Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

นักเขียนซีไรต์ เหน็บ 'กลุ่ม 3 นิ้ว' เหยียดคนอื่นได้ พอโดนด่ากลับ ทำเป็นดิ้น ชี้! น่าโดนสากตะบันหมาก

เห็นสามนิ้วแล้ว 'นักเขียนซีไรต์' คิดถึง 'ยาย' เขวี้ยงสากตะบันหมากทองเหลืองใส่โรงลิเก

5 ต.ค. 64 - วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กหัวข้อ "คิดถึงยาย" โดยระบุรายละเอียดว่า เห็นพวกสามนิ้วก่นด่าเหยียดหยามคนอื่นๆ สารพัด พอโดนด่าเข้าบ้างกลับว่าเขาเหยียดหยามความเป็นมนุษย์! แล้วก็ด่าเขาต่อ!

ผมนึกถึงวัยเด็ก... ไปดูลิเกงานวัดหน้าแล้ง "ตัวนังอิจฉา" ซึ่งเป็นเมียน้อยของพระเอกโคตรโง่ ก็หาเรื่องกลั่นแกล้งก่นด่าเหยียดหยามนางเอกผู้แสนดีจนน่าหมั่นไส้ไม่หยุดไม่หย่อน แล้วก็แถไปออดอ้อนฟ้องพระเอกว่าถูกนางเอกรังแก (กรูโกรธมึงมาก!)

"ผัวขา... ดูอีดอกนั่นสิคะ มันพูดจาหยาบคายกับเมีย!"

ยายคนหนึ่งซึ่งนั่งตะบันหมากอย่างเคร่งเครียดอยู่ข้างหน้าผมก็สุดจะทนต่อไป แกลุกขึ้นเขวี้ยงสากตะบันหมากทองเหลืองขึ้นไปบนเวที  "มึงนั่นแหละอีดอก! ตอแหลเห็นๆ กูดูอยู่!"

ครม.ไฟเขียวเงิน 1,320 ล้านบาท แจกเงินเยียวยาเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็ก อปท.

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติกรอบวงเงิน 1,320 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการช่วยเหลือเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 660,318 คน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 18,540 แห่ง โดยจ่ายเป็นเงินเยียวยาลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของผู้ปกครองในสถานการณ์โควิด-19 รายละ 2,000 บาทต่อคน 

ทั้งนี้ทำให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1,389,722 คน จากเดิมที่ไม่ครอบคลุมเด็กเล็ก และกรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 2,779 ล้านบาท โดย ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดส่งรายชื่อให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจความซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายโครงการ และจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อและจำนวนนักเรียนในแต่ละระดับให้เป็นปัจจุบัน

‘เฟซบุ๊ก’ ถูกแฉ!! สนแต่กำไร ปลุกเร้าอารมณ์โกรธ ไม่สกัด 'ข้อมูลเท็จ-เกลียดชัง' กลัวคนไม่คลิก

อดีตพนักงานที่เป็นผู้เปิดโปงเฟซบุ๊ก ออกโรงเปิดหน้าโจมตียักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้เห็นแก่กำไรมากกว่าพยายามขัดขวางการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง การเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ และการบุลลี่เด็กสาว

ฟรานเชส โฮเกน วัย 37 ปี ที่เคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ทีมจัดการการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ของเฟซบุ๊ก ปรากฏตัวในรายการ “60 มินิตส์” ซึ่งทางเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ นำออกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) โดยเปิดเผยว่า ตนคือผู้เปิดโปงที่ส่งเอกสารข้อมูลจนนำไปสู่การสืบค้นของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล และการจัดสอบสวนของวุฒิสภาเกี่ยวกับอันตรายต่อเด็กสาวบนอินสตาแกรม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในเครือเฟซบุ๊ก

เฟซบุ๊กถูกโจมตีอย่างหนักหลังจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวเผยแพร่เรื่องราวมากมายที่อิงกับการนำเสนอและอีเมลภายในบริษัท ซึ่งฟ้องให้เห็นว่า ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรู้ดีว่า ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งรวมถึงอินสตาแกรม เป็นอันตรายต่อเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ภาพเรือนร่าง

โฮเกนที่ก่อนหน้านี้ยังเคยทำงานให้กับกูเกิลและพินเทอเรสต์ด้วย กล่าวกลางรายการ 60 มินนิตส์ว่า เฟซบุ๊กเลวร้ายกว่าสิ่งใดๆ ที่เธอเคยเจอมา และสำทับว่า เฟซบุ๊กโกหกสังคมเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดการกับการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังและการเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของตน

เธอแจงว่า เฟซบุ๊กเวอร์ชันปัจจุบันทำให้สังคมแตกเป็นเสี่ยง และกระตุ้นการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วโลก

โฮเกนเผยว่า การวิจัยของเฟซบุ๊กพบว่า การปลุกเร้าคนให้โกรธง่ายกว่าการปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกอื่นๆ และบริษัทตระหนักว่า ถ้าเปลี่ยนอัลกอริทึมให้ปลอดภัยขึ้น คนจะใช้เฟซบุ๊กและคลิกโฆษณาน้อยลง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลง

เธอยังบอกอีกว่า ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 เฟซบุ๊กตระหนักถึงอันตรายจากเนื้อหาที่กระตุ้นความเกลียดชังจึงเปิดระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อสกัดเนื้อหาเหล่านั้น แต่ทันทีที่การเลือกตั้งจบลง บริษัทก็ปิดระบบรักษาความปลอดภัยและกลับไปให้ความสำคัญกับการเติบโตมากกว่าความปลอดภัย

แม้เชื่อว่า ไม่มีใครในเฟซบุ๊ก “ชั่วร้าย” แต่โฮเกนบอกว่า บริษัทจัดการกับมาตรการจูงใจอย่างผิดพลาด

ทั้งนี้ โฮเกนกำหนดไปให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมาธิการวุฒิสภาในวันอังคาร (5 ต.ค.) ในหัวข้อ “การปกป้องเด็กในระบบออนไลน์” ว่าด้วยการวิจัยของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับผลกระทบจากอินสตาแกรมต่อเด็ก

เธอกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า มีผลประโยชน์ขัดแย้งระหว่างสิ่งที่ดีต่อสังคมกับสิ่งที่ดีต่อเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊กเลือกให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น การเพิ่มรายได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

'อ.โต' วิเคราะห์!! โควิดทำขนส่งทางเรือสหรัฐฯ ชะงัก คาดกระทบลามทั่วโลก แต่ไม่กระทบไทย

นายศาสตรา โตอ่อน เจ้าของช่อง YouTube 'อ.โตวิเคราะห์ official' อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นิติศาสตรมหาบัณฑิต (กฎหมายมหาชน) ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sattra Toaon ว่า...

สหรัฐฯ กำลังวิกฤต เนื่องจากการขนส่งทางทะเลวิกฤตหนักจากโควิด-19

ตอนนี้มีคอนเทนเนอร์ตกค้างที่ท่าเรือทั่วสหรัฐฯ ราว 500,000 ตู้

ปัญหาหนักขึ้นไปอีก เพราะการติดเชื้อเกิดขึ้นในคนขับรถบรรทุกสินค้าจากท่าเรือ

ส่งผลให้การกระจายสินค้าทำได้ลำบาก

เชลฟ์วางสินค้าในสหรัฐฯ กำลังว่างเปล่า

เหตุการณ์การขนส่งทางทะเลมีปัญหา ซึ่งมิได้เกิดแค่ในสหรัฐฯ แต่กำลังลุกลามไปทั่วโลก

อังกฤษและยุโรป ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

Pandemics การระบาดใหญ่ ส่งผลกระทบทำให้สายโซ่การผลิตขนส่งของโลกขาดจากกัน

Global Supply Chain is breaking มันกำลังพัง

"อรรถวิชช์" ลงพื้นที่นครฯ ดักหน้า "บิ๊กตู่" ขอเร่งรัดสร้างคลองระบายน้ำตามพระราชดำริ ชี้โครงการตั้งแต่ปี 2531 แต่ยังไม่เสร็จ ย้ำหากทำสำเร็จ ระบายน้ำเพิ่มได้อีก 4 เท่าตัว 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพบปะผู้เสนอตัวสมัครเลือกตั้ง ส.ส. สมาชิกพรรค และติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า มีการคาดการณ์ว่า พายุจะเริ่มเข้าตั้งแต่ช่วงกลางเดือนนี้ จนถึงเดือนพฤศจิกายน ปริมาณน้ำฝนมากขึ้น โดยได้พูดคุยกับนายปริญญา สัคคะนายก สำนักงานชลประทานที่ 15 (SWOC15) ถึงการเตรียมความพร้อมพื้นที่ ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชฝั่งตะวันตกมีอ่างเก็บน้ำคลองกระทูน , อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ใน อ.พิปูน รองรับไว้ แต่ฝั่งตะวันออกที่ติดอ่าวไทยไม่มีอ่างเก็บน้ำ จึงมีการสร้างคลองระบายน้ำสายที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เชื่อมต่อคลองวังวัว เพื่อระบายน้ำอ้อมเมืองนครศรีธรรมราชออกอ่าวไทย เป็นโครงการที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2531 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า สาเหตุที่โครงการไม่แล้วเสร็จ เพราะเมื่อเวนคืนพื้นที่เสร็จเรียบร้อย ก็ยังมีคนกลับเข้าไปอยู่บ้าง พอมีงบสร้าง งบรื้อเยียวยาไม่มี พอมีงบเยียวยา ก็ไม่มีงบก่อสร้าง สลับกันไปมาแบบนี้ โครงการเลยไม่สำเร็จ แต่พอปีที่แล้ว พื้นที่ อ.ลานสกา น้ำท่วมหนัก เลยทำให้ประชาชนละแวกนี้เริ่มเข้าใจแล้ว ว่าคลองระบายน้ำสายที่ 3 มีความจำเป็น 

พาณิชย์เปิดภาวะเงินเฟ้อ เดือนก.ย.กลับมาบวก 1.68% 

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อประจำเดือนก.ย. 2564 ว่า เงินเฟ้อในเดือนก.ย. อยู่ที่ 1.68% หลังจากในเดือนส.ค.ติดลบเป็นเดือนแรกปีนี้ 0.02% โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสิ้นสุดลงของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค และระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงยังสูงต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวเป็นปกติและค่อนข้างทรงตัว ยกเว้นสินค้ากลุ่มอาหารสดที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อนข้างผันผวน แต่ส่วนใหญ่ยังมีราคาต่ำกว่าปีก่อน โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ผักสดและผลไม้สด ยกเว้น ไข่ไก่ที่ยังมีราคาสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมากแต่แนวโน้มราคาเริ่มลดลงตามลำดับ

สำหรับเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ทั้ง ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า มูลค่าการส่งออกสินค้า รายได้เกษตรกร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้ผลิตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ชี้ว่าราคาสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในระยะต่อไปยังมีแรงส่งจากราคาสินค้าในภาคการผลิตบางชนิด ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

พูลวิลลาเขาใหญ่แจง ปมลูกค้าไม่ประทับใจคิดค่าปรับ 5 พัน ยันชี้แจงกฎให้ลูกค้าทราบแล้ว

กลายเป็นดรามาหลังมีสาวรีวิวบ้านพักพูลวิลลาเขาใหญ่คืนละ 2 หมื่นบริการไม่ประทับใจ แถมปรับเงินจุกจิกไปกว่า 5,000 บาท ล่าสุดทางบ้านพักแจง ยืนยันก่อนลูกค้าเข้าพักได้มีการชี้แจงกฎระเบียบ รายละเอียดต่างๆ ให้ลูกค้าทราบเงื่อนไขทุกครั้ง หากยินยอมตกลงถึงจะมีการจองการเข้าพัก

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รีวิวแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวที่พักพูลวิลลาแห่งหนึ่งใน อ.เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ทางที่พักเก็บเงินมัดจำ 5,000 บาท แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นทางที่พักออกกฎเกณฑ์ต่างๆ จนทำให้เจ้าตัวโดนหักเงินจนไม่เหลือค่ามัดจำ

ล่าสุดวันนี้ (4 ต.ค.) เพจ “บ้านพักเขาใหญ่ The O2 Pool Villa Khaoyai” ได้โพสต์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีที่ลูกค้านำไปโพสต์ อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ลูกค้าท่านอื่นๆ และได้รับความเสียหาย ทางบ้านพักขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

1.) สัญญาณ Internet ที่หลุดบ่อย ในวันดังกล่าวมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตจริง เนื่องจากสภาพอากาศเกิดพายุฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอก ในส่วนนี้เป็นปัญหาที่ทางบ้านจะนำไปปรับปรุง ต้องขออภัยลูกค้ามา ณ ที่นี้

2.) ลูกค้าได้ลงมาสอบถามผู้ดูแลบ้านในเรื่องการเชื่อมต่อเครื่องเสียงจริง ซึ่งทางบ้านให้บริการเบื้องต้นโดยการสอบถาม ให้คำแนะนำ โดยดูคู่มือประกอบ หลังจากนั้นลูกค้าได้กลับไปพักผ่อนโดยไม่ได้แจ้งคำตอบให้ผู้ดูแล หรือแจ้งปัญหากลับมาอีก ทางบ้านจึงเข้าใจว่าลูกค้าสามารถใช้งานได้ปกติ รวมถึงปัญหาเครื่องเสียงเบาและไม่ดี ซึ่งจากการใช้งานในวันเวลาดังกล่าวไม่ได้รับแจ้งจากทางลูกค้า จนถึง ณ วันเช็กเอาต์เครื่องเสียงยังสามารถใช้งานได้ปกติ หากเกิดปัญหาและได้รับการแจ้งจากลูกค้า ทางบ้านยินดีแก้ไขและนำไปปรับปรุงการให้บริการ และในช่วงสถานการณ์โควิดทางบ้านพักหลีกเลี่ยงที่จะขึ้นไปสัมผัสกับลูกค้าภายในบ้านเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

3.) ทางที่พักไม่อนุญาตให้นำลำโพงเข้าที่พัก ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่ทางบ้านได้ส่งชี้แจงให้ลูกค้าพักเพื่อรับทราบก่อนทำการโอนมัดจำ เนื่องจากหากลูกค้านำลำโพงมาเองและเกินเดซิเบลที่สูงเกินไป อาจทำให้รบกวนผู้อาศัยโดยรอบ จึงเป็นที่มาของการจำกัดการใช้เสียง และขอความร่วมมือใช้อุปกรณ์จากทางบ้านพักที่จัดเตรียมไว้ให้

4.) ห่วงยางเสียหายและมีการปรับค่าเสียหายจริง หากห่วงยางฉีกขาดหรือชำรุดจะมีการปรับค่าเสียหายและทางบ้านพักจะให้ลูกค้านำกลับบ้าน ซึ่งหากเกิดกรณีทรัพย์สินเสียหายภายในบ้านจะมีค่าปรับตามมูลค่าที่เกิดขึ้นจริง

5.) ลูกค้าขอคืนเงินค่าที่นอนเสริม 800 บาท ทางบ้านได้คืนเงินให้แก่ลูกค้า 50% เนื่องจากลูกค้าแจ้งความประสงค์ที่จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าพักและคอนเฟิร์มจำนวนคนก่อน Check In ทางบ้านได้ให้บริการตามความประสงค์ของลูกค้า หลังจากการให้บริการทางลูกค้าได้แจ้งยกเลิกขอเงินที่นอนเสริมคืนช่วงกลางดึก เวลา 21.37 น. ทางบ้านพักไม่สามารถคืนเงินได้เต็มจำนวน 800 บาท เนื่องจากทางบ้านมีค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมและทำความสะอาด จึงยินดีที่จะคืนเงินลูกค้าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เรียกเก็บ เพราะทางบ้านไม่สามารถนำอุปกรณ์ที่ใช้แล้วไปให้ลูกค้าท่านอื่นได้ จึงมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น

'ราเมศ' เผย ปชป. นัดประชุม กก.บห. พุธนี้ เตรียมประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น ซึ่งมีวาระที่ได้กำหนดไว้ คือการอนุมัติแผนหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมเพื่อส่ง กกต. ตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด อนุมัติผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค อนุมัติจัดตั้งสาขา และมีวาระที่สำคัญคือการเตรียมการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 การให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์พรรค 

“บิ๊กป้อง” มอบนโยบายผบ.ทอ. หลังเข้ารับตำแหน่ง ขับเคลื่อน ทอ.คุณภาพใต้นโยบาย 6 ด้าน กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องให้ดี ตอบแทนคนทำหน้าที่ ลั่นกรมกำลังพลต้องรับคนมีคุณภาพมาทำงาน จ่อเดินสายเยี่ยมทุกกองบินภายใน 3 เดือนนี้ ยก “บิดา” คือต้นแบบพัฒนาทัพฟ้า

ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ดอนเมือง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) แถลงนโยบายผบ.ทอ. ประจำปีพ.ศ. 2565 เพื่อสื่อสารเจตนารมณ์ไปยังข้าราชการทหารอากาศ และกำลังพลในสังกัดกองทัพอากาศทุกคนให้ได้รับทราบและตระหนักถึงหน้าที่อันสำคัญในการปฏิบัติงานราชการ ผ่านการประชุมทางไกล (วีทีซี) และเผยแพร่สัญญาณผ่านระบบสื่อออนไลน์ เพื่อให้กำลังพลทุกระดับได้รับฟังอย่างทั่วถึงและพร้อมเพรียงกัน

พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า กองทัพอากาศคุณภาพภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.คนคุณภาพ 2.ข้อมูลและการข่าวที่มีคุณภาพ 3.กำลังทางอากาศที่เข้มแข็ง 4.ระบบส่งกำลังบำรุงที่ลื่นไหล 5.เชื่อมโยงและช่วยเหลือประชาชน 6.ข้าราชการมีความสุขด้วยระบบสวัสดิการที่มีคุณภาพ 

โดยตนได้เน้นย้ำเรื่องนี้ เพราะการมีของแต่ไม่มีคุณภาพก็ไม่มีประโยชน์อะไร และอาจทำให้ความเสียความรู้สึกได้โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนต้องช่วยกัน และความเอาใจใส่ของผู้บังคับหน่วยที่เป็นคีย์แมนทดลบันดาลทุกสิ่งให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งตนเคยทำมาแล้วสมัยเป็นผู้บังคับการกองบิน 23 และผบ.คปอ.สามารถทำด้วยงบประมาณที่มีอยู่ ขอให้ทุกหน่วยนำนโยบายข้อนี้ไปปฏิบัติและตนจะหาโอกาสไปเยี่ยมทุกกองบินภายใน 3 เดือนแรกหลังจากรับหน้าที่ ดังนั้นทุกกองบินต้องรีบทำหากติดขัดอะไรขอให้บอก

พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวต่อว่า สำหรับผู้มีพระคุณของตน หากไม่กล่าวถึงเลยก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูได้ คนแรกคือพล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ บิดาของตน ซึ่งตนได้เห็นและศึกษาแนวทางของกองทัพอากาศสมัยที่บิดารับตำแหน่ง ผบ.ทอ. แม้ว่าจะผ่านมา 35 ปี แล้วแต่ของทุกอย่างในสมัยที่ท่านดำเนินการนั้นยังมีคุณภาพและยังสามารถใช้งานได้อยู่ เช่น เครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ,ระบบการป้องกันภัยทางอากาศ (แอร์ดิเฟนซ์) ,พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ,อาคารตึก8แฉก , สนามกีฬาธูปะเตมีย์ ,สนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ,โรงพยาบาลภูมิพล,อาคารคุ้มเกล้า และหอประชุมตามกองบินต่างๆ ทุกอย่างมีคุณภาพที่ดีและใช้งานได้นาน ส่วนคนที่สองคือมารดาของตนที่เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังที่มีส่วนร่วมในการพิจารณาหลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศ และปรับหลักสูตรปริญญาของโรงเรียนนายเรืออากาศ รวมทั้งยังช่วยแก้ปัญหาสมองไหลของนักบินในยุคนั้น ขณะที่อีก4 ท่านคืออดีตผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศ ได้แก่ พล.อ.อ.อมร แนวมาลี, พล.อ.อ.พุฑฒิ มังคละพฤกษ์  ,พล.อ.อ.ณพฤษภ์ มัณฑะจิตร และพล.อ.อ.หม่อมหลวง สุปรีชา กมลาศน์ ซึ่งขอยกความดีให้ทั้ง 6ท่าน แต่เป้าหมายนโยบายจะไม่สำเร็จถ้าปราศจากจากสิ่งที่ควรยึดถือปฏิบัติหรือคติประจำใจที่เป็นแสงส่องทาง 

โดยในส่วนของตนคือความจงรักภักดี สำนึกหน้าที่ สามัคคี และเสียสละ เมื่องานสำเร็จผู้บังคับบัญชาได้รับความชื่นชม แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้แต่ยืนมองความภาคภูมิใจอยู่เงียบๆข้างหลัง ดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาต้องตอบแทนผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยการให้ยศและตำแหน่งที่เหมาะสม หรือให้รางวัลต่างๆและไม่นำผลงานของผู้ใต้บังคับบัญชามาเป็นผลงานของตนเอง ทุกคนควรมีความซื่อตรงต่อกัน เช่น เรื่องที่โรงพยาบาลภูมิพลฯที่ผ่านมา มีรายชื่อของบุคลากรทางการแพทย์ตกหล่นไม่ได้รับวัคซีนนั้น พบว่าเกิดจากระบบ แต่เราต้องยอมรับว่าการกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชายังไม่ดีพอ จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาตระหนัก

‘บิ๊กป้อม’ จับตาพายุเข้า 8-10 ต.ค. ชี้ เป็นผลดีเข้าด้านเหนือ ย้ำช่วยปชช.เต็มที่ โต้ ไม่ใช่การหาเสียง

เมื่อ วันที่ 5 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำที่จะมีพายุเข้าระหว่างวันที่ 8-10ต.ค.นี้ ว่า เราระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ขณะนี้อธิบดีกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตรียมการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และในวันที่ 7ต.ค.นี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำในเจ้าพระยาจะสูงขึ้น 50 เซนติเมตร สำหรับพายุที่มีการแจ้งเตือนว่าจะเข้ามาทางด้านเหนือ ซึ่งเป็นผลดีกับเราที่จะเข้ามาทางด้านเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ก็จะได้รับน้ำเก็บไว้ ขณะที่ภาคกลางจะได้รับอิทธิพลแค่ห่างๆ ไม่เท่าไหร่ ทั้งนี้เราแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เตรียมการไว้แล้ว โดยจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดจากน้ำท่วม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top