Monday, 6 May 2024
น้ำท่วม

ระยอง - ทัพเรือภาคที่ 1 เช็คความพร้อม!! นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรับมืออุทกภัย และภัยพิบัติทุกรูปแบบ

ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จว.ระยอง พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 (ผอ.ศบภ.ทรภ.1) กองทัพเรือ นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ในการช่วยเหลือประชาชน ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ประชาชน ได้แก่ กำลังพลจาก กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง เมืองพัทยา และอำเภอสัตหีบ เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ภัยพิบัติทุกรูปแบบ และพร้อมปฏิบัติงาน ได้อย่างทันท่วงที เมื่อรับคำสั่งจากกองทัพเรือ

พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ อนุมัติให้ ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ขึ้น มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในห้วงฤดูมรสุม คลื่นลมแรง รวมทั้งสภาพภูมิอากาศที่แปรเปลี่ยนไปของภูมิภาค มีแนวโน้มที่อาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้การเตรียมความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เป็นไปอย่างทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด

จึงได้จัดให้มีพิธีตรวจความพร้อมขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า "เรามีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที" อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมสูงสุด พร้อมที่จะปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

 

กอ.รมน. ประสานทุกภาคส่วนเร่งนำบิ๊กแบ๊คอุดพนังกั้นน้ำอินทร์บุรี พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชน เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. 

จากสถานการณ์ในปัจจุบันหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุประกอบกับมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำและแม่น้ำสายหลัก ตลอดจนลำน้ำสาขาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา มวลน้ำทำให้แนวกระสอบทรายที่กั้นบริเวณพนังกั้นน้ำ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พังเสียหาย เกิดกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

กอ.รมน. โดย นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสิงห์บุรี (ผอ.รมน.จ.สิงห์บุรี) พร้อมคณะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและสั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งอุดพนังกั้นน้ำเป็นการเร่งด่วน โดยกรมชลประทานได้นำบิ๊กแบ็กจำนวน 30 ลูกมาวางปิดกั้นทางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าในพื้นที่เพิ่มเติม 

ขณะเดียวกัน กองพลทหารปืนใหญ่ ร่วมกับ กอ.รมน.จ.สิงห์บุรี นำกำลังพลจิตอาสาพร้อมยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยทันที ในการกรอกกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำตามจุดเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณสะพานอินทร์บุรีซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของคนในพื้นที่ ช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้สูงอายุ และผู้ป่วย

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก คาด!! 20 ปี เขาน้ำแข็งในแอฟริกาละลายเกลี้ยง 118 ล้านคน เจอผลกระทบหนักรอบด้าน

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หน่วยงานด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขณะนี้กำลังจะทำให้ภูเขาน้ำแข็ง 3 แห่งสุดท้ายในแอฟริกาละลายหายไปภายใน 20 ปีข้างหน้า

รายงานจาก WMO ชี้ว่าการหดตัวอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในแอฟริกาตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะละลายหายไปในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นสัญญาณของภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกที่ไม่อาจย้อนกลับได้

นอกจากนี้ยังคาดว่าภายในปี 2030 จะมีผู้คนมากถึง 118 ล้านคนต้องเผชิญกับน้ำท่วม ภัยแล้ง หรืออุณหภูมิที่ร้อนระอุมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้เศรษฐกิจของทวีปหดตัวลงถึง 3% ตลอดจนเผชิญกับความยากไร้หากไม่มีมาตรการรับมือที่เพียงพอ

“ประวิตร” สั่ง ทุกหน่วย จับตาพายุ “หมาเหล่า” และน้ำทะเลหนุน หวั่นกระทบแม่นำ้สายหลัก สั่ง สทนช.ปรับการระบายน้ำช่วย 15 จว.อุทกภัย

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นาบกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ 15 จว.ที่ยังประสบปัญหาอุทกภัย และกังวลพายุลูก ใหม่ซ้ำเติม ขณะที่ฝนยังมากต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ภาคตะวัน ออกและภาคใต้ และน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่าง 23-27 ต.ค.

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช.ติดตามพยากรณ์สภาพอากาศและพายุ “หมาเหล่า”โดยให้ประเมินสถานการณ์น้ำเข้าเขื่อน และพิจารณาปรับการระบาย น้ำลงแม่น้ำสายหลัก ไม่ให้น้ำล้นตลิ่งกระทบพื้นที่โดยรอบ สำหรับการบริหารจัดการ อุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน ขอให้ประสานกรมชลประทาน ใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ เจ้าพระยาช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน โดยให้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำใน แม่น้ำท่าจีนตามจุดต่างๆ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ จว.สุพรรณบุรีและนครปฐม

ทั้งนี้ภาพรวม การช่วยเหลือน้ำท่วมของ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพปัจจุบัน ยังคง สนับสนุนส่วนราชการต่างๆและทำงานร่วมกับจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องมา โดยยังคงหมุนเวียนกำลังทหารกว่า 15,000 นาย รวมทั้งเครื่องมือช่างและยานพาหนะกว่า 900 คัน กระจายลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งการอพยพประชาชน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุและเด็ก การขนย้ายสัตว์เลี้ยงจำนวนมากออกจากพื้นที่น้ำท่วมเข้าพื้นที่ปลอดภัย  และได้เร่งติดตั้งสะพานทางทหารและซ่อมแซมสะพานในเส้นทางที่ถูกตัดขาดกว่า 10 แห่งในพื้นที่ จว.พะเยา เพชรบูรณ์และ นครราชสีมา  ร่วมไปกับการจัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนให้สามารถสัญจรได้ปกติ

นครราชสีมา - “นิพนธ์” กำชับ! บริหารจัดการน้ำเขื่อนลำตะคองให้เหมาะสม ลดผลกระทบพื้นที่เศรษฐกิจโคราช และเก็บกักน้ำเพื่อใช้อุปโภค-น้ำการเกษตร มั่นใจปีหน้ามีน้ำใช้เพียงพอ!!

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันยังคง มีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 316 ล้าน ลบ.ม. หรือ 103 % ของพื้นที่ความจุยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 50 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคาดการณ์ในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค นี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนลำตะคองและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่อำเภอพิมายที่เป็นจุดรับน้ำหลายสาย และไหลต่อไปยังอำเภอชุมพวง อำเภอลำทะเมนชัย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า "ได้กำชับให้กรม ปภ. จังหวัดนครราชสีมา ผอ.ชลประทานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะชุมชนเขตเศรษฐกิจตัวเมืองโคราช ร้านค้า ที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล ศาสนสถาน โบราณสถานต่างๆของอำเภอพิมาย อำเภอชุมพวง ฯลฯให้เร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพื่อลดผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนลำตะคองในวันพรุ่งนี้ 25 ต.ค. ซึ่งได้สั่งการให้ปภ.เป็นผู้ประสานงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในพื้นที่ และเคลื่อนย้ายเครื่องสูบน้ำระยะไกล เครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมสูงให้มีความพร้อมปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุฯ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ในการเพิ่มการระบายน้ำในวันพรุ่งนี้ พี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบมากขึ้น จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครองได้ประสานท้องถิ่นในการแจ้งเตือนประชาชนผ่านทุกช่องทางให้ทุกครัวเรือนทราบถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ การเฝ้าระวังสถานการณ์พายุลูกใหม่และเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำเภอพิมาย ที่น้ำแต่ละสาขาจะไหลไปรวมกัน กระทบต่อโรงพยาบาล โบราณสถาน เป็นต้นก็เร่งได้ให้เตรียมการป้องกันแล้ว"

 

“บิ๊กตู่” สั่งเร่งสำรวจความเสียหายน้ำท่วมพร้อมจัดงบเยียวยา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายฝ่ายปกครอง ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัย หลังหลายพื้นที่น้ำลดลง เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายทางบ้านเรือน ทรัพย์สิน ที่ทำกิน และสัตว์เลี้ยง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และเยียวยาเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไร่-นา ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564

“บิ๊กบี้” ชูปลูกจิตสำนึกความรักชาติ พร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ พร้อมส่งกำลังพลช่วยปชช. รับมือพายุลูกใหม่

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมสถานการณ์ประจำวันผ่านระบบออนไลน์ของกองทัพบก  โดยได้กล่าวถึงการจัดงานน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 5 และ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พสกนิกรทุกภาคส่วนและหน่วยทหารของกองทัพบก ได้จัดกิจกรรมอย่างสมพระเกียรติในช่วงที่ผ่านมา

ซึ่งพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ อันนำมาซึ่งความเจริญและความผาสุกของบ้านเมืองรวมทั้งประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นเรื่องที่กองทัพบกจะนำไปเผยแพร่ให้กำลังพลทุกระดับ ครอบครัวและทหารกองประจำการได้ศึกษา ได้รับทราบ เพื่อปลูกจิตสำนึกในความรักชาติ รักแผ่นดิน การทำความดี เป็นไปตามอุดมการณ์ของกองทัพบก เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ซึ่งนอกจากจะใช้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยและความเป็นชาติ ในการปลูกจิตสำนึกกับกำลังพลแล้ว กองทัพบกมีแนวคิดที่จะนำความรู้ในข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นนักเรียนทหาร และข้าราชการของกองทัพบกในวาระต่าง ๆ ต่อไป  

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในการกำหนดมาตรการเพื่อเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวในเดือนพฤศจิกายนนี้ นั้น ผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้ทุกส่วนได้สนับสนุนตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยการประสานทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะการสกัดกั้นลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ ย้ำให้กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ดำเนินการสกัดกั้นอย่างเข้มงวด ควบคู่กับการประสานกับส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน และติดตามการปฏิบัติทุกขั้นตอนนำไปสู่ต้นตอของขบวนการนำพา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ และที่อาจจะเกิดขึ้นในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ เตรียมบูรณการร่วมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว สิ่งสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนช่วงอุทกภัย คือ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ระมัดระวังอุบัติเหตุในทุกเรื่อง 

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม! จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์ชาวอยุธยา - อ่างทอง กาญจนบุรี - สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี

ระหว่างวันที่ 26 - 29 ตุลาคม 2564 นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช ยาทากันยุง และยาทาน้ำกัดเท้า แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี รวม 5 จังหวัด รวม 2,800 ชุด  คิดเป็นมูลค่า 980,000 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นบาทถ้วน) โดยมี สมาคม/มูลนิธิฯ แต่ละจังหวัดเป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

โดยในวันนี้ (วันที่ 27 ตุลาคม 2564) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ลงพื้นที่จังหวัดนำเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 500 ชุด ณ เทศบาลตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

และในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 28 ตุลาคม 64) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 600 ชุด แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีมูลนิธิร่วมบุญสุพรรณบุรี ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

 

“สุชาติ” รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้าง - ผู้ประกันตน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ป่วยประกันสังคม และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ณ หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะรัตน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายแพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานและประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกกฤตสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สถานการณ์โรคระบาด เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือปัญหาผลกระทบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในปัจจุบัน รวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณี แม้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ประสบอันตราย หรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในวันนี้ ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโอกาสลงพื้นที่ในจังหวัดจันทบุรี พร้อมมอบของเยี่ยมลูกจ้าง/ผู้ประกันตนเพื่อเป็นกำลังใจ และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี

 

สระบุรี - ติดตามสถานการณ์ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์โควิด-19 พร้อมเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

วันนี้ 28 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สระบุรี ประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำเดือน ตุลาคม 2564 มอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมาในรอบเดือนตุลาคม 2564

สถานการณ์อุทกภัยจากการรายงานเหตุด่วนของอำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 13 อำเภอ 55 ตำบล 274 หมู่บ้าน 15 ชุมชน 8,127 ครั้วเรือน ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย จำนวน 12 อำเภอ 52 ตำบล 301 หมู่บ้าน 15 ชุมชน และประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 11 อำเภอ 48 ตำบล 290 หมู่บ้าน 13 ชุมชน  ที่ผ่านมาได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น นายแพทย์สาะรณสุขจังหวัดสระบุรี รายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าร้อยต่อวัน และขณะนี้วัคซีนเพียงพอที่จะให้บริการกับประชาชนว่า ผู้ที่จะฉีดวัคซีนสามารถรับบริการได้ทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศตามสถานที่บริการฉีด ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จะรับวัคซีนได้เฉพาะ ไฟเซอร์ เท่านั้น ซึ่งเด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานศึกษา สามารถรับบริการได้ทุกคน

นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้บริหารเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในกรณีของ อบจ.สระบุรี ที่สั่งจองชิโนฟาร์ม จำนวน 3 หมื่นคน จังหวัดฯได้รับจัดสรรมาจำนวนประมาณ 1 หมื่นคน โดยจะทำการฉีดให้ประชาชนในวันที่ 29 ต.ค. 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. 64 ณ อบจ.สระบุรี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top