Monday, 2 June 2025
Hard News Team

สองผัวเมีย ร้องทุกข์!! ตาติดเชื้อต้องควักทิ้ง 1 ข้าง เชื่อ!! โดนแหย่จมูกตรวจโควิดซ้ำ!!

สองผัวเมียร้องสื่อฯ ไปโรงพยาบาลผ่าตัดขา เจอตรวจโควิด-19 ถูกแหย่จมูกซ้ำ ๆ จนดวงตาติดเชื้อร้ายจากโพรงจมูก สุดท้ายโดนควักลูกตาซ้ายออกป้องกันลามไปอีกข้าง วอนหน่วยงานหาข้อเท็จจริงและรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองแม่ลาย อ.เมืองกำแพงเพชร ว่ามีหญิงวัย 60 ปีได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหกล้มจนกระดูกขาด้านซ้ายหัก ระหว่างเข้าทำการรักษาอาการนั้น เจ้าหน้าที่รพ. ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยแจ้งว่าเป็นระเบียบของทาง รพ.

คนไข้ที่เข้ามาทำการรักษาในเบื้องต้นจะต้อง swab ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที จากนั้นไม่นานดวงตาด้านซ้ายเริ่มมีอาการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งคาดว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากการแหย่จมูกหาเชื้อโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ รพ. ซึ่งผู้ป่วยวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้เสียดวงตาอันเป็นสิ่งสำคัญในการมองเห็นไป อีกทั้งยังทำให้ครอบครัวตนขาดรายได้

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง ณ บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของนายปาณชัย เย็นมั่น อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป และนางสุนันทา เย็นมั่น อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา

พบว่า นางสุนันทา เย็นมั่น ผู้ป่วยในกรณีดังกล่าวต้องใช้เหล็กค้ำยัน 4 ขา (วอล์กเกอร์) พยุงตัวในเวลาเดิน ขาด้านซ้ายมีร่องรอยการผ่าตัด บริเวณใบหน้าโหนกแก้มยุบทั้งสองข้างเนื่องจากไม่มีโครงกระดูกรองรับ ใบหน้ามีแผลเป็น ซึ่งทราบภายหลังว่าเกิดจากการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกเมื่อหลายปีก่อน

ส่วนดวงตาด้านซ้ายมีสภาพบอดสนิท เนื่องจากแพทย์แจ้งว่าเกิดอาการติดเชื้อรุนแรงจำเป็นต้องนำเอาดวงตาข้างดังกล่าวออก เพราะหากปล่อยไว้จะลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมาอีก

สองสามีภรรยายืนยันต่อผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ดวงตาด้านซ้ายของนางสุนันทาบอดนั้นเกิดจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงที่เข้าไปผ่าตัดขาตามแพทย์นัดที่ รพ. อย่างแน่นอน เพราะก่อนเข้ารักษาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิดก่อน โดยการใช้อุปกรณ์ตรวจแหย่เข้าไปในรูจมูก (swab)

ขณะที่ก่อนหน้านี้นางสุนันทาได้เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกจนต้องผ่าตัดเอาโครงกระดูกบริเวณโหนกแก้มออก คาดว่าอุปกรณ์การตรวจที่แหย่เข้าไปในรูจมูกของผู้ป่วยอาจจะเข้าไปกระทบกระเทือนกับระบบประสาทตา จนทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบติดเชื้อ กระทั่งแพทย์ต้องนำเอาดวงตาด้านซ้ายออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง

สองสามีภรรยาได้ติงว่าทางเจ้าหน้าที่รพ. น่าจะหาวิธีหลีกเลี่ยงในการตรวจโควิดนางสุนันทา ที่เคยเป็นผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาผ่าตัดโครงสร้างของโพรงจมูกมาแล้ว เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งผิวหนังบริเวณใบหน้าจนเชื้อกินลึกไปถึงในโพรงจมูก

นายปาณชัย เย็นมั่น สามีนางสุนันทา ผู้ป่วย กล่าวว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่รพ. ตรวจ swab บางครั้งตนไม่ได้เข้าไปดู อยู่มาวันหนึ่งช่วงเที่ยงหลัง swab เสร็จก็เตรียมรับประทานอาหารกัน ขณะนั้นตนสังเกตเห็นมีน้ำขุ่น ๆ ไหลออกมาจากทางจมูก ตอนแรกตนคิดว่าเป็นน้ำมูกก็ไม่ได้คิดอะไร

สถานบริการทางเพศออสเตรีย จัดโปรล่อใจหนุ่มฉีดวัคซีน หลังอัตราฉีดของประเทศยังต่ำกว่าเกณฑ์ 70%

สถานบริการทางเพศในกรุงเวียนนาของออสเตรีย ให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และมอบโปรโมชันใช้บริการฟรี 30 นาที

“ฟัน พาลาสท์” (Fun Palast) สถานประกอบการที่ให้บริการค้าประเวณีแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนาของออสเตรีย ได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมมอบข้อเสนอเป็นบัตรกำนัลห้องซาวน่า มูลค่า 40 ยูโร หรือกว่า 1,500 บาท สำหรับใช้บริการฟรีเป็นเวลา 30 นาที

สถานบริการทางเพศแห่งนี้ จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นเวลา 4 ชั่วโมงของทุกวันจันทร์ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชายเข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวมากขึ้น

ย้อนอดีตวันคนโสด 11.11.2018 จากอาลีบาบา ยอดขาย 2 ชั่วโมง แซง ‘เซเว่นฯ’ ไทยขายทั้งปี

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พอพูดถึงวันที่ 11 เดือน 11 หรือที่เรียกกันว่า 11.11 นั้น ทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่การซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ยักษ์ใหญ่อย่าง Shopee และ Lazada เพราะทั้ง 2 แบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ด้านการตลาดที่หลากหลาย มาดึงจูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า ผ่านแพลตฟอร์มตัวเอง อาทิ การลดกระหน่ำ, ตัดราคา 50% หรือจะเป็นแจกโค้ดส่วนลด ส่งสินค้าฟรี และโปรโมชันอื่น ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ

แต่ทราบหรือไม่ว่าการทำการตลาดในวัน 11.11 นั้นมีที่มาจากอะไร

จุดเริ่มต้น 11.11 นั้นเริ่มขึ้นจากความนึกสนุกของนักศึกษาชายจากมหาวิทยาลัยนานกิง ประเทศจีน ในยุค 90 ที่เขาเกิดไอเดียนำเลข 1 ที่สื่อความหมายถึงความโดดเดี่ยว คนเดียว มาเรียงต่อกัน 4 ตัว เป็น 11.11 จนกลายเป็นเทศกาล ‘กวงกุ่ยเจี๋ย’ (光棍节) หรือ ‘เทศกาลคนโสด’ ซึ่งงานนี้ก็ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะกลายเป็นวันที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย ไปทั่วประเทศ

11.11 เริ่มแพร่หลาย และกลายเป็นอีกการตลาดที่ร้อนแรงภายใต้วิถีชีวิตของผู้คนชาวจีนที่เป็นโสดมากขึ้น และมีบุตรน้อยลง การตลาดจาก ‘วันคนโสด’ หรือ ‘Single’s Day’ จึงสอดคล้องกับพฤติกรรมของเหล่าคนโสดที่ไม่ต้องง้อและพร้อมสู่ขอของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเองได้ในวันนี้

เพียงแต่การจะเดินทางไปช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าเพียงคนเดียว ก็อาจจะดูเป็นการทำร้ายความรู้สึกตัวเองเกินไป!!

ในปี 2009 นายหม่า-ยวิ๋น หรือ แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ประธานและซีอีโอของแพลตฟอร์ม ช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง อาลีบาบา (Alibaba) ที่เรารู้จักกันดี จึงเห็นช่องทางจากการตลาดคนโสดนี้ และปล่อยสุดยอดโปรโมชันขายสินค้าในวันที่ 11.11 ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าสู่วันคนโสดของจีนจนกระทั่งหมดวัน และมีโปรโมชั่นนาทีทองแทบจะทุกชั่วโมง และสามารถสร้างยอดขายสูงสุดในวันเดียวได้ถึง 52 ล้านหยวน มากกว่าที่เคยทำในช่วงเวลาปกติ 10 เท่า

จากวันนั้น 11.11 ได้กลายเป็นบ่อทองให้กับอาลีบาบาในการโกยรายได้ทางออนไลน์จากนักช็อปทั้งในจีนและต่างชาติ ขณะเดียวกันก็ได้สร้างวัฒนธรรมการช็อปปิ้งออนไลน์ในวันคนโสดนี้ให้แพร่หลายไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทยในทุก ๆ ปี 

โดยเฉพาะในวันคนโสด 11.11 เมื่อปี 2018 ที่อาลีบาบาได้สร้างตำนานตัวเลขที่น่าตกใจ โดยสามารถโกยยอดขายในเวลา 2 ชั่วโมง ที่ว่ากันว่ามีตัวเลขยอดขายเท่ากับ 7-Eleven ไทย ขายทั้งปีกันเลยทีเดียว

นายกฯ-รัฐบาล ประกาศจุดยืน ย้ำชัด ไม่สนับสนุนแก้ ม.112 เด็ดขาด

โฆษกรัฐบาลย้ำ "นายกฯ และรัฐบาล" ประกาศจุดยืน ยืนยันไม่สนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 โดยเด็ดขาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสเรียกร้องจากบุคคลบางกลุ่มเสนอให้แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงคณะรัฐบาล ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนและแน่วแน่หลายครั้ง ไม่สนับสนุนการแก้ไขและการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยืนยันรัฐบาลบริหารประเทศโดยยึดหลักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของชาติไทย และไม่ควรนำมาเป็นประเด็นในการแบ่งข้างให้เกิดความแตกแยกในสังคม และยังถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเสาหลักและศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ

ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อเพิ่มหมื่นล.อุ้มช่วยเกษตรกรเจอน้ำท่วม 

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้เป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพ การสร้าง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย หรือลงทุนซ่อมแซมโรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพการเกษตรหลังจากได้รับความเสียหาย วงเงินรายละ ไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.50% ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันกู้

ก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. ได้ออกสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประสบภัยนำไปใช้จ่ายที่จำเป็นเร่งด่วนภายในครัวเรือน รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน และตั้งแต่เดือนที่ 7 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.50% ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันกู้

'ไพศาล' ชี้ ผลพวงคำตัดสินศาลรธน. อาจมี 2 พรรคถูกยุบ 8-9 นักการเมืองถูกเชือด

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สิ้นสายฝน ลมหนาวจะปรากฏ เหล่ากบฏจะถูกปราบราบคาบสิ้น!!!!

1.) เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำปราศรัยและการกระทำหลายประการของผู้ถูกร้องและพวก ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศาลจึงมีคำสั่งตามรัฐธรรมนูญให้เลิกการกระทำนั้น คำวินิจฉัยนี้ผูกพันทุกองค์กร

2.) ผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้นครบเป็นองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายอาญาว่าด้วยการกบฏ มีโทษประหารชีวิต!!! ผู้กระทำการทั้งหมดจึงอาจถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหากบฏต่อไป ซึ่งตำรวจท้องที่หรือตำรวจกองปราบมีหน้าที่ต้องดำเนินคดีในฐานความผิดนี้ คาดว่ากองปราบจะเป็นผู้ดำเนินคดีนี้เพราะเกี่ยวพันกับผู้ร่วมทำความผิดในหลายท้องที่ ซึ่งกองปราบมีเขตอำนาจทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้กระทำความผิดคนอื่น ๆ แม้ไม่ได้ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย!!!

สถานทูตไทยในวอชิงตัน ประกาศเตือน!! 'คนไทย' ในสหรัฐฯ เฝ้าระวังก่อการร้าย

เพจสถานเอกอัครราชทูตไทยเตือนคนไทยติดตามสถานการณ์การก่อการร้ายให้ดี หลังกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐออกโรงเตือนและให้มีผลถึง 8 ก.พ. 65

11 พ.ย. 64 เพจสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เอกสารจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เตือนภัยด้านการก่อการร้ายระบุว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) ได้เผยแพร่เอกสาร National Terrorism Advisory System Bulletin (NTAS) เตือนภัยเฝ้าระวังการก่อเหตุจากกลุ่มนิยมความรุนแรงภายในประเทศ (Domestic Violent Extremists- DVEs) และกลุ่มนิยมแนวทางรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อการร้ายสากล ที่อาจก่อเหตุในห้วงเทศกาลวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนาซึ่งมักจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

โดยเตือนให้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินและเพิ่มความระมัดระวังกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงกับตนเอง รวมถึงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นหรือ FBI ในกรณีที่พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัยหรือเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามในโลกออนไลน์

อย่างไรก็ตาม กระทรวงความมั่นคงฯ ยังไม่พบภัยคุกคามเฉพาะเจาะจง และไม่มีสถานที่เฉพาะเจาะจงที่จะเกิดเหตุ

'เสกสกล' ซัด 'อดีตนายใหญ่' เป็นตัวพ่อ แบ่งแยกปชช.ภาคอีสาน สร้างความเหลื่อมล้ำ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นประเด็น ม.112 ว่า นายทักษิณเจตนาบิดเบือน ตีกิน หวังหาเสียงจากประเด็นดังกล่าว พูดจากลับกลอก ไปมา  เพิ่งจะบอกว่าตัวกฎหมายมาตรา 112 ไม่เป็นปัญหา แต่พอถูกกองเชียร์โจมตีว่าสู้ไปกราบไปก็ออกมาบอกกฎหมายมีปัญหาตรงโทษจำคุกหนักไป ต้องรีบแก้ไข พฤติกรรมแบบนี้ ชัดเจนว่าเป็นคนไร้หลักการ เอาแต่หลักกู
 
นายเสกสกล กล่าวว่า ขอให้สำเหนียกว่า ถ้าคิดจะข่มขู่คุกคามใคร หวังจะได้กลับบ้านแบบไม่ต้องเข้าคุก ไม่ต้องรับโทษคดีโกงที่ตนเองกระทำไว้ ความมั่นคงของประเทศชาติและสถาบันหลักของชาติ ไม่ได้มีไว้ต่อรอง ไม่ได้มีไว้ให้คนเนรคุณแผ่นดินนำมาแบ่งแยก แบ่งข้างประชาชน นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลไม่สนับสนุนการแก้ไข มาตรา 112 โดยเด็ดขาด สถาบันไม่ควรถูกล่วงละเมิด ใครที่ไปก้าวล่วง ทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร หยุดนำเรื่องนี้มาปั่นกระแสสร้างความขัดแย้งในสังคม ควรให้คนในชาติได้ร่วมกันเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้อง ไม่ใช่จ้องมาทำลายยุแหย่ให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติตลอดเวลา 

 

 

"อนุทิน" ย้ำ แม้สถานการณ์โควิดฯ คลี่คลาย แต่ยังวางใจไม่ได้ เผย หารือผู้ผลิตนำเข้าวัคซีน Gen2 แล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายตามลำดับว่า 

ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มอนิเตอร์สถานการณ์อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือไปจนถึงภาคใต้ มีรายงานการติดเชื้อเข้ามาทุกวัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้น คือยอดผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนั้นลดน้อยลง เช่นเดียวกับยอดสูญเสียก็ลดลงเช่นกัน แม้ว่าจะมีการเปิดเมือง คลายล็อกแล้วก็ตาม 

ส่วนสำคัญมาจากการฉีดวัคซีนได้ตามเป้า วันนี้น่าจะฉีดได้ถึง 83 ล้านโดส การฉีดในปัจจุบัน มีความครอบคลุมมากขึ้น เราให้บริการไปถึงเด็กอายุ 12 - 17 ปี และในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ก็ได้ฉีด มีสูตรวัคซีนหลายชนิด ให้เหมาะสมกับประชากร ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ตนลงพื้นที่ภาคใต้ ทราบมาว่า ผู้นำชุมชน ช่วยสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ ให้เข้ารับวัคซีน ถือเป็นเรื่องงดงามที่ทุกคนช่วยกัน ขณะที่ อสม.ก็รณรงค์กันทุกวัน 

ทิศทางไปในทางบวก แต่ยอมรับว่า ยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ ยิ่งเมื่อคลายล็อก ก็ต้องคิดเผื่อไว้ ได้สั่งการให้จัดหายา และวัคซีนเข้ามาสต็อก พร้อมการเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ส่วนยา ก็ได้ศึกษาความคืบหน้าจากทีมผู้ผลิตทั่วโลก ตัวไหนดี มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ต้องพิจารณานำเข้ามา เราต้องมีทางเลือกหลายๆ ทาง

 

พล.อ.ประวิตร  ติดตามแผน แก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ  สั่งเร่งระบายน้ำ  จากภาวะน้ำทะเลหนุน  ลดผลกระทบ ปชช.  ปรับแผนแม่บท เพิ่ม"โคกหนองนาโมเดล" เสริมแก้น้ำท่วม/เก็บน้ำสำรอง  เน้น ประชาสัมพันธ์ ให้ทั่วถึง

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่าเวลา 10.00น.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2564  ณ ห้องประชุม 301  ตึกบัญชาการ 1  ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงาน ตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี64 ที่ผ่านมา อาทิ การซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ จำนวน 2,312 แห่ง(99%) และสถานีโทรมาตร จำนวน 4,209 แห่ง(89%) ,การขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา รวม 5,319,444 ตันในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก และการขุดเจาะบ่อบาดาล ก่อสร้างระบบกระจายน้ำ จำนวน 2,498 บ่อ เติมน้ำใต้ดิน จำนวน 998 แห่ง เป็นต้น  และได้รับทราบความก้าวหน้า โครงการบริหารจัดการน้ำระยะยาว อย่างยั่งยืน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้เร่งรัด สทนช. ให้บูรณาการหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อน แผนงานให้ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงให้ศึกษาการแก้ปัญหาการป้องกันน้ำเค็มในปี65 ด้วย  นอกจากนั้นที่ประชุม ยังได้รับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงกรอบแนวทางแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยให้มีการเพิ่มเติมแนวทางการพัฒนา"โคกหนองนาโมเดล" เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำสำรอง และใช้เก็บน้ำเมื่อประสบภัยน้ำท่วม  ต่อมาที่ประชุมได้มีการพิจารณา รายงานผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี(ช่วง2561-2564) และรายงานตัวชี้วัดความมั่นคงน้ำ พร้อมทั้ง ได้เห็นชอบให้ใช้ระบบ Thai Water Assessment  เป็นเครื่องมือในการติดตามประเมินผลโครงการด้านทรัพยากรน้ำโดยมอบให้หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องรายงานผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ ธ.ค.64 เป็นต้นไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top