Tuesday, 30 April 2024
เกาหลีเหนือ

‘เกาหลีเหนือ’ ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป หลังเว้นไปนาน 5 ปี ทำ ‘ญี่ปุ่น - เกาหลีใต้’ เครียด

เกาหลีใต้และญี่ปุ่นตรวจพบการยิงโพรเจ็กไทล์จากเกาหลีเหนือเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีมุน แจอิน ระบุเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ว่างเว้นจากการทดสอบมานานเกือบ 5 ปี ญี่ปุ่นเผยขีปนาวุธลูกนี้ตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางตะวันตกของเกาะฮอกไกโด

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ของเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 เป็นการทดสอบอาวุธที่ทรงอานุภาพชนิดนี้ครั้งแรกของเปียงยางนับตั้งแต่ปี 2560 และถือเป็นการสิ้นสุดการระงับทดสอบไอซีบีเอ็มและอาวุธนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือกำหนดเองโดยฝ่ายเดียว

ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การทดสอบครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเป็น "การละเมิดการระงับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ประธานคิม จองอึน เคยให้คำมั่นไว้กับประชาคมระหว่างประเทศ" และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อคาบสมุทรเกาหลี, ต่อภูมิภาคนี้ และต่อประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งยังถือเป็น "การละเมิดอย่างชัดเจน" ต่อข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

กองกำลังป้องกันชายฝั่งของญี่ปุ่นเชื่อว่า ขีปนาวุธลูกนี้น่าจะเป็นไอซีบีเอ็ม "ชนิดใหม่" ของเกาหลีเหนือที่ทำระยะทาง 1,100 กิโลเมตรจากจุดปล่อย ก่อนจะมาตกในทะเลทางตะวันตกของจังหวัดอาโอโมริในภาคเหนือของญี่ปุ่น

‘น้องสาวคิม’ เตือน!! หาก ‘เกาหลีใต้’ โจมตีเมื่อไร จะสั่งทำลาย ‘โซล-กองทัพโสมขาว’ แบบไร้ปรานี

วาทกรรมสั่นคลอนโลกจากฟากฝั่งเอเชียปะทุขึ้นอีกครั้ง หลัง ‘เกาหลีเหนือ’ ออกโรงเตือน ‘เกาหลีใต้’ ที่ปล่อยให้รัฐมนตรีกลาโหมโสมขาว หลุดคำพูดไม่ยั้งคิดออกมาว่า “พร้อมถล่มเกาหลีเหนือ หากพบว่าทดสอบยิงขีปนาวุธจริง” ซึ่งเรื่องนี้อาจจะจุดชนวนให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ เพราะผู้ที่ออกมาตอบโต้เชิงเตือนถ้อยคำของโสมขาวก่อนหน้านี้ คือ ‘คิม โยจอง’ น้องสาว ‘คิม จองอึน’ และเป็นผู้นำหมายเลข 2 ของเกาหลีเหนือ

ปัก จองชอน เลขาธิการคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ หรือพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ออกโรงเตือนเกาหลีใต้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คำพูดของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กำลังจะทำให้ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศทวีเพิ่มมากขึ้น โดยคำพูดในการกล่าวถึงอีกฝ่าย ภายใต้สถานการณ์เช่นปัจจุบันนี้ อาจสร้างความตึงเครียดอย่างหนักทางการทหาร จนนำไปสู่ชนวนของความขัดแย้งที่อันตรายอย่างยิ่ง

เลขาธิการโสมแดง กล่าวอีกว่า สงครามแบบเต็มรูปแบบอาจจะเกิดขึ้น และเกาหลีเหนือก็พร้อมที่จะสั่งการให้กองทัพเกาหลีเหนือ ทำลายเป้าหมายสำคัญในกรุงโซล รวมถึงเป้าหมายต่างๆ ในกองทัพเกาหลีใต้ “อย่างไร้ความปรานี” ถ้าหากเกาหลีใต้ชิงลงมือโจมตีเกาหลีเหนือก่อนตามที่กล่าวอ้าง

สำหรับคำพูดของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ถือเป็นแรงตอกย้ำคำพูดของผู้นำอันดับ 2 แห่งเกาหลีเหนืออย่าง ‘คิม โยจอง’ หรือน้องสาวของ ‘คิม จองอึน’ ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือที่ออกตอบโต้ทันที หลัง ‘ซอ อุก’ รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (1 เมษายน) ว่า “ทหารเกาหลีใต้มีศักยภาพ และพร้อมที่จะโจมตีฐานยิงขีปนาวุธในเกาหลีเหนือ รวมไปถึงสถานที่บัญชาการและสนับสนุนการยิงขีปนาวุธในเกาหลีเหนือ ถ้าหากว่าสามารถยืนยันชัดเจนว่าเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจริง”

เกาหลีเหนือจวก ‘ไบเดน’ ชายแก่ที่ 'สมองเลอะเลือน' หลังตราหน้า 'ปูติน' ก่ออาชญากรรมสงคราม

รัฐบาลเกาหลีเหนือกล่าวโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ว่าเป็น “ชายแก่ที่สมองเลอะเลือน” หลังออกมาครหา วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ถ้อยคำวิจารณ์เจ็บแสบนี้มีขึ้นหลังจาก ไบเดน ตราหน้าผู้นำหมีขาวเป็นอาชญากรสงคราม และเรียกร้องให้นำตัว ปูติน ขึ้นศาลระหว่างประเทศเพื่อไต่สวนความผิดฐานเข่นฆ่าพลเรือนในเมืองบูชา (Bucha)

“ประมุขฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กล่าวให้ร้ายประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย โดยอาศัยข้ออ้างที่ไม่มีมูลความจริง” สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันเสาร์ (9 เม.ย.)

“คำพูดพล่อยๆ เช่นนี้มีแต่จะออกมาจากปากของพวกลูกหลานแยงกี้ ซึ่งถนัดเรื่องการรุกรานและวางแผนโจมตีผู้อื่น”

สื่อโสมแดงยังวิจารณ์ ไบเดน ว่าเป็น “ประธานาธิบดีที่ใครๆ ก็รู้ว่าปากไม่มีหูรูด” ทว่าไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ

“สิ่งที่เราสรุปได้ก็คือ เขามีปัญหาในเรื่องกระบวนการคิด และคำพูดที่ขาดความยับยั้งชั่งใจก็คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสะเพร่าของชายแก่ที่สมองเริ่มเลอะเลือน”

“อนาคตของสหรัฐฯ ดูจะมืดมนเสียแล้ว เมื่อปล่อยให้คนเช่นนี้ขึ้นมาเป็นผู้นำ”

'เกาหลีใต้' พร้อมส่ง 'วัคซีน-ยา-แพทย์' ช่วยเหลือ 'เกาหลีเหนือ' หลังยอดผู้ป่วยพุ่งสูง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่าประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล แถลงต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยืนยันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์เดียว ว่าเกาหลีใต้พร้อมมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่เกาหลีเหนือ ซึ่งยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า กำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวถึงความพร้อมในการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 และเวชภัณฑ์ ตลอดจนการส่งบุคลากรการแพทย์ เดินทางข้ามพรมแดนไปช่วยเหลือเกาหลีเหนือ แม้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสองเกาหลียังอยู่ในระดับตึงเครียด เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางยิงขีปนาวุธ 3 ลูก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และข้อมูลข่าวกรองทั้งของรัฐบาลโซลและสหรัฐ ยังคงพบแนวโน้มไปในทางเดียวกัน ว่าเกาหลีเหนืออยู่ในสถานะเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ แม้เผชิญกับวิกฤติโรคระบาดก็ตาม

ย้อนอดีต ‘อโนชา ปันจ้อย’ 44 ปีแห่งการหายตัวของหญิงไทย ผู้ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว

รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับอย่างเป็นทางการจากว่าชาวญี่ปุ่นเพียง 17 คน (ชาย 8 คนและหญิง 9 คน) ถูกลักพาตัวไป

เรื่องของ อโนชา ปันจ้อย หญิงสาวชาวไทย ผู้ซึ่งถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไปจากอาณานิคมมาเก๊าของโปรตุเกส เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 (วันนี้เมื่อ 44 ปีก่อน) เห็นชื่อเรื่องแล้วผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะสงสัยว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนไทยด้วยหรือ เพราะข่าวส่วนใหญ่มักเกิดกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะในระหว่าง ปี พ.ศ. 2520 ถึง 2526 แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับอย่างเป็นทางการว่า มีชาวญี่ปุ่นเพียง 17 คน (ชาย 8 คนและหญิง 9 คน) ถูกลักพาตัวไป แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจมีชาวญี่ปุ่นอีกหลายร้อยคนที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับว่า ได้ทำการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่น และขอโทษ ในขณะเดียวกันก็สัญญาว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับว่า ได้ทำการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นไป 13 คน

แม้ว่า ในเดือนตุลาคมปีนั้นผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวญี่ปุ่นห้าคนจะได้เดินทางกลับญี่ปุ่น แต่ผู้ถูกลักพาตัวชาวญี่ปุ่นที่เหลือรัฐบาลเปียงยางยังไม่ได้ให้คำอธิบายใด ๆ ที่ยอมรับได้อีกเลย ถึงแม้ว่า เกาหลีเหนือจะมีพันธะสัญญาอย่างชัดเจนจากการประชุมสุดยอดผู้นำญี่ปุ่น-เกาหลีเหนือเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 เพื่อดำเนินการสอบสวนโดยละเอียดในทันทีในการตรวจสอบจำนวนชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวทั้งหมด 

การยืนยันของเกาหลีเหนือเกี่ยวกับประเด็นการลักพาตัวนั้น เกาหลีเหนือไม่ได้ให้หลักฐานที่น่าพอใจหรือที่น่าเชื่อใดๆ ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจึงไม่ยอมรับ 

สำหรับการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นนั้น ทางรัฐบาลญี่ปุ่นถือเป็นปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่น ชีวิตและความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่น หากไม่มีการแก้ไขปัญหานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือก็จะยังไม่ถือว่าเป็นปกติ 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นแก่ชาวญี่ปุ่นที่จะพยายามอย่างที่สุดในการติดตามและนำผู้ถูกลักพาตัวทั้งหมดกลับมายังประเทศญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด และรัฐบาลเกาหลีเหนือได้ยอมรับอย่างเป็นทางการว่า ได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไป 13 คน

ชาวเกาหลีใต้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ระหว่างสงครามเกาหลีกว่าแปดหมื่นคน

มาที่ด้านของเกาหลีใต้ ผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวเกาหลีใต้โดยเกาหลีเหนือ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มได้แก่ 1.) ผู้ที่ถูกลักพาตัวในระหว่างช่วงสงครามเกาหลี และ 2.) ผู้ที่ถูกลักพาตัวหลังจากสงครามเกาหลี โดยในช่วงระหว่างสงครามเกาหลี มีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 84,532 คนถูกนำตัวไปยังเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีการศึกษาหรือมีทักษะอยู่แล้ว เช่น นักการเมือง ข้ารัฐการ นักวิชาการ นักการศึกษา แพทย์ ผู้พิพากษา นักข่าว หรือนักธุรกิจ ตามคำให้การของสมาชิกในครอบครัวที่เหลืออยู่ การลักพาตัวส่วนใหญ่ถูกจับกุมโดยทหารเกาหลีเหนือซึ่งมีชื่อเฉพาะและบัตรประจำตัวของผู้ที่ถูกลักพาตัวอยู่ในมืออยู่แล้วเมื่อพวกเขามาปรากฏตัวที่บ้าน อันเป็นข้อบ่งชี้ว่า การลักพาตัวเกิดขึ้นโดยเจตนาและเป็นไปในลักษณะที่มีความเป็นระบบ 

สาธุคุณ Kim Dong-shik (ผู้จัดตั้งที่พักพิงในจีนสำหรับชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์) หนึ่งในผู้ที่ถูกลักพาตัว

นับตั้งแต่ข้อตกลงสงบศึกเกาหลีในปี พ.ศ. 2496 เกาหลีเหนือได้ทำการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ราว 3,800 คน (ส่วนใหญ่ในช่วงปลายทศวรรษ 1970) ชาวเกาหลีใต้ที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวในดินแดนเกาหลีใต้หรือต่างประเทศหลังจากการสงบศึกลงนามในปี พ.ศ. 2496 เป็นที่รู้จักในชื่อเรียกว่า “ผู้ถูกลักพาตัวหลังสงคราม” โดยส่วนใหญ่จะถูกจับในขณะตกปลาใกล้เขตปลอดทหารเกาหลี (DMZ) แต่บางคนถูกลักพาตัวโดยสายลับเกาหลีเหนือในเขตเกาหลีใต้ที่ลึกเข้ามา 

เกาหลีเหนือยังคงลักพาตัวชาวเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่องในยุค 2000 ดังที่เห็นได้จากกรณีของสาธุคุณ Kim Dong-shik (ผู้จัดตั้งที่พักพิงในจีนสำหรับชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์) ซึ่งถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2543 และ Jin Gyeong-suk ชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์ไปอยู่ยังเกาหลีใต้ ซึ่งถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ขณะที่เธอกลับไปยังเขตชายแดนจีน-เกาหลีเหนือโดยใช้หนังสือเดินทางเกาหลีใต้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2549 ชาวเกาหลีใต้จำนวน 489 คนยังคงไม่ได้รับการปล่อยตัว 

ปธน.โจ ไบเดน เผย เสนอวัคซีนโควิดช่วยเกาหลีเหนือ แต่ไร้เสียงตอบรับ แม้ผู้ป่วยพุ่งถึง 2.5 ล้านคนก็ตาม ด้านผู้เชี่ยวชาญหวั่นกลายเป็นหายนะใหญ่

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ระหว่างการเยือนประเทศเกาหลีใต้ ระบุเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกาเสนอส่งวัคซีนโควิด-19 ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือแล้ว แต่ “ไร้เสียงตอบรับ” จากทางการเกาหลีเหนือ แม้ว่าในเวลานี้เกาหลีเหนือจะมีผู้ป่วยทะลุ 2.5 ล้านคนไปแล้วก็ตาม

รายงานระบุว่า เกาหลีเหนือมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนครั้งแรกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และแม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีมาตรการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดระดับสูงสุด เวลานี้ไวรัสก็แพร่ระบาดไปในหมู่ประชาชนจำนวนมากถึงกว่า 2.5 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 25 ล้านคนซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียวแล้ว ขณะที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 66 ราย

เวทีเช็กเสียง ยกระดับคว่ำบาตร เกมหยั่งเสียงจาก ‘สหรัฐฯ’ แม้รู้ว่า ‘จีน-รัสเซีย’ ต้อง Veto ป้องโสมแดง

เมื่อ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ‘จีน’ และ ‘รัสเซีย’ ได้ขอใช้สิทธิ์ในการเป็นสมาชิกถาวร Veto ญัตติของสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการให้องค์การสหประชาชาติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้เข้มข้นยิ่งขึ้น จากการที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปเมื่อเร็วๆ นี้

กรณีเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลถึง 3 ลูก ทางด้านชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 พ.ค.65) ไล่หลัง โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่เพิ่งจบภารกิจการเยือนญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เป็นเวลา 5 วันอย่างเป็นทางการเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้น ทางสหรัฐฯ มองว่าเป็นการท้าทายอย่างชัดเจน จนเป็นเหตุให้รัฐบาลวอชิงตัน ต้องชงญัตติเพิ่มระดับการคว่ำบาตรโสมแดงเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะครอบคลุมถึงการลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันสำหรับประชาชนเกาหลีเหนือจาก 4 ล้าน ให้เหลือแค่ 3 ล้านบาร์เรลอีกด้วย

สหรัฐฯ ได้อ้างเหตุผลว่า เกาหลีเหนือได้ละเมิดข้อตกลงที่ให้ไว้กับสภาความมั่นคงในปี 2017 ว่าจะระงับการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกล แต่ทว่ารัฐบาลเปียงยางกลับรื้อฟื้นแผนการทดสอบขีปนาวุธขึ้นมาใหม่ และอ้างว่าสามารถพัฒนาได้ถึงขั้นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปได้แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ฟาก จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของเกาหลีเหนือ ก็ได้จับมือกับรัสเซีย ใช้สิทธิ์สมาชิกถาวรของสภาความมั่นคง คัดค้านข้อเสนอของสหรัฐฯ โดยมองว่าข้อตกลงร่วมเรื่องการคว่ำบาตรตามหลักการแบบเดิมก็เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร หรือตั้งให้เป็นข้อบังคับที่มีผลกับทุกประเทศในสหประชาชาติเพียงเพื่อต้องการเล่นงานเกาหลีเหนือ 

สหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารรัสเซีย - บ.เกาหลีเหนือ  อ้าง!! เหตุสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธทำลายล้าง

สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซีย 2 แห่ง, บริษัทเกาหลีเหนือ 1 แห่ง และบุคคลอีก 1 คนเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) โดยกล่าวหาว่ามีส่วนสนับสนุน “โครงการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง” ของเกาหลีเหนือ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่จีนและรัสเซียใช้สิทธิ์ “วีโต” ขัดขวางร่างมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่สหรัฐฯ เป็นผู้เสนอ ในปรากฏการณ์ที่สะท้อนภาวะ “เสียงแตก” อย่างชัดเจนของ UNSC ซึ่งเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเปียงยางครั้งแรกในปี 2006

สหรัฐฯ อ้างว่าเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) มาแล้วถึง 6 ครั้งในปีนี้ และยังมีสัญญาณเตือนว่าพวกเขาอาจกำลังรื้อฟื้นการทดลอง “ระเบิดนิวเคลียร์” อีกครั้ง หลังจากที่งดเว้นไปตั้งแต่ปี 2017 แต่ก็ยังไม่สามารถโน้มน้าวจีนและรัสเซียให้ยอมยกมือสนับสนุนการคว่ำบาตรได้

ล่าสุด กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อบริษัท แอร์ โครยอ เทรดดิ้ง คอร์ป (Air Koryo Trading Corp) ของเกาหลีเหนือ รวมถึงธนาคาร ฟาร์ อีสเทิร์น แบงก์ (Far Eastern Bank)
และธนาคาร แบงก์ สปุตนิก (Bank Sputnik) ของรัสเซีย โดยอ้างว่านิติบุคคลเหล่านี้มีส่วนในการจัดหาและสร้างรายได้ให้แก่องค์กรต่างๆ ของเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 8 ลูก  หลังเกาหลีใต้-สหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ

เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ 8 ลูก ไปตกนอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี หลังจากการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกาปิดฉากลง

วันนี้ (5 มิ.ย. 65) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อย่างน้อย 8 ลูกจากฐานยิงใกล้กับกรุงเปียงยางไปตกนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศ หลังจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบร่วมกัน

ด้านรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ยืนยันว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้

‘เกาหลีใต้’ ชี้ ทดสอบขีปนาวุธโสมแดง ถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพโลก

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เผย การทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ส่งผลกระทบต่อสันติภาพโลก

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ แถลงย้ำชัดว่า โครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อยู่ในระดับที่ร้ายแรง และไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น แต่อยู่ในระดับที่กระทบต่อสันติภาพโลก 

ดังนั้น รัฐบาลของเกาหลีใต้จะใช้มาตรการตอบโต้ที่เข้มข้น ต่อทุกๆ การกระทำที่เป็นการยั่วยุจากเกาหลีเหนือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top