Monday, 6 May 2024
น้ำท่วม

‘รมว.สุชาติ’ มอบ ‘ปลัดแรงงาน ร่วมคณะ พล.อ.ประวิตร’ ให้กำลังใจอาสาสมัครแรงงาน และมอบสุขาลอยน้ำแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.ขอนแก่น

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดขอนแก่น โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จุดแรกที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จุดที่สองที่วัดโพธิบัลลังก์ บ้านดอนแดง ตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะผู้นำชุมชนและมอบถุงยังชีพจำนวน 300 ชุด พร้อมมอบสุขาลอยน้ำของกระทรวงแรงงานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 5 หลัง

โดยมี นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมทั้งอาสาสมัครแรงงาน (อสร.) จังหวัดขอนแก่นมาร่วมต้อนรับ และนำน้ำดื่มมามอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจแก่อาสาสมัครแรงงานจังหวัดขอนแก่นที่มาร่วมต้อนรับและมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งอาสาสมัครแรงงานมีภารกิจในการประสานการให้บริการด้านแรงงานในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีงานทำ มีทักษะฝีมือ มีอาชีพมีรายได้ ได้รับคุ้มครองและมีหลักประกันทางสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย ปัจจุบันมีอาสาสมัครแรงงานทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 8,110 คน จุดที่สามที่วัดบ้านเทพบูรณาราม บ้านหนองบัวดีหมี หมู่ที่ 20 ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะผู้นำชุมชนและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย จำนวน 300 ชุด

นายบุญชอบ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ผมได้รับมอบหมายจากท่าน รมว.แรงงาน กำชับให้ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่นได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดบริการจัดหางานและส่งเสริมการประกอบอาชีพ สำนักงานแรงงานจังหวัดจัดโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือ โดยสนับสนุนค่าตอบแทนรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ฝึกอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้อย่างต่อเนื่อง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดจะให้คำปรึกษาด้านสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประสบภัย เรื่องสิทธิประกันสังคม จัดทีมแพทย์และพยาบาลร่วมกับโรงพยาบาลในเครือข่ายให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น

 

สระบุรี - ‘รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง’ ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพในพื้นที่จังหวัดสระบุรี

วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่วัดสมุหประดิษฐาราม ตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยและนำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค มามอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอเสาไห้ และอำเภอบ้านหมอ โดยมีนายพลวรรธณ์ เทียนชัยมงคล ปลัดจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี ต้อนรับ

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ในห้วงที่ผ่านมาประเทศไทย มีฝนตกชุกหนาแน่น จากเหตุการณ์ พายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่" เมื่อวันที่ 25 - 26 กันยายน2564 ทำให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ประกอบกับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ สูงสุดเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำลันตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 52ตำบล 263 หมู่บ้าน 15 ชุมชน 8,027ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายจำนวน 39,003ไร่ และด้านประมง จำนวน 422 ไร่ 67 ตารางวา ซึ่งอยู่ในช่วงการช่วยเหลือเยียวยา

 

“ผบ.ทอ.” สั่ง กองบิน 4 สนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) บินสำรวจสถานการณ์อุทกภัย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี และพื้นที่โดยรอบในรัศมี 20 กิโลเมตร“ผบ.ทอ.” สั่ง กองบิน 4 สนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) บินสำรวจสถานการ

ตามที่จังหวัดลพบุรี ได้ประสานมายังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เพื่อขอรับการสนับสนุนภาพถ่ายทางอากาศ ในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ของจังหวัดลพบุรี สำหรับนำไปวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มการเกิดอุทกภัย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนแจ้งเตือนและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที 

พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้สั่งการให้ กองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ จัดเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) ขึ้นปฏิบัติภารกิจบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศในพิกัดเป้าหมายที่ได้รับการประสาน ได้แก่ พื้นที่จุดเสี่ยงในอำเภอบ้านหมี่ อำเภอท่าวุ้ง อำเภอโคกสำโรง และอำเภอเมืองลพบุรี จากนั้นได้นำภาพถ่ายทางอากาศและภาพเคลื่อนไหว ส่งต่อให้จังหวัดลพบุรีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป 

‘วปอ.2555 & ตำรวจไทย’ ห่วงใยประชาชน! จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน จ.สระบุรี และ จ.สิงห์บุรี ลุยน้ำมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนคนไทยต่างได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ร่วมลงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วย ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแล เฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรม การกระทำความผิด กลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงคอยให้การสนับสนุนในภารกิจต่าง ๆ จากภาครัฐเมื่อมีการร้องขอด้วย

ในวันนี้ (17 ต.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพจังหวัดละ 1,000 ชุด 2 จังหวัด รวมเป็น 2,000 ชุด พร้อมมอบเงินสดส่วนหนึ่งช่วยเหลือบ้านที่ถูกน้ำแม่น้ำป่าสักเซาะจนตลิ่งพังและดึงบ้านพังไปทั้งหลังในเขตจังหวัดสระบุรี ณ วัดสารภี ต.บางโขมด  อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี  ณ สำนักงานเทศบาลตำบลทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย

นอกจากนี้ ในส่วนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บ้านหัวเกาะ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น ทางพล.ต.ท.สมพงษ์ และตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้ลงพื้นที่โดยสารเรือ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนถึงหน้าบ้านด้วย  

คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องประสบกับอุทกภัย อีกทั้ง ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกด้วย จึงนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบ และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับประชาชน ให้สามารถต่อสู้กับวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน  

จันทบุรี - “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” โปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วม กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่หอเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี และคณะเดินทาง ประชุม พร้อมติดตามสถานะการณ์ความคืบหน้าในการแก้ไขสถานะการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานะการณ์อุทกภัย จากเหตุการณ์ภัยพิบัติ พายุโซนร้อน ไลออนร๊อก และพายุโซนร้อน คมปาซุ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 48 ตำบล 279 หมู่บ้าน 37 ชุมชน รวม 11,079ครัวเรือนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1,692 หลังคาเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 9452.50 ไร่สิ่งสาธารณประโยชน์เช่น ถนนคอสะพาน และสถานที่ราชการได้รับความเสียหาย

กำลังพลจิตอาสา พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ เร่งช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสุกรหนีน้ำโดยด่วน!!! 

พลตรี บรรยง  ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 9 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำลังพลจิตอาสา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 พัน.2) ร่วมกับ กองพันทหารช่างที่ 9 กองพลหทารราบที่ 9 (ช.พัน.9 พล.ร.9) จัดยุทโธปกรณ์เรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ บ้านช่องด่าน หมู่ที่ 2 ตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี 

โดยเร่งทำการขนย้ายสุกรจำนวน 9,000 ตัว ไปไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งล่าสุดขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 100 เซนติเมตร และคาดว่าน่าจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  หากไม่เร่งขนย้ายข้าวของหรือทรัพย์สินออกในช่วงนี้  ก็จะจมน้ำเสียหาย   

"เสกสกล" ตีแสกหน้า "ปู" สุมหัว "ปลอดกับโต้ง" ออกคลิปน้ำท่วม'54 แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชน โยนบาปให้คนอื่น 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยแพร่คลิป “น(า)ทีวิปโยค : 10 ปีมหาอุทกภัย” ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยนายเสกสกล ได้ออกมาเปิดเผยว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณคิดเพื่อไทยทำอีกหลายคน โดยเฉพาะนายปลอดประสพ สุรัสวดีและนายกิตติรัตน์  ณ ระนองอดีตรองนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์พาดพิง กล่าวหาหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชนที่ทุกข์ระทมขมขื่น มีชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นหลายเดือนจากการบริหารจัดการน้ำไร้ประสิทธิภาพในยุคนั้น 
 
ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์น้ำท่วมปี 2554 ยาวข้ามปีไปถึง 2555  คนไทยจำได้ดี น้ำท่วมกินพื้นที่กว่า 36 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 65 จังหวัด ไล่ตั้งแต่เชียงใหม่ลงมาถึง กทม. ประชาชนเดือดร้อนกว่า 12 ล้านคน คนตายอย่างน้อย 815 คน มีคนไทยกว่า 5 ล้านคน กลายเป็นผู้อพยพ  คนงานเกือบ 650,000 คน ตกงานหรือได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีนักวิชาการธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 1.425 ล้านล้านบาท

แต่มาวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์กับพวกกลับหน้ามึนถึงขนาดออกมาโยนขี้ให้คนอื่นไปทั่ว ไม่เห็นความบกพร่องผิดพลาดของพวกตนเลย พยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ด้วยวาทกรรมเดิมๆ ทั้งๆ ที่ความจริง รัฐบาลยิ่งลักษณ์แถลงนโยบายในวันที่ 23 สิงหา 2554 หากใส่ใจกับการแก้ปัญหาจริงๆ เหมือนการออกพาสปอร์ตและแก้ปัญหาให้พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดีอยู่ ย่อมจะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนทุเลาลงได้มากกว่านี้หลายเท่านัก 

สถานการณ์น้ำท่วมปี54 ส่งสัญญาณมาจากพายุไหหม่า และนกเต็น ตั้งแต่เดือน มิ.ย. และ กค. 2554 มีสถานการณ์น้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก แต่ยิ่งลักษณ์มัวแต่นวยนาด กว่าจะลงมือแก้ปัญหาจริงๆ จังๆ ก็กลางเดือนกันยา 54  กว่าจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็เดือนตุลา54 ใช้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์ แล้วสุดท้ายขนาดดอนเมืองยังปล่อยให้ท่วม แล้วชีวิตชาวบ้านจะเหลืออะไร นั่นเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากของคนไทย ที่ต้องทนอยู่กับนายกฯโง่ๆ และรัฐบาลหุ่นเชิดที่คอยแต่รับคำสั่งจากคนแดนไกลอย่างแท้จริง

หลายฝ่ายถอดบทเรียนตรงกัน ว่าปัญหาใหญ่ส่วนหนึ่งในอุทกภัยปี 54 นอกจากน้ำท่วมเยอะสูงสุดในประวัติศาสตร์แล้วยังมีประสิทธิภาพต่ำของรัฐบาล ที่ทำงานมุ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นหลัก แต่ขาดความรวดเร็วและคิดไม่รอบด้านขาดการวางแผนและเตรียมการป้องกันที่ดี  แย่งซีนกันทำงาน เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา  การสื่อสารในยามวิกฤตล้มเหลวสิ้นเชิง อย่างการแถลงข่าวของ”ปลอดประสพ สุรัสวดี” ที่เป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการของศปภ.เมื่อ 13 ตุลาคม 2554 ผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวี บอกว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในปทุมธานีเริ่มวิกฤต จึงขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ปทุมธานีและใกล้เคียงอพยพมาอยู่ที่ดอนเมือง จนสร้างความปั่นป่วนไปทั่ว แล้วหลังจากนั้น น้ำก็ท่วมศูนย์ ศปภ.ถึงบันไดเครื่องบิน จนต้องย้ายหนี เป็นภาระของสังคมเสียอีก แม้แต่ของบริจาคประชาชน ยังมุบมิบ ติดป้ายเอาหน้าหาเสียง อมทั้งของหลวงของราษฎร ตัวนายกฯ ก็อ่านแถลงการณ์ผิดๆ ถูกๆ เป็นที่น่าเวทนาแก่ใจของคนไทยในขณะนั้น 

นายกิตติรัตน์เองก็ทำได้เพียงไปร้องไห้กับนักลงทุนต่างชาติ ผลสำรวจออกมา ชาวบ้านจดจำชัดเจนว่าใครช่วย ใครเป็นที่พึ่งในยามนั้นมากที่สุด คือ ทหาร –จิตอาสาหรืออาสาสมัครภาคประชาชนและสื่อมวลชน ยิ่งกว่านั้น การมาฟอกตัวเรื่อง พรก.น้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็เป็นการบิดเบือน เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น โครงการน้ำที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เร่งรัดผลักดัน ทำโครงการเป็นโมเดลต่างๆ เป็นการเอาโครงการประเภทร้อยพ่อพันแม่มามัดรวมกันเป็นกลุ่มๆ แล้วให้เอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอ ยื่นราคารับเหมา โดยไม่มีราคากลางตามกฎหมายปกติ งดเว้นระเบียบราชการ แต่ตั้งกรอบงบเอาไว้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ต้องครหาส่อทุจริต 
ผลประมูลปรากฏว่า กลุ่มเค-วอเตอร์จากเกาหลีใต้คว้าชิ้นปลามันไปครอง

"เสกสกล" ตีแสกหน้า "ปู" สุมหัว "ปลอดกับโต้ง" ออกคลิปน้ำท่วม'54 แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชน โยนบาปให้คนอื่น

19 ตุลาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยแพร่คลิป “น(า)ทีวิปโยค : 10 ปีมหาอุทกภัย” ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยนายเสกสกล ได้ออกมาเปิดเผยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณคิดเพื่อไทยทำอีกหลายคน โดยเฉพาะนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์พาดพิง กล่าวหาหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชนที่ทุกข์ระทมขมขื่น มีชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นหลายเดือนจากการบริหารจัดการน้ำไร้ประสิทธิภาพในยุคนั้น 

ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์น้ำท่วมปี 2554 ยาวข้ามปีไปถึง 2555 คนไทยจำได้ดี น้ำท่วมกินพื้นที่กว่า 36 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 65 จังหวัด ไล่ตั้งแต่เชียงใหม่ลงมาถึง กทม. ประชาชนเดือดร้อนกว่า 12 ล้านคน คนตายอย่างน้อย 815 คน มีคนไทยกว่า 5 ล้านคน กลายเป็นผู้อพยพ คนงานเกือบ 650,000 คน ตกงานหรือได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีนักวิชาการธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 1.425 ล้านล้านบาท

แต่มาวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์กับพวกกลับหน้ามึนถึงขนาดออกมาโยนขี้ให้คนอื่นไปทั่ว ไม่เห็นความบกพร่องผิดพลาดของพวกตนเลย พยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ด้วยวาทกรรมเดิมๆ ทั้งๆ ที่ความจริง รัฐบาลยิ่งลักษณ์แถลงนโยบายในวันที่ 23 สิงหาคม 2554 หากใส่ใจกับการแก้ปัญหาจริงๆ เหมือนการออกพาสปอร์ตและแก้ปัญหาให้พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดีอยู่ ย่อมจะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนทุเลาลงได้มากกว่านี้หลายเท่านัก 

สถานการณ์น้ำท่วมปี 54 ส่งสัญญาณมาจากพายุไหหม่า และนกเต็น ตั้งแต่เดือน มิ.ย. และ กค. 2554 มีสถานการณ์น้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก แต่ยิ่งลักษณ์มัวแต่นวยนาด กว่าจะลงมือแก้ปัญหาจริงๆ จังๆ ก็กลางเดือนกันยา 54 กว่าจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็เดือนตุลา 54 ใช้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์ แล้วสุดท้ายขนาดดอนเมืองยังปล่อยให้ท่วม แล้วชีวิตชาวบ้านจะเหลืออะไร นั่นเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากของคนไทย ที่ต้องทนอยู่กับนายกฯ โง่ๆ และรัฐบาลหุ่นเชิดที่คอยแต่รับคำสั่งจากคนแดนไกลอย่างแท้จริง

ปทุมธานี - ปภ.เตือนเจ้าพระยาสูงเพิ่ม 40 ซ.ม. “บิ๊กแจ๊ส” ส่งลูกสาวตรวจดูสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบถุงรอดชีพเตรียมแผนเยียวยาหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 08:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้มอบหมายให้ นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจาก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน 11 จังหวัดระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20 - 40 เซนติเมตร และ มอบถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม ยาเสริมภูมิคุ้มกันโรคระบาด หน้ากากอนามัย จำนวน 300 ชุด ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณชุมชนไทย-มอญ ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร และจะกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 20-30 ตุลาคม 2564 ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือ แจ้งจังหวัดประสาน อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่มีน้ำท่วมขังอยู่โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเครื่องมือ ตรวจสอบให้ป้องกันแนว น้ำท่วมให้แข็งแรง เพื่อป้องกันน้ำท่วมล้นแนวป้องกันน้ำและพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายธนศักดิ์ แป้นมุข นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบจ.ร่วมลงพื้นที่เตรียมถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยา มอบให้กับประชาชนที่อยู่ริมเจ้าพระยา เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังท่วมสูงอยู่และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดปทุมธานีก็ยังไม่นิ่ง วันนี้จะเห็นว่าน้ำได้ขึ้นสูงขึ้นมาอีก พี่น้องประชาชนยังได้รับผลกระทบและมีความเดือดร้อนอยู่ เราจึงต้องลงพื้นที่ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาภัยอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราได้รับการร้องขอจากพี่น้องประชาชน ได้แก่เรื่องไฟฟ้า จึงมอบหมายรองนายก อบจ.ปทุมธานี , เลขา นายก อบจ.ปทุมธานี ,และที่ปรึกษาฯ ที่ได้ลงเรือไปมอบอุปกรณ์ตรวจกระแสไฟฟ้าในน้ำ

นอกจากนี้ยังมอบแพโฟมเพื่อขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ  และถุงรอดชีพ มีอาหาร สิ่งจำเป็นและยาป้องกันน้ำกัดเท้าไปให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพราะเขาอาจจะไม่สะดวกในการออกมาซื้อหาอาหาร ซึ่งเราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด และทางสมาคมนายก อบจ.จะมอบถุงรอดชีพมาให้อีก 1,000 ถุง หากน้ำทะเลไม่หนุนมาเพิ่มรวมถึงไม่มีมรสุมซ้ำเข้ามา ผมเชื่อว่าเราเอาอยู่ ส่วนบริเวณถนนที่เป็นคันกั้นน้ำเราได้เตรียมแท่งแบริเออร์และกระสอบทรายพร้อมอยู่แล้ว

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” เตือนมวลน้ำปีนี้น้อง ๆ ปี 54 ประชาชนอย่าประมาท! ร่วมสมาคม อบจ.ช่วยเหลือคนปทุม

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 10:30 น. นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วมจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 1,000 ถุง ให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อไปมอบให้กับประชาชนเพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง ที่ชุมชนวัดบางหลวง ตำบลบางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์ปริมาณฝนตกร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิงจะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 โดยจะบริหารจัตการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำและผันน้ำเข้าคลองต่าง ๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564 

ด้าน นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (นายก อบจ.สุพรรณบุรี) ได้มอบหมายให้ตนเองและทีมงานที่มาด้วยความตั้งใจและห่วยใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ที่ไหน สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จะเข้าไปช่วยส่วนในจังหวัดปทุมวันนี้ได้จัดถุงยังชีพ 1,000 ชุด บรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง และข้าวสารหนัง 15 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง จำนวน 500 ชุด และอีก 500 ชุด ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงานจะทำไปมอบยังจุดอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top