Sunday, 5 May 2024
Hard News Team

นฤมล นำทัพถก พัฒนาทักษะฝีมือคนพิการ รองรับการประกอบอาชีพ

วันที่ 1 เมษายน 2564 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือการจัดทำแผนพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการรองรับการประกอบอาชีพ ครั้งที่ 2/2564 โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

 

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า ปัจจุบันคนพิการยังไม่ได้รับการพัฒนาทักษะมือให้ตรงตามความต้องการของสถานประกอบกิจการเท่าที่ควร เนื่องจากขาดหลักสูตรการฝึกหลักสูตรที่เหมาะสม เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการทำงานที่ตรงตามประเภทของความพิการ ฐานข้อมูลด้านแรงงานเพื่อสนับสนุนการจ้างงาน การประชุมในวันนี้จึงเป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการรองรับการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ สถานประกอบกิจการ และส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ โดยสมาคมคนพิการ สถานประกอบกิจการ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันจัดทำหลักสูตรทั้งหาร upskill, reskill และ change skill ตามความเหมาะสมของคนพิการแต่ละประเภทและลักษณะของการทำงาน เพื่อให้คนพิการมีทักษะในการประกอบอาชีพและได้รับการจ้างงานมากขึ้น รองรับการทำงานในโลกยุคใหม่

 

ที่ประชุมได้เสนอแผนบูรณาการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพรวม 61 โครงการ เป้าหมายกว่า 180,000 คน การพัฒนาคนพิการใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย การพัฒนาทักษะคนพิการ การส่งเสริมการประกอบอาชีพและการจ้างงานคนพิการ และการพัฒนาศักยภาพคนพิการผ่านการแข่งขันฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ยังมีโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – พ.ศ. 2565 จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนและส่งเสริมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ โครงการส่งเสริมอาชีพการปลูกฮอปส์ (HOPS) เพื่อพัฒนาอาชีพคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกาย โครงการพัฒนาทักษะมีมือครอบครัวคนพิการทางสติปัญญาเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพ และโครงการส่งเสริมการประกอบอาชีพธุรกิจสำหรับบุคคลออทิสติกและครอบครัว ซึ่งจะนำไปสู่การสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพคนพิการอย่างเป็นรูปธรรม

 

รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความช่วยเหลือและดูแลคนพิการ ไม่ได้ดำเนินการเพียงเรื่องการฝึกอบรมและการจ้างงานเท่านั้น การส่งเสริมด้าน CSR ก็เป็นอีกกิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งจะมีการแถลงข่าว การเชิญชวนสถานประกอบกิจการ ร่วมทำ CSR เพื่อคนพิการ ในวันที่ 2 เมษายน นี้ ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และคาดว่า จะมีการจัดสัมมนาขึ้นในวันที่ 22 เมษายน  2564 ภายใต้ชื่องาน "เสริมฝีมือ สร้างสุข ให้อาชีพ คนพิการ"

 

“ความร่วมทุกภาคส่วนที่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของคนพิการ และร่วมสร้างโอกาสให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในสังคมอย่างเท่าเทียม จะเป็นส่วนหนึ่งในการจ้างงานและการประกอบอาชีพอิสระที่ยั่งยืน ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย

กองทัพเมียนมา แถลงหยุดยิง 1 เดือน วอน ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ ร่วมกันรักษาความสงบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่าคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหารเมียนมา ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่ากองทัพพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหาร ระหว่างวันที่ 1 - 30 เม.ย.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการสันติภาพ โดยตลอดช่วงเวลาดังกล่าวขอความร่วมมือจากกองกำลังชาติพันธุ์ทุกกลุ่ม ‘ร่วมกันรักษาความสงบ’ และเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์

อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงครั้งนี้ไม่มีผลกับ ‘กิจกรรมทุกรูปแบบที่มีผลต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของรัฐ ตลอดจนความราบรื่นในการบริหารกิจการแผ่นดิน’ สื่อชัดเจนถึงการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร ซึ่งเกิดขึ้นรายวันนับตั้งแต่วันยึดอำนาจ เมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

ขณะที่ยังไม่มีกองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มใดออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการประกาศ ‘สงบศึกชั่วคราว’ ของกองทัพเมียนมา อนึ่ง ก่อนหน้านั้น สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุด และมีฐานที่มั่นอยู่ทางตะวันออก กองทัพเอกราชกะฉิ่น (เคไอเอ) ซึ่งมีเขตอิทธิพลอยู่ทางเหนือ กองทัพอาระกัน (เอเอ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาวพุทธในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตก และสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉานของเจ้ายอดศึก แสดงออกชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์

ทั้งนี้ สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนทางตะวันออกของเมียนมา ซึ่งติดกับไทย ยังคงมีความรุนแรงเป็นระยะ โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า เครื่องบินรบของกองทัพเมียนมาโจมตีเหมืองทองแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายในอาณาเขตยึดครองของเคเอ็นยู เมื่อวันอังคาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน โดยกองทัพเมียนมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในแถบนี้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เพื่อตอบโต้ที่เคเอ็นยูบุกโจมตีฐานประจำการแห่งหนึ่งของกองทัพ สังหารทหารอย่างน้อย 10 นาย และควบคุมตัวทหาร 8 นายเป็นตัวประกัน

.

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/foreign/834449


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

มท.จัดงานวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย 129 ปี 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 บริเวณด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมทั้งกล่าวคำถวายสดุดีสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทยครบ 129 ปี เพื่อน้อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการสถาปนากระทรวงมหาดไทยขึ้น โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีฯ

จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานพิจารณาผ้าป่า ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม เพื่อรวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศ สมทบเข้าเป็นกองทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนและด้อยโอกาสในพื้นที่ชนบท จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และคณะสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารรวม 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติผู้มีจริยธรรมดีเด่น ประจำปี 2563 ให้แก่บุคลากรในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับการยกย่องเป็นผู้มีจริยธรรมดีเด่นจำนวน 5 ราย ได้แก่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผวจ.นครสวรรค์ นางศุภวรรณ บูชาดี ผอ.กลุ่มงานสนับสนุนผู้ตรวจราชการ สํานักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ นางสาวธันยพรรษ จันทร์ทอง ผอ.กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายมนัส แก้วกัญญา พนักงานขับรถยนต์ระดับส 2 สำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่พลเมืองดี ประจำปี 2562 – 2563 ให้แก่ผู้ทำความดีในการเข้าช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วยเหลือ หรือการช่วยเหลือกิจกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหน้าที่ ในเหตุฉุกเฉินต่างๆ ด้วยคุณธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ชัด โดยมิได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว โดยมีผู้ได้รับยกย่องเป็นพลเมืองดีจำนวน 19 ราย เป็นพลเมืองดีที่เสียชีวิตจำนวน 7 ราย บาดเจ็บ 5 ราย และไม่ได้รับผลกระทบจากการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น 7 ราย  

“แรมโบ้” ป้อง “บิ๊กตู่” ย้อน! วิสาร ถ้าว่างมากก็กลับไปลงพื้นที่บ้าง 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย วิจารณ์นายกรัฐมนตรีหนุนรัฐประหารเมียนมาร์ด้วยการที่รัฐบาลไทยส่งเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงไปร่วมในงานวันกองทัพเมียนมาร์ ทั้งที่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันแล้วว่าไม่ได้ผลักดัน ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ว่า ขอให้นายวิสารรับฟังการชี้แจง และเหตุผลของนายกฯบ้าง ไม่ใช่ว่าจะเอาทุกประเด็นมาตีนายกฯเพียงอย่างเดียว ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เข้าใจในนายกฯผิด 

การออกมาพูดทั้งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจะทำให้นานาประเทศเข้าใจประเทศไทย ในทางที่ผิดพลาดได้ เช่นกัน ถ้านายวิสารมีความรักชาติบ้านเมืองมีจิตใจเป็นคนไทยแท้จริง ต้องรับฟังข้อมูลให้ชัดเจนก่อนกล่าวหาให้รัฐบาลเสียหาย ตนมองว่าหากช่วงนี้นายวิสารมีเวลาว่างมากขอให้ลงพื้นที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนบ้างในฐานะเป็น ส.ส.มากกว่าที่จะออกมาพูดแต่เรื่องที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง  

วัน ๆ คิดแต่เรื่องที่จะปั้นเรื่อง สร้างเรื่องให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาลการที่นายวิสารให้ข่าวเท็จรายวันออกมามันได้ประโยชน์อะไรต่อประเทศบ้าง เรื่องระหว่างประเทศ ในภาวะช่วงนี้การพูดจาให้ข่าว ควรพึงระมัดระวัง อย่าเอามาพูดเล่นสนุกสนานแบบคันปาก ทางการเมืองไม่ได้ เคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีควรมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมืองมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ตีกินหรือหวังผลทางการเมืองให้กับพรรคตัวเอง ควรฟังทางนายกฯทางกองทัพ ทางผู้ว่าราชจังหวัดและฝ่ายเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ใช่สักแต่พูดกล่าวหาใส่ร้ายให้ประเทศเป็นเป้าในสายตานานาชาติในทางลบ 

พฤติกรรมแบบนี้คนถึงประนามนายวิสารชอบโชว์พฤติกรรมแย่ ๆ ไปกรีดแขนในสภาฯอันทรงเกียรติ จนส่งผล กระทบในทางลบที่ประชาชนรับไม่ได้ ทำให้ฐานเสียงลูกสาวสอบตกนายก อบจ.ที่เชียงราย ความคิดการกระทำครั้งนั้น ผิดพลาดมาก จนทำให้กระแสตีกลับลูกสาว น่าสงสารลูกสาวที่สุด คนทำตัวประเภทนี้ที่เรียกว่า "พ่อรังแกลูก" ทั้งที่ลูกสาวกำลังกระแสดีมีโอกาสชนะสูงแน่นอน แต่แพ้เพราะการกระทำของพ่อแท้ ๆ

ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ออกคำสั่งให้ฝรั่งเศสเข้าสู่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 3 และเผยว่าโรงเรียนต่าง ๆ ต้องปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในขณะที่เขาพยายามรับมือกับการแพร่ระบาดระลอก 3 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

จนถึงตอนนี้ สถานการณ์โรคระบาดใน ฝรั่งเศส พบจำนวนผู้เสียชีวิตขยับเข้าใกล้ 100,000 คน ตามห้องไอซียูตามภูมิภาคต่าง ๆ ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ขณะที่การแจกจ่ายวัคซีนก็ล่าช้ากว่าที่วางแผนไว้ ทำให้ มาครง ถูกบีบให้ต้องละทิ้งเป้าหมายเดิมที่หวังเปิดประเทศต่อไปเพื่อปกป้องเศรษฐกิจ

“เราจะสูญเสียการควบคุม หากเราไม่ดำเนินการในตอนนี้” ประธานาธิบดีมาครงแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ

คำแถลงของเขามีเป้าหมายเดินมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่บังคับใช้ในกรุงปารีส และบางแคว้นทางภาคเหนือ รวมทางใต้ของประเทศ มาราว ๆ 1 สัปดาห์ และเวลานี้ก็จะถูกขยายบังคับใช้ทั่วประเทศอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (3 เม.ย.) เป็นต้นไป

ประธานาธิบดีมาครง วัย 43 ปี พยายามหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 3 นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021 โดยเสี่ยงเดิมพันว่าหากเขาสามารถนำพาฝรั่งเศสหลุดพ้นจากโรคระบาดใหญ่แบบไม่ต้องล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง จะช่วยเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการดำดิ่งอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกของอดีตนายธนาคารเพื่อการลงทุนรายนี้แคบลง เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ทั่วฝรั่งเศสและพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป

ทั้งนี้ในส่วนของการเรียนการสอน มาครงบอกด้วยว่าโรงเรียนต่างๆ จะปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังสุดสัปดาห์นี้ กลับลำคำสัญญาที่เคยประกาศว่าจะปกป้องการศึกษาจากโรคระบาดใหญ่ โดยหากผ่านพ้นสุดสัปดาห์นี้ไป เด็กนักเรียนจะต้องเข้าสู่การเรียนทางไกลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นสถาบันการศึกษาจะปิดเทอมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งปีนี้โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศจะปิดเร็วกว่ากำหนด

จากนั้นนักเรียนระดับอนุบาลและประถมจะกลับเข้าสู่ชั้นเรียน แต่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจะยังคงต้องเรียนทางไกลต่ออีก 1 สัปดาห์ “นี่คือทางออกที่ดีที่สุดเพื่อชะลอไวรัส” มาครงกล่าว พร้อมระบุว่าฝรั่งเศสประสบความสำเร็จที่สามารถคงการเปิดการเรียนการสอนระหว่างโรคระบาดใหญ่ได้นานกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติ

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เฉลี่ยแล้วเกือบ 40,000 คนต่อวัน ส่วนจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูทะลุ 5,000 คนแล้ว เกินกว่าระดับสูงสุดครั้งที่ประเทศแห่งนี้เข้าสู่ล็อกดาวน์เป็นเวลา 6 สัปดาห์เมื่อช่วงปลายปีก่อน เป็นที่เรียบร้อย

มาครง ระบุว่าจะมีการเพิ่มเตียงคนไข้ในห้องอีซียูเป็น 10,000 เตียง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

คำสั่งล็อกดาวน์รอบใหม่เสี่ยงชะลออัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส หลังจากปีที่แล้วดำดิ่งอย่างหนัก โดยมาตรการดังกล่าวจะบังคับปิดธุรกิจต่าง ๆ กว่า 150,000 แห่งเป็นการชั่วคราว ก่อความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 11,000 ล้านยูโรต่อเดือน จากการประเมินของกระทรวงการคลัง

มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ของฝรั่งเศสตอกย้ำถึงความเสียหายมหาศาลที่ต้องชดใช้ อันสืบเนื่องจากการแจกจ่ายวัคซีนต่อต้านโควิด-19 ที่ล่าช้าของสหภาพยุโรป

ประธานาธิบดีมาครงระบุว่า จำเป็นต้องเร่งมือโครงการวัคซีนให้เร็วขึ้น หลังจากประสบปัญหาติดขัดเกี่ยวกับระเบียบราชการและอุปทานขาดแคลน โดยจนถึงตอนนี้หลังผ่านไป 3 เดือน ฝรั่งเศสเพิ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนไปได้เพียงแค่ 12% เท่านั้น

ฉะนั้นความพยายามเดินหน้าโครงการจึงต้องทำให้เร็วขึ้น โดยมาครงบอกว่าประชาชนในช่วงวัย 60 ปีเศษ ๆ จะมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป และในอีก 1 เดือนหลังจากนั้นจะเป็นคิวของกลุ่มคนในวัย 50 ปีเศษ ๆ พร้อมเน้นย้ำว่ายังคงวางเป้าหมายฉีคซีนแก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ให้ได้ 30 ล้านคนในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

มาครง กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า มาตรการล็อกดาวน์เดือนเมษายน และการยกระดับความรวดเร็วของโครงการฉีดวัคซีนจะเปิดทางให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาเปิดอย่างช้าๆ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยเริ่มจากพิพิธภัณฑ์และที่นั่งกลางแจ้งของบาร์และร้านอาหารต่าง ๆ ภายใต้กฎระเบียบอันเข้มงวด

.

ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000030936


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ก.แรงงาน “ตอบรับกระแสฮิต” จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบเทรนสมองกล - หุ่นยนต์ มอบสถาบัน MARA จัดชุดใหญ่ 26 หลักสูตรเทรนสมองกล - หุ่นยนต์ มุ่ง EEC

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ กพร. เร่งดำเนินการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ผลิตกำลังแรงงานป้อนสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันและด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการพัฒนากำลังแรงงานในสาขาเทคโนโลยี การผลิตและหุ่นยนต์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ต้องเร่งฝึกอบรมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความต้องการกำลังคนที่มีทักษะฝีมือจำนวนมากทั้งในระดับช่างปฏิบัติการและวิศวกร จึงมอบหมายให้ กพร.โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA) ซึ่งเป็นศูนย์ Training Excellent Center ของกพร. ที่ตั้งอยู่ในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี ดำเนินการพัฒนาแรงงานในสาขานี้ ให้มีศักยภาพรองรับเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

นายธวัช กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดสถาบัน MARA ตอบรับกระแสเรียกร้องของสถานประกอบกิจการและกำลังแรงงานในพื้นที่ EEC เปิดฝึกอบรมเพิ่มเติมตาม “โครงการพัฒนาทักษะแรงงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” รุ่นที่ 4/2564 จำนวน 26 หลักสูตร ได้แก่ สาขาเทคโนโลยีอัตโนมัติ (1) Basic PLC Gx Works 2 (MITSUBISHI)   (2) Basic PLC CX Programmer (OMRON) (3) Basic PLC (SIEMENS) (4) Advance PLC (MITSUBISHI) (5) การออกแบบและเชื่อมต่อ HMI (GOT MITSUBISHI) กับ PLC (6) CC-Link (MITSUBISHI) (7) การควบคุมระบบขับเคลื่อนมอเตอร์เซอร์โว (MITSUBISHI) ด้วย PLC (8) การใช้ระบบควบคุมแบบชีเควนซ์ในงานอุตสาหกรรม (9) การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการผลิต (AI CIRA CORE) (10) การบำรุงรักษาหุ่นยนต์อุตสาหกรรม  

(11) การควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสำหรับการจับชิ้นงาน: ABB (12) การควบคุมหุ่นยนต์ป้อนชิ้นงานสำหรับเครื่องกลึง CNC ระดับ 1 (13) ช่างควบคุมหุ่นยนต์ Unibot (14) ช่างควบคุมห่นยนต์ FANUC (15) การใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมสำหรับงานเชื่อมระดับ 1 (16) การใช้ ROS ขั้นพื้นฐาน (Basic Robot Operating System) (17) การควบคุมหุ่นยนต์ลำเลียง (AGV) สาขาโปรแกรมการผลิต (18) การจำลองกระบวนการผลิตและวางแผนการผลิตด้วยโปรแกรม TECNOMATIX (19) การเขียนแบบเครื่องกล 2 มิติด้วยโปรแกรม AutoCAD (20) การใช้โปรแกรม SolidCAM for Milling Operation (21) การใช้โปรแกรม Solidwork for CAD (22) การใช้โปรแกรม NX for CAD สาขาเครื่องจักรกลเพื่อการผลิต (23) การใช้เครื่องวัดละเอียดทางมิติแบบอัตโนมัติ (24) การใช้เครื่องมือวัดสามมิติ CMM ระดับ 1 (25) ช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล CNC ระดับ 1 และ (26) GOM 3D scanner, Inspection & Reverse Engineering 

ทุกหลักสูตรใช้ระยะเวลาการฝึกอบรม 30 ชั่วโมง รับจำนวนจำกัดเพียง 20 คนต่อหนึ่งหลักสูตร ซึ่งคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาที่สมัครหรืองานอื่นที่เกี่ยวข้อง เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dsd.go.th/mara และ www.facebook/dsdmara หรือติดต่อสอบถามที่เบอร์โทร 0 3827 6823, 063 193 2708 และ 092 279 4689” อธิบดีกพร. กล่าวทิ้งท้าย

ไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (31 มี.ค.) ว่าวัคซีนของพวกเขามีประสิทธิภาพต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 100% ในเด็กอายุ 12 ถึง 15 ปี พร้อมหวังได้รับอนุมัติใช้กับคนวัยเยาว์ก่อนปีการศึกษาถัดไป

ทั้งสองบริษัทระบุในถ้อยแถลงว่า การทดลองขั้นที่ 3 กับยุวชน 2,260 รายในสหรัฐฯ “พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพ 100% และการตอบสนองแอนติบอดีที่แข็งแกร่ง”

ด้าน อัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟเซอร์ระบุว่า “เรามีแผนยื่นข้อมูลนี้ต่อ FDA (คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ) เสนอแก้ไขการอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินของเราในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และยื่นข้อมูลต่อคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยความหวังว่าจะเริ่มฉีดวัคซนให้กลุ่มอายุนี้ก่อนเริ่มปีการศึกษาหน้า”

ส่วนประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบโอเอ็นเทค บริษัทสัญชาติเยอรมนี เสริมว่า ผลการทดลองที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันระดับสูงสำหรับคนวัยเยาว์ “เป็นสิ่งที่สร้างขวัญและกำลังใจอย่างมาก โดยในเฉพาะในแนวโน้มที่เราพบเห็นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักร B.1.1.7”

วัคซีนของไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ สร้างจากใช้พื้นฐานของเทคโนโลยี mRNA และเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกที่ได้รับอนุมัติในตะวันตกในช่วงปลายปีที่แล้ว

ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต่างเห็นชอบอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินกับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมันถูกใช้กับผู้คนหลายล้านรายในชาติต่างๆ มากกว่า 65 ประเทศทั่วโลก

ผลการศึกษาในโลกจริงซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชน 1.2 ล้านคนในอิสราเอล พบว่าวัคซีนของไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพสูงถึง 94%

ในขณะที่โลกกำลังตะเกียกตะกายฉีดวัคซีน ไบโอเอ็นเทคเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (30 มี.ค.) ว่าพวกเขาอยู่บนเส้นทางของการผลิตวัคซีน 2,500 ล้านโดสในปีนี้

กำลังผลิตที่สูงขึ้นเป็นจากการเพิ่งเปิดแหล่งผลิตใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ในเมืองมาร์บวร์ก ของเยอรมนี ซึ่งตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ใหญ่ที่สุดในโลก ทางบริษัทระบุ

นอกจากนี้แล้วยังมีการผลิตวัคซีนตัวดังกล่าวที่โรงงานแห่งหนึ่งของไฟเซอร์ในเบลเยียม และอีก 3 โรงงานในสหรัฐฯ

ไบโอเอ็นเทคระบุว่า ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และข้อตกลงความร่วมมือใหม่กับบรรดาพันธมิตรภายนอกจะช่วยยกระดับเป้าหมายการผลิตวัคซีนของพวกเขาเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์เริ่มทำการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนกับเด็กอายุน้อย โดยฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 5 ถึง 11 ขวบ กลุ่มแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ คาดหมายว่าจะเริ่มให้วัคซีนโดสแรกแก่เด็กกลุ่มอายุ 2 ถึง 5 ขวบในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะครอบคลุมทารกวัยแบบเบาะอายุต่ำสุด 6 เดือนด้วย

.

ที่มา : เอเอฟพี

https://mgronline.com/around/detail/9640000030932
 


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

การรถไฟฯ ขานรับนโยบาย รมว.คมนาคม เปิดจองตั๋วโดยสารขบวนรถพิเศษ เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มวันที่ 1 เม.ย. 64

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ เปิดจองตั๋วโดยสารขบวนรถพิเศษ สำหรับเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 9 - 15 เมษายน 2564  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เดินทางไปกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างพอเพียง ไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม  

ทั้งนี้ การให้บริการขบวนรถพิเศษเพิ่มเติม มีทั้งประเภทรถนอนปรับอากาศ และรถนั่งชั้น 3  ไป - กลับ รวม 16 ขบวน แบ่งเป็นเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 9 - 14 เมษายน 2564 (เที่ยวไป 8 ขบวน) และวันที่ 10 และ 15 เมษายน 2564 (เที่ยวกลับ 8 ขบวน) รวมทั้งยังได้มีการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ ซึ่งทำให้สามารถรองรับปริมาณการเดินทางของประชาชนได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน 

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ขอแจ้งงดเดินขบวนรถนำเที่ยว ขบวนที่ 909/910 กรุงเทพ - น้ำตก - กรุงเทพ และขบวนที่ 911/912 กรุงเทพ - สวนสนประดิพัทธ์ - กรุงเทพ ในวันที่ 10 - 11 และ 17 - 18 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ด้วย

นายนิรุฒ กล่าวว่า การรถไฟฯ ยังได้เตรียมความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำหน้าที่ติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลการเดินทางของผู้โดยสาร สั่งการแก้ไขกรณีเกิดเหตุอันตราย และรวบรวมสถิติข้อมูลการเดินทาง ขณะเดียวกันยังได้เฝ้าระวังและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดบนขบวนรถโดยสารและสถานีรถไฟ โดยมีการขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจรถไฟ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราอีกทางหนึ่งด้วย 

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ได้จัดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางรางอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่ การตั้งจุดให้บริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่ง ที่ชัดเจนทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ โดยให้เว้นที่นั่งในลักษณะที่เว้นที่เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารนั่งติดกัน ยกเว้นผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชัน ไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ แต่หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะผ่านการสแกนโทรศัพท์ได้ก็จะต้องกรอกข้อมูลการเดินทางตามแบบฟอร์มที่จัดไว้ให้แทน  โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ของขบวนรถที่ให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

https://www.facebook.com/129946050353608/posts/4450654138282756/?d=n

“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” เลิกสนับสนุนเผด็จการเมียนมา ก่อนไทยถูกประณามด้วย สวน “พปชร” รัฐบาลส่งคนร่วมวันทหารพม่าเป็นความโง่ไม่ใช่ความฉลาด ห่วง ภาวะการเงินการคลังของประเทศจะทรุดลงต่อเนื่องจนคนทนไม่ไหว

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 64 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังพาคนไทยลงเรือแป๊ะรั่วไหลลงทะเลไร้ชะตากรรม ส่งคนร่วมงานแสดงความยินดีกับกองทัพเมียนมา ขณะทั่วโลกประณามการเข่นฆ่าประชาชน ส่งผลเศรษฐกิจไทยร่วงสวนทางคำหวานที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลก่อนหน้าอ้างจะฟื้นเศรษฐกิจใน 2 ปี ความจริงประชาชนกำลังถูกผลักตามยถากรรม

"เริ่มจากเหตุการณ์แรก นายวันนา หม่อง ลวินตัวแทนของเมียนมาเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลบอกว่าเป็นการติดต่อขอเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนอยู่ชิดติดกันเท่านั้น ไม่ได้เป็นการรับรองการรัฐประหารแต่อย่างใด หรือการที่กองกำลังกระเหรี่ยงติดอาวุธ KNU ออกมาเปิดเผยเรื่องการส่งเสบียงของรัฐไทยไปสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาร์ จนปรากฎหลักฐานกองข้าวปริศนา 700 กระสอบริมแม่น้ำสาละวิน ที่ภายหลังผบ.พัน.คร.341 ของเมียนมาร์ ยอมรับว่า ข้าวสารดังกล่าวเป็นของทหารเมียนมาที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นเสบียงอาหารให้กับหน่วยทหารในพื้นที่กว่า 10 กองพัน แต่ฝ่ายไทยยังอ้ำอึ้งตอบไม่ตรงคำถามกันไปมา

"ในขณะที่ฮาน เลย์ มิสแกรนด์พม่า 2020 ได้พูดสุนทรพจน์เวทีประกวดแสดงเจตนารมณ์ที่บีบหัวใจและบีบน้ำตาของคนทั้งโลก เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจ หยุดการกระทำรุนแรงต่อประชาชนในประเทศ รวมถึงการขอให้นานาชาติโปรดหันมองเหตุการณ์ในประเทศเมียนมา เพื่อสะท้อนถึงการต่อสู้ของคนเมียนมาร์ว่า ขณะที่ทุกคนอยู่บนถนนเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ตัวเธอเองก็ยืนอยู่บนเวที และกำลังเรียกร้องในประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน เธอพูดในแผ่นดินของประเทศไทยที่รู้ทั้งรู้ว่าชีวิตเธอหลังจากนี้ไม่ปลอดภัยแน่ถ้าต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด วันนี้หากประเทศไทยยังคงร่วมและให้การสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาร์อยู่ ประเทศไทยอาจถูกลูกหลงตามเมียนมาร์ในฐานะที่ไปให้การสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการ ถึงเวลานั้นจะลำบาก

"ตัดภาพมาที่ผู้นำประเทศไทยอย่างพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีประเทศไทย แทนที่จะบอยคอตการกระทำที่ป่าเถื่อนของรัฐบาลพม่าที่กระทำกับประชาชนเสียชีวิตจากการปราบปรามและสลายการชุมนุมของทหารพม่าจำนวนหลายร้อยศพ กลับส่งตัวแทนเป็น 1 ใน 8 ประเทศที่ไปเข้าร่วมแสดงความยินดีในงานพิธีสวนสนามวันกองทัพเมียนมาให้ทั่วโลกประณาม แทนที่จะดึงสติที่ไปไกลให้ฉุกคิด แต่นางสาวทิพานันทน์ ศิริชนะ คนในพรรคพลังประชารัฐกลับออกมาช่วยอุ้มว่า เพื่อกระชับสัมพันธ์ทางด้านการทหารของทั้งสองประเทศ การทำเช่นนั้นเป็นการกระทำที่ชาญฉลาดและรักษาดุลอำนาจ มันคือความโง่ต่างหากชาญฉลาดตรงไหน ถ้าคนใกล้ตัวพล.อ.ประยุทธ์คิดได้แบบนี้เหมือนมีหัวไว้คั่นหูเท่านั้น ไม่ได้ดูทิศทางลมของทั่วโลกเลยว่ามันพัดไปทางไหน สถานการณ์แบบนี้มีใครไปกระชับสัมพันธ์กับเมียนมาร์บ้าง แทนที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชนตามหลักการประชาธิปไตยซึ่งสำคัญกว่า กลับมาสนใจเรื่องผู้สื่อข่าวสาวนั่งไขว่ห้างขณะท่านให้สัมภาษณ์ในทำเนียบรัฐบาล ถึงขั้นมีคำสั่งห้ามนักข่าวคนนั้นเข้าทำเนียบ เพราะนั่งไขว่ห้าง จะตลกไปไหน นี่เรากำลังอยู่ในยุคไหนกัน

"ยิ่งสองสามวันที่ผ่านมา มีข่าวหลุดออกมาเรื่องรัฐบาลถังแตก ถึงขั้นจะมีการหารือถึงการจัดเก็บภาษีของประเทศที่ไม่เข้าเป้า จนทำให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ต้องออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าได้สั่งให้ศึกษาที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ โดยจะยังไม่ขึ้นภาษีในช่วงนี้ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ถังแตก แต่การออกมาพูดแบบนี้ของนายสุพัฒน์พงษ์ ยิ่งทำให้คนยิ่งหวาดกลัว เพราะที่การที่รัฐบาลออกมาพูดเช่นนี้มันทำให้คนชักไม่มั่นใจเพราะรัฐบาลมักทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับการพูดเสมอ โดยนายแฮรี่ เอ็ดมุนด์ โมรอซ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารโลก ออกมาแสดงความเห็นว่า แม้เศรษฐกิจไทยมีวี่แววจะฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ยังมีผลกระทบด้านแรงงานอยู่ โดยช่วงไตรมาส 1/63 และ 2/63 พบว่ามีคนตกงานราว 340,000 ตำแหน่ง และในอนาคตมีแนวโน้มว่าปี 2583 แรงงานในตลาดจะเหลือ 35 ล้านคน จากปี 2563 ที่อยู่ราว 39 ล้านคน พล.อ.ประยุทธ์ยังยอมรับว่าการเงินการคลังประเทศไทยเสี่ยง รายได้ต่ำเป้า ใช้จ่ายสูง คาดต้องกู้อุดงบประมาณอีก 5 ปี

"ทำไมไม่มองบราซิลเป็นตัวอย่าง ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบราซิลหลังประธานาธิบดี ปรับคณะรัฐมนตรีไม่ลงตัว 3 ผู้นำเหล่าทัพของบราซิลลาออกทันที คาดว่าเกิดจากความไม่พอใจหลังจากความที่ล้มเหลวในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 โดยประธานาธิบดีโบลโซนาโร ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ และเคยระบุว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่สถานการณ์ล่าสุด ระบบสาธารณสุขทั่วประเทศเริ่มล่มสลายแล้ว เนื่องจากมีผู้ป่วยสะสมในโรงพยาบาลมากที่สุดในโลก แต่ไทยเป็นประเทศที่ประชาชนทนทานที่สุด สภาพไหนก็ทนได้ แต่ผู้มีอำนาจอาจจะคาดการณ์ผิด ห่วงสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศ เพราะสถานการณ์เวลานี้อาจจะทำให้ประชาชนลุกฮือเพราะเกินทนเหมือนประเทศเมียนมาร์ " นางสาวตรีชฎา กล่าว

.

ที่มา : https://www.posttoday.com/politic/news/649383


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

"วรศิษฎ์" ชื่นใจ สตูล คว้าแชมป์ จังหวัดอากาศดีที่สุดในไทย ชวนปชช. เยือนเมืองสตูล แบบนิวนอร์มอล หวังดันให้เป็นการท่องเที่ยวเมืองหลัก

นายวรศิษฎ์  เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล เขต 2 พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการที่ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้ประกาศรายชื่อ จังหวัดสตูล เป็นจังหวัดที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย วัดจากค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 น้อยที่สุด  ตั้งแต่เดือน มกราคม - ธันวาคม 2563 นั้นว่าตนรู้สึกชื่นใจ ที่สตูล ถูกพูดอีกครั้งในเรื่องที่น่าชื่นชม และต่อยอดจากตัวชี้วัดคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดนั้น ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวสตูล กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หลังสถานการณ์โควิด-19 ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนชาวสตูล ที่ช่วยกันรักษาธรรมชาติ  คำนึงถึงระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อม 

ตนจึงอยากเชิญชวน คนไทยทุกคน เดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดสตูล แบบนิวนอร์มอล พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ ในจุดท่องเที่ยวอันซีน ทั้ง ปราสาทหินพันยอด หาดสันหลังมังกร ถ้ำเลสเตโกดอน และถ้ำภูผาเพชร  เป็นต้น  โดย นายวรศิษฎ์ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ ตนยังหวังผลักดันให้เมืองสตูล  จากที่เคยอยู่ในการจัดให้เป็นการท่องเที่ยวเมืองรอง กลายมาเป็นการท่องเที่ยวเมืองหลัก ให้ได้  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top