Thursday, 22 May 2025
Hard News Team

เพจ ‘ปราชญ์ สามสี’ แซะตรรกะ ‘เนติวิทย์’ ปมไม่อยากเรียนจบ เชื่อ! คิดใช้ ‘สถานะนักเรียน’ เคลื่อนไหว

เพจเฟซบุ๊ก "ปราชญ์ สามสี" โพสต์กรณีนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ยังไม่อยากเรียนจบการศึกษา ว่า เรียนผลาญเงินพ่อแม่ ไม่ต้องรีบจบ เพราะจบไปก็ทุกข์กับตัวเอง...อืม คงมีคนแอบเลี้ยง เนเน่ อยู่สินะครับถึงไม่ต้องรีบหางานทำ...เพราะอยู่เฉย ๆ ก็มีเงินกิน

ส่วนเรื่องเรียน จริง ๆ การเรียนหนังสือ ทำได้ตลอดแม้จะเรียนจบออกมาแล้วชีวิตก็ไม่ได้หยุดการเรียนรู้...

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนต่อเนื่องในโครงการ “จักรยานเพื่อน้องสัญจร” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2564   ลงพื้นที่มอบจักรยานแก่โรงเรียนในชนบททางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 16 จังหวัด 80 โรงเรียน

 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วยนายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่มอบจักรยาน เสื้อกันฝน และหน้ากากอนามัย  ให้กับโรงเรียนในชนบททางภาคกลาง และภาคใต้ ที่มีเยาวชนประสบปัญหาในด้านการเดินทางไปและกลับโรงเรียนด้วยความยากลำบาก ภายใต้โครงการจักรยานเพื่อน้องสัญจร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2564  โดยคณะมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลงพื้นที่มอบให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนในพื้นที่รวม 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  อ่างทอง  สุพรรณบุรี  ชัยนาท  อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สระแก้ว นครสวรรค์  ตาก ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา และระนอง รวม 80 โรงเรียน รถจักรยาน จำนวน 1,500 คัน และในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน

มูลนิธิฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้มอบหน้ากากอนามัยแก่โรงเรียนรวม 40,000 ชิ้น และเสื้อกันฝนรวม 4,000 ตัว รวมงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ทั้งสิ้น จำนวน 2,366,500 บาท (สองล้านสามแสนหกหมื่นหกพันห้าร้อยบาทถ้วน) ทั้งนี้เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถใช้จักรยานเดินทางมาโรงเรียนได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน รวมถึงการดูแลรักษาสิ่งของส่วนรวมและใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง โดยเมื่อเด็กนักเรียนจบการศึกษา จักรยานจะถูกส่งต่อให้แก่เด็กนักเรียนในรุ่นต่อไป โดยมี อาสาศิลปินมูลนิธิฯ คุณครู และตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี 

ยะลา-เบตง ผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงส์วิไล ผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน (ผบ.ชค.ปชด.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม เจ้าหน้าที่ ตชด.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการที่บ้านกาแป๊ะฮูลู ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ตชด. โดยมี ร.ต.อ.อาทิตย์ อินทรสกุล รอง ผบ.ศฝด.441 สย.1 (รรท.ผบ.ร้อย ตชด.445), ร.อ.เอกชัย ไชยสาลี ผบ.ร้อย ปชด.1 , ร.ต.ท.ณัฐธีร์ ปัญจสิริวิทย์ หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.4405 ให้การต้อนรับ และรายงานบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ปัญหาต่างในพื้นที่รับผิดชอบ  

พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงส์วิไล ผบ.ชค.ปชด. เปิดเผยว่า การมาตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ อ.เบตง จ. ยะลา ในวันนี้ เพื่อพบปะพูดคุยสอบถามปัญหาอุปสรรคต่างๆในการปฏิบัติงานในพื้นที่ และเป็นการสร้างขวัญให้กำลังใจ กับเจ้าหน้าที่ซึ่งเสียสละ อดทน ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้วยความยากรำบาก ทั้งนี้ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงาน ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายสั่งการของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค4 อย่างเคร่งครัด ให้มีความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโควิด19 เน้นย้ำกำลังพลไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับ อบายมุข สิ่งผิดกฎหมาย และเรื่องยาเสพติด, มาตรการป้องกันฐานที่ตั้ง และให้บูรณาการการทำงาน ทั้งด้านการข่าว การปฏิบัติ กับหน่วยกำลังข้างเคียง ในการลาดตระเวนตรวจดูแนวชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ ไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมาย บุคคลต่างด้าว ลักลอบเข้ามา ซึ่งก็จะเป็นการป้องกันไวรัสโควิด19 ได้อีกทางหนึ่งด้วย  

‘ท่านใหม่’ ชมสมาชิกราชสกุล ไร้ความเกรงกลัว รวมตัวร้องเพลง ‘เราคือคนไทย’ ปลุกสำนึกรักชาติ

ม.จ. จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ผมขอชื่นชมจากใจจริงครับ ที่เหล่าสมาชิก ราชสกุล และราชินีกุล เกือบทุกมหาสาขา ในพระราชวงศ์จักรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็น คนรุ่นใหม่ หนุ่ม ๆ สาว ๆ และอาจจะมีที่อายุมากหน่อยบางท่าน ได้รวมตัวกันออกมาร้องเพลงปลุกใจ เพื่อให้คนไทยเกิดความรัก ความสามัคคี ต่อชาติ บ้านเมือง โดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น 

เทคนิคการจัดกระเป๋านักเรียนให้พร้อม!! เอาตัวรอดจากโควิด-19

เตรียมตัว Back to School !!

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำเทคนิคจัดกระเป๋านักเรียนให้บุตรหลาน เพื่อเอาตัวรอดจากเชื้อโควิด ในช่วงเปิดเรียนใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังรุนแรงในหลายพื้นที่

หน้ากากสำรอง รู้ ๆ กันอยู่ เด็กชอบลืมวางของไว้ตามที่ต่าง ๆ หน้ากากก็คงไม่รอด อันเดียวต่อวันไม่น่าพอ ไม่หาย ก็สกปรก คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอันสำรองใส่ซองและเก็บไว้ในช่องกระเป๋านักเรียน อาจเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยก็ได้ 

เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์แบบมีที่ห้อย นอกจากคอยเตือนให้ลูกหมั่นล้างมือให้ถูกวิธีอย่างน้อย 20 วินาที ยังควรเตรียมเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือให้ลูกพร้อมใช้ได้ทุกเวลา โดยหาแบบมีที่ห้อย ห้อยไว้กับกระเป๋า แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวหาย แต่ต้องเตือนลูก อย่าไปวางตากแดด เดี๋ยวเจลจะเสื่อมคุณภาพ ฆ่าเชื้อไม่ได้ 

ทิชชูแบบแห้งและเปียก ความซนของลูกเราไม่เป็นสองรองใคร เล่นทั้งวันจนมอมแมม ถ้ามีเตรียมไว้ ให้ลูกล้างมือก่อน แล้วค่อยใช้ทิชชูเช็ดหน้าเช็ดตา ลดความเสี่ยงเอามือสัมผัสใบหน้าโดยตรง ส่วนทิชชู่เปียกให้ใช้แบบผสมแอลกอฮอล์สำหรับไว้เช็ดสิ่งของต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ขอบชักโครก ช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคต่าง ๆ 

‘อ.แพท’ แจงความหมาย LOST IN BANGKOK ชี้ ‘รัสเซล โครว์’ สื่อถึง ‘หลงใหล’ ไม่ใช่ ‘หลงทาง’

คุณพัฒนพงศ์ (แพท) แสงธรรม อาจารย์ คณะศิลปศาสตร์ (ภาควิชาภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีรัสเซล โครว์ โพสต์ภาพท่องเที่ยวชุด LOST IN BANGKOK ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า The Meaning of Being Lost : LOST IN BANGKOK แปลผิดว่า "หลงทาง" กันเยอะ เพราะไม่เข้าใจคำว่า lost

to be lost: นอกจากจะแปลว่าหลงทางแล้ว มันแปลว่า เคลิบเคลิ้ม จนไม่รู้กาลเวลา เพลิดเพลิน ดื่มด่ำ อย่างเช่นเพลง "Lost in Love" ของ Air Supply คือตกอยู่ในภวังค์ ของความรัก ไม่รู้วันรู้คืน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีเวลาหรือสถานที่ ไม่รับรู้เหตุผล

Debbie Gibson มีเพลงดังชื่อ Lost in Your Eyes ไม่ได้หลงทางอยู่ในเบ้าตา แต่มองตาเธอแล้วจังงัง ทำอะไรไม่ถูก เคลิ้มในเสน่ห์

ในโบรชัวร์นำเที่ยว ภาษาอังกฤษ จะใช้การเชิญชวนด้วยคำว่า lost เช่นจะแนะนำว่า ให้ไปเที่ยว เกียวโต แล้ว Get lost in the subtle splendor of ancient Japan ไปเพลิดเพลินอยู่กับความอลังการอันสุขุมของญี่ปุ่นยุคโบราณ จนลืมเวลา

ตลอดมา Russell Crowe ใช้ฉันทลักษณ์ในการสื่อด้วย Twitter บอกให้รู้ว่า หลงใหลเสน่ห์ของเมืองไทยแค่ไหน เช่นใช้รูปแบบภาษา dreaming  อันแปลได้ว่า "ในฝัน" ให้ความหมายเชิงบวก ที่สะท้อนความหลงใหล เช่น Amanpuri Dreaming โรงแรมสวยดั่งฝัน  Bangkok Dreaming กรุงเทพแดนฝัน เพลง California Dreaming เกิดห้วงคำนึง ฝันถึงแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่หนาวเหน็บเหมือนตรงนี้

ราเมศ เผย “จุรินทร์”กำชับ ส.ส.เตรียมความพร้อม เปิดประชุมสภา ลุยเต็มที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญที่จะถึงนี้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้กำชับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ในส่วนของพรรค ลุยทำงานในสภาเต็มที่ และพร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ของสภาอย่างเคร่งครัด

เปิดประชุมสภาสมัยสามัญนี้ส.ส.ของพรรคมีการเตรียมการในเรื่องการอภิปราย กระทู้ ญัตติต่างๆ รวมถึง ร่างกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับ ระหว่างปิดสมัยประชุม ส.ส.ทุกคนอยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนตลอด ข้อมูลที่จะนำมาสะท้อนผ่านสภามีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาความเป็นอยู่ปัญหาปากท้อง ก็จะเป็นแนวคิดแนวทางประกอบในการทำงานของรัฐบาลเพราะ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่จะทราบปัญหาดีที่สุด กลไกของสภาผู้แทนราษฏรก็จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานของรัฐบาลให้ดียิ่งขึ้นตรงตามความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี 

“โฆษกรัฐบาล” ยันนโยบายเปิดภาคเรียนมีการเตรียมพร้อม วางแผนร่วม สธ.เป็นอย่างดี “ปัด” ไม่ใช่เป็นไปตามยถากรรม “มั่นใจ” พลิกฟื้นประเทศไทยได้แน่ ถ้าฝ่ายค้านกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองในสภาฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการประกาศเปิดเรียนเป็นตามยถากรรม เพราะรัฐบาลไม่มีการเตรียมพร้อม เมื่อเปิดโรงเรียนไม่ได้ก็เปิดเศรษฐกิจไม่ได้ ว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า การเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 นั้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความพร้อมการเปิดเรียนรูปแบบ On Site ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้วางแผนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มีรายละเอียดการเปิดเรียนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สถานศึกษาไปปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ขณะนี้กำลังเร่งผลักดันให้ครูได้รับวัคซีนให้มากที่สุดอีกด้วย ดังนั้น การเปิดเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายนจะเปิดเรียนในรูปแบบไหนนั้นจึงขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ไม่ได้เปิดเรียนตามยถากรรมแต่อย่างใด

“โฆษกรัฐบา” เผย  “Thailand Pass" ลดขั้นตอนเอกสาร รับนทท.เข้าประเทศ รอผลตรวจโควิด-19 แล้วเดินทางได้เลย ตั้งแต่ 1 พ.ย. นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยเดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยรูปแบบ "Thailand Pass" แทนระบบ COE (Certificate of Entry)  ลดขั้นตอนการอัปโหลดเอกสาร อำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวและชาวไทยที่ประสงค์เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ก่อนเดินทาง และรอการอนุมัติเป็นเวลา 1-3 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย 1. การตรวจโดยระบบอัตโนมัติสำหรับผู้ยื่นเอกสารวัคซีนที่มี QR Code และประเทศที่ออกเอกสารได้ให้ Public Key สาหรับการตรวจสอบเอกสารแก่ทางการ ไทยแล้ว (สามารถอนุมัติเอกสารให้ผู้เดินทางได้ทันที) 2. การตรวจโดยกรมควบคุมโรคด้วยตาเปล่าตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข กําหนด โดยมีระบบกํารตรวจสอบการจองที่พัก SHA+ ผ่านระบบ SHABA และ AQ ผ่าน การยืนยันผู้เข้าพักจากโรงแรม AQ

จากนั้นเมื่อได้รับการอนุมัติ ผู้เดินทางสามารถดาวน์โหลด Thailand Pass QR Code ได้ทันทีเพื่อนำไปแสดงต่อสายการบินและเจ้าหน้าที่คัดกรอง พร้อมกับผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง โดยไม่ต้องกรอก ตม.8 และ ตม.6 เมื่อเดินทางถึงไทย และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน  “หมอชนะ” เท่านั้น โดยสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เข้าข่ายไม่ต้องกักตัว จำนวน 45 ประเทศ  และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงหรือนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทันทีหลังจากการรอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ในโรงแรมที่กำหนดไม่ต่ำกว่า 1 คืน ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าข่ายไม่ต้องกักตัวจะต้องพำนักอยู่ในประเทศที่ได้รับอนุญาตไม่ต่ำกว่า 21 วัน ยกเว้นเดินทางมาจากประเทศไทย และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ที่เดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์แล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ภายใต้เงื่อนไขไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกับผู้ปกครอง

“สงคราม” อัด “บิ๊กตู่” ปล่อยผู้ค้าน้ำมันขึ้นราคาตามใจชอบ ชี้ รัฐปล่อยราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่องกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน  

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ผู้ค้ามันในประเทศไทย ปรับราคาน้ำมัน อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการซ้ำเติมวิกฤตประเทศ อย่างแท้จริง ทั้งๆที่ปัจจุบันคุณภาพชีวิตของประชาชนก็แย่อยู่แล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ให้ความสำคัญ การปล่อยให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาน้ำมันต่อเนื่องหลายรอบในเดือนตุลาคม ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชน เพราะต้นทุนสินค้าทุกอย่างขึ้น ในขณะนี้รายได้ประชาชนลดลง 

นอกจากนี้ การปรับราคาน้ำมันขึ้นอีก 60 สตางค์ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้ย่อมกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เพิ่มต้นทุนการขนส่ง เพิ่มต้นทุนภาคการผลิตพลเอกประยุทธ์ มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยประชาชน แต่ทำไม่เป็นใช้งานไม่เป็น เลยไม่ทำอะไร ปล่อยให้นายทุนพลังงานกดขี่คนไทย โยนภาระทั้งหมดให้ผู้บริโภค ส่วนผู้ประกอบการโกยกำไรเป็นกอบเป็นกำ  

นายสงคราม  กล่าวด้วยว่า  การที่พลเอกประยุทธ์อ้างว่าการปรับราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาด เป็นการพูดเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น ทั้งๆที่รัฐบาลสามารถที่จะตรึงราคาน้ำมันที่ผันผวน ไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนมากนัก โดยต้องเร่งลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตลงลิตรละ 5 บาทและพิจารณางดเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะช่วยตรึงราคาน้ำมัน ไม่ให้แพงมากเกินไปได้ แต่รัฐเลือกที่จะไม่ทำ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top