Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

‘ไม่พิมพ์ แต่ลงมือทำ’ รวมเหล่าคนดัง ที่ลงมือช่วยเหลือผู้คนในวิกฤติโควิด-19 แบบทำจริง

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกบันเทิง เมื่อเหล่าดารา ศิลปิน คนดัง ออกมาทำการ Call Out หรือส่งเสียงเรียกร้องประเด็นการบริหารงานของรัฐบาล

ถึงตรงนี้ เป็นสิทธิที่ทุกคน (แม้จะไม่ใช่ดารา คนดัง) สามารถทำได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราทุกคนต้อง ‘เคารพ’ ในกฎหมาย และวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน การเอาแต่ ‘ความสะใจ’ คงไม่เกิดผลดีในการแก้ปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้น

ในกระแสที่ดารา คนดัง ออกมา Call Out นั้น ในมุมกลับกัน ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่ออกมา ‘ลงมือทำ’ ช่วยเหลือกันในยามวิกฤติ THE STATES TIMES รวบรวมเหล่าคนดังที่ร่วมมือร่วมใจในแบบที่เรียกว่า ‘ลงมือทำจริง’ ซึ่งนี่ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีอีกมากมายหลายคนที่ลงแรงแข็งขันในการช่วยเหลือครั้งนี้

เราขอคารวะในหัวจิตหัวใจอันดีงาม แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิ์ ‘เลือกแสดงออก’ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด ๆ หากว่าเป้าหมายสูงสุด เป็นเป้าหมายของการนำพาประเทศไทย ให้ก้าวออกจากวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่นี้

วาง ‘อารมณ์’ ลงก่อน ปลด ‘ความเกลียดชัง’ กันลงบ้าง พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ก่อนที่จะไม่เหลือใครให้ทะเลาะกัน...


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แผนล้มจีน!! เมื่อเหล่ามหาอำนาจเก่า ปั้นเกมสกปรก ยก “Western Values” ยื้อความก้าวหน้าของ ‘จีน’ แต่สุดท้าย 'ไร้ผล' I Knowledge Times EP.4

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
???? แผนล้มจีน!! เมื่อเหล่ามหาอำนาจเก่า ปั้นเกมสกปรก ยก “Western Values” ยื้อความก้าวหน้าของ ‘จีน’ แต่สุดท้าย 'ไร้ผล'

ประเทศจีนในปัจจุบัน ถือเป็นประเทศที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทและมีอำนาจอย่างมากในเวทีโลก จากการพัฒนาตนเองรอบด้าน ไม่ว่าจะในแง่ของความมั่นคงทางอาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และเศรษฐกิจ ภายใต้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ

สร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความแข็งแกร่งที่มากพอจะก้าวออกสู่แผนที่โลก เพื่อต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศ 

โดยจีนเริ่มยุทธศาสตร์การแผ่ขยายอำนาจเข้าไปในหลายพื้นที่ของแผนที่โลก ผ่านโครงการเชื่อมแผ่นดิน ทั้งทางบก ที่มี Belt and Road Initiative หรือเส้นทางสายไหมใหม่เป็นใบเบิกทาง หรือแม้แต่ String of Pearls โครงการที่มีจุดมุ่งหมายขยายอำนาจไปทั่วน่านน้ำมหาสมุทร

แน่นอนว่า การพัฒนาและแผ่ขยายอำนาจของจีน ดูจะไม่ถูกใจฝั่งชาติมหาอำนาจตะวันตกเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

การ “แก้เกม” จึงเริ่มเห็นได้ชัดว่า ในช่วงระยะหลัง เหล่าบรรดาชาติตะวันตก ได้ร่วมโจมตีไปที่แกนกลางอำนาจของจีน ซึ่งก็คือ “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” บ่อย ๆ 

โดยใช้อาวุธสำคัญที่เรียกว่า “Western Values” หรือการอวดอ้างคุณค่าของความเป็นชาติตะวันตก จากการที่มีประชาธิปไตย ความหลากหลายของพรรคการเมือง สิทธิมนุษยชน และการค้าเสรีในเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมยัดเยียดว่าจีนคือประเทศที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและระเบียบโลก

ตัวอย่าง “Western Values” ที่ถูกนำมาใช้โจมตีประเทศจีนที่เห็นได้ชัดนั้น มีตั้งแต่การโจมตีระบอบสังคมนิยม ว่าขัดต่อหลักการประชาธิปไตย สังเกตได้จากการพยายามตีเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีนผ่าน อุยกูร์ ทิเบต และซินเจียง ก็ดี 

หรือแม้แต่การโจมตีเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ที่จีนมักถูกอ้างว่าลอกเลียนเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกบ่อย ๆ 

แม้ “Western Values” จะดูเป็นแผนการณ์ที่ดูสกปรก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้จีนดูเลวร้ายในสายตาชาวโลก

แต่นั่นก็ไม่ได้กระทบ ต่อการพัฒนาและขยายอำนาจของจีนเลยแม้แต่น้อย 

นั่นก็เพราะ ฐานการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใหม่ มีการปรับปรุงและพัฒนาจีนอย่างรอบด้าน ภายใต้การเรียนรู้ว่า โลกในปัจจุบันมีทั้งความหลายหลายและการเปลี่ยนแปลง การทำให้คนเท่าเทียมโดยใช้ระบบการวางแผนจากส่วนกลางแบบเดิม ๆ ของพรรคนั้น ไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป

ฉะนั้น พรรคคอมนิวนิสต์จีน จึงมีการนำ "ระบบทุนนิยม" เข้ามาปรับประยุกต์กับประเทศ โดยใช้พลังจากภาคเอกชนที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐ มาแก้ปัญหาความยากจน พร้อมทั้งนำ "ระบบสังคมนิยม" มาแก้ปัญหาและรับฟังประชาชนอย่างทั่วถึง

อีกทั้ง จีนยังถอดบทเรียนจากข้อผิดพลาดในอดีตและนำมาแก้ไข ทำให้มีการยกระดับพัฒนาสังคมจีนขนานใหญ่ เศรษฐกิจก้าวหน้า คนจนค่อย ๆ หมดไปจากจีน

ดังนั้น การที่วันนี้ชาติมหาอำนาจตะวันตก พยายามโจมตีจีนด้วยการนำคุณค่าจาก ความเป็น “Western Values” มาใช้บ่อยครั้ง จึงดูไร้ความหมาย

ซ้ำร้าย ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความล้าหลังของชาติตะวันตก ที่วันนี้ไม่สามารถวัดพลังกับจีนได้ตรง ๆ หากแต่ทำได้แค่มองพัฒนาการและการแผ่ขยายอำนาจของจีนแบบตาปริบ ๆ

เป็นหนามยอกใจ ที่ใช้วิธีไหน ก็ถอนไม่ออกเสียที... 


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ปริญญ์” เรียกร้อง ศบค. ทบทวนสั่งปิดร้านอาหารในห้าง พื้นที่สีแดงเข็ม หวั่นไม่เป็นผลดีต่อประชาชน - ซ้ำเติมเศรษฐกิจ แนะ 7 แนวทางแก้วิกฤติเร่งด่วน

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ทบทวนมาตรการสั่งปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้ มอลล์ ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ห่วงไม่มีผลต่อการเพิ่มความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเท่าไหร่นัก แต่สร้างผลกระทบหนักต่อประชาชนและเศรษฐกิจ

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวว่า เข้าใจดีถึงเจตนารมณ์ของศบค. ที่อยากลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ให้เร็วที่สุด แต่การสั่งปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้ มอลล์ในพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจและประชาชนครั้งใหญ่ เพราะเป็นการสั่งปิดแบบทันที ไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม รวมถึงยังไม่มีข้อมูลใดที่บ่งชี้ว่าร้านอาหารในห้างเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้มากกว่าร้านอาหารข้างนอก

โดยมาตรการในครั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องประสบกับปัญหาของค้างสต๊อก การขาดสภาพคล่องทางการเงิน เสี่ยงต่อการปิดกิจการ ส่วนลูกจ้างต้องว่างงานหรือตกงานกะทันหัน ในขณะที่ประชาชนทั่วไปก็หาร้านอาหารได้ยากขึ้น ต้องไปแออัดต่อคิวซื้อกลับบ้านตามร้านอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งอาจจะสร้างผลเสียให้กระบวนการทางสาธารณสุขมากกว่าจะเป็นผลดี จึงอยากเรียกร้องให้ศบค. เร่งทวบทวนมาตรการดังกล่าว และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญวิกฤติกลับไปกลับมาซ้ำ ๆ อย่างที่เป็น

นอกจากนี้ นายปริญญ์ยังได้เสนอ 7 มาตรการแก้วิกฤติขาดแคลนเตียงในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ถึงรัฐบาลและศบค. ดังนี้

1.) เร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและอนุมัติการนําเข้า Rapid Antigen Test Kits อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ราคาในท้องตลาดถูกลง ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และควรแจกชุดตรวจฟรีถึงบ้าน

2.) ปรับเปลี่ยนสถานที่ เช่น โรงเรียนแพทย์ สถานที่ของกองทัพ และพื้นที่ของเอกชน มาเป็นศูนย์พักพิงแยกผู้ติดเชื้อออกมาจากชุมชนแออัด และมีมาตรการดูแลเชิงรุกก่อนส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล

3.) เร่งแจกฟ้าทะลายโจรแก่ผู้ป่วยติดเชื้อ ไม่ต้องศึกษาเพิ่มแล้ว เพราะตอนนี้มีการศึกษาวิจัยจำนวนมากที่ออกมายืนยันว่าใช้ยานี้กับผู้ป่วยได้ดีในจำนวนที่เหมาะสม รวมถึงควรเร่งจัดหายา Favipiravir และ Remdesivir ให้เพียงพอ อย่าให้มีคอขวดในการนําเข้าแบบตอนนี้ รวมทั้งควรสนับสนุนให้ผลิตยาดังกล่าวได้อย่างเสรีในประเทศไทย

4.) ปลดล็อกการจัดซื้อวัคซีนให้มีความคล่องตัว และโปร่งใสมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดหาวัคซีน mRNA และวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ เช่น โนวาแวกซ์ (Novavax) ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทัพหน้าและประชาชนในพื้นที่วิกฤติ รวมถึงสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนใบยาของจุฬาฯ ที่เป็นหนึ่งในความหวังสกัดเชื้อกลายพันธุ์อย่างปลอดภัย

5.) ปรับปรุงและพัฒนาการสื่อสารให้ชัดเจน ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เช่น องค์ความรู้ด้านการกักตัวอยู่บ้าน (Home Isolation) การบริหารจัดการคิวฉีดวัคซีนให้มีความเป็นธรรมและเป็นไปอย่างเหมาะสม

6.) เยียวยากลุ่มธุรกิจที่ให้ความร่วมมือปิดกิจการเป็นอย่างดีมาโดยตลอดและได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ฟิตเนส ร้านอาหาร อีเว้นท์ นักดนตรี ธุรกิจกลางคืน/บันเทิง ให้เหมาะสม ทันท่วงที โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ควรจัดหาแหล่งเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่มีดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการ พักหนี้ทั้งต้นและดอกอย่างจริงจัง และจัดสรรงบฟื้นฟูเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิต ไม่ใช่แค่แจกเงิน เช่น การพัฒนาศักยภาพและทักษะใหม่ ๆ ให้กับประชาชนผ่านสื่อออนไลน์เพื่อเพิ่มแรงงานฝีมือ และควรขยายผลโครงการที่ทำไปแล้วและได้ผลตอบรับที่ดี อาทิ โครงการกระจายความรู้ สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From Gen Z to be CEO) ของกระทรวงพาณิชย์ที่ท่านรองนายกฯ จุรินทร์ได้ริเริ่ม โครงการเรียนจบพบงาน ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น

7.) ต้องช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนให้ได้อย่างจริงจัง โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น การประปาและการไฟฟ้าต้องยอมรับภาระต้นทุนในส่วนนี้เพื่อช่วยลดค่านํ้าค่าไฟให้กับประชาชนมากกว่าเดิม ภาครัฐต้องลดภาษีและค่าธรรมเนียมทุกชนิด รวมถึงบริษัทโทรคมนาคมต้องปรับลดค่าอินเตอร์เน็ตลงด้วย เพื่อสนับสนุนการทํางานและการศึกษาจากที่บ้าน (Work/Study From Home) โดยรัฐบาลอาจจัดสรรงบมาสนับสนุนด้วยได้

“พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนของประชาชน เราพยายามทําหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และประธานมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช ได้นําคณะรัฐมนตรีของพรรคปล่อยคาราวานรถ ‘ถุงนํ้าใจ ปชป. ส่งผู้รอเตียง’ จัดส่งอาหารถึงบ้านประชาชนในพื้นที่กทม. ปริมณฑล และภาคใต้ รวมถึงช่วยจัดหาเตียงให้ผู้ป่วยที่ทางศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ หรือ ศปฉ.ปชป. ได้ประสานงานไปแล้วกว่า 1,600 เตียง

อย่างไรก็ตาม ปชป. จะเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุขของไทย และเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลและศบค. จะเร่งดำเนินการแก้ไขวิกฤตินี้ตามที่ได้เสนอไป และมองที่ประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อพาประเทศฝ่าวิกฤติไปได้ด้วยกัน” นายปริญญ์ กล่าว


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เสียงสะท้อนชนชั้นกลาง​ กับมาตรการเยียวยา ด้วย ‘ยา’ ที่ไม่ถูกสูตร | Click on Clear THE TOPIC EP.12

????HOT! เสียงสะท้อนจากเจ้าของธุรกิจ ในวันที่โควิด-19 ทำพิษ แต่มาตรการเยียวยา ‘ไม่ตอบโจทย์’ !!

????หาคำตอบไปพร้อมกัน! มาตรการเยียวยาแบบไหนถึงจะเป็น ‘ยา’ ที่ถูกสูตร!!

รายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ...

‘คุณหนึ่ง พีระพล พิภวากร’

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบญจมาศ อารี จำกัด เจ้าของร้านอาหารบ้านเบญจมาศ และ Ari Social Club

ใน Topic : เสียงสะท้อนชนชั้นกลาง​ กับมาตรการเยียวยา ด้วย ‘ยา’ ที่ไม่ถูกสูตร

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พรรคพลังประชารัฐ แจง ‘สนธิญา สวัสดี’ ไม่ใช่สมาชิกพรรค พร้อมยืนยัน ปมเคลื่อนไหวสอบดารา Call Out ไม่เกี่ยวกับพรรค

22 ก.ค.64 นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนง ได้มีการรายงานข่าวว่า เมื่อวานนี้ (21 กรกฎาคม 2564 ) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการติดตาม กำกับ ดูแล ตรวจสอบกรณีการ Call out ของดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.ก.สถานการณ์การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ

ทั้งนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ขอชี้แจงว่า นายสนธิญา สวัสดี มิได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด ดังนั้น ในส่วนของการเคลื่อนไหวของนายสนธิญา จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องพรรคพลังประชารัฐ ตามที่สื่อบางสำนักได้พาดพิง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศบศ.เคาะเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เชื่อม “สุราษฎร์ฯ-กระบี่-พังงา” 1ส.ค.นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม Phuket Sandbox เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) มีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ส.ค.นี้ 

โดยที่ประชุมได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่ร่วมกัน และพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกับการดำเนินการของ Phuket Sandbox เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 

นอกจากนี้ยังสั่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาต่อไป และให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไป

"คณะก้าวหน้า" จับมือ "บริษัท ส้มจี๊ด เอนเตอร์ไพรส์" สนับสนุนเกษตรกรภาคใต้ ซื้อ "นมแพะมาจู" ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะก้าวหน้า พร้อมด้วย บริษัท ส้มจี๊ด เอนเตอร์ไพรส์ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ในพื้นที่เขตหนองจอก เพื่อมอบ "มาจู" นมแพะคุณภาพสูงจากเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 500 ขวด เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยที่กำลังเข้ารับการรักษาและเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก ซึ่งคุณประโยชน์ของนมแพะจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น และย่อยง่ายกว่านมวัวทั่วไป และนมแพะก็ประกอบด้วยวิตามินจำเป็นหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี และแร่ธาตุอีกหลายชนิด จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับดื่มเพื่อบำรุงร่างกายในช่วงการระบาดโควิด-19

ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวว่า การมอบนมแพะให้กับผู้ป่วยและบุคลากรที่กำลังต่อสู้กับโควิด เป็นการช่วยเหลือทั้งสองทาง ทางแรก คือ การช่วยให้เกษตรกรนมแพะในชายแดนใต้ยังมีรายได้ เพราะในภาวะที่เกิดการระบาดรุนแรง ชายแดนใต้เป็นพื้นที่สีแดงเข้มเช่นเดียวกับกทม. ทำให้เศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากความขัดแย้งในพื้นที่เลวร้ายลงอีก บริษัทส้มจี๊ดจึงตัดสินใจรับซื้อนมแพะจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่สามารถจำหน่ายนมได้เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และกำลังซื้อในพื้นที่ลดลง เพื่อพยุงรายได้ของเกษตรกรและนำนมที่ผลิตได้มาแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อน ซึ่งเป็นการช่วยทางที่สอง ให้คนที่ลำบากหรือป่วยไข้ได้อิ่มท้อง มีอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการสูง นมแพะถือเป็นอาหารที่นิยมใช้เยี่ยมไข้ หรือให้ผู้ฟื้นไข้ และแม่ลูกอ่อนรับประทานเพื่อบำรุงกำลัง เนื่องจากนมแพะย่อยง่าย ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว และโปรตีนสูง จึงเหมาะกับผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า นอกจากการสนับสนุนเฉพาะหน้าในครั้งนี้ คณะก้าวหน้า และ บริษัท ส้มจี๊ด เอ็นเตอร์ไพรส์ มีความเห็นร่วมกันถึงอนาคตหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ว่า จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมพัฒนาทักษะอาชีพให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาจากพิษเศรษฐกิจ ตกงาน กลับคืนสู่บ้านเกิดตามจังหวัดต่างๆ โมเดลนมแพะมาจู ซึ่งเป็นการตั้งโรงงานผลิตนมแพะ รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยคาดหวังให้โรงงานและเกษตรกรเติบโตไปพร้อมๆกัน และให้เกษตรกรได้ร่วมกันเป็นเจ้าของโรงงานในอนาคต ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางการสนับสนุนภาคประชาชน ให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิถีชีวิตและต้นทุนทรัพยากรในพื้นที่ และในอนาคตจะสร้างงาน สร้างอาชีพ รองรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบการศึกษา รวมถึงคนวัยทำงานที่ตกงานจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำช่วงโควิด-19

“โฆษก ศบศ.”เผย “บิ๊กตู่” พอใจโครงการนำร่องเปิดประเทศ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ -สมุยพลัสโมเดล “รุกต่อ” พังงา กระบี่ เริ่ม 1 ส.ค.นี้ พร้อมหนุนมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจและการลงทุนดึงต่างชาติเข้าประเทศ 

ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบ VDO Conference ท่าี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของโครงการ Phuket Sandbox พร้อมชื่มชมการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน โดยพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-21 กรกฎาคม 2564 รวม 9,358 คน  ขณะที่ยอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนอยู่ที่ 244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพักร้อยละ 10.12 สร้างรายรับการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการร่วมมือกันเพื่อควบคุมการระบาดให้ดี 
       
นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฯ ได้เห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม Phuket Sandbox เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) มีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 โดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่ร่วมกัน และพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกับการดำเนินการของ Phuket Sandbox เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ และ (2) มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาต่อไป และให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไป
     
โฆษก ศบศ. กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ นั้น ได้มีการปรับข้อจำกัดต่าง ๆ และอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ประกอบด้วย (1) กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) (2) ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) (3) กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional) และ (4) กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional) โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป

รองโฆษกรัฐบาล เผย ก.สธ.-ก.คม กำหนดมาตรการเข้ม ย้ายผู้ป่วยใน กทม. ปริมณฑล กลับภูมิลำเนา โทรสายด่วน 1330 แจ้งความประสงค์ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา มอบหมายให้กระทรวงทรวงสาธารณสุข ประสานกับรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องการเดินทางกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา เพื่อลดความหนาแน่นในการรองรับผู้ป่วยใน กทม.และปริมณฑล ล่าสุดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กองทัพบก และกระทรวงคมนาคม ได้ประสานความร่วมมือ จัดรถรับ-ส่งผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่ต้องการกลับไปรักษายังภูมิลำเนาแล้ว โดยประชาชนที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 อาการไม่รุนแรง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่ต้องการกลับไปรักษาตัวยังภูมิลำเนา สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน  1330 กด 15  หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th/

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น เมื่อผู้ป่วยรับทราบผลการติดเชื้อโควิด-19 แล้วแจ้งไปยังสายด่วน 1330 ประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม สปสช.และกระทรวงคมนาคม จะแจ้งประสานไปยังจังหวัดปลายทางเพื่อส่งตัวผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามในจังหวัด โดยมีมาตรการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เข้มงวด ปลอดภัย ซึ่งเป็นข้อกำหนดจากกรมควบคุมโรคและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เช่น มีอุปกรณ์กั้นผู้ป่วยแยกกับคนขับ มีมาตรการเว้นระยะห่าง นั่งที่เวรที่ สำหรับรถตู้ให้โดยสารได้ไม่เกิน 5 คน พร้อมมีแพทย์วิดีโอคอลให้คำปรึกษาอาการระหว่างการเดินทาง โดยกระบวนการขนย้ายนี้ เป็นความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมการขนส่งทหารบก
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกระทรวงคมนาคม ได้กำหนดมาตรการด้านการขนส่งผู้ป่วยไว้เป็นอย่างดี โดยให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ การเว้นระยะห่างภายในรถ การทำความสะอาดตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ป่วยระหว่างเดินทาง พร้อมประสานขอให้จังหวัดดำเนินการวางแผนการรองรับผู้ป่วยกลับบ้าน โดยให้มีการคาดการณ์ถึงสถานการณ์ในอนาคตเพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องการอื่น เช่น ไลน์ สำหรับกรณีที่จังหวัดหรือหน่วยงานใด ต้องการการสนับสนุนจากกระทรวงคมนาคม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันต่อสถานการณ์

นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส เปิดเผยว่า เขาจะไม่บังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยใหม่ทั่วรัฐ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งก็ตาม

นายแอบบอตต์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “รัฐเท็กซัสผ่านพ้นช่วงเวลาของการบังคับใช้มาตรการของรัฐบาล และขณะนี้เป็นเวลาที่ประชาชนจะต้องรับผิดชอบตนเอง”

ก่อนหน้านี้ นายแอบบอตต์ ได้แสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกัน ในขณะให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น KPRC โดยระบุว่า “จะไม่มีมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัย และเหตุผลก็คือ มีคนจำนวนมากที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะมาจากการฉีดวัคซีน หรือมาจากการติดเชื้อและฟื้นตัวได้เอง ซึ่งจะได้รับภูมิคุ้มกันเช่นกัน”

นอกจากนี้ นายแอบบอตต์กล่าวว่า “มันอาจไม่เหมาะสมที่จะบังคับให้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วสวมหน้ากากอนามัย”

กระทรวงสาธารณสุขของรัฐเท็กซัส เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐเท็กซัสสูงเกินเกณฑ์ 10% ที่กำหนดไว้ ขณะที่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วทั้งรัฐเพิ่มขึ้นในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ข้อมูลเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ระบุว่า ประมาณ 43% ของชาวเท็กซัสได้รับการวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยเท็กซัสร่วมกับสำนักข่าวเดอะ เท็กซัส ทรีบูน พบว่า เกือบครึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐเท็กซัสได้กลับมาใช้ชีวิตก่อนการแพร่ระบาด แต่จำนวนของการฉีดวัคซีนปรับตัวลดลงในแต่ละเดือนตั้งแต่เดือนเม.ย. เป็นต้นมา


ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/109198


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top