Thursday, 26 June 2025
Hard News Team

'อลงกรณ์' เกรง!! วงการข้าวสับสน!! นโยบายกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันไม่เคยสั่งการให้กรมการข้าวปลูกข้าวบัสมาตี เพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงวันนี้ (16 มิ.ย) ว่า ตามที่มีสื่อมวลชนฉบับหนึ่งเสนอข่าวทำนองว่า กรมการข้าวจะปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตันตามนโยบายของที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรหลังจากเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียนั้น ขอชี้แจงว่า ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้และไม่เคยบอกกรมข้าวให้ผลิตข้าวบัสมาติเพื่อส่งออกข้าวบัสมาตี 30 ล้านตันไปซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเกรงว่าจะก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดในนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแม้แต่โฆษกรัฐบาลก็ยังอ้างอิงข่าวที่ผิดพลาดดังกล่าวนำไปแถลงข่าวในนามนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าวโดยเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว ข้าวนึ่งและข้าวหอมมะลิ ประเทศไทยไม่เคยผลิตข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกแม้แต่ตันเดียว จะมีเพียงการทดลองวิจัยในอดีตนานมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีนโยบายปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกเพราะสภาพภูมิอากาศและพื้นที่ของประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมกับพันธุ์ข้าวดังกล่าว 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติสืบสวนติดตามจับกุม ชายสัญชาติลิทัวเนีย 'ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นแล้วปิดบังอำพรางศพ'

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย  โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สํานักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.๓, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาส ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท จว.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ตาย ภายในบ้านที่เกิดเหตุ จากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ตาย ชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) สัญชาติไทย อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวและมีลักษณะเป็นสาวประเภทสอง นอนเสียชีวิตอยู่ในกองผ้าห่มในบ้านที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบ พบบาดแผลจึงเชื่อว่าถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานประมาณ 3 สัปดาห์ และพบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้พักอาศัยอยู่กับ Mr.M สัญชาติลิทัวเนีย โดยมีความสัมพันธ์ในลักษณะเป็นแฟนกัน ภายหลังจากเกิดเหตุพบว่า Mr.M สัญชาติลิทัวเนีย ได้หายตัวไปจากที่เกิดเหตุ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4) ได้รับการประสานในการสืบสวนติดตามตัวบุคคลดังกล่าว และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมกับการบันทึกข้อมูลบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ในระบบ  เทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ต่อมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สืบสวนประสานงานกับ สภ.ปราสาท จว.สุรินทร์ สืบสวนและประสานงานโดยมีพยานที่เห็นตัวผู้ตายอยู่กับ Mr.M ประกอบกับข้อมูลการแจ้งที่อยู่อาศัยเป็นความจริง จึงได้ทำการสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดจนพบว่าหลังเกิดเหตุ Mr.M ได้ลากกระเป๋าเดินทางมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 เวลาประมาณ 22.00 น.จึงมั่นใจว่าจะไปหาเพื่อนชาวต่างชาติในจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ จนกระทั่งชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากแหล่งข่าว และสามารถระบุได้ว่ามาติดพันสาวสองในย่านซอยบัวขาวพัทยา จว.ชลบุรี

'เชียงราย' กองทัพไทย กรมกิจการชายแดนทหาร กองกำลังผาเมือง มอบทุนการศึกษาตามแนวชายแดน

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา พลเอก พิศณุ อุไรเลิศ รองปลัดกระทรวงกลาโหมและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิเพื่อการศึกษาบริเวณชายแดนพร้อมด้วยคณะได้ให้เกียรติมาเป็นประธานมอบทุนการศึกษาตามแนวชายแดนโดยมี พันเอก สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยการมอบทุนในครั้งนี้ให้กับนักเรียนซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนต่างๆในพื้นที่อำเภอตามแนวชายแดนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและเป็นกำลังสำคัญ

 

 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ออกตรวจความคืบหน้าโรงพักต้นแบบโครงการ smart safety zone 4.0

วันนี้ (16 มิ.ย.65) เวลาประมาณ 10.30 น.ภายหลังจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ประธานกรรมการประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร/คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาตรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็น สน.ที่ได้อันดับที่ 1 ของ บช.น. โดยมี พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโน ผกก.สน.ห้วยขวาง  และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ บรรยายสรุปผลสำเร็จในการดำเนินโครงการฯ และสาธิตการปฏิบัติที่สำคัญในโครงการฯ 

การออกตรวจของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ครั้งนี้ เป็นการสำรวจและการประเมินโครงการ ฯ ระยะที่ 2  ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นนโยบายหลักของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่มีการนำเอานวัตกรรมต่างๆ มาเป็นเครื่องมือในการดูแลชุมชนและสังคมเข้ามาช่วยในการทำงานด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่จะทำให้พื้นที่ปลอดภัย เช่น การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถติดตามอัตลักษณ์ของผู้ที่อาจจะเป็นภัยต่อประชาชน มีการวัดผลให้เป็นรูปธรรม ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ด้านความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชน และด้านความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ

บลูเทค ซิตี้ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลสองคลองลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

วันนี้ (16 มิ.ย. 65) ที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายชนะ หว่านณรงค์ เลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสองคลอง พร้อมด้วย ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมกับมอบ น้ำดื่ม จำนวน 10 แพ็ค, เสื้อยืดบลูเทค จำนวน 5 ตัว, ปลากระป๋อง จำนวน 40 กระป๋อง, ข้าวสาร จำนวน 10 ถุง ให้แก่ นางเนื้อน้อง มากบู่ อยู่บ้านเลขที่ 159 ม.8 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งประสบเหตุจากไฟ้ไหม้บ้านเรือนและทรัพย์สินจนเกิดความเสียหาย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นพร้อมจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือต่อไป

ม็อบแท็กซี่-วินจยย.-ไรเดอร์จี้พท. หวดสุพัฒนพงษ์ปล่อยน้ำมัน-แก๊สแพง ชลน่าน แจงเหตุไม่ใส่ชื่อรมว.พลังงานในศึกซักฟอก เผยต้องตอบพร้อมนายกฯ

เวลา 10.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเเละนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค รับหนังสือร้องเรียนจากตัวเเทนเเท็กซี่ วินจักรยานยนต์ ไรเดอร์ส่งอาหารเเละเเมสเซนเจอร์เกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องปัญหาราคาพลังงานที่สูงขึ้นคือค่าน้ำมันและค่าแก๊สจนกระทบรายได้ เเละตั้งข้อสังเกตว่าญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ทำไมไม่มีชื่อนายสุพัฒน์พงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว.พลังงานในการอภิปราย

นพ.ชลน่านกล่าวว่าตนเเละเลขาธิการพรรคเเม้จะเป็นส.ส.ต่างจังหวัดเเต่ก็ทำหน้าที่ผู้เเทนปวงชนชาวไทยรับฟังทุกเสียงของประชาชน เรื่องราคาพลังงานที่สูงจนกระทบรายได้เเละการดำรงชีวิตของทุกคนที่มาร้องเรียนวันนี้นั้น ตนย้ำว่าเรื่องนี้พรรคติดตามมาอย่างต่อเนื่องเเละสะท้อนไปยังรัฐบาลหลายครั้งเเล้วเเต่คล้ายไม่ได้รับความสนใจ ขณะเดียวกันส.ส.ของพรรคที่เป็นกมธ.ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเเละด้านที่เกี่ยวข้องก็ติดตามอยู่ ดังนั้นสมัยประชุมนี้พวกตนจะสอบถามรมว.พลังงานในเรื่องนี้เเน่นอน

'ไบเดน' จ่ออัดฉีดงบทหารให้ยูเครน 1 พันล้านยูเอส หวังต้านรัสเซียเผด็จศึกยูเครนตะวันออกเต็มที่

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ทุ่มสุดตัว เตรียมจัดงบประมาณด้านการทหารเพิ่มให้กับยูเครนอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อฟาดกับกองทัพรัสเซียที่บุกหนักในแคว้นดอนบาสทางฝั่งตะวันออกของยูเครน และเป็นงบอัดฉีดก้อนใหญ่ที่สุดที่เท่าสหรัฐฯ เคยส่งให้ยูเครนในคราวเดียวนับตั้งแต่วันที่รัสเซียยกพลบุกยูเครนเป็นต้นมา

สำหรับงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐนี้ จะถูกนำมาจัดเตรียมอาวุธล้ำสมัยชุดใหญ่ ทั้ง ขีปนาวุธต้านเรือรบ, ปืนใหญ่วิถีโค้ง, ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง (HIMARS) ที่ทาง โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้ร้องขอมา โดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งคนเข้าไปทำการฝึกการใช้อาวุธเหล่านี้ให้กับฝ่ายกองกำลังยูเครนเรียบร้อยแล้ว 

และนอกเหนือจากแพ็คเกจอาวุธยุทโธปกรณ์พันล้านแล้ว โจ ไบเดน ยังเบิกงบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับยูเครนอีก 225 ล้านเหรียญเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยา ที่พักพิง และกองทุนชดเชยให้กับชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบครั้งนี้ ซึ่ง โจ ไบเดน ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า สหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างชาวยูเครนที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันน่าสงสารจากสงครามในบ้านของพวกเขา 

ในขณะที่ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังได้กำชับในที่ประชุม ชาติพันธมิตรในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าให้ชาติพันธมิตรตะวันตกกว่า 45 ชาติต้องช่วยกันส่งอาวุธไปสนับสนุนกองทัพยูเครน และต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยกันต้านกองกำลังรัสเซียอย่างเต็มที่ โดยรัฐมนตรี ออสติน กล่าวย้ำว่า ศึกครั้งนี้เดิมพันสูงมาก และฝ่ายเราจะแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด

เปิดตัว 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ทำลูกสมุนประยุทธ์หนาว 'ชญาภา' แนะทุกฝ่ายหยุดจับจ้องโจมตีทางการเมือง ทำประโยชน์ ปชช.ดีกว่า

นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยหลังเปิดตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของเหล่าสมุนผู้นำที่มาจากเผด็จการอำนาจนิยม ที่ถนัดแต่จับจ้องสร้างวาทกรรมโจมตีทางการเมืองมากกว่าสร้างสรรค์สิ่งที่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน  ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ว่า นายณัฐวุฒิ ยืนอยู่บนเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างมั่นคงมาโดยตลอด  แม้จะต้องเผชิญกับวิบากกรรมทางการเมืองแสนสาหัส แต่ก็ไม่เคยคิดขายจิตวิญญาณ หรือก้มหัวให้กับเผด็จการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเหมือนคนบางกลุ่ม นี่คือเกียรติยศยิ่งใหญ่ของคนที่ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตย 

ดังนั้นการกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยของนายณัฐวุฒิ ในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย มีภารกิจสำคัญคือร่วมสร้างสรรค์ประชาธิปไตย โดยยึดผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก และที่สำคัญคือการเดินหน้าต่อสู้ในสนามเลือกตั้งเพื่อช่วงชิงอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชน หลังจากที่ประเทศไทยต้องตกอยู่ภายใต้รัฐบาลสืบทอดอำนาจมายาวนานกว่า 8 ปี จนบ้านเมืองพังพินาศอย่างเช่นทุกวันนี้ 

‘แพทองธาร-ณัฐวุฒิ’ นำทัพ ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ลุย ‘ศรีสะเกษ’ เปิดมหกรรมไล่หนูตีงูเห่า พร้อมเปิดตัวตัวแทนพรรคในการรับใช้ประชาชนในพื้นที่ศรีสะเกษ 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทย กำหนดจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ที่จังหวัดศรีสะเกษ ‘ครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ตอน ไล่หนูตีงูเห่า’ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2565 โดยจะเป็นรูปแบบการเดินสายพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอราษีไศลและอำเภอขุนหาญ นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่เปิดตัวรับภารกิจขับเคลื่อนครอบครัวเพื่อไทยทั้งระบบ จะลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคและนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รวมไปถึง ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย

งานแถลงข่าวคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13

พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13 โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดคอนเสิร์ตฯ, รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ ศิลปิน ศิลปาธร, คุณรัตนาพร นอสูงเนิน (แพรว The Golden Song) และคุณธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน (อลิศ The Golden Song) เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 เวลา 14.30 น. ณ ห้องรับรองกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ

กองทัพอากาศได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา รวม 12 ครั้ง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงจัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนโครงการพัฒนาอื่นๆ โดยมีพระราชปณิธานเพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ อาณาประชาราษฎร์

สำหรับคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'Our Sky' โดยเป็นการแสดงศักยภาพทางดนตรีของวงชิมโฟนีออเคสตร้า กองทัพอากาศ ซึ่งประกอบด้วย นักดนตรี และคณะนักร้องหมู่ประสานเสียงกว่า 150 คน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากศิลปินรับเชิญที่มีชื่อเสียง ได้แก่
 
- รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ ศิลปิน ศิลปาธร
- คุณทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี 
- คุณรัดเกล้า อามระดิษ 
- คุณศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร 
- คุณพิมดาว พานิชสมัย 
- คุณรัตนาพร นอสูงเนิน (แพรว The Golden Song)
- คุณธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน (อลิศ The Golden Song)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top