Thursday, 25 April 2024
น้ำท่วม

‘โรม’ ซัดหนักรัฐบาล 7 ปี สูญงบจัดการน้ำ 2.9 แสนล้าน ทำได้แค่ ‘สวดมนต์ไล่น้ำ - ปลูกบ้านบนที่สูง’ 

รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์แฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การปกครองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้องที่รวมศูนย์อำนาจอยู่ในหมู่ทหาร ประเทศไทยต้องประสบพบเจอกับภัยพิบัติหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรค COVID-19, ฝุ่น PM2.5, โรคระบาดในปศุสัตว์ (ลัมปีสกิน), อัคคีภัยทั้งในป่าและในเมือง ฯลฯ ที่ต่างพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ที่อ้างความมั่นคงเหนือสิ่งอื่นใด ละเมิดสิทธิลิดรอนเสรีภาพประชาชนอยู่ทุกวี่วัน ในนามของความมั่นคง กลับไม่ได้มีน้ำยาอะไรดีกว่ารัฐบาลอื่นๆ ในการแก้ไขหรือป้องกันภัยพิบัติเหล่านี้ เพื่อประกันความมั่นคงให้กับชีวิตของประชาชนเลย ยิ่งกับภัยพิบัติบางอย่างยิ่งไร้ประสิทธิภาพและไร้สำนึกรับผิดชอบจนเรียกได้ว่ากลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง

และในวันนี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะประจานความไร้น้ำยาของตัวเองอีกครั้งกับภัยพิบัติที่คนไทยต้องประสบพบเจอบ่อยที่สุด เป็นภัยพิบัติที่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นแทบทุกปีภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในภาคเหนือ, อีสาน, กลาง และใต้ นั่นคืออุทกภัย ที่รอบนี้เกิดขึ้นพร้อมกันนับสิบจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน, ภาคกลางตอนบนและตอนล่าง และยังต้องติดตามต่อไปว่าจะกระทบกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขนาดไหน

เพจข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ. โพสต์ภาพ กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เจอชาวเน็ตจับผิดคิดว่าภาพตัดต่อ สุดท้ายชี้แจงว่าเป็นแฟ้มภาพ ยันรัฐมนตรีไม่มีส่วนตัดสินใจ พร้อมกราบขออภัย

เพจข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ. โพสต์ภาพ กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เจอชาวเน็ตจับผิดคิดว่าภาพตัดต่อ สุดท้ายชี้แจงว่าเป็นแฟ้มภาพ ยันรัฐมนตรีไม่มีส่วนตัดสินใจ พร้อมกราบขออภัย

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ในโลกโซเชียลฯ แชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก ‘ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.’ โพสต์ภาพและข่าวของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ลุยน้ำท่วม ระบุว่า ครูโอ๊ะ ห่วง ‘โรงเรียนเอกชน’ หลังพายุโซนร้อนถล่ม ทำให้ฝนตกหนักน้ำไหลบ่าเข้าท่วม รร.กว่า 30 แห่ง ฝากช่วยดูแลนักเรียน-นักศึกษา-ครู ยึดความปลอดภัยหลัก พร้อมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2564 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวแสดงความห่วงใยชาวการศึกษาเอกชน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน ‘เตี้ยนหมู่’ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำไหลบ่าน้ำเข้าท่วมในสถานศึกษาจำนวน 30 แห่งในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคกลาง และภาคอีสาน

“ครูโอ๊ะได้ติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมทั้งสถานการณ์ของโรงเรียนและสถานศึกษาที่กำกับดูแล ซึ่งล่าสุด ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานงานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ปส.กช.) ได้รายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ว่า เนื่องจากเหตุฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้มีน้ำไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนและสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในจังหวัดสุโขทัย เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี นครสวรรค์ และนครราชสีมา สร้างความเสียหายให้กับอาคารเรียน สิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์การเรียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น

ครูโอ๊ะมีความห่วงใยชาวการศึกษาเอกชนทุกคน โดยเฉพาะลูก ๆ นักเรียน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ดำเนินงานต่าง ๆ ด้วยความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งในส่วนของครู นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนบุคลากรทุกคน พร้อมให้ติดตามข่าวสถานการณ์ของทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวัง และประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร็ว ตลอดจนเร่งสำรวจและรายงานความเสียหาย เพื่อวางแผนในการช่วยเหลือและเยียวยาปัญหาหลังน้ำลดต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

'พิธา' ได้ใจชาวชัยภูมิ ลงพื้นที่น้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจ ชี้ แรงไม่เท่าปี 54 วอนรัฐอย่าประมาท

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.องค์การ ชัยบุตร และ ส.ส.สุรวาท ทองบุ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางสาวนัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต 1 พรรคก้าวไกลลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ และชุมชนโนนสมอ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวให้กำลังใจกับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมและกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าสถานการณ์ฝนตกในเดือนกันยายนที่ชัยภูมิสูงกว่าปีที่แล้วในทุกอำเภอ สถานการณ์อ่างเก็บน้ำล้นทุกแห่ง ประกอบกับฝนตกหนักอย่างเฉียบพลันในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในอ่างที่ชัยภูมิเพิ่มขึ้นเกือบทุกอ่าง โดยข้อมูลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของ Gistda เช้าวันนี้พบว่ามีพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ น้ำท่วมกว่า 68,324 ไร่ และทั้งจังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่น้ำท่วมแล้วกว่า 228,840 ไร่

‘อรรถวิชช์’ นำทีมพรรคกล้า ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม ‘นครสวรรค์-ชัยนาท’ แนะรวมแอพแจ้งเตือนน้ำ ประชาสัมพันธ์ควบคู่ผู้นำหมู่บ้าน ให้ประชาชนเตรียมรับน้ำอย่างทันท่วงที 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า นายวุฒิชัย แป๊ะหล ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส. นครสวรรค์ นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.ชัยนาท นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรค และกลุ่มกล้าอาสา ลงพื้นที่หมู่ 11 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พื้นที่หมู่ 5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พร้อมสำรวจการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำพลเทพ อ.มโนรมย์ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มอบอาหารแห้ง น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อ.ลาดยาวล่าสุด พบว่า ปริมาณน้ำลดลงจากเมื่อวาน (28 ก.ย. 64) แต่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่เกษตรอย่าง นาข้าว สวนมะม่วง และสวนกล้วย น้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านหนองจิกรี น้ำท่วมระดับเอว ทั้งนี้เนื่องจากคลองขุดลาด ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำรับน้ำจากเทือกเขาแม่วงก์ขาด ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนยังคงนำกระสอบทรายวางกั้นหน้าบ้าน และขนของขึ้นที่สูง เพราะเกรงว่าฝนจะตกมาซ้ำทำให้น้ำท่วมอีก 

'นายกตู่' โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมแนะนำ 4 แอปพลิเคชัน สำหรับการติดตามสถานการณ์ ให้คำแนะนำ และแจ้งเหตุ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha หลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ว่า 

เมื่อผมได้รับรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินทางลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ รวมถึงมอบนโยบายให้ทางจังหวัดเร่งรัดแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แม้ว่าผมจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ส่วนตัวก็มีความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาที่ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ของผม ผมจึงเดินทางมาด้วยความห่วงใย และได้มาเห็นปัญหาที่ยังมีอีกมากที่ต้องจะต้องเร่งแก้ไขให้สำเร็จ ทั้งเรื่องปัญหาน้ำท่วม รวมไปถึงการพัฒนาจังหวัดหลังจากน้ำท่วมคลี่คลายลงแล้วด้วย

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้จากทุกๆ ครั้งที่ลงพื้นที่ นั่นคือการได้เห็นพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ประสบภัย แต่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้ ทุกคนยังมีรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มของนักสู้ ที่สร้างกำลังใจให้แก่กัน ทั้งๆ ที่เจตนาแรกเริ่มของผมคือการเดินทางไปปลอบขวัญผู้ประสบภัยถึงพื้นที่ แต่ผมเองกลับได้รับกำลังใจกลับคืนมาทุกครั้ง ผมจึงขอส่งต่อกำลังใจและสิ่งดีๆ เหล่านั้น ไปสู่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และอาสาสมัครทุกคนในพื้นที่ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ถือว่าต้องแบกรับภาระเพิ่มเป็นสองเท่า ทั้งโควิด ทั้งน้ำท่วม

ใจจริงแล้ว ผมอยากจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะผมทราบดีว่าทุกวินาทีคือความทุกข์ยากของพี่น้องร่วมชาติ แม้ว่าในบางพื้นที่ผมอาจจะยังไม่ได้ลงไป แต่ก็มีความห่วงใยอยู่เสมอ และได้ติดตามวิกฤตน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ผมได้สั่งการให้รายงานสถานการณ์มายังผมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้สั่งการผ่านกลไกในระดับรัฐบาล ลงไปยังระดับท้องถิ่น สนับสนุนการแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ ให้ดูแลพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง จนกว่าน้ำจะลด แล้วเข้าสู่การเยียวยา และฟื้นฟูต่อไป

โฆษกรัฐบาล แจง นายกฯ ไม่ได้หนีม็อบ แต่ไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่ง ย้ำ!! คนไทยด้วยกัน ยัน!! ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาด้วยตัวเอง

(1 ต.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันประท้วง โดยมีการทุบรถ และนำน้ำปลาร้ามาปาใส่รถเจ้าหน้าที่ และรถรัฐมนตรี ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า…

อยุธยาวิกฤติ! น้ำท่วมกว่าครึ่งจังหวัด หลายพื้นที่ริมน้ำได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยได้รับผลพวง จากแม่น้ำหลายสาย ทั้งเจ้าพระยา ป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แต่เขตอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ยังไม่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (4 ต.ค.) สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังน่าเป็นห่วงหลังจากการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นสูง เช่น เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำท้ายเขื่อน วันนี้อยู่ที่ 2,771 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 762.19 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พบว่า แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลผ่านในแต่ละพื้นที่ ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมน้ำ ที่อยู่นอกเขตชลประทาน รวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง และ อำเภอท่าเรือ รวม 107 ตำบล 579 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 20,000 หลังคาเรือน และมีวัดริมแม่น้ำลำคลอง ถูกน้ำท่วมไปแล้วประมาณ 20 วัด
 

ภาคไหน ๆ ก็ไทยด้วยกัน!! “นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์” อดีต สส.ชลบุรี ร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

เมื่อวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ และเพื่อนพ้อง - น้อง – พี่ ผู้ใจบุญร่วมศรัทธาปันน้ำใจบริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็น เพื่อส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครราชสีมา และจ.ชัยภูมิ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ "เตี้ยนหมู่"

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจจากผู้ใจบุญ เราไม่ทิ้งกันจากจ.ชลบุรีช่วยบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนเสียหาย ดังกล่าวในครั้งนี้อดีต สส.มานิตย์ ได้กล่าวขอขอบพระคุณ เพื่อน พี่ น้องทุก ๆ ภาคส่วนที่นำสิ่งของต่าง ๆ ที่นำมาร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เดินลุยน้ำพา นร.อาชีวะ ลงพื้นที่ตลาดเก่าแก่อิงน้ำ ช่วยปชช.ริมเจ้าพระยา เลื่อนปลั๊กไฟเตรียมป้องกันโบราณสถาน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 08:30 น. ที่ท่าเรือหน้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ขับเรือยนต์ พร้อม เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี เพื่อมารับนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี เพื่อพาล่องเรือตรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและช่วยย้ายสายไฟ ปลั๊กไฟและ มิเตอร์ไฟฟ้าให้กับบ้านริมน้ำตลอดเส้นทางจากนั้นได้ลงพื้นที่ตลาดอิงน้ำ ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำพร้อมช่วยย้ายปลั๊กไฟและสิ่งของขึ้นที่สูง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต , นายกฤษดา พงษ์เสริม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี พร้อมทีมงาน, นายระเด่น ดวงแก้ว อาจารย์สาขาช่างไฟฟ้ากำลังพร้อมอาจารย์อีก 5 คน และนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้า จิตอาสาอีกจำนวน 6 คน ร่วมลงพื้นที่ย้ายปลั๊กไฟและหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดที่ใกล้ระดับน้ำ

ในส่วนของเทศบาลนครรังสิต ได้ระดมสูบน้ำจนสถานการณ์เป็นปกติ โดยสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตฯ เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 8 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(คลองรังสิต) +1.65 ม.รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(แม่น้ำเจ้าพระยา) +2.05 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำเปรมใต้ เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง ระดับน้ำเปรมใต้(คลองเปรมประชากร) +0.60 ม.รทก. ระดับน้ำคลองรังสิต +1.80 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ1 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ2 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ3 เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(ด้านในคลองรังสิต) +1.08 ม. รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(ด้านซ่อมสร้าง) +1.82 ม. รทก. ซึ่งระดับภายในเขตรังสติอยู่ในระดับสภาวะปกติ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า สิ่งที่เราห่วงคืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ต่ำแล้วกลัวว่าน้ำจะท่วมแล้วประชาชนจะได้รับอันตราย เมื่อเราลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีบางบ้านที่จำเป็นต้องปิดไฟหมด เพราะว่ากลัวกระแสไฟฟ้าดูด ต้องขอขอบคุณทางท่านผู้จัดการไฟฟ้าจังหวัดปทุมธานี และวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ได้จัดอาจารย์และนักศึกษไฟฟ้ากำลังมาร่วมแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้จริง ๆ ทางเราจะดำเนินการต่อไปและถ้าประชาชนต้องการความช่วยเหลือก็สามารถแจ้งมาที่ทางการไฟฟ้า เบอร์ด่วน 1129 เพื่อช่วยแก้ไขความเดือดร้อนเรื่องไฟฟ้า

นอกจากนี้ ตนเองยังจัดอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟรั่วในน้ำให้กับทางการไฟฟ้าและทางคณะของเทคนิคปทุมเพื่อให้ไปใช้ตรวจสอบกระแสไฟในน้ำ หากในน้ำมีกระแสไฟฟ้า อุปกรณ์ตัวนี้จะสั่น เราจึงนำมามอบให้พี่น้องประชาชนบางส่วนก่อน เพื่อเอาไว้ใช้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย และเราได้ประเมินสถานการณ์น้ำวันต่อวันโดยให้ นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ และนายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภาองค์หารบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไปเกาะติดที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เมื่อเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมาจนมาที่ อ.บางไทร ปล่อยน้ำเท่าไร ซึ่งตอนนี้ปล่อยน้ำเกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต พี่น้องประชาชนต้องเฝ้าระวัง และวันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะมีพายุใหญ่เข้ามาอีก จึงต้องมาดูเตรียมความพร้อมเพื่อระมัดระวังกันต่อไป

 

เพื่อไทยเตรียมขน ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมอยุธยา จี้!! รัฐบาลเร่งตรวจสอบระบบเตือนภัย ลดขั้นตอนราชการ เร่งช่วยประชาชน

(5 ต.ค. 64) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ทั่วทุกพื้นที่ 

สำหรับในวันที่ 6 ต.ค.นี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.จะลงพื้นที่น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพและของใช้จำเป็นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ผักไห่ บางบาล และท่าเรือ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำในสถานการณ์น้ำเหนือเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีนี้มีประชาชนกว่า 20,000 ครัวเรือนกำลังรอความช่วยเหลือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top