Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

'ปิยบุตร' ถามหากองหนุน วอนอย่าให้เด็กสู้ลำพัง หวั่นซ้ำรอย 45 ปีก่อน ที่นักศึกษาถูกบดขยี้จนหายวับ

6 ต.ค. 64 - นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล ถึงการร่วมเสวนาหัวข้อ “45 ปี มาตรา 112” ส่วนหนึ่งของกิจกรรมครบรอบ 45 ปี 6 ตุลาฯ ทาง Clubhouse เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่กล่าวตอนหนึ่งว่ามาตรา 112 ไม่ใช่กฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดา แต่คือภาพแทนของสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมหลายคนที่เที่ยวไปแจ้งความคนอื่นทั้งที่ตนเองไม่ได้โดนดูหมิ่น ไม่ได้เสียหายเอง นั่นเพราะสำหรับพวกเขามองว่าคือการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูหมิ่นความเชื่อถือ (Blasphemy)

ปิยบุตรตั้งข้อสังเกตว่าการใช้ การแก้ และการเพิ่มโทษที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง คือปฏิกิริยาสืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเวลานั้นๆ เสมอ ยกตังอย่างเช่น การแก้ไขเพิ่มโทษมาตรา 112 ให้เพิ่มขึ้นจนมากกว่าสมัยการปกครองในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หลังการรัฐประหารของ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ช่วงต่อมาคือการใช้มาตรา 112 หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 มาถึงหลังการรัฐประหาร 2549 และล่าสุดถูกนำมาใช้ใหม่อย่างกว้างขวางอีกครั้งหลังการชุมนุมปี 2563 

ดังนั้นมาตรา 112 จึงไม่ใช่เรื่องของกฎหมายอย่างเดียว แต่มีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมืองและกลุ่มคนที่ตั้งคำถามกับสถาบันกษัตริย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ย้อนไปถึงการรณรงค์ของคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) ในตอนนั้น เคยมีคนเป็นรอยัลลิสต์มาเสนอว่าหากต้องการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ให้มานั่งคุยกันปิดลับ โดยไม่ต้องเข้าชื่อเสนอกฎหมายในทางสาธารณะ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไม่อยากให้มีการเข้าชื่อ เมื่อมาวิเคราะห์ดูก็พบว่านี่คือวิธีคิดของรอยัลลิสต์และพวกอนุรักษ์นิยม คือคิดว่าถ้ายอมโอนอ่อนให้ข้อนึง ความต้องการจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปถึงเรื่องอื่นเรื่อยๆ จนไปถึงสุดทางเลย เขาไม่คิดว่าถ้ายอมปฏิรูปข้อนึง แล้วคนจะหยุด วิธีคิดของรัฐไทยขีดเส้นชัดเจน ไม่ขยับถอยเลย ต้องรอให้เกิดความสูญเสีย ถึงจะมายอมถอยเหมือนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ในอดีต” 

ประธาน กกต.จับสลากผู้ตรวจการเลือกตั้ง 76 จังหวัด  เริ่มปฏิบัติหน้าที่ 18 ต.ค.นี้

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธานกกต.เป็นประธานจับสลากผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด  สำหรับสำหรับปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกการบริหารส่วนตำบลจำนวน 5,300 แห่ง   โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ถึง  1 ธ.ค. 2564  รวม 405 คน ในพื้นที่ 76 จังหวัด   โดยมี  พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ร่วมสังเกตการณ์การจับสลากในครั้งนี้ด้วย  

สำหรับการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด  จะแต่งตั้งจังหวัดละไม่น้อยกว่า 5 คน  แต่ไม่เกิน 8 คน  โดยใช้เขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดเป็นเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนผู้ตรวจการเลือกตั้ง   คือ  1.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งไม่เกิน 5 เขต จะต้องมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 5 คน  2.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 6 - 8 เขตเลือกตั้ง   มีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 6 คน     3.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 9 -11 เขตจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 7  คน และ 4.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่ 12 เขตขึ้นไปจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 8 คน   ทั้งนี้ในแต่ละจังหวัด  จะต้องมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น จังหวัดละ 2 คน และแต่งตั้งจากผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดอื่นให้ครบตามที่กำหนด 

เสียงสะท้อนถึงภาครัฐ 'ถูกจุด - ล้มเหลว' หลังขึ้นภาษีไม่ช่วยคนไทยจากภัยบุหรี่

กลายเป็นข้อถกเถียงใหญ่ในสังคม ภายหลังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง ออกมาประกาศขึ้นภาษีบุหรี่ โดยมีเป้าหมายในการดูแลสุขภาพประชาชน หวังลดการบริโภคบุหรี่ลงได้ 2-3% ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เลือกออกมาหนุนให้ปลดล็อกผลิตภัณฑ์ทางเลือก เช่น ไอคอส (IQOS)

เพราะประเด็นนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันในสังคม ที่มีทั้งเสียงสนับสนุนและการคัดค้านจากหลายฝ่าย... 

เริ่มตั้งแต่ ส.ส. คนดังอย่าง นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก ส.ส. พรรคก้าวไกล จังหวัดเชียงราย ที่โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของการควบคุมบุหรี่"  

ส่วน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร หรือ ส.ส.เท่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ซึ่งโพสต์แคปชัน “ความพยายามอันสิ้นหวังรีดภาษีบุหรี่” วอนรัฐหยุดใช้ข้ออ้างสุขภาพมาหารายได้จากการเก็บภาษีแต่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด 

นายวรภพ วิริยะโรจน์ อีกหนึ่ง ส.ส. พรรคก้าวไกล ก็เสนอทบทวนการแบนบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมท้าให้มาดูที่รัฐสภาและทำเนียบที่มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก 

ทางด้าน แอดมิน เพจดัง Drama-Addict ก็ได้โพสต์แสดงความเห็นขยี้ประเด็น รัฐปรับเพดานภาษี คนสูบบุหรี่เท่าเดิม ชี้คนเดือดร้อนตัวจริงคือประชาชนและเกษตรกร  

ขณะที่ นพ. หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ได้ออกมาย้ำถึงความกังวลเรื่องความอันตรายของผลิตภัณฑ์ทางเลือก จน รมว.ดิจิทัล ต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยแนะให้ปรับมุมมองใหม่ต่อบุหรี่ไฟฟ้า ยกกรณี อย.สหรัฐฯ อนุญาตให้ผู้ขายได้สื่อสารกับผู้บริโภคในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบลดความเสี่ยงได้แล้ว

>> นาทีนี้ การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ... 

นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เขต 1 เชียงราย ได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านหน้าเฟซบุ๊กเพจ ชี้ว่า "การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของการควบคุมบุหรี่ และบางทีมุขเดิมๆ วิธีเดิมๆ ที่ใช้ในการควบคุมบุหรี่อาจไม่ได้ผล"   

ในโพสต์ดังกล่าว นายแพทย์เอกภพ แสดงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข อ้างอิงการขึ้นภาษีส่งผลให้ยอดขายบุหรี่ของโรงงานยาสูบลดลง แต่จำนวนผู้สูบบุหรี่กลับลดลงเพียงเล็กน้อย แค่ 2% (อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทย ในช่วงปี 2560-2564)

ตรงนี้ สะท้อน ความล้มเหลวของภาครัฐ ในการบริหารจัดการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และอยากให้เปลี่ยนมุม โดยเสนอมุมมองใหม่ เช่น การปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า ให้เป็นสินค้าถูกกฎหมาย 

“ผลจากการขึ้นภาษีเมื่อปี 2560 ทำให้ยอดขายบุหรี่ลดลง วัดจากตัวเลขกำไรของโรงงานยาสูบ ที่ลดลง โดยโรงงานยาสูบที่เคยมีกำไรสุทธิถึง 9,343 ล้านบาทในปี 2560 เหลือกำไรเพียง 513 ล้านบาทในปี 2562 ถึงกระนั้นถ้ากำไรลดลง เพราะยอดขายที่ลดลง จากคนสูบบุหรี่ที่ลดลงก็คงไม่ว่ากัน แต่ในความเป็นจริงอัตราคนสูบบุหรี่แทบไม่ขยับลดลงเลยในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขอัตราการสูบบุหรี่เทียบจากปี 60 มาถึง 64 ดูเหมือนจะลดไปประมาณ 2% และตัวเลขนี้เป็นตัวเลขเฉพาะผู้สูบบุหรี่ ไม่ได้นับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาด้วย” นายแพทย์เอกภพ ระบุในเพจ www.facebook.com/DoctorEkkapob

>> ความพยายามอันสิ้นหวังในการรีดภาษีบุหรี่

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร หรือ ส.ส.เท่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ได้ตั้งข้อสังเกตผ่านเฟซบุ๊กเพจ www.facebook.com/Taopiphop ไว้ว่า การขึ้นภาษีบุหรี่เป็นเพียงการใช้ข้ออ้างสุขภาพ รัฐหารายได้จากประชาชนเท่านั้น เป็น “ความพยายามอันสิ้นหวังรีดภาษีบุหรี่” แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจริง เพราะนอกจากจะเปิดช่องให้บุหรี่แบรนด์จากต่างประเทศนำบุหรี่ราคาต่ำมาขาย ยังกระทบต่อเกษตรกรยาสูบไทยรายได้ลดลงจากยอดขายยาสูบลดลงเป็นผลพวงจากการผูกขาดของรัฐในการผลิตยาสูบในประเทศ และมีการลักลอบขายบุหรี่เถื่อนรายได้ภาษีที่รัฐคาดหวังจะเก็บได้ก็ไม่ได้ แต่เปิดทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนสุขภาพประชาชนโดยรวมก็ไม่ดีขึ้น

“ข้ออ้างเรื่องสุขภาพของประชาชน เป็นแนวคิดเก่าโบราณของรัฐที่พยายามบอกกับประชาชนว่าควรจะทำหรือไม่ทำอะไร แบบพ่อปกครองลูก (Nanny State) จากสถิติพบว่าการเพิ่มราคาบุหรี่แม้จะมีผลในการลดจำนวนผู้สูบลดลงด้วยปัจจัยราคา แต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน แสดงว่าก็คงไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้” นายเท่าพิภพ หรือ ส.ส.เท่า พรรคก้าวไกล ระบุ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอทางออกให้กับประเทศด้วยการสนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในนโยบายควบคุมยาสูบ แบบ ลดสารอันตราย (Harm Reduction) เพื่อการแก้ปัญหาแบบรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและด้านสุขภาพ โดยเน้นผลประโยชน์ต่อประชาชนว่า  

“หลายประเทศที่พัฒนาแล้วพยายามแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพไปในอีกทิศทางหนึ่งที่ต่างกัน ด้วยวิธีการลดอันตรายที่เกิดจากสิ่งนั้นๆ (Harm Reduction) เช่น นิวซีแลนด์ ได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผลวิจัยจากหลายสถาบันก็บ่งบอกว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่แบบธรรมดา เพราะไม่มีการเผาไหม้และไม่เกิดน้ำมันอันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ในบางประเทศอย่างอังกฤษ หากต้องการเลิกสูบบุหรี่ คุณหมอในโรงพยาบาลก็สามารถสั่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็มีผู้นิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ก็เป็นได้” 

ส่วนแอดมิน เพจดัง Drama-Addict ก็ไม่พลาดที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ โดยได้บอกว่า แม้รัฐปรับเพดานภาษีกี่ครั้ง แต่จำนวนคนสูบบุหรี่ไม่ลดลง ทางออกที่ดีน่าจะเป็นของการปรับตัวนำบุหรี่ไฟฟ้า หรือ Vape และ IQOS มาใช้ร่วมแก้ปัญหา

ข้อความโพสต์โดยแอดมิน เพจ  Drama-Addict  เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งระบุว่า “ถ้าเพื่อให้คนลดบุหรี่ลง และ โรงยาสูบกับเกษตรกรไม่เจ๊ง คิดว่า น่าจะให้ทางโรงงานยาสูบเริ่มพัฒนาพวก Vape / IQOS มาแทนที่บุหรี่แบบเดิมๆ ซึ่งอันนี้ก็จะแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากคนที่หันไปหาของนำเข้าหรือไปใช้พวก IQOS / Vape ที่นำเข้าจาก ตปท. ได้บ้าง จะได้มีเวลาให้เกษตรกรที่ปลูกยาสูบปรับตัวลดการปลูกยาสูบไปปลูกอย่างอื่น เช่น กัญชง/กัญชา อะไรก็ว่ากันไป แล้วดูแลควบคุมพวกนี้ให้เข้มงวด ไม่ให้เด็กรุ่นใหม่หันไปลองใช้พวกนี้ แล้วให้พวกรุ่นเก่าๆ ที่ยังสูบบุหรี่ ปรับตัวมาใช้พวกนี้แทนแล้วค่อยๆ พาไปเลิกบุหรี่ให้หมด น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่านะ”

กกต.ยันเตรียมพร้อมเลือกตั้งอบต. 100% แล้ว จัดคูหาพิเศษให้คนอุณหภูมิสูงเลือกตั้ง กำชับการแจกบัตรลต.ไม่ให้มีปัญหา พร้อมลุยพื้นที่ตรวจรับสมัคร 11 ต.ค. นี้ 


การเมือง/กกต./6 ต.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโค วิด -19 ว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเรามีประสบการณ์ จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) องค์การ บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล เราจึงได้นำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มาปรับปรุงและมาใช้ในการเลือกตั้งอบต.ในครั้งนี้  จะเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีมาตรการ พิเศษคือมีฉากกั้น เฟซชิลด์ ด้วยมาตรการของศบค. ที่ได้แนะนำเราว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้จัดในสถานการณ์ การแพร่ระบาดโควิด -19 กกต.ก็ต้องเตรียมการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง

นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำเรื่องการแจกบัตรเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อแนะนำคนที่มีสิทธิเลือกทั้งนายก และสมาชิกอบต. ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนจะมีสิทธิเลือกตั้งนายกอบต. และบางคนไม่สามารถเลือกตั้งสมาชิกได้ก็ได้เน้นย้ำว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิเลือกเฉพาะนายกอบต. การแจกบัตรให้พึงระมัดระวัง อย่าให้เกิดปัญหา ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเรามีความพร้อม และการเลือกตั้งที่จะถึงนี้กกต.มีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งไม่ให้เกิดปัญหา โดยวันที่ 11 ต.ค.นี้ กกต.ทั้ง 7 คนจะลงพื้นที่ไปตรวจการรับสมัคร จากนั้นก็จะนำผลการตรวจพื้นที่มาหารือกัน โดยครั้งนี้เรามีความมั่นใจอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เราได้มีการให้ผู้ตรวจการ เลือกตั้ง ไปปฏิบัติหน้าที่ ทั่วประเทศในการเลือกตั้งอบต. ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ ยุติธรรม

"เราเตรียมการแล้ว 100 % และกกต.ท้องถิ่นเขาก็มีความพร้อม เรื่องการจัดอุปกรณ์ เพราะเราได้มีหนังสือสั่งการไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ดำเนินการตามหนังสือสั่งการเสร็จสิ้นเป็นไปที่เรียบร้อยแล้ว" นายฐิติเชฏฐ์ กล่าว

“สุทิน” ตอบ “วิษณุ” แจงเหตุเปิดประเด็นอายุ “ประยุทธ์” หวังป้องกันวิกฤติการเมือง ชี้เขียน กม.กันคนอื่น ก็ต้องรับกรรมไป

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ข้องใจว่าฝ่ายค้านเปิดประเด็นการเำรงตำแหน่งนายกฯ ตาม ม.158 ขึ้นมาตอนนี้ทำไม ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาว่า ตนเองและฝ่ายค้านเปิดประเด็นเรื่องนี้ ตอนนี้ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ 1.บอกให้ประชาชนที่กำลังทนทุกข์กับการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ได้ทราบ ว่าเขาจะต้องทนทุกข์อีกนานเท่าใด จะพ้นทุกข์เมื่อไหร่ และอาจถูกใช้เทคนิคกฎหมายต่ออายุความทุกข์ให้กับเขาต่อไปอีก เพื่อประชาชนจะได้วางแผนชีวิตได้ 2.เราเห็นว่าขณะนี้ในพรรครัฐบาลกำลังมีปัญหากันอย่างมาก การชิงรักหักเหลี่ยมกันกำลังไปสู่คำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะถูกเท หรือจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกหรือไม่ ฝ่ายค้านจึงหยิบยก ม.158 ให้ทุกฝ่ายที่กำลังสัปยุทธ์กันอยู่ นำไปเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนทางยุทธศาสตร์

ราเมศ ถาม จนท.รัฐ ปัญหาที่ดินทำกินชาวบ้าน ป่าเลา-นางั่ว เพชรบูรณ์ จะแก้ปัญหา หรือ ให้ชาวบ้านติดคุก ทั้งหมู่บ้าน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ ตำบลป่าเลา-ตำบลนางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ว่า

ประชาชนถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก แต่หลักฐานกลับสวนทางกับความเป็นจริง ที่สาธารณประโยชน์ป่าโคกตาดเนื้อที่ 10,000 ไร่ และตำแหน่งที่ดิน นสล.ที่ พช.159 เนื้อที่ 1,977 ไร่ มีข้อพิพาทจนดำเนินคดีราษฎร 26 ราย หลายรายอยู่ระหว่างถูกบังคับคดีจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และมีชาวบ้านที่จะถูกดำเนินคดีอีกหลายราย แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารปี 2535 ชี้ให้เห็นว่าที่ดิน นสล.ที่พช.159 ที่ใช้ดำเนินคดีกับราษฎรเป็นคนละแปลงกับที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ ชาวบ้านขอให้มีการพิสูจน์รังวัดที่ดิน นสล.ที่พช.159 อย่างตรงไปตรงมาให้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อประโยชน์ เพื่อมุ่งคุ้มครองสิทธิชาวบ้าน

ถ้ามีนโยบายดำเนินคดีกับชาวบ้านแบบเอาจริงเอาจังก็ควรที่ให้ผู้มีอำนาจประกาศเป็นนโยบายไปเลยว่าจุดมุ่งหมายแห่งความสำเร็จคือจับกุมราษฎรให้หมดทั้งตำบลขาวบ้านขอแค่ให้มีการพิสูจน์กันแบบตรงไปตรงมา หากสุดท้ายที่ดินเป็นที่สาธารณะก็พร้อมติดคุก เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ควรที่จะต้องเร่งแก้ปัญหา หรือจะให้ชาวบ้านติดคุกกันทั้งหมู่บ้าน

'อดีตทูต' แชร์เรื่องราวประทับใจ 'ลูกเสี้ยวลาวฝรั่งเศส' ทำขนมปังบาแก็ตถวาย ร.๙ อย่างเต็มใจ ไม่ยอมคิดเงิน

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า... 

คราวที่แล้วเล่าเรื่องครัวซองต์ที่เวียงจันทน์ว่าอร่อยแบบฝรั่งเศสแท้ๆ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่สมัยที่ผมประจำการอยู่ที่ สปป.ลาว ในช่วงปี 2550-54 

ครั้งนี้คงต้องขออนุญาตท่านทูตดนัย การพจน์  Danai At Muk เพื่อนรักผมที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมด ขอเอามาเล่าสู่ให้เพื่อนๆ ใน FB ได้รับทราบกันนะครับ 

เรื่องมีอยู่ว่าวันนึงตอนนั้นผมทำงานที่สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ผมได้รับการติดต่อเป็นการภายในจากท่านทูตดนัย ซึ่งตอนนั้นท่านทูตดนัยได้ทำงานถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เวลาที่เสด็จฯ ต่างประเทศเป็นประจำ 

โดยท่านทูตดนัย บอกผมว่าได้ยินกรมสมเด็จพระเทพฯ ปรารภว่าทรงอยากจะทำ fondue cheese ถวาย ในหลวง ร.๙ ซึ่งตอนนั้นทรงพระประชวรและประทับอยู่ ณ รพ.ศิริราช  โดยทรงเปรยว่าถ้าได้ขนมปังบาแก็ตดีๆ เอาไว้จุ่ม fondue ก็จะดีมาก

อันขนมปังบาแก็ต (Baguette) หรือ ขนมปังฝรั่งเศส เป็นขนมปังมีเอกลักษณ์พิเศษ ด้วยการทำเป็นทรงยาวกว่า 2 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียว และเป็นโพรงอากาศคนฝรั่งเศสมักจะไม่ใช้มีดฝานออกเป็นแผ่นๆ แต่จะใช้วิธีบิออกเป็นชิ้นๆ ด้วยมือ เพื่อรับประทานกับซุป ปาดเนยสด หรือบิเอาไปจุ่ม fondue ชีสก็จะอร่อยมาก

ท่านทูตดนัย ก็นึกได้ว่าผมอยู่ที่ลาว และที่ลาวมีร้านที่ทำขนมปังบาแก็ตอร่อยมากๆ อยู่ร้านนึง ชื่อร้าน Le Banneton เลยหารือกับผมว่าพอมีทางเป็นไปได้มั้ยถ้าผมจะช่วยซื้อขนมปังบาแก็ตดังกล่าว แล้วฝากกับเครื่อง TG เที่ยวเช้าที่บินระหว่าง กทม. - เวียงจันทน์ - กทม. แล้วท่านทูตดนัย จะไปรับแล้วเอาไปทูลเกล้าถวายฯ ต่อไป 

"บิ๊กป้อม"สั่ง “ส.ส.พปชร.”ลุยน้ำท่วมช่วยชาวบ้าน ย้ำ ส.ส.กทม. ระวังนอกแนวเขื่อน-ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังวันที่ 5 ต.ค. นี้

พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค กำชับส.ส.ของพรรค ให้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย จากอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ในทุกพื้นที่ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค และอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้มากที่สุดและกำชับส.ส.กทม.ที่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำบริเวณจุดเสี่ยงนอกแนวเขื่อน ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา  หลังวันที่ 5 ต.ค.  2564 นี้ ที่จะมีมวลน้ำสมทบ จากการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยหัวหน้าพรรค

'ก้อย รัชวิน' คลอดลูกชายแล้ว ตั้งชื่อ 'น้องทะเล'

แฟนๆ แห่ยินดี เมื่อ ก้อย รัชวิน ภรรยาของร็อกเกอร์ชื่อดัง ตูน บอดี้สแลม หรือ อาทิวราห์ คงมาลัย ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกแล้ว เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 64 พร้อมตั้งชื่อว่า 'น้องทะเล'

ทางเพจเฟซบุ๊ก Rachwin's Family ของ ก้อย รัชวิน ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “น้องทะเล 5 ตุลาคม 2564” นอกจากนี้ยังได้เข้าไปเขียนในช่องคอมเมนต์อีกว่า “ยินดีต้อนรับ #น้องทะเล สู่โลกค่าา”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สักการะขอพรหลวงปู่ไต้ฮง​ เสริมสิริมงคล พร้อมทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายเพิ่มความเจริญรุ่งเรือง​ ในเทศกาลกินเจ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญสาธุชน สักการะขอพรหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเป็นสิริมงคล ทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2564 ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

(5 ต.ค. 64) นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ คณะกรรมการ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ผู้บริหาร ศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมในพิธีอัญเชิญกิ๊วอ๊วงฮุกโจว (เทพเจ้า 9 องค์ หรือนัยหนึ่ง คือ ดาวพระเคราะห์ทั้ง 9 ดวง) เปิดมณฑลพิธีงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2564 โดยคณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุทัยราชบำรุง ณ ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

เทศกาลกินเจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้จะตรงกับวันที่ 5 – 15 ตุลาคม 2564 โดยมูลนิธิฯ ขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์และสาธุชนทุกท่านร่วมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรให้คุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัย ทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2564 ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เทศกาลกินเจ ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย ในปีนี้ มูลนิธิฯ ขอประกาศงดจัดพิธีเวียนธูปรอบนอกศาลเจ้า และงดบริการอาหารเจ รวมทั้งกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง และร่วมพิธีสงฆ์ (รายละเอียดกำหนดการ

สามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจของมูลนิธิฯ www.facebook.com/atpohtecktung ) พร้อมทั้งจัดมาตรการคุมเข้มทั้งในด้านการตั้งจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิโดยเจ้าหน้าที่ที่มีองค์ความรู้ด้านการช่วยเหลือฉุกเฉิน การจัดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ การจัดทำสัญลักษณ์การเว้นระยะห่าง (Social Distancing) รวมถึงการขอความร่วมมือประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสวมหน้ากากอนามัย / หน้ากากผ้า สแกน QR Code แพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ทุกครั้งก่อนเข้าศาลเจ้าไต้ฮงกง และฝั่งสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

นอกจากนี้ยังจัดให้การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ริเริ่มดำเนินการอย่างเคร่งครัดเรื่อยมา เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางร่วมทำบุญสาธารณกุศลกับมูลนิธิฯ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top