Thursday, 3 July 2025
Hard News Team

สตม. มอบอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่ม 500 ชุด ให้แก่ชุมชนมัสยิดบ้านสมเด็จ และชุมชนสี่แยกบ้านแขก ตามโครงการ "ตำรวจห่วงใย ใส่ใจประชาชน"

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19  ให้หน่วยงานในสังกัดช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และยึดมั่นในหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อยู่เคียงข้างไม่ทอดทิ้งประชาชน และปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้ประชาชนรู้สึกว่าตำรวจสามารถพึ่งพาได้ 

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 ร่วมกับ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.8, พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ รอง ผบก.น.8 และ สน.บางยี่เรือ โดย พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน ผกก.สน.บางยี่เรือ, นายสมคิด ลาภเรืองยศ ประธาน กต.ตร.สน.บางยี่เรือ มอบอาหารกล่อง,น้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด 

โดยทั้งหมดได้ร่วมกันมอบสิ่งของดังกล่าวให้แก่ ชุมชนมัสยิดบ้านสมเด็จ และ ชุมชนสี่แยกบ้านแขก ถ.อิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม. โดยมีคุณณรงค์ ศิริโต ตัวแทนชุมชนมาเป็นผู้รับมอบ ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้แก่สมาชิกในชุมชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

พล.ต.ต.อาชยนฯ กล่าวว่า โครงการ "ตำรวจห่วงใย ใส่ใจประชาชน" ครั้งนี้ เป็นการสนองนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในครั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล8 และ สน.บางยี่เรือ ร่วมกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้เน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้กำลังใจเพื่อให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน

'ดร.สายันต์' โพสต์ข้อความเตือนสติ 'เยาวชน-คนรุ่นใหม่' อย่าถูกฝรั่งล้างสมอง จนมาด้อยค่าบ้านเกิด

ศาสตราจารย์ ดร.สายันต์ ไพรชาญจิตร์ อดีตคณบดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้โพสต์ชวนคิด การที่คนรุ่นใหม่ฝักใฝ่ในชาติล่าอาณานิคมยุคใหม่ จนลืมความเป็นไทยและด้อยค่าแผ่นดินเกิดในทุก ๆ เรื่อง ว่า... 

เขาพูดกันว่าการสอนประวัติศาสตร์ที่เน้น "Thai Centric" ทำให้คนไทยโง่ ไม่รู้จักโลก ไม่รู้จักคนอื่น พูดยังกับว่าฝรั่งไม่เคยสอนเรื่อง... 

"Eurocentric" 
"Anthropocentric" 
และ "American Dream" 

ผมว่า "Thai Centric" เป็นกระบวนการปกป้องท้องถิ่น ป้องกันตัวเองจากการรุกรานของพวกกระหายทรัพยากร พวกล่าอาณานิคม 

ศาสดาตะวันออกสอนให้เรารู้จักโลกและจักรวาลที่เป็นจริงในระดับ "โลกุตระ" มากกว่า "โลกวัตถุ" และ "โลกียะ" ที่ส่งเสริมเพิ่มตัณหาให้คนหลงใหลแต่วัตถุ นิยมการบริโภคที่เกินพอดี นิยมการอยู่แบบทำลายธรรมชาติ 

สอนให้รู้จักแต่โลกที่เป็นคู่ตรงข้าม กระหายสงคราม 

สอนให้รู้จักแต่เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม ฝืนธรรมชาติ ทำลายล้างธรรมชาติและหมู่มนุษย์ด้วยกันเอง 

เพราะประวัติศาสตร์แบบ Thai Centric สอนให้เรารู้จักโลกของฝรั่งแบบนี้ยังไง เราจึงป้องกันตัวเองมาได้นานพอสมควร 

แต่เมื่อพวกนักเรียนไทยรับทุนไปเรียนเมืองฝรั่งกันมาก ๆ ก็ถูกล้างสมองไปหมด มองบ้านเกิดเมืองนอนไร้ค่า ไม่มีอะไรดี มองว่ามาตุภูมิปิตุภูมิด้อยค่าล้าหลัง กลับมาทำงานก็ทำให้ประเทศไทยเป็นอาณานิคมทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและ วัฒนธรรมกันเสียเอง

จะโทษใครดีล่ะ...ใครเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ...แต่ผมไม่เชื่อ


ที่มา : https://www.facebook.com/100001467066787/posts/4479400668785458/

'ก้าวไกล' ยืนยันดันร่างพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้ทันสมัยประชุมนี้ พร้อมร่วมรับข้อเสนอ เครือข่ายญาติผู้เสียหายจากการซ้อมทรมานและอุ้มหาย

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนกลุ่มชาติพันธุ์ พรรคก้าวไกล ร่วมรับหนังสือจากเครือข่ายญาติผู้เสียหายจากการซ้อมทรมานและอุ้มหาย ที่จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร เร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหาย ที่รัฐสภา โดยมี นายธนัท ธนกิจอำนวย (ลูกนัท) พร้อมด้วย สิตานันท์ สัตยศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ถูกทำให้สูญหาย ณ ประเทศกัมพูชา ร่วมเรียกร้องต่อประเด็นดังกล่าว

รังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตนเองก็มีกลุ่มเพื่อนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกกระทำให้สูญหาย ซึ่งตนเคยรับประทานอาหารร่วมกับนายวันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ถูกทำให้สูญหาย ณ ประเทศกัมพูชาในสมัยที่ตนเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตนรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้ง ที่วันหนึ่งคนที่มีความตั้งใจอยากจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสังคมที่ดีงาม ไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้ได้ และสุดท้ายต้องถูกบังคับสูญหาย ถือเป็นความเจ็บปวดทุกครั้ง ที่เราไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ เขายังมีลมหายใจหรือเปล่า เราได้แต่รอ เราได้เเต่ฝัน เราได้แต่พยายามคิดในแง่บวกว่าเขาอาจจะอยู่ในที่ที่ดีกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ตนคิดว่ามันเป็นความเจ็บปวดเเละความทุกข์ทรมานของครอบครัว ของเพื่อนที่ต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายเเละป่าเถื่อนของสังคมที่เรากำลังอยู่ ที่คนต้องการเห็นสังคมเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถมีชีวิตได้อย่างปกติ

“ผมคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป เเละการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะมีการเรียกร้องให้มีร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองต่อการอุ้มหายเเละซ้อมทรมาน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเเปลงให้สังคมนี้เป็นประชาธิปไตยขึ้น เพื่อไม่ให้ใครต้องหวาดกลัวอีกต่อไป ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เเละเป็นสิ่งที่จะต้องทำ"

รังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหายและซ้อมทรมาน ถูกมองว่าไม่ใช่กฎหมายที่ทุกคนจะได้ใช้ประโยชน์ เป็นเรื่องไกลตัว แต่เราต้องไม่ลืมว่ากฎหมายนี้ เป็นการสร้างหลักประกันให้สังคมของเราไม่เป็นสังคมที่ป่าเถื่อนอีกต่อไป เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ในสังคมนี้ได้โดยปราศจากความหวาดกลัว หรือถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาได้รับผลกระทบ เราจะมั่นใจได้ว่า จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามหาความจริง เป็นเพื่อนที่เคียงข้างให้กับครอบครัวที่สูญเสีย ตนขอเเสดงความนับถือกับครอบครัวผู้สูญเสียที่พยายามไม่อยู่เฉย ตนยังจำได้ในวันแรก ๆ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ สังคมของเราหวาดกลัวขนาดไหน เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเป็นรายต่อไปเมื่อไหร่ ซึ่งตนคิดว่าการรวมกลุ่มเเละการไม่อยู่เฉย การพยายามพูดออกมา ไม่ใช่แค่การทำให้บุคคลที่ถูกอุ้มหายเเละซ้อมทรมานได้มีตัวตนเท่านั้น เเต่มันคือการประจานความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา เเต่การผลักดันที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือ การให้มีร่างกฎหมายที่จะคุ้มครองเรื่องนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระยะยาวต่อไปในอนาคต

รังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอเเจ้งข่าวดีต่อครอบครัวผู้สูญหาย เเละผู้เรียกร้องต่อกรณีนี้ว่า เมื่อวาน ( 7 ก.ย. 64) ทางวิปฝ่ายค้านได้หารือว่าจะเลื่อนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา ต่อจากร่างพรบ.ปฏิรูปการศึกษา ซึ่งที่ประชุมฝ่ายค้านเห็นด้วย โดยในช่วงเช้าตนได้หารือกับทางวิปรัฐบาลให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา โดยทางวิปรัฐบาลก็ได้ระบุว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งหมายความว่า โอกาสที่รัฐสภาจะได้พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านวาระที่ 1 ในสมัยประชุมนี้ ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น 

ในปัจจุบันเรามีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกัน 3-4 ฉบับ ของคณะรัฐมนตรี 1 ฉบับ ของสภาผู้เเทนราษฎร 3 ฉบับ ซึ่ง 1 ใน 3 ฉบับ คือ ฉบับที่คณะกรรมาธิการการฎหมาย การยุติธรรม เเละสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมพัฒนากับพี่น้องประชาชนยื่นเข้ามา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เเละพรรคร่วมรัฐบาล ตนค่อนข้างมีความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรที่ทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ตกไปได้

“สิ่งที่ครอบครัวผู้สูญหาย พยายามพูดมาโดยตลอด วันนี้ไม่ได้ทำให้บุคคลที่ถูกทำให้สูญหายเเละซ้อมทรมานได้มีตัวตนต่อในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่วันนี้กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว และมันกำลังเกิดขึ้น กงล้อของการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้น กำลังหมุนไปเเล้ว ทุกคนอย่าเพิ่งท้อถอย ในที่สุดเเล้วเราจะสามารถคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้สูญเสียทุกคนได้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ อย่าหยุดพูด การไม่หยุดตรงนี้ วันหนึ่งเราจะได้ความเป็นธรรมกลับคืนมา ยังอยากให้ทุกคนมีหวังต่อไปในการที่สังคมจะเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ดีขึ้น" รังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่ มานพ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 64 ) พรรคก้าวไกล ในที่ประชุมส.ส.ของพรรคได้มีการหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยพรรคก้าวไกลมีมติที่จะเสนอต่อรัฐสภาให้เลื่อนญัตติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหาย ฉบับที่ พ.ศ…. ขึ้นมาพิจารณาให้ทันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายการเมือง เเละฝ่ายนิติบัญญัติควรให้ความสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน คือ การประชุมเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน ณ นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส 

ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศไทยทำตามข้อตกลงที่ลงนามกับนานาอารยประเทศหรือไม่ ส่วนในประเทศไทย ตนเห็นในหลายกรณี อย่างล่าสุด กรณี พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผู้กำกับโจ้) ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย ซึ่งเกิดขึ้นจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำต่อประชาชน

นอกจากนี้ ตนในฐานะตัวแทนของกลุ่มชนชาติพันธุ์ ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชัยภูมิ ป่าแส ที่โดนเจ้าหน้าที่ทหารกระทำจนถึงแก่ชีวิต เเละพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ที่โดนกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการตรวจสอบความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการคุ้มครองอย่างยุติธรรมเเละเท่าเทียม

“ทิพานัน” ชี้นายกฯ ห่วงใยประชาชนผู้มีรายได้น้อย-อาชีพอิสระ ดันโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1.99% นาน 4 ปี

คนอยากมีบ้านเฮ “ทิพานัน” ชี้นายกฯ ห่วงใยประชาชนผู้มีรายได้น้อย-อาชีพอิสระ ให้มีที่พักอาศัย ดันโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก อัดเม็ดเงินกว่า 2,909 ล้านบาท ใน 10 จังหวัด เชื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเร็ว เข้มแข็ง ยั่งยืนจากภายใน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ  เพื่อให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จึงผลักดันให้มีการสานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 

ซึ่งที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ได้เห็นชอบให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ดำเนินการให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. และยังผ่อนปรนเงื่อนไขเพื่อช่วยให้ประชาชนมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ สามารถนำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ให้ธนาคารพิจารณาได้ ให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป 

จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเองอย่างครบวงจร โดยพี่น้องประชาชนที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Application : GHB ALL ( https://www.ghbank.co.th/electronic-services/application/ghb-all) และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ

“บ้านเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างเริ่มจากบ้าน ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงสังคมประเทศไทยของเราทุกคนที่มีความรักความสามัคคี รัฐบาลจึงเดินหน้าตั้งแต่โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2561 ต่อมาเมื่อต้นปี 2564 ก็มีโครงการบ้านเคหะสุขประชาที่เป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด วางรากฐานเพื่อให้เป็นชุมชน “เศรษฐกิจสุขประชา” สร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยให้มีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและตามความสนใจและความถนัดที่มีให้เลือก 

รัฐบาลจึงอนุมัติโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เพิ่มเติมเพื่อให้ประเทศไทยและคนไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ตามกรอบเวลายุทธศาสตร์ชาติ โดยรัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและทำเพื่อประชาชนให้มากที่สุด” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังเดินหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ประชุมครม. ได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 3 จำนวน 1,766 โครงการ วงเงินรวม 2,909 ล้านบาทดำเนินการ ใน10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อำนาจเจริญ อยุธยา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ใน 4 กลุ่มโครงการ ประกอบด้วยกลุ่มพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยวบริการ และการค้า, กลุ่มยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร, กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน และกลุ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน 

ระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2564 คาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานรวมทั้งสิ้น 29,765 คน และมีผู้ได้รับประโยชน์ประมาณ 3.54 ล้านคน พร้อมเตรียมโครงการนี้ครั้งที่ 4 อีกจำนวน 1,434 โครงการ วงเงินรวม 3,753 ล้านบาท ดำเนินการในอีก 14 จังหวัด ประกอบด้วย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ เลย นครพนม บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ลพบุรี อ่างทอง สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครนายก และยะลา โดยจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด กระจายงบประมาณลงไปในกลุ่มเป้าหมาย

“เชื่อว่าเม็ดเงินจากมาตรการดังกล่าว จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทย มีความแข็งแรง ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว จากการส่งเสริมความเข้มแข็งภายใน และจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้” น.ส.ทิพานัน กล่าว

กรมชลสั่งจับตาฝนตกหนัก 8 -11 ก.ย. เฝ้าระวังน้ำหลาก-ล้นตลิ่ง 

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลกระทาน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่อาจเกิดขึ้นได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตรวจสอบอาคารชลประทานให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ตลอดจนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) รวมทั้งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่

ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ รวมไปถึงระบบสื่อสารสำรอง ที่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล่วงหน้า ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้านทุกแห่ง หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา 

ทั้งนี้ที่ผ่านมากองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก  ในช่วงวันที่ 8 – 11 ก.ย.นี้

'ประกันสังคม' ลดอัตราเงินสมทบต่ออีก 3 เดือน ถึงพ.ย. 64

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากภาคเอกชน ได้ทำหนังสือเป็นการเร่งด่วนไปยังนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เพื่อให้สำนักงานประกันสังคม ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือการหักเงินสมทบประกันสังคมต่อไปอีก 3 เดือน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและประคองการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19

ล่าสุด คณะกรรมการประกันสังคม ชุดที่ 13 ได้มีมติเห็นชอบลดอัตราเงินสมทบ ปี 2564 อีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย. - พ.ย. 64 โดยกำหนดลดอัตราเงินสมทบ ฝ่ายนายจ้างในอัตรา 2.5% และลูกจ้างผู้ประกันตน มาตรา 33 ในอัตรา 2.5% และสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 จัดเก็บในอัตราเดือนละ 235 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการจ้างงานจากการได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และบรรเทาภาระของลูกจ้างผู้ประกันตนในสถานการณ์ปัจจุบัน

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตน ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ตามมาตรา 33, 39 และ 40 ว่า รัฐบาลเร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคม จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตน ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ใน 29 จังหวัด โดยได้มีจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตราไปแล้วจำนวน 8,865,806 ราย และนายจ้างจำนวน 117,758 ราย รวมทั้งสิ้นเป็นเงินจำนวน 41,160.86 ล้านบาท หรือคืบหน้า 97% จากกรอบที่อนุมัติเดิม 

“นายกรัฐมนตรีได้เร่งกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้ทั่งถึงแก่ประชาชนทุกกลุ่ม ให้ครอบคลุมและรวดเร็วอีก รวมทั้งยังจะมีการทบทวนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่งเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์โดยตรงมากที่สุด”

ห้ามเด็กเล่นเกมเกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แผนพัฒนาคุณภาพเด็กรุ่นใหม่ของรัฐบาลจีน | Knowledge Times EP.17

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
???? ห้ามเด็กเล่นเกมเกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ : แผนพัฒนาคุณภาพเด็กรุ่นใหม่ของรัฐบาลจีน

รัฐบาลจีนออกคำสั่งตรงถึงผู้ให้บริการเกมออนไลน์ในจีน โดยจำกัดการเข้าถึงผู้เล่นเกมที่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เล่นเกมได้ในช่วงเวลา 2-3 ทุ่ม เฉพาะวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าเด็กจีน สามารถเล่นเกมออนไลน์ได้เพียง 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนมีนโยบายจำกัดการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชน เพราะก่อนหน้านี้ ในปี 2019 จีนได้ออกระเบียบที่ระบุว่าเยาวชนไม่ควรเล่นเกมเกินวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อป้องกันปัญหาการติดเกมในเยาวชน โดยเปรียบการเล่นเกมมาก ๆ นั้น ก็เหมือนกับการติดยาเสพติดทางจิตใจที่จะส่งผลเสียต่อเด็กทั้งสุขภาพทางกาย และสุขภาพจิตอย่างมากในอนาคต

โดยกฎเหล็กนี้ ผู้สมัครใช้บริการเกมออนไลน์ จะต้องลงทะเบียนด้วยชื่อจริง และข้อมูลจริงเท่านั้น อีกทั้งยังจำกัดวงเงินในการเติมเกมสำหรับผู้เล่นเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี ให้ใช้ได้ไม่เกิน 200 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 1,000บาท/เดือน) หากอายุ 16-18 ปี ให้ใช้ได้ไม่เกิน 400 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2,000 บาท/เดือน) โดยทางการจีนจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบผู้ให้บริการออนไลน์อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า มาตรการใหม่นี้จะมีการบังคับใช้จริงอย่างเคร่งครัด

สำหรับในประเทศไทยเด็กและวัยรุ่น ร้อยละ 5 อยู่ในภาวะติดเกม หรือใช้ชีวิตหมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมอย่างหนัก ซึ่งมีอัตราที่สูงกว่าประเทศฝั่งยุโรป ที่มีปัญหาเด็กติดเกมอยู่เพียงร้อยละ 1 ส่วนสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 2

โดย รศ.นพ.ชาญวิทย์ อนุกรรมการการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วง คือ อายุของเด็กที่เริ่มติดเกมในประเทศไทย มีอายุลดน้อยลงเรื่อย ๆ จากปี 2543 ที่เป็นกลุ่มระดับอุดมศึกษาปีที่ 1 - 2 แต่ปัจจุบันพบเด็กติดเกมเริ่มตั้งแต่ ป.4 - ป.6 

ซึ่งหากเด็กในช่วงวัยดังกล่าวติดเกม จะกระทบต่อพัฒนาการด้านภาษา ด้านกล้ามเนื้อ การคิดวิเคราะห์ การควบคุมตนเอง หรือความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่จะลดน้อยลงไปด้วย

อย่างไรก็ตาม คำสั่งของรัฐบาลจีนในการจำกัดช่วงเวลาเล่นเกมครั้งนี้ น่าจะทำให้หลาย ๆ ประเทศกลับมามองอนาคตของชาติที่จะได้รับผลกระทบจากการติดเกมที่เกินเหตุมากขึ้น 

แต่แน่นอนว่า เรื่องนี้ย่อมสร้างผลกระทบแก่ผู้ให้บริการเกมออนไลน์รายใหญ่ โดยเฉพาะในจีนอย่าง บริษัท Tencent และ NetEase ซึ่งทันทีที่มีมาตรการเข้มดังกล่าวออกมา ก็ทำให้หุ้นของทั้ง 2 บริษัท ร่วงลงทันทีที่รัฐบาลจีนออกมาตรการจำกัดการเล่นของผู้ใช้งานกลุ่มเยาวชน ที่เชื่อว่ามีมากกว่า 110 ล้านคนทั่วประเทศ 

นโยบายนี้ของจีน ได้ถูกวิเคราะห์กันว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงนโยบายของรัฐบาลจีน ที่ต้องการตัดตอนบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยี ที่มีเครือข่ายผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมหาศาลในจีน อย่างเช่น Alibaba, Tencent, Baidu ไป่ตู้, Didi ตีตี หรือ Meituan เหม่ยถวน ไม่ให้มีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในจีนมากเกินไป 

นี่อาจจะเป็นแผนการวางรากฐานใหม่ให้เยาวชนจีน ที่แม้จะดูเหมือนลิดรอนเสรีภาพ แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการหลาย ๆ อย่าง เพื่อส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพเยาวชนจีนรุ่นใหม่ควบคู่กันไปอย่างสมเหตุสมผล เช่น ยกเลิกระบบการสอบในชั้นเรียนของเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เพื่อลดความกดดันในการสอบแข่งขันตั้งแต่ในวัยเด็ก 

เปิดนโยบาย งดการเรียน-การสอน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ห้ามธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และต้องจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กได้เรียนอย่างเต็มที่ในชั้นเรียน และมีเวลาว่างเหลือให้ใช้ร่วมกับครอบครัวในวันหยุด

นโยบายเพื่อเด็กจีนสุดดุเหล่านี้จะช่วยพัฒนาคุณภาพของเด็กจีนในอนาคตได้แค่ไหน คงต้องมาตามดูกันต่อไป

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ผู้ก่อตั้งเจดีดอทคอม ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจีน ประกาศยุติบทบาทการบริหาร คาดเหตุจากการตรวจเข้มธุรกิจไฮเทคจีน

เศรษฐีพันล้านผู้ก่อตั้งเจดีดอทคอม ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจีน ประกาศยุติบทบาทการบริหารงานประจำวัน ถือเป็นผู้บริหารแถวหน้าคนที่ 4 ที่อำลางานเบื้องหน้า ขณะที่ปักกิ่งไล่ตรวจสอบและกดดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไม่ลดละ

คำแถลงของเจดีดอทคอมที่ออกมาเมื่อคืนวันจันทร์ (6 ก.ย.) ระบุว่า ริชาร์ด หลิว ที่ก่อตั้งเจดีดอทคอมในปี 1988 จะหันไปอุทิศเวลาในการกำหนดยุทธศาสตร์ระยะยาวของบริษัทแทน

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งประกาศยุติบทบาทเบื้องหน้า ขณะที่บริษัทใหญ่สุดของจีนบางแห่งถูกทางการจับตาอย่างเข้มงวด

จีนเริ่มการตรวจสอบเพื่อป้องกันการผูกขาดและออกกฎที่เข้มงวดขึ้นครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่วิดีโอเกม จนถึงการปกป้องพนักงานในระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ที่พึ่งพิงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมสิ่งที่รัฐบาลระบุว่า เป็นการขยายตัว “อย่างไร้ระเบียบ” ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

เจดีดอทคอมคือผู้เล่นแถวหน้าในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในจีน และเป็นศัตรูที่ก้าวร้าวของอาลีบาบา ผู้นำในตลาดนี้

หลิว ซึ่งรู้จักกันในชื่อจีนว่า หลิว เฉียงตง เคยถูกจับกุมในอเมริกาเมื่อปี 2018 จากข้อกล่าวหากระทำผิดอาชญากรรมทางเพศก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับจีนในเวลาต่อมา

เจดีดอทคอมไม่ได้ระบุเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงของการเปลี่ยนแปลงในด้านการบริหารครั้งนี้ แต่สำทับว่า หลิวจะยังคงรับตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ต่อไปตามเดิม

ทั้งนี้ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบาซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของหลิว หายหน้าไปนับจากที่แอนต์ กรุ๊ป บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินในเครืออาลีบาบา ถูกสั่งยกเลิกการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ไม่กี่วันก่อนถึงกำหนดในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่อาลีบาบาถูกปรับหลายพันล้านดอลลาร์จากกรณีการผูกขาดตลาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

จาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อก ประกาศอำลาตำแหน่งประธานบริษัทในเดือนพฤษภาคม และก่อนหน้านั้น โคลิน ฮวง ประธานกรรมการพินตัวตัว เปิดเผยในเดือนมีนาคมว่า จะวางมือเพื่อโฟกัสโครงการการกุศล


(ที่มา : เอเอฟพี)
https://mgronline.com/around/detail/9640000088834

“บิ๊กตู่”ห่วงสุขภาพประชาชนรับมือกับโควิด -19 หน้าฝน แนะสำรองหน้ากากผ้า-หน้ากากอนามัย และติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูฝนและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากฤดูฝนจะทำให้เกิดอุณหภูมิที่ลดลงอาจทำให้เชื้อโรคและเชื้อไวรัสอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้นานขึ้นและอาจทำให้เกิดโรคที่มีอาการใกล้เคียงกับโควิด-19 เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา และไข้เลือดออก  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฝากความห่วงใยถึงการปฎิบัติตนของประชาชนเพื่อป้องกันโควิด-19 ในช่วงหน้าฝนนี้ ให้ขอยึดหลักการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19  แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย อยู่เสมอ ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮลล์ หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับหน้า ตา จมูกและปาก รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดและไม่มีอากาศถ่ายเท  และในช่วงหน้าฝนนี้ ต้องทำความสะอาดหน้ากากผ้าทุกวันก่อนนำมาใช้  อย่าใช้หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยที่เปียกและชื้น และควรมีหน้ากากสำรองไว้เพื่อเปลี่ยนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

“นายกรัฐมนตรีอยากเห็นประชาชนรักษาสุขภาพที่ดี หมั่นสังเกตอาการตนเอง ทั้งโรคไวรัสโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงโรคทางเดินหายใจ รวมทั้งยังฝากความห่วงใยไปยังพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในขณะนี้  และขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนอิทธิพลจากพายุโกนเซิน (COUSON (2113) จะทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนมากขึ้นจนถึงสัปดาห์หน้าด้วย" นายธนกรฯ กล่าว

‘ชาดา’ ซัดหนัก ‘บิ๊กตู่’ ไม่ออกไปเยี่ยมปชช. เพื่อรับรู้ปัญหาด้วยตาตัวเอง ขาดจิตวิทยามวลชน

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุค ส่วนตัว Chada Thaised ระบุว่า

"การแก้ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมอยากจะบอกพี่น้องประชาชนและใครก็ได้บอกท่านนายกฯ ด้วย โรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ทุกรัฐบาลในโลกไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่มีทฤษฎี ไม่มีสูตรในการแก้ปัญหา หมอที่อยู่ข้างกายนายกฯ ไม่ว่าหัวหงอกหัวดำก็ไม่เคยผ่านมาทั้งนั้น ระบบสาธารณสุขของไทยถูกออกแบบมา คนป่วย ไอซียู 1 คน 1 เตียง อยู่ได้ 5 วัน แต่ผู้ป่วยโควิดนั้นอยู่ 15 วันถึง 30 วัน ในบางรายก็มากกว่านั้น ทำให้เกิดปัญหาไม่มีเตียงรองรับ ก็มะงุมมะงาหรากันทุกรัฐบาลทั่วโลก มีสภาพคล้าย ๆ กัน

แต่สิ่งที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ต้องรู้คือท่านขาดจิตวิทยามวลชน ท่านไม่ออกมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในกทม. ตามชุมชนต่าง ๆ และท่านก็ไม่เคยออกมารับรู้ปัญหาด้วยตาด้วยตัวของท่าน ท่าน work from home ผมจะบ้าตาย ทีมที่ปรึกษาคนในแนะนำให้ไปโดดน้ำ ผู้นำไม่ใช่อยู่กับบ้าน ไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร ต้องออกดูปัญหาออกมารับรู้เพื่อเห็นสภาพความเป็นจริง นายกฯ ต้องรู้ว่าระบบราชการไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไข้ปัญหาขนาดใหญ่ อุทกภัย วาตภัย และโรคระบาด

ผมขอยกตัวอย่างสมัยท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ น้ำท่วมใหญ่ปี 54 คุณสรยุทธเป็นพระเอก ประชาชนมาบริจาคเป็นร้อยล้าน แต่ไม่บริจาคให้รัฐบาล สมัยท่านนายกฯ ประยุทธ์ น้ำท่วมภาคอีสานเมื่อไม่นานมานี้ คุณบิณฑ์ เป็นพระเอก โรคระบาดครั้งนี้ มูลนิธิเส้นดายเป็นพระเอก ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกก็ว่าได้ที่ประชาชนออกมาช่วยประชาชน หน่วยงานของรัฐทุกระบบที่ไม่ใช่บุคลากรทางสาธารณสุข บางหน่วยบางคน ไม่ร่วมแรงร่วมใจ แต่ก็มีจำนวนมากที่เหน็ดเหนื่อย แต่ระดับอธิบดีแทบทุกหน่วยทำตัวเป็นปกติ นี่คือปัญหาของระบบราชการไทยที่ไม่รู้จักคำว่าลงแขกช่วยเหลือกัน รู้แต่ว่าหน้าที่กูหน้าที่มึง เหมือนกับร่างกายมนุษย์ที่ใช้งานแค่สองนิ้วสามนิ้ว เมื่อไม่ได้ช่วยกันทั้งหมด งานย่อมมีปัญหาแน่นอน

ในวัคซีนซิโนแวค มีประเทศจีนให้ความสำคัญกับเรา ช่วยเหลือเรา ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ประเทศตะวันตก ใครบ้างมาดูแลเราในสภาพตอนนั้น บางคนโจมตีรัฐบาลจีน แต่ตัวเองฉีดวัคซีนเข็มแรกของจีนก่อนใครใครทั้งหมด รอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็มีเยอะ ยังไปด่าเขา เนรคุณรึป่าว? และที่สำคัญในกรุงเทพมหานครไม่มีสาธารณสุขจังหวัด และไม่มีสาธารณสุขอำเภอ กทม.รับมือไม่ไหวหรอก มหาดไทยก็นิ่งเฉย ปล่อยกรุงเทพฯ เหมือนเมืองซอมบี้ ศักยภาพ กทม.เลยทำงานเหมือนคนโดดเดี่ยว

ผมเขียนมาวันนี้ไม่ได้คิดโจมตีใคร นายกฯ ต้องมองคนที่ให้คำแนะนำผิด ๆ บ้าง อย่างที่เช่นการรวบอำนาจตามกฎหมาย 30 กว่าฉบับมาไว้ที่ ศบค. แล้วก็กลายเป็นทำงานคนเดียว ชุดเดียว กลุ่มเดียว กระทรวง กรมต่าง ๆ นิ่งเฉย อยู่ดี ๆ ตัวใหญ่ขึ้น แต่คนช่วยทำงานไม่มีเลย เอาปลัดกระทรวงมานั่ง แต่ไม่ได้เอาหัวเอาหางมา มีกำลังพลมากมายในประเทศกลับไม่มีค่า ขาดความร่วมมือ ส่วนอื่น ๆ ก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่

บารมีท่านเป็นนายกฯ มา 7-8 ปี ไม่ต้องเอาอำนาจตามกฎหมายมาถือไว้ ไร้ประโยชน์ ในทางกลับกัน ถ้านายกฯ ไม่ไปดึงอำนาจมา แต่บริหารจัดให้กระทรวงนี้ไปรับผิดชอบเรื่องศูนย์พักคอย กระทรวงนี้ไปรับผิดชอบโรงพยาบาลสนาม อีกกระทรวงไปรับผิดชอบการขนส่งผู้ป่วย เป็นต้น นายกฯ ก็คงไม่ต้องโดนด่ามากมาย กระผมอาจจะคิดผิดก็ได้

แต่ท่านนายกฯ ครับ วันนี้อุทัยธานี เตียงสนาม ศูนย์พักคอย คนป่วยเริ่มน้อย กำลังจะปิดบางส่วน ถ้าท่านนายกฯ รู้ข้อมูลอาจจะให้อุทัยธานีช่วยเหลือคนป่วยจากที่อื่นอีกสัก 400-500 คน ที่อาการไม่หนัก นี่คือตัวอย่างครับท่าน ผมไม่ได้เก่งกาจ หรืออาจจะผิดก็ได้ แต่ผมคือคนที่อยู่ในระบบราชการมาพอสมควร จึงเขียนมาเป็นอีกหนึ่งความคิด

อย่าได้โกรธกันครับผม คนเราต้องทบทวนบ้างว่าอะไรมิตรแท้ ไม่ใช่ใครออกมาเสนอแนะอะไรก็โดนสวนกลับทั้งที่พูดด้วยความจริงใจ ที่ผมพูดมาก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าใครก็ตาม อย่าได้โกรธเกลียดกันเลยครับ (ถ้าเอ่ยถึงชื่อผู้ใด หรือตำแหน่งต่าง ๆ อาจจะไม่ถูกต้อง ก็ต้องกราบขอโทษด้วย พิมพ์เองครับ อาจจะผิดถูกบ้างไม่สละสลวย ก็ต้องขอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)”


ที่มา : https://www.facebook.com/chadathaised


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top