90.48% รถยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ ขยายตัว 78.5% และเครื่องจักรกล ขยายตัว 73.13%

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การขยายตัวของหมวดสินค้าเกษตร มีการขยายตัวมากถึง 59.8% ถือเป็นการขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่องและขยายตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี มีมูลค่าทำรายได้เข้าประเทศ 71,473.5 ล้านบาท โดยเฉพาะยางพารา ผักผลไม้สดและแช่แข็ง และมันสำปะหลัง โดยตลาดในเดือนมิถุนายน มีอัตราการขยายตัวทุกตลาด ตลาดหลักมีการขยายตัว 41.2% ประกอบไปด้วยตลาดจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ สหภาพยุโรป CLMV และอาเซียน ส่วนตลาดรองมีการขยายตัว 49.5% เช่นตลาดเอเชียใต้อย่าง อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง รัสเซีย แอฟริกา และละตินอเมริกา

ส่วนแนวโน้มการส่งออกในเดือนก.ค. – ส.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะหาทางช่วยเหลือภาคการผลิต หลังจากได้รับทราบว่าภาคการผลิตขณะนี้มีปัญหาเรื่องของคำสั่งการปิดโรงงานแบบเหมารวมในบางจังหวัด ซึ่งกรณีนี้ต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบเพราะบางโรงงานไม่มีปัญหา ก็ควรเปิดดำเนินงานต่อไป โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่างให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแนวทางช่วยเหลือสัปดาห์หน้า

“แรมโบ้”ปัดพัลวัน “สนธิญา” ไม่ใช่ลูกน้อง ชี้ แจ้งเตือนดารา คอลเอาท์ทำเอง ยันไม่เกี่ยว “บิ๊กตู่” 

นายเสกสกลอัตราวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกครั้งกรณีที่มีสื่อบางฉบับ และผู้ดำเนินรายการบางคน กล่าวหาว่าใช้ให้นายสนธิญา สวัสดี ไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ให้ตรวจสอบกลุ่มศิลปิน ที่ออกมาคอลเอาท์ รัฐบาล ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง นายสนธิยาไม่ใช่ลูกน้อง แต่เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และสิ่งที่นายสนธิญาไปทำเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเห็นว่าคนดังมาโพสต์หรือกล่าวด้อยค่าวัคซีน หรือพูดในทางที่จะเสียหายในภาษาที่ไม่สุภาพ จึงอยากให้ผบช.นตักเตือนคนเหล่านั้น เหมือนคนที่จะมาร่วมชุมนุม ก็ให้ตำรวจออกมาเตือนก่อนว่าผิดกฎหมาย

“ยืนยันว่าเขาทำในนามส่วนบุคคล  ไม่ได้ไปในฐานะที่เป็นตัวแทนของผม ของรัฐบาล หรือของนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญผมและนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้ให้ไปทำ และเขาไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งความดำเนินคดี แค่ให้ห้ามปราม ตักเตือน ดารา ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เขาจะใช้สิทธิ์ส่วนบุคคล เขาไม่ได้ผมบอกผมก่อน และผมก็ไม่รู้ว่าจะไป ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกน้องผม แต่ยอมรับว่ารู้จักและเคยไปร่วมร้องทุกข์กล่าวโทษคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวหารัฐบาลที่กองปราบปราม”

“นายกฯ” แนะปรับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายให้เหมาะกับสถานการณ์เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ ดึงเอกชนร่วมส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ สร้างกำลังซื้อภายในประเทศ

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เน้นการทำงานร่วมกันในการตัดสินใจกำหนดแนวทางและมาตรการตามที่คณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ได้เสนอเข้ามาซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวง และเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ที่ทุกกระทรวงต้องดำเนินตามมาตรการอย่างทั่วถึง

ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการใน 2 ส่วนพร้อม ๆ กัน คือ ทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมีความจำเป็นที่ศบค. และศบศ. จะต้องมีข้อมูลเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เน้นการสื่อสารที่เข้าใจง่าย รวมทั้งติดตามผลการดำเนินงานโครงการภูเก็ตโมเดล และสมุยพลัสโมเดล ซึ่งเป็นการเดินหน้าตามเป้าหมาย 120 วันของรัฐบาลในการเปิดประเทศ ภายใต้ความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในระยะต่อไปจะมีการขยายโครงการต่อไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพ รวมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาการติดเชื้อไวรัสในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี ได้เสนอในที่ประชุม ศบศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาปรับปรุงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งโครงการ “คนละครึ่ง” โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” หรือพิจารณานำ “ช็อปดีมีคืน” กลับมาใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เร่งให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของโครงการ รวมทั้งยังอยากเห็นการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมาตรการของรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อร่วมโครงการ ชี้แจงข้อสงสัย รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ  ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจในมาตรการรัฐในระดับพื้นที่ด้วย

ขณะเดียวกันก็ขอให้ ศบศ. นำผลการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและภาคเอกชนในการประชุม 40 ซีอีโอพลัส มาขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ร่วมฟื้นฟูประเทศร่วมกับภาคเอกชน ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ๆ เช่น การดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าประเทศไทย ผู้มีกำลังซื้อสูง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ได้สั่งการในที่ประชุมครม. ให้เร่งพิจารณาแผนงานของทุกกระทรวง ที่อยู่ภายใต้งบประมาณฯ ปี 2564 และ 2565  ที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย หากโครงการใดที่ติดขัดเพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็สามารถชะลอได้ และพิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการจัดตั้งสถานพยาบาลขนาดเล็ก ให้กระจายไปในทุกพื้นที่ ทุกเขต เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน ลดการแพร่เชื้อในครอบครัวและชุมชน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยมุ่งจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มเพื่อลดความสูญเสีย รักษาระบบสาธารณสุข

นายกรัฐมนตรียังยืนยันแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านโดสในปีนี้ และขณะนี้ได้มีการอนุมัติการใช้ Antigen Test Kit ที่ได้รับการอนุญาตให้ประชาชนได้ใช้แล้วเพื่อเร่งตรวจหาเชื้อ การจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) รวมถึงสมุนไพรไทยเช่น ฟ้าทะลายโจร ให้กระจายไปทุกจังหวัดตามลำดับความรุนแรง ปรับระดับเตียงเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย รวมทั้งการจัดรถรับส่งผู้ป่วยให้เข้าถึงสถานพยาบาลในระดับต่าง ๆ ทั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์คัดกรองแรกรับอย่างเร่งด่วนด้วย โดยให้เป็นความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานที่ต้องออกมาช่วยเหลือประชาชน และจะต้องไม่มีภาพประชาชนที่ถูกทอดทิ้ง

สำหรับที่ประชุมศบศ. ได้มีการรับทราบการดำเนินการมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่นำร่อง ในโครงการ Phuket Sandbox และ Samui Plus Model รวมทั้งยังได้มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทยด้วย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/589764


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รายงานผลข้างเคียง หลังได้รับวัคซีน 'ซิโนฟาร์ม'

ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์​ โพสต์เฟซบุ๊ก​ 'Nithi Mahanonda'​ ว่า...

ตัวเลขอาการข้างเคียงของ Sinopharm ในช่วงแรกสามอาทิตย์เศษนี้​ ไม่ได้ดี​ หรือ​ แตกต่างจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 อื่น ๆ​ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ หรือนัยสำคัญทางสังคม

แต่นัยสำคัญรายบุคคลนั้น แพทย์ควรมีความสามารถแยกแยะดูความเหมาะสมเลือกให้ถูกคนถูกกาลได้ เพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นสำคัญ


ที่มา : https://www.facebook.com/755523894/posts/10159398945263895/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'หลวงพ่อแป๊ะ' ปลุกเสกฟ้าทะลายโจรและกระชาย แจกจ่ายแก่ญาติโยมเพื่อใช้สู้ภัยโควิด-19

วันที่ 23 ก.ค. 64 ที่วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชียศรี จ.นครปฐม พระครูยติธรรมานุยุต หรือ หลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาส ได้นำฟ้าทะลายโจรและกระชายขาวมาทำพิธีปลุกเสกก่อนที่ที่เอามาแจกให้กับชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเพื่อป้องกันโควิด-19

หลวงพ่อแป๊ะ เล่าให้ฟังว่า สมัยโบราณสมุนไพรไทยก่อนที่จะเอามาทำยาต้องมีการสวดมนต์ว่าคาถาทุกครั้งจนต้มเสร็จจึงนำมากิน อาตมาเห็นว่าช่วงนี้โรคโควิด-19 กำลังระบาดหนักในประเทศไทยมีคนป่วยเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนไม่น้อยที่รักษาโรคโควิด-19 หายจากสมุนไพรไทย เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร จนทำให้ทั้ง 2 อย่างนี้มีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก อาตมาจึงได้นำมาเข้าพิธีปลุกเสกและแจกให้กับชาวบ้านนำไปกินเป็นยาเพื่อป้องกันโควิด-19 กัน แต่ก็ต้องไม่ประมาทกัน สวมหน้ากากอนามัยกันและล้างมือให้บ่อย ๆ กันด้วย


https://www.naewna.com/likesara/589765


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผบ.ทบ. สั่งปรับเครื่องบินลำเรียง C295 เป็นยานพาหนะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ทางอากาศยานกลับภูมิลำเนา ในพื้นที่ห่างไกลจากกทม.

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้ให้การสนับสนุน การเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ (สีเขียว) กลับภูมิลำเนาเพื่อไปรักษาตัว โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.), กอ.รมน.จังหวัด ตามนโยบายพาคนกลับบ้านของนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกับแนวทางที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารนำขีดความสามารถและทรัพยากรที่กองทัพบกมีอยู่มาช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ทุกวิถีทาง

โดยในส่วนของการกระจายผู้ป่วยกลับไปรักษายังภูมิลำเนา เพื่อลดปริมาณผู้ป่วยสะสมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และกองทัพบกได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลไกของศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก กองทัพภาค และกรมแพทย์ทหารบก ดำเนินการตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2564

ล่าสุด ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการเพิ่มเติมให้นำ อากาศยานของกองทัพบก คือ “เครื่องบินลำเลียงแบบ 295” C295 มาเป็นยานพาหนะในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อทางอากาศไปส่งยังภูมิลำเนาทั่วประเทศ เน้นการใช้ส่งป่วยไปยังจังหวัดพื้นที่ห่างไกลจาก กทม.และที่ต้องใช้เวลานานหากเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งขณะนี้กองทัพบกได้มีการปรับแต่งระบบต่าง ๆ ของอากาศยานเพิ่มเติม ปรับปรุงห้องโดยสารให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วยติดเชื้อให้สามารถรองรับภารกิจได้ ครอบคลุมเรื่องการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ, ระบบความปลอดภัย, ปรับระบบควบคุมการไหลเวียนอากาศและระบบกรองอากาศ, การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อการสื่อสาร คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ป่วย รวมถึงความพร้อมของบุคลากร นักบิน ช่างเครื่อง จัดทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาล ดูแลติดตามอาการของผู้ป่วยในระหว่างเดินทางให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยเวชศาสตร์การบิน เป็นต้น

และเพื่อให้พร้อมในทุกระบบ “ทีมลำเลียงผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทางอากาศกองทัพบก” ( Covid-19 Aero Medical Evacuation Army Team : ArmCAME ) จากกรมการขนส่งทหารบก พร้อมด้วยแพทย์เวชศาสตร์การบินจากกรมแพทย์ทหารบก ได้นำ “เครื่องบินลำเลียงแบบ 295” ที่ดัดแปลงเป็นยานพาหนะส่งป่วย ขึ้นบินทดสอบระบบ และซักซ้อมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตั้งแต่การรับและนำผู้ป่วยขึ้นเครื่อง, การจัดการสัมภาระ, แนะนำขั้นตอนการปฏิบัติตน จนถึงการลำเลียงผู้ป่วยเมื่อถึงปลายทาง และการทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในอากาศยานเมื่อจบภารกิจโดยกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ซึ่งการบินทดสอบดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อากาศยานและกระบวนการบริหารจัดการผู้ป่วยมีความพร้อมรองรับภารกิจได้อย่างเหมาะสม

สำหรับ "เครื่องบินลำเลียงแบบ 295” เป็นอากาศยานประจำการที่กองทัพบกใช้ในภารกิจป้องกันประเทศ เช่น การเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ยุทโธปกรณ์และ สิ่งอุปกรณ์ ภารกิจการฝึกศึกษาทางทหาร เช่น หลักสูตรส่งทางอากาศ การกระโดดร่ม การฝึกร่วม/ผสม ภารกิจส่งกลับสายแพทย์ และการบรรเทาสาธารภัย ซึ่งการนำ “เครื่องบินลำเลียงแบบ 295” มาดัดแปลงใช้ในการส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ทำให้ประหยัดเวลาการเดินทางไกล ลดความเหนื่อยล้า สามารถส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นการนำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งภารกิจด้านการทหารและการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้ ผู้ป่วย COVID-19 (สีเขียว) ที่มีความประสงค์จะกลับไปรักษายังภูมิลำเนา สามารถติดต่อไปยัง ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบก (กทม.) โทร. 02-270-5685-9 ได้ตลอด 24 ชม


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ลูกหนี้ กยศ.ยิ้มได้ รัฐสนับสนุน ช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่อง สู้ภัยโควิด  ผ่อนสูงสุด 30 ปี หักเงินเดือนขั้นต่ำเพียง 10 บาท   เริ่มสิงหาคม 2564 - มิถุนายน 2565 นี้

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรีย้ำความสำคัญในการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครอง ลดบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษารวมทั้งลูกหนี้ กยศ.  ล่าสุดกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เห็นชอบมาตรช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมจากที่ได้ยกเลิกกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุนในสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564  โดยเตรียมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ผู้กู้ยืม ปรับลำดับตัดชำระหนี้และปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระ ผู้กู้ยืมที่อยู่ในระบบหักเงินเดือนสามารถขอปรับลดจำนวนเงินที่หักเหลือขั้นต่ำ 10 บาทต่อเดือน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 - มิถุนายน 2565   นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการและ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวตกรรม นำมาตรการลดค่าค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในปีการศึกษา 2564 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า (27 กรกฎาคม 2564) ด้วย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  กยศ.  เตรียมแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้และเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระสำหรับผู้กู้ยืมกลุ่มก่อนฟ้องคดีเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ค้างชำระและลดปัญหาหนี้ค้างชำระของกองทุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้ 1. ปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระหนี้ที่ยังไม่ถูกฟ้องคดี หากไม่สามารถผ่อนชำระเงินคืนตามสัญญา กองทุนจะให้ผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้โดยขยายระยะเวลาผ่อน และเปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้มีระยะเวลาในการผ่อนชำระมากขึ้น สามารถผ่อนได้สูงสุด 30 ปี แต่ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ และมีส่วนลดเบี้ยปรับโดยให้ชำระในงวดสุดท้าย ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถแจ้งความประสงค์ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ที่แอปพลิเคชัน กยศ.Connect หรือทางเว็บไซต์ https:/wsa.dsl.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป 

2. ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ สำหรับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินคืนกองทุนที่ยังไม่ถูกฟ้องคดี จากเดิมที่ใช้วิธีการตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น กองทุนจะปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ โดยจะนำเงินที่ได้รับชำระไปตัดเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ 3. ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินคืน สำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ และผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างปลอดหนี้และยังไม่ครบกำหนดชำระหนี้ จากเดิมที่ผ่อนชำระเป็นรายปี กองทุนจะปรับให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน และเพิ่มระยะเวลาการผ่อนชำระจากเดิมไม่เกิน 15 ปี เป็นไม่เกิน 30 ปี ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละราย ทั้งนี้ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ โดยลดเบี้ยปรับให้เหลือเพียง 0.5% กรณีผู้กู้ยืมไม่สามารถชำระหนี้ได้ในสถานการณ์นี้ รวมทั้งชะลอการฟ้องคดี บังคับคดี ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความ และงดการขายทอดตลาดไว้จนถึงสิ้นปีนี้

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการแก้ปัญญาหนี้ภาคประชาชน  ส่งเสริมสร้างวินัยทางการเงิน  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังสนับสนุนนโยบาย กยศ. ในการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ให้มีความสามารถในการชำระหนี้คืนจากมาตรการต่างๆของกองทุน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อลูกหนี้ กยศ. ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้จำนวน 3.5 ล้านราย หากสนใจก็สามารถเข้าร่วมโครงการ ก็จะได้รับประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ในครั้งนี้ด้วย” นางสาว รัชดากล่าว

“บิ๊กตู่” สั่งปัดฝุ่น “ช้อปดีมีคืน” กลับมาใช้ หวังกระตุ้นการใช้จ่ายปลายปี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งโครงการคนละครึ่ง และโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ หรือพิจารณานำโครงการช็อปดีมีคืนกลับมาใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเร่งให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของโครงการ 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังอยากเห็นการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมาตรการของรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อร่วมโครงการ ชี้แจงข้อสงสัย รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ  ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้าใจในมาตรการรัฐในระดับพื้นที่ด้วย พร้อมขอให้ ศบศ. นำผลการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและภาคเอกชนในการประชุม 40 ซีอีโอพลัส มาขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19  ร่วมฟื้นฟูประเทศร่วมกับภาคเอกชน 

“นายกฯ ยังขอให้เร่งส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น การดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าประเทศไทย ผู้มีกำลังซื้อสูง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ได้สั่งการในที่ประชุมครม. ให้เร่งพิจารณาแผนงานของทุกกระทรวง ที่อยู่ภายใต้งบประมาณฯปี 64 และ 65  ที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย หากโครงการใดที่ติดขัดเพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็สามารถชะลอได้ และพิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด”  

กัมพูชาติดเชื้อโควิดเพิ่ม 790 ราย รัฐบาลสั่งปิดตลาดชั่วคราว 14 วัน

วันนี้กัมพูชายืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม อีก 790 คน ทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดรวม 67,971 คน ล่าสุด ที่กรุงพนมเปญตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในตลาดหลายแห่ง รัฐบาลจึงสั่งปิดตลาดชั่วคราว เป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 26 ก.ค. เพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มเติม

คุณเยี่ยมศรี อุบลพงษ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขากัมพูชา มีโอกาสเดินผ่าน Kandal Market หนึ่งในตลาดที่ถูกปิดเลยเก็บภาพบรรยากาศการปิดตลาดมาฝาก พร้อมเล่าว่าที่กัมพูชา ถ้าบริเวณไหน หรือบ้านไหนมีคนติดโควิด-19 ทางการกัมพูชาก็จะนำสายคาดสีเหลืองดำแบบนี้มาปิดล้อมสถานที่นั้น ๆ เอาไว้ แบบที่เห็นในภาพ


ที่มา : https://www.facebook.com/111389082537287/posts/1502248920117956/

ภาพและข้อมูล : เยี่ยมศรี อุบลพงษ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขากัมพูชา (ณ กรุงพนมเปญ)


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top