'เฉลิมชัย'​ เร่งปฏิรูปภาคเกษตร​ ดันเทคโนโลยี 4.0 พร้อมหนุนงบวิจัยและพัฒนาของศูนย์​ AIC​ ทั่วประเทศเพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร

'เฉลิมชัย'​ เร่งปฏิรูปภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง​ ผนึกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดศูนย์นวัตกรรมสกัดสารพืชกระท่อมและสมุนไพร
สั่งกระทรวงเกษตรเร่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร​ 4.0 สนับสนุนงบวิจัยและพัฒนาของศูนย์​ AIC​ ทั่วประเทศเพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม​ (ศูนย์ AIC:Agritech and Innovation Center) เปิดเผยวันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดศูนย์นวัตกรรมสกัดสารสมุนไพรและกระท่อมสู่การต่อยอดเกษตรมูลค่าสูง ร่วมกับรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากประขุมรับฟังการนำเสนอโครงการพัฒนากระท่อม พืชเศรษฐกิจตัวใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก บนพื้นฐานผู้ประกอบการยุคใหม่ ของสมาคมพืชกระท่อมแห่งประเทศไทย อันประกอบด้วย “บทบาทพืชกระท่อมไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก นำร่อง 4 จังหวัดภาคใต้” และ​ “การพัฒนาและวิจัยพืชกระท่อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง” เมื่อ​ 20​ มี.ค.65​ ณ ห้องประชุมศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์​ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นศูนย์AICจังหวัดเชียงใหม่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายว่าภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร​ 4.0 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ​ จัดทำงบประมาณและโครงการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AICเพื่อการวิจัยพัฒนานวัตกรรมนำมาใช้ส่งเสริมการผลิต การแปรรูป และการตลาดเช่นพืชสมุนไพรของไทย โดยมุ่งหวังให้เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการภาคเกษตรสามารถผลิตและพัฒนาสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดทั้งภายใน และภายนอกประเทศตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เพื่อสร้างเกษตรมูลค่าสูง  ยกระดับรายได้ของเกษตรกร อย่างยั่งยืนต่อไป

นายอลงกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ.ได้จัดตั้งศูนย์​ AIC 77 จังหวัดดำเนินการตั้งแต่​ 1​ มิถุนายน​ 2563​ และศูนย์​ AIC​ ประเภทศูนย์ความเป็นเลิศอีก​ 23​ ศูนย์ตามนโยบายและยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร​ 4.0​ ทำการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมกว่า​700 นวัตกรรมสามารถถ่ายทอดสู่เกษตรกรและฟาร์มกว่า​ 8​ พันรายทั่วประเทศภายใต้แผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะปี​ 2565-2566 ถือเป็นคานงัดสำคัญในการปฏิรูปภาคเกษตรของไทยเชิงโครงสร้างและระบบที่มีกลไกการขับเคลื่อนแบบบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ