Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

‘ลำไย ไหทองคำ’ ประกาศรับสมัคร ‘แดนเซอร์ชายแท้’ ชาวเน็ตตาลุกวาว!! หลังการันตีรายได้สูงสุดเฉียด ‘แสน’

(21 ก.พ. 67) ทำเอาหลายๆ คนถึงกับตาโต เมื่อได้เห็นประกาศการรับสมัครแดนเซอร์ชายแท้ของ ‘ลำไย ไหทองคำ’ พร้อมรายได้ที่จะได้รับนั้นค่อนข้างสูงมาก ขนาดนักร้องรุ่นใหญ่อย่าง ‘มอส ปฏิภาณ’ ยังสนใจไปขอสมัคร โดยสาวลำไยได้โพสต์ประกาศรับสมัครว่า…  

"ลำไย ไหทองคำ รับสมัคร DANCER ชายแท้ 2 คน

>> คุณสมบัติ
- ชายแท้ อายุระหว่าง 20-35 ปี
- สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเต้น
- ไลน์เต้นดี ชัดเจน แข็งแรง เต้นได้หลายแนว
- นิสัยดี มีวินัย ขยัน อดทน สู้งาน สามารถเดินทางไปงานคอนเสิร์ตได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่ติดภารกิจใดๆ
- สามารถอุ้มหรือยกแดนเซอร์หญิงได้ (จะพิจารณาเป็นพิเศษ)

>> วิธีการสมัคร
- แอดไลน์ สแกน QR Code ด้านล่าง
- ส่งรูปถ่ายหน้าตรง (กล้องสด) และคลิปสเต็ปการเต้นของตนเองมาที่ไลน์ เพื่อทำการ
คัดเลือก
- ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ทางค่ายจะนัดมา Audition รอบสุดท้ายเพื่อทำการตัดสิน

(การันตีรายได้ 6x,xXX - 1xX,xXX บาท/เดือน)" 

ทำเอาเหล่าบรรดาแฟนคลับตาลุกวาวกันเป็นแถว และต่างเข้ามาคอมเมนต์ขอสมัครอย่างล้นหลาม

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข และกำลังใจ มอบอั่งเปา ชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้สูงวัย ในสถานสงเคราะห์คนชรา และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง รวม 8 แห่ง เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567

วันนี้ (วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย พร้อมด้วยนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นำทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ฯ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบเงินอั่งเปาคนละ 1,000 บาท  พร้อมชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหาร ให้กับผู้สูงวัยในสถานสงเคราะห์คนชราปากน้ำ (มูลนิธิวัยวัฒนานิวาส) สถานสงเคราะห์คนชราบางเขน (มูลนิธิธารนุเคราะห์) และสถานสงเคราะห์คนชราปทุมธานี (มูลนิธิมิตรภาพสงเคราะห์) เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้สูงวัย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567  โดยมีมูลนิธิจีน 4 แห่ง ประกอบด้วย มูลนิธิสามัคคีการกุศลสงเคราะห์ มูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรม มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ และ มูลนิธิศรัทธาสงเคราะห์ ร่วมดำเนินการ พร้อมด้วย นางชญาน์นันท์ สรพลจิโรจเดชา หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์กร(จีน)  พร้อมทีมงาน และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) ร่วมลงพื้นที่มอบสิ่งของ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น 

และในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดลงพื้นที่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบางละมุง จ.ชลบุรี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี จ.นนทบุรี ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุปทุมธานี จ.ปทุมธานี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อมอบเงินอั่งเปาคนละ 1,000 บาท  พร้อมชุดของขวัญ และจัดเลี้ยงอาหาร  เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้สูงวัย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567

โครงการป่อเต็กตึ๊ง จัดเลี้ยงอาหารคนชรา เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นเวลา 57 ปี โดยในปี 2567 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิอีก 4 แห่ง  สถานสงเคราะห์คนชรา ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการ และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง  รวม 8 แห่ง  รวมงบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 755,000 บาท (เจ็ดแสนห้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน)

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

'ค่าครองชีพ' พุ่ง!! ทำคนซื้อบ้านต่ำ 3 ล้าน เริ่มผ่อนไม่ไหว พบ!! หนี้เสียสินเชื่อบ้านทะลัก 1.2 แสนล้านบาท

(21 ก.พ.67) ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้เผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัวตามที่คาด อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเนื่องไปถึงภาวะหนี้ครัวเรือนและกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้บริโภคชะลอแผนซื้อบ้านออกไปก่อน ทำให้ภาพรวมความต้องการซื้อทั่วประเทศในไตรมาสล่าสุดลดลง 14% และลดลงทุกประเภทที่อยู่อาศัย สวนทางภาพรวมราคาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศที่ปรับขึ้นตามต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น กลายเป็นอุปสรรคต่อกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (ไตรมาส 4 ปี 2562) พบว่า ภาพรวมความต้องการซื้อในระยะยาวยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยความต้องการซื้อคอนโดฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด 12% ตามมาด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 10% และบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 2%

นอกจากนี้ยังพบว่าที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท มีจำนวนมากที่สุดในตลาดด้วยสัดส่วน 30% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมดทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคระดับล่าง ยังคงไม่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะดูดซับอุปทานเหล่านี้

สอดคล้องกับข้อมูลของเครดิตบูโรที่พบว่าหนี้เสียจากสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้น ผู้ซื้อระดับล่างเริ่มผ่อนบ้านไม่ไหวจากปัญหาค่าครองชีพที่แพงขึ้น โดยประมาณ 60-70% ของหนี้ที่กำลังจะเสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท มีปัญหามาจากคนที่ผ่อนบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง

สำหรับภาพรวมราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับภาพรวมของทั้งประเทศ พบว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 4% เทียบปีก่อน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบที่อยู่อาศัย ส่วนคอนโดฯ เพิ่มขึ้นมากที่สุดเพิ่มขึ้น 5% เทียบปีก่อน ตามมาด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 3% เทียบปีก่อนและทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น 3% เทียบปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนการก่อสร้างโครงการใหม่ที่กลายเป็นปัจจัยกดดันให้ผู้ประกอบการต้องวางกลยุทธ์เพื่อปรับราคาให้สอดคล้องกับทั้งต้นทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภค

ทั้งนี้ราคาบ้านที่แพงขึ้นในยุคที่อัตราดอกเบี้ยสูงกลายเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภค ทำให้ความต้องการซื้อในกรุงเทพฯ ลดลงอย่างมาก โดยภาพรวมความต้องการซื้อลดลง 15% เทียบไตรมาสก่อนและลดลง 27% เมื่อเทียบปีก่อน 

อย่างไรก็ดี หากมองในระยะยาวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดฯ ภาพรวมความต้องการซื้อในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นบวก โดยความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 10% สวนทางกับความต้องการระยะสั้น ตามมาด้วยคอนโดฯ เพิ่มขึ้น 8% และทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น 5%

สำหรับทำเลที่มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในกรุงเทพฯ ในไตรมาสล่าสุด ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ และกรุงเทพฯ รอบนอก อันดับ 1 ได้แก่ เขตบางเขน เพิ่มขึ้น 16% เทียบไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 10% เทียบปีก่อนด้วยทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และยังอยู่ใกล้สนามบินดอนเมืองจึงเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างสะดวก ตามมาด้วยเขตบางกอกใหญ่ เพิ่มขึ้น 15% เทียบไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 24% เทียบปีก่อน, เขตลาดกระบัง เพิ่มขึ้น 13% เทียบไตรมาสก่อน ลดลง 5% เทียบปีก่อน , เขตบางขุนเทียน เพิ่มขึ้น 9% เทียบไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 1% เทียบปีก่อน และเขตประเวศ เพิ่มขึ้น 6% เทียบไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีก่อน

นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) กล่าวว่า หากมองภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้อาจไม่ได้สดใสเท่าใดนัก ยังมีปัจจัยท้าทายที่สืบเนื่องมาจากปีก่อนหน้า ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวไม่มากนัก อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง รวมทั้งค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง ปัจจัยเหล่านี้กำลังผลักให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ต้องชะลอการซื้อบ้านออกไปก่อน

'รมว.ปุ้ย' เผย!! ครม. เห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 65/66 ที่ 1,197.53 บาท/ตัน  ราคาอ้อยขั้นต้น ปี 66/67 ที่ 1,420 บาท/ตัน ช่วยดันรายได้ชาวไร่อ้อย

(21 ก.พ.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2565/66 ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราที่ 1,197.53 บาท/ตัน ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. กำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เท่ากับ 71.85 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 513.23 บาท/ตัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งเพิ่มขึ้น 117.53 บาท/ตัน จากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2565/66 ที่ราคา 1,080 บาท/ตัน ซึ่งการที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจะสามารถเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบราคาอ้อยขั้นต้น ปี 2566/67 ในอัตรา 1,420 บาท/ตัน ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. กำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 85.20 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 608.57 บาท/ตัน เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะได้รับค่าอ้อยสำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนในการเพาะปลูก การบำรุงรักษาอ้อย และการดำรงชีพต่อไป

นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2565/66 และราคาอ้อยขั้นต้น ปี 2566/67 สอน. จะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ถือว่าไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ

สอน. ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตอ้อยเข้าหีบและเฝ้าระวังการเผาอ้อย ฤดูการผลิตปี 2566/67 นับตั้งแต่วันเปิดหีบ (10 ธันวาคม 2566) ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลา 72 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 68.41 ล้านตัน แบ่งเป็นปริมาณอ้อยสด 48.86 ล้านตัน ปริมาณอ้อยถูกลักลอบเผา 19.55 ล้านตัน และมีจุดความร้อน (Hotspot) สะสมในพื้นที่ปลูกอ้อย 47 จังหวัด จำนวน 2,159 จุด หรือคิดเป็น 6.45% จากจุดความร้อน (Hotspot) สะสมที่พบในประเทศ 33,448 จุด จะเห็นได้ว่ามีจุดความร้อน (Hotspot) สะสมนอกพื้นที่ปลูกอ้อยสูงถึง 31,289 จุด หรือคิดเป็น 93.55% จากจุดความร้อน (Hotspot) สะสมที่พบในประเทศ

เปิด 3 รายชื่อผู้โชคดีได้รับทุนเรียนโท ม.ซีอานเจียวทง ประเทศจีน ทุนใหญ่ประจำปี 2567 ตามพระราชดำริ 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'

เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XUTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ 

ตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้มีประกาศลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University: XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ และประกาศลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ เรื่อง ขยายเวลารับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University: XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔ ระดับปริญญโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ และประกาศลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยชีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ นั้น

บัดนี้ คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi'an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้สมัคร และประมวลผลการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนดังกล่าว ดังต่อไปนี้

๑. นายสรวิชญ์ แวววีรคุปต์
๒. นายพัชรดนัย สมบัติเสถียร
๓. นายโภคิน พรหมวิจิตรการ
ไม่มีผู้ได้รับคัดเลือกสำรอง

ทั้งนี้ ขอให้ผู้มีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนข้างต้นนี้ รายงานตัวเพื่อยืนยันการรับทุนกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านระบบออนไลน์ ในวันเสาร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. ทาง URL https://meeting-nstda.webex.com/meet/renuka และกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มยืนยันการรับทุนการศึกษาในเอกสารแนบท้าย แล้วส่งให้มูลนิธิฯ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ภายในวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๐ น.

หากผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่มารายงานตัวตามกำหนดดังกล่าว โดยมิได้แจ้งให้มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทราบ จะถือว่าสละสิทธิ์การรับทุนในครั้งนี้

อนึ่ง มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จะพิจารณาเพิกถอนการให้ทุนแก่ผู้มีสิทธิได้รับทุน หากเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้

๑. ผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่สามารถดำเนินการสมัครเข้าศึกษาตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทงได้ภายในวันที่มหาวิทยาลัยกำหนด

๒. หากคณะกรรมการตรวจสอบภายหลังพบว่า ผู้มีสิทธิได้รับทุนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดในประกาศรับทุน

๓. ผู้มีสิทธิได้รับทุนหลีกเลี่ยงและละเลย การรายงานตัวหรือปฏิบัติตามที่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนด

๔. ผู้มีสิทธิได้รับทุนหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อเมื่อมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง ตอบรับแล้ว

๕. ผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง

มุกดาหาร -กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง จับกุมผู้กระทำความผิด ยาบ้า 43 ราย ยึด ยาบ้าร่วม 1 ล้านเม็ด คนเข้าเมือง 8 ราย ผู้ต้องหา 23 คน และหมายจับจำนวน 25 ราย

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์  ที่ห้องประชุมกองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน. ภายใต้การอำนวยการของ 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. 
พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก.
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.
พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน.
พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน.
พ.ต.อ.อดิศักดิ์ มีศิลป์ ผกก.10 บก.รน.
พ.ต.อ.ศษณวรรฐ รัตนเศวตรวงศ์ ผกก.11 บก.รน.
พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน.  

ร่วมแถลงข่าวกองบังคับการตำรวจน้ำเปิดยุทธการ “ฟ้าสางที่ฝั่งโขง” เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ กองกำกับการ 10 - 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเชียงรายทั้งหมด (กก.12), จังหวัดเลย, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดบึงกาฬ (กก.11), จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัด อุบลราชธานี (กก.10) ตามแนวแม่น้ำโขง กั้นระหว่างเขตแดนรวมระยะทางทั้งสิ้น 957 กิโลเมตร โดยได้สืบสวนหาข่าวและกำหนดเป้าหมายในป้องกันปราบปรามจับกุม เป็นเป้าหมายทางบกรวม 76 เป้าหมาย เป้าหมายทางน้ำ 23 เป้าหมาย ได้ออกปฏิบัติการตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ตั้งแต่วันที่ 13 - 20 กุมภาพันธ์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดกฎหมายตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขงได้จำนวน 43 คน ยึดยาบ้าจำนวน 913,723 เม็ด คนเข้าเมือง 8 ราย ผู้ต้องหา 23 คน และหมายจับจำนวน 25 ราย

ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777

‘ครูชาวลาว’ โดนถล่มยับ!! คอมเมนต์แรงไล่ ‘ไอซ์ ปรีชญา’ ไปตาย หลังซึมเศร้าด่ำดิ่ง ‘ชาวเน็ต’ รุมประณาม ‘อย่าเป็นเลยครู-ใช้อะไรคิด’

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 67) จากกรณี นางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา ซึ่งมีอาการโรคซึมเศร้าอยู่แล้วด้วย โพสต์ข้อความตัดพ้อระบายความในใจว่า “แม่ขอเงิน พ่อขอเงิน มีแฟนเหมือนไม่มี จะอยู่เพื่อ โทรหาครอบครัว คนรักว่าไอซ์ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้วนะ ทุกคนเฉยเมย ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีไอซ์จริงๆ ขอให้รู้ว่าเป็นเพราะครอบครัว คนรัก

ไม่ใช่เพื่อนหรือแฟนคลับที่ตัดสินใจทำให้ไอซ์คิดสั้น ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย หลังจากนี้ไปทุกคนจะได้รู้ความจริงสักที ว่าชีวิตไอซ์ ไม่มีใครอยากแม้กระทั่งจะเป็นหรอกแค่หนึ่งวัน”

สร้างความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา ทำเอาแฮชแท็ก #ไอซ์ปรีชญา ขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้

ขณะที่ เพจอีกี้ขยี้ข่าว ตามล่าอีตุ่นน้อย แคปคอมเมนต์มีคนคอมเมนต์ถึงไอซ์ด้วยถ้อยคำแย่ๆ ไม่อยากอยู่ก็ไปตาย… พร้อมข้อความประณาม ฝากไปถึงเป็นครูสอนภาษา ซึ่งเป็นคน สปป.ลาว
แล้วเมนต์แบบนี้! อย่าเป็นครูเลยมันแสดงให้เห็นพื้นฐานการศึกษา เราเป็นคนอีสานนะ ชอบคนลาวมาก ไปลาวบ่อย แต่ไม่เคยเห็นคนแบบนี้เลย รบกวนช่วยประณาม! ด้วยนั้น

โดยเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คอมเมนต์แรงฟาดกลับ ครูสอนภาษา คนดังกล่าว ใช้อะไรคิดด้วย อาทิ คนล้มอย่าข้าม # น่าจะเป็นที่ สด. นะค่ะกี้, เป็นคอมเมนต์ที่ใช้ … คิดแทนสมอง, เราก็ลาวค่ะพี่กี้แต่ไม่เป็นแบบป้าคนนี้นะ เป็นต้น

‘ทอย’ สามี ‘น้องนุ่น’ เปิดปมสังหารภรรยา ก่อนอำพรางศพ รับ!! แค้นสะสมหลายอย่าง ลั่น!! ขอชดใช้กับทุกสิ่งที่พลาดไป

(21 ก.พ. 67) จากกรณี นายศิริชัย (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ทอย อายุ 33 ปี ก่อเหตุฆ่าเผา น.ส.ชลลดา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องนุ่น อายุ 27 ปี ภรรยา หลังเข้าแจ้งตำรวจว่าภรรยาหายตัว แต่เมื่อถูกเค้นสอบอย่างหนัก อีกทั้งกล้องวงจรปิดมัดตัวขณะเจ้าตัวทำร้ายน้องนุ่นริมถนน ยอมสารภาพอ้างพลั้งมือฆ่าภรรยาก่อนขับรถนำศพไปเผาอำพรางคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 20 ก.พ. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัว นายศิริชัย มาทำการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง

นายศิริชัย ได้ยกมือไหว้ขอขมาทาง น.ส.เพ็ญ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ชลลดาที่ได้รับไหว้ขอขมา โดยมีอาการร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ตลอดเวลา

ตอนหนึ่ง นายศิริชัย กล่าวขอขมาแม่น้องนุ่น ว่า “ไม่ว่าแม่จะให้อภัย หรือไม่ให้อภัย ผมก็จะขอชดใช้กับทุกสิ่งที่อยู่ ที่ผมได้ทำพลาดลงไปแล้ว” โดยน.ส.เพ็ญ ถามว่า “ทำกับลูกแม่ทำไม”

นายศิริชัย กล่าวว่า “มันเป็นเหมือนแค้นสะสมมาหลายอย่าง ก็ตามที่แม่ได้ยิน เวลาผมคุยกับเขา ผมจะเป็นฝ่ายง้อตลอด แต่ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน เขาก็ไม่เคยมองว่าผมดี อคติที่เขาเอามาพูดซ้ำอีก เรื่องที่เคยเคลียร์กันไปแล้วเขาก็เอามาทะเลาะซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งโมโห สะสม เก็บกดสะสมมา

เขาไม่ยอมให้อภัยผมสักครั้ง ไม่ว่าผมจะทำดีแค่ไหน พูดอะไรไป ก็ผิดใจเขาตลอด ผมไม่เคยคิดจะฆ่า หรือทำให้เขาตาย แต่ด้วยความเมา และโมโห เลยทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

ต่อให้ผมออกมาจากคุก ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวนุ่นและครอบครัวผม ไม่มีหน้าไปเจอลูกตัวเอง ผมเลยมาบอกลาทุกคน ไม่ต้องให้เขาจำผมก็ได้ บอกว่า พ่อของเขาตายไปแล้วก็ได้”

เปิดตัว “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” และร่วมหารือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อ ยกระดับงานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติอำนวยความยุติธรรม

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ได้มีการจัดตั้ง “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนางานสอบสวน และพนักงานสอบสวนให้มีประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ 
เป็นประธานชมรมฯ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ (ผู้ริเริ่มก่อตั้ง) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ และ พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ เป็นที่ปรึกษา

ในส่วนของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล พล.ต.ต.เจนกมล คํานวล พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ดีพอ พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ พ.ต.อ.กีรติ ตรีวัย พ.ต.ท.ภูมิรพี ผลาภูมิ และผู้แทนจากกองบัญชาการที่มีอำนาจสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการบริหาร และคณะที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหางานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกรณีเร่งด่วน มีมติในเสนอมาตรการถึงท่านผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

1. เรื่องระบบตำแหน่งควบ สายงานสืบสวนสอบสวน โดยแบ่งเป็น “พนักงานสอบสวนปกติ” ที่มีการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เหมือนกับตำรวจสายงานอื่นทั่วไป และ “พนักงานสอบสวนตำแหน่งควบ” ที่มีตำแหน่งปรับระดับเพิ่มลดได้ในตัวเอง มีแท่งเลื่อนไหลตั้งแต่ระดับ รองสารวัตร ถึงระดับรองผู้บังคับการ โดยใช้การประเมินเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

2. เรื่องการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวดขัน
ห้ามพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการในสายงานอื่น

3. เรื่องการเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนการทำสำนวนการสอบสวน 
โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน และการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมได้อย่างมีเกียรติ โดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม

4. เรื่องการแก้ไขคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 และระเบียบคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน

5. เรื่องการจัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำช่วยเหลือประชาชนและพนักงานสอบสวน
ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนและพนักงานสอบสวนสอบถามปัญหา หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ซึ่งในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจได้เข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ผู้บังคับการกองอัตรากำลัง และผู้บังคับการกองทะเบียนพล เพื่อร่วมหารือ และยื่นหนังสือถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขและพัฒนางานสอบสวนตามมาตรการดังกล่าว

เบื้องต้น ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความยินดีและเห็นชอบกับมาตรการดังกล่าว โดยหลังจากนี้ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหางานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับ
งานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานสอบสวน และแก้ไขปัญหาในการ
อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป

‘ศาลฯ’ ส่งฟ้อง ‘รศ.ดร.ยุกติ’ ผิด ม.112  หลังปล่อยเฟกนิวส์เกี่ยวกับในหลวง ร.10

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.67) พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นัดหมายส่งฟ้องคดีของ รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีที่ถูกแจ้งความโยงโพสต์ทวิตเตอร์กับปมข่าวลือ ร.10 ประชวร เมื่อปี 2564

สำหรับกระบวนการนัดฟ้องคดีในครั้งนี้ ยุกติได้ให้ความเห็นโดยระบุว่า ตนไม่ผิดคาดที่จะมีการฟ้องดำเนินคดีในวันนี้ จริง ๆ แล้วการแจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับประชาชนเป็นนโยบายในยุคสมัยของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งจากรูปคดีของตน ไม่ควรที่จะมีการดำเนินคดีแต่แรกด้วยซ้ำ แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลมาก็ยังมีการดำเนินคดีอยู่ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ก็ไม่ได้มีความจริงจังในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายนี้หรือไม่ได้มีความจริงจังเกี่ยวกับผู้ต้องขังทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมมันผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ยุกติกล่าวเสริมว่า การที่บรรยากาศทางการเมืองเป็นไปในลักษณะเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตนจึงหวังว่าจะมีการนิรโทษกรรมเกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมคดีการเมืองในทุกลักษณะ เพื่อเป็นการคลี่คลายปมปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมาอย่างยาวนาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top