Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

เอกสารองค์การอนามัยโลกชี้ มีการเพิ่มชื่อ โรงงานของสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นสถานที่ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว 

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษา ศบค. โพสต์เอกสาร ซึ่งเนื้อหาระบุว่าเป็นเอกสารจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ นายโรจิริโอ กาสปาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมและกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้น ส่งถึง นางเอตเลวา คาดิลิ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา

เพื่อแจ้งเรื่อง การเพิ่มโรงงานผลิตวัคซีนใช้ในกรณีฉุกเฉิน ที่เสนอโดยแอสตร้าเซนเนก้า ภายใต้ขั้นตอนรับรองกรณีใช้ฉุกเฉิน (EUL) จาก WHO โดยระบุว่า

เรายินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบถึงข้อเสนอแนะ เรื่องสถานที่ผลิตทางเลือกของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าคือ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งคำแนะนำนี้อ้างอิงตามข้อมูลที่ตรวจสอบโดย WHO และหน่วยงานบริหารสินค้ารักษาโรคออสเตรเลีย (TGA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลวัคซีนชนิดนี้

สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ถูกเพิ่มลงในรายชื่อสถานที่ผลิตทางเลือกของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ EUL ที่บริษัทได้รับอนุญาต โดยที่หน้าเว็บ WHO EUL จะมีการอัปเดต เพื่อรวมสถานที่ผลิตวัคซีนแห่งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ทาง “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามไปทางตัวแทน แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง โดยหลังจากนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเว็บ WHO EUL พบข้อมูลอัปเดตถึงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564 โดยโรงงานที่ได้รับการรับรองจาก WHO ให้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใช้ในกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ โรงงานขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เท่านั้น

‘อัษฎางค์’ ยกคำกล่าว ‘พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร’ มีผู้จงใจจุดชนวนให้เกิด 14 ตุลาหรือแค่อุบัติเหตุ?

14 ต.ค. 64 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "มีผู้จงใจจุดชนวนให้เกิด 14 ตุลาหรือแค่อุบัติเหตุ?" โดยระบุว่า ผมขออนุญาตย่อความจากเหตุการณ์ 14 ตุลา จากปากของพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร หนึ่งในบุคคลที่เชื่อกันว่าเป็นผู้กุมความลับของเหตุการณ์

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 มีนิสิตนักศึกษาจำนวนหนึ่งออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล แถลงการณ์ฉบับนั้นที่สำคัญที่สุดก็เป็นการประณามรัฐบาลที่ยึดอำนาจอยู่โดยไม่ยอมคืนประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน พูดง่ายๆ ว่าเป็นเอกสารเรียกร้องรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลของจอมพล ถนอม กิตติขจร ได้จับนิสิตนักศึกษาและผู้ที่ร่วมเรียกร้อง แต่ข้อหาที่ตั้งคือกระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ ถ้าจำไม่ผิดคือจับไปทั้งหมด 13 คน

พอถูกจับไปแล้ว ปฏิกิริยาของนิสิตนักศึกษาก็เริ่มขึ้น เริ่มมีการชุมนุม ตั้งแต่จำนวนพันไปถึงจำนวนหมื่น การชุมนุมเริ่มมีมากขึ้นๆ จนเป็นจำนวนแสนคน

พล.ต.อ.วสิษฐ เข้าวังสวนจิตรลดา ตอนเที่ยงวันที่ 13 ตุลาคม โดยได้รับคำสั่งให้ไปคอยรับผู้แทนของนิสิตนักศึกษาที่จะเข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัว

เวลา 17.30 น. พระเจ้าอยู่หัวจึงได้เสด็จฯ มา และนิสิตนักศึกษาเข้าเฝ้าฯ กันอยู่จนเกือบสองทุ่มจึงกลับออกมา 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งลงมาว่ารัฐบาลยอมปล่อยผู้ต้องหาทั้ง 13 คนแล้ว

นอกจากจะปล่อยแล้วยังมีข้อตกลงระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับผู้แทนนักศึกษาในวังเป็นลายลักษณ์อักษร และจะขอพระราชทานรัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 20 เดือน แทนที่จะเป็น 3 ปีตามที่รัฐบาลเคยบอก

ในขณะที่นิสิตนักศึกษาที่เข้าเฝ้าในวังพูดกันรู้เรื่องดีแล้ว แต่กลุ่มนิสิตนักศึกษาข้างนอกกลับไม่รู้เรื่อง

มีคนไปกระซิบบอกผู้แทนนิสิตนักศึกษาข้างนอกว่า “ม่องหมดแล้วพวกในวัง”

มีคนมากระซิบนิสิตนักศึกษาที่อยู่ข้างนอกว่าเขาจัดการคน (นิสิตนักศึกษา) ในวังหมดแล้ว

พอเป็นอย่างนั้นพล.ต.อ.วสิษฐก็ขอร้องพวกที่อยู่ในวังที่พูดกันรู้เรื่องแล้วให้ไปเจรจากับคนที่อยู่ข้างนอกหน่อยว่าบัดนี้อะไรๆ ก็เรียบร้อยหมดแล้ว

ต่อมาพล.ต.อ.วสิษฐ ขึ้นไปอ่านพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว และแถมท้ายว่า เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งแบบนี้ เหตุการณ์ยุติลงแล้ว สมควรยุติการชุมนุมและกลับบ้านกันได้

พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้บรรทมมา 7 วัน 7 คืนแล้ว เพราะเป็นห่วง รอฟังสถานการณ์บ้านเมือง พอพูดจบ ที่ประชุมก็ปรบมือกันและร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

จากความปีติอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง ก็ได้ยินเสียงระเบิดตูมขึ้น เป็นเสียงระเบิดแก๊สน้ำตา เป็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนผู้ชุมนุมกำลังจะกลับโดยแยกย้ายกันเดินออกไปทุกทิศ

ผู้ที่ประสบเหตุปะทะกับตำรวจเหล่านั้นคือผู้ที่เดินกลับจากวังไปทางถนนราชวิถี เหตุที่เกิดปะทะกันขึ้น เพราะตำรวจได้รับคำสั่งว่าให้ปิดทางไม่ให้ประชาชนผ่านทางนั้น ตำรวจใช้กระบองกับแก๊สน้ำตา เกิดการตีกันขึ้นที่หน้าวัง

พอเกิดการตีกันขึ้นก็เกิดข่าวปากต่อปากแจ้งว่าตำรวจฆ่านิสิตนักศึกษาที่หน้าวัง เท่านั้นเองการจลาจลก็กระจายออกไปทั่วกรุงเทพฯ 

‘แรมโบ้’ ซัด กลับ ‘โทนี่’ ตอนเป็นนายกฯ ทำอะไรเพื่อประเทศบ้างนอกจากผลงานโกงกินบ้านเมืองถูกดำเนินคดี หนีไปต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตที่ออกมาโจมตีนายกฯ ประยุทธ์เพราะกลัวเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านอดกลับประเทศ

14 ตุลาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ ‘7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโหลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ’ โดยระบุว่าการเข้ามาบริหารประเทศของนายกฯ ประยุทธ์ แม้จะอยู่มา 7 ปี แต่ได้ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองหลายอย่าง พัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาหลายอย่างแม้กระทั่งปัญหาของน้องสาวนายโทนี่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ก่อเอาไว้ เพราะนายกฯ ประยุทธ์ เห็นความสำคัญของคนไทยทุกคน และเห็นใจชาวนาที่ได้รับกรรมจากโครงการรับจำนำข้าว

นายเสกสกล ยังระบุว่า นายโทนี่ก็เคยเป็นนายกฯ มา 2 สมัยเช่นกัน แต่ตนเองยังไม่เคยเห็นผลงานว่าได้พัฒนาประเทศที่โดดเด่นหรือแก้ไขปัญหาใดให้กับพี่น้องประชาชน จนกลายเป็นที่ฮือฮาเลยแม้แต่โครงการเดียว แต่ที่โดดเด่น และโด่งดังกว่าผลงานที่ประเทศชาติ และประชาชนได้ประโยชน์กลับเป็นผลงานการโกงชาติ โกงแผ่นดิน ทุจริต เอื้อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง มากมายมหาศาล แม้แต่โครงการกองทุนหมู่บ้าน ที่ดูเหมือนจะเป็นโครงการที่ทำให้ชาวบ้านได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่ท้ายที่สุดก็พังไม่เป็นท่า เพราะกลายเป็นกู้กันเอง ช่วยกันเอง จนทำให้กองทุนเหล่านั้นสูญเปล่า 

พรรคกล้า กทม. เรียกร้องค่าตอบแทนให้ "ประธาน-กรรมการชุมชน" ชี้คนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในภาวะวิกฤตโควิด-19 แต่ถูกละเลย ไม่เคยได้ค่าตอบแทน 

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ คณะกรรมการกิจการ กทม. พรรคกล้า เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าประธานและคณะกรรมชุมชน มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการระบาดโควิด-19 ทั้งการช่วยดูแลศูนย์พักคอยชุมชน การจัดหายา ติดต่อหาเตียง คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านที่ติดเชื้อหรือเสี่ยงติดเชื้อ ทำงานอย่างหนักเพื่อชุมชน ที่ประชุมผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.กทม. พรรคกล้า และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรค จึงมีมติร่วมกันเรียกร้องขอให้ประธานและคณะกรรมการชุมชนได้รับค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม เพราะที่ผ่านมาบุคคลเหล่านี้เสียสละทำงานเพื่อชุมชน แต่กลับถูกละเลย ไม่เคยได้รับค่าตอบแทน 

"ประธานและคณะกรรมการชุมชน ทำงานด้วยความเสียสละ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และหลายครั้งเสียกำลังใจ เพื่อคนในชุมชน พวกเราจึงมองว่าประธานและคณะกรรมการชุมชน ควรได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ทำงานต่อเนื่องในวิกฤตโควิด-19" นายณัฐนันท์ กล่าว 

‘พิพัฒน์’ ยัน เตรียมทุ่ม 200 ล้านบาท ดึง ‘ลิซ่า-แอนเดรีย’ ร่วมเคาท์ดาวน์ปีใหม่

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันเตรียมดึง ‘ลิซ่า BLACKPINK’ และ ‘แอนเดรีย โบเชลลี’ นักร้องโอเปราชื่อดังของโลกชาวอิตาลี มาร่วมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ล่าสุดมีความคืบหน้าว่าได้ติดต่อแล้ว เบื้องต้นใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท

วันนี้ (14 ต.ค. 64) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยในรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์’ ว่า ได้ติดต่อ ดึงตัว น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ ศิลปินสาวชาวไทยชื่อดังระดับโลก และ ‘แอนเดรีย โบเชลลี’ นักร้องโอเปราชื่อดังของโลกชาวอิตาลี มาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 แล้ว โดยงบประมาณในการจัดงานดังกล่าวตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าตัวศิลปิน 200 ล้านบาท และค่าจัดงานอีก 300 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ ระบุว่า ได้มีการติดต่อ 2 ศิลปินระดับโลกแล้ว โดยผ่านบริษัทเอเจนซีในประเทศไทย เพื่อไปต่อรองราคากับ 2 ศิลปิน ให้อยู่ในงบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เบื้องต้นอาจจะดึงตัว ‘แอนเดรีย’ มาร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งมองไว้ที่บริเวณสนามหลวงโดยมีฉากหลังเป็นวัดพระแก้ว เพื่อสะท้อนภาพความเป็นไทย

“รองโฆษกฯ ปชป.”ซัด “แม้ว” หมดท่า ต้องเล่นละครรั้งสาวก  ยกมือไหว้ไล่ “บิ๊กตู่” แนะควรยกมือไหว้ขอโทษ ประเทศ-ปชช. แล้วกลับมารับโทษตามกฎหมาย 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในรายการ CareTalk x Care Clubhouse ครั้งที่ 17 ในหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ?” โดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าขอเวลาอีก 5 ปีในการทำงานเพื่อวางโครงการต่างๆ เพื่อทำให้ประเทศไทยดีขึ้น พร้อมกับยกมือไหว้ประกอบด้วย ว่า

ตนเห็นว่า คนที่นายทักษิณควรยกมือไหว้ก็คือ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะมวลชนคนเสื้อแดงที่พวกเขาเคยสนับสนุนนายทักษิณอย่างสุดหัวใจ แต่กลับพูดจาหลอกลวงและถีบหัวส่งในหลายๆโอกาส เช่น หลอกว่าเมื่อเสียงปืนแตกจะกลับมานำมวลชนคนเสื้อแดงออกมาต่อสู้ พอหมดประโยชน์ก็พูดจาทอดทิ้ง รวมทั้งเป็นบุคคลที่ถูกล้อเลียนว่า เป็นนักการเมืองที่สร้างสถิติประกาศวางมือทางการเมืองมากที่สุด แต่ก็ไม่เคยทำได้ เพราะถ้าวางมือจริงๆ คงจะไม่มีชื่อ โทนี่ วู้ดซัม เป็นนามแฝงในแอพลิเคชั่น คลับเฮาส์ ออกมาพูดจารำพึงรำพันพร่ำพรรณาเพื่อรั้งสาวกและดึงคะแนนของคนรุ่นใหม่ ให้กับพรรคที่เป็นเครือข่ายในบงการของคนไม่กี่คนเท่านั้น 

“หากนายทักษิณ ต้องการยกมือไหว้จริงๆ แล้ว ผมขอแนะนำว่า ควรยกมือไหว้ขอโทษประเทศไทยและคนไทยทุกคนสำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา และขอให้กลับมารับโทษตามกฎหมาย เพื่อผดุงไว้ซึ่งหลักการนิติรัฐนิติธรรม และเป็นการเคารพหลักการประชาธิปไตย อย่างที่นายทักษิณ พร่ำบอกอยู่เสมอๆ ด้วย”นายชัชขนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่า ขอเวลาอีก 5 ปี ในการทำงานเพื่อสร้างประเทศนั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะประกาศ แต่คนที่ให้เวลาที่แท้จริงนั้นก็คือประชาชน ซึ่งนายทักษิณเอง คงกลัวว่า หากประชาชนให้โอกาสตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจริงๆแล้ว พรรคพวกเครือข่ายของนายทักษิณอาจจะหมดความนิยมจนกระทั่งไม่สามารถกลับมาใช้อำนาจรัฐได้อีก ดังนั้นจึงพูดจาดักคอ และเล่นใหญ่โดยการยกมือไหว้ พร้อมกับพูดจาทวงบุญคุณเรื่องการมีส่วนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เติบโตในหน้าที่ราชการ ซึ่งตนมองว่า การกระทำของนายทักษิณในครั้งนี้ ก็เหมือนกับที่ผ่านๆมาคือ แสดงละครเพื่อให้คนไทยหันกลับมามองนายทักษิณ ทั้งๆที่ คนไทยส่วนใหญ่ได้ก้าวข้ามไปสู่โลกหลังยุคโควิดกันแล้ว 

รมว.เฮ้ง เร่งฝึกอาชีพทั่วประเทศหลังผู้ติดเชื้อโควิดลดลง

ก.แรงงาน ใช้โอกาสยอดผู้ติดเชื้อโควิดลดเปิดฝึกทั่วประเทศ สร้างแรงงานฝีมือป้อนสถานประกอบกิจการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกเมษายน 2564 เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติมากยิ่งขึ้น รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและกำลังแรงงาน ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานโดยการกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รักษาสภาพการจ้างงาน เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวและนโยบายแฟคตอรีแซนด์บ็อกซ์ ส่งผลให้สถานประกอบกิจการหลายแห่งเริ่มฟื้นและเดินหน้าธุรกิจเต็มรูปแบบอีกครั้ง จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน มุ่งพัฒนายกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ   สร้างอาชีพสร้างรายได้ ขับเคลื่อนประเทศหลุดพ้นวิกฤตโควิด-19 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันและด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ              

โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ จัดฝึกอบรมเพื่อเร่งพัฒนาทักษะฝีมือทั้งหลักสูตร Upskill และ Reskill และ New Skill ให้แก่กำลังแรงงานทั่วประเทศ โดยเน้นให้สามารถทำงาน สร้างรายได้ ตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่กระทรวงแรงงานโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่กำลังแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และประชาชนทั่วไปนั้น กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดหลักสูตรเตรียมเข้าทำงานใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมระหว่าง 3- 8 เดือน    

50 มหานครโลก​ เสี่ยง!! จมบาดาล​ในไม่ช้า หลังภาวะโลกร้อนถึงจุดวิกฤติ

โลกกำลังส่งสัญญาณเตือนรุนแรงว่า​ 'ยุคสมัยแห่งน้ำท่วมโลก'​ อาจมาถึงเร็วขึ้นในอีกไม่กี่ 10 ปีข้างหน้า ท่ามกลางภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภัยแล้ง, วาตภัย, น้ำท่วมใหญ่ ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ 

ล่าสุด จากผลการศึกษาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย Princeton University สหรัฐอเมริกา และ สถาบัน Potsdam Institute for Climate Impact Research ในเยอรมัน พบว่า อุณหภูมิโลกมีโอกาสสูงขึ้นได้อีกถึง 3 องศา ซึ่งจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลายเร็วยิ่งกว่าเดิม 

และหากเป็นเช่นนั้น พื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์กว่า 2 ใน 3 รวมถึงมหานครของโลกกว่า 50 เมือง ตลอดแนวชายฝั่งที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่นและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก จะมีโอกาสจมบาดาลจนอาจไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป 

เพื่อให้มนุษย์เราได้ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้ง 2 สถาบัน​ จึงร่วมกันจำลองภาพมหานครในโลกอนาคต เมื่ออุณหภูมิโลกร้อนขึ้นอีก 3 องศา เปรียบเทียบกับปัจจุบัน ที่โลกกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติโลกร้อนแล้วในขณะนี้ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

โดยได้ยกตัวอย่างน้ำท่วมในมหานครนิวยอร์ก​ ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ซึ่งพื้นที่บนเกาะอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจะจมหายไปเหลือเพียงฐานอนุสาวรีย์ที่พ้นน้ำ และพื้นที่ฝั่งแผ่นดินในเมือง น้ำจะท่วมลึกเข้าไปหลายส่วน

ด้านชายฝั่งตะวันตกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน เช่น ท่าเรือในเมืองซานตา มอมิก้า หรือแม้แต่ในตัวเมืองใหญ่ๆ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย หรือแม้แต่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก็มีโอกาสน้ำท่วมได้เช่นกัน 

ส่วนเมืองสำคัญในประเทศอื่นๆ อาทิ กรุงฮาวานา ของคิวบา, นครมุมไบ ในอินเดีย, กรุงฮานอย ในเวียดนาม หรือแม้แต่กรุงลอนดอน ในอังกฤษ ก็อาจอยู่ในสภาพจมมิดบาดาล​ จน​ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ รวมถึงหลายเมืองใหญ่ๆ​ ในเอเชียที่อาจต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมสูง ที่ทีมวิจัยเตือนว่าประเทศในเอเชียควรเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมครั้งใหญ่ไว้ล่วงหน้าเลยจะดีกว่า 

กมธ.ดีอีเอส หวั่น “ITU” ยึดวงโคจรหากส่งดาวเทียมไม่ทันกำหนด ห่วง กสทช. มีความผิดหากรักษาสมบัติชาติตาม รธน.ไม่ได้ ด้าน “สรอรรถ” ชี้ ธุรกิจดาวเทียมใช้เงินเยอะทำไม่มีใครลงทุนเพิ่ม แนะ หารือ “ไทยคม” กำหนดทิศทางรักษาประโยชน์ชาติ

น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) สื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.ดีอีเอส ได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องการออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมสื่อสารให้กับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าชี้แจง โดยกมธ.ฯ ได้สอบถามถึงการจัดชุดข่ายงานดาวเทียม ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นสมบูรณ์แล้วจำนวน 4 ชุด ซึ่งเป็นวงโคจรที่เราได้สิทธิ์มาจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งจากการประมูลชุดเครือข่ายดาวเทียมที่ผ่านมาทั้ง 4 ชุด

ซึ่งมีการยกเลิกไปเนื่องจากมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียงรายเดียว คือ บริษัท ไทยคมฯ แต่ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)  กสทช. ปี 62 กำหนดไว้ว่า กสทช. มีหน้าที่ในการรักษาสิทธิ์วงโคจร ซึ่งการได้สิทธิ์มาจาก ITU มีข้อกำหนดเรื่องเวลาการนำดาวเทียมขึ้นไปสู่วงโคจรภายในเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งในวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก และวงโคจร 142 ตะวันออก มีเวลาเหลือไม่ถึง 2 ปี ในการยิงดาวเทียมขึ้นไป กสทช. มีแผนรองรับอย่างไรไม่ให้เสียสิทธิ์ในวงโคจรนี้ไป     

น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ตัวแทนจาก กสทช. ชี้แจงว่า กสทช. ได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในการรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์ที่ประเทศไทยมี โดยกสทช.จำเป็นต้องเร่งจัดหาผู้ประกอบการเพื่อส่งดาวเทียมขึ้นไป เพื่อรักษาสิทธิ์ตรงนี้ไว้ การที่กสทช.ยกเลิกการประมูลไป เราตระหนักถึงเรื่องนี้ดี ก็อาจจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติ การอนุญาต เงื่อนไขการอนุญาต เพื่อจูงใจให้มีผู้เข้าร่วมขอใบอนุญาตมากขึ้น และจะพยายามรักษาสิทธิ์ตรงนี้ไว้อย่างเต็มที่

น.ส.กัลยา กล่าวต่อว่า เรากังวลว่าชุดเครือข่ายดาวเทียมในชุดที่ 1 ที่มีตำแหน่งอยู่ที่ 50.5 องศาตะวันออก กับชุดที่ 4 ที่มีตำแหน่ง 142 องศาตะวันออก ที่อยู่ขั้นสมบูรณ์แล้ว โดยจะเห็นว่าทั้งสองชุดนี้กำหนดให้รีบเอาดาวเทียมขึ้นให้ได้ภายใน 1 ปีกว่า เข้าใจว่าเวลาเหลือไม่มาก โอกาสคนชนะการประมูลแล้วเอาดาวเทียมขึ้นจะทันหรือไม่ อีกทั้งถ้าส่งดาวเทียมขึ้นไม่ทัน หรือไม่มีใครมาเอาสิทธิ์การใช้งานวงโคจรไปใช้ น่าจะมีปัญหาเกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ. กสทช. ปี 62 เช่น มาตรา 18 และมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติให้รัฐต้องรักษาคลื่นความถี่ และสิทธิ์ในการเข้าถึงวงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติ ซึ่งก็จะมีคำถามตามมาเกี่ยวกับการรักษาวงโคจรนั้นจะยังคุ้มค่าอยู่หรือไม่ และวงโคจรดาวเทียมถือเป็นสมบัติของชาติหรือไม่ 

ราเมศ เผย วันนี้"จุรินทร์ ออนทัวร์ จังหวัดชายแดนภาคใต้"

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกำหนดการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2564 ถึง วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 นายจุรินทร์ มีกำหนดการเดินทาง ไปจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลามุ่งเน้นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเชิงรุก 

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 จะมีการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนภาคตะวันออกเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.พาณิชย์) และหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ณ ห้องประชุมด่านศุลกากร อำเภอสุไหงโก-ลก​ จังหวัดนราธิวาส

โดยจะมีการตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านพรมแดนสุไหง-โกลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการค้าชายแดนมีความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้จะมีการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และในวันเสาร์​ที่​ 16 ตุลาคม​ 2564​ พบปะสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ณ สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ถนนนาเกลือ​ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
และตรวจเยี่ยมชมการผลิตและแปรรูปทุเรียน ณ บริษัทม่านกู่หวางฟู้ด จำกัด อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top